ตัวอย่าง เพศ และ อายุเพศชายเพศหญิง อายุ 50 ปีอายุ 60 ปีอายุ 50 ปีอายุ 60 ปี ทุนประกันชีวิต1,000,000 บาท ตั้งแต่วันแรก ถึงอายุ 99 ปี เบี้ยประกันปีละ35,81053,77029,62044,430 เบี้ยประกันตลอดสัญญา716,0001,075,400592,400888,600 มูลค่ากรมธรรม์ดูรีวิวฉบับเต็ม AIA 20 Pay Life (Non Par)...คลิก Show รูปบน ของ desktop ปัจจุบัน ประกันชีวิต มีมากมายหลายแบบ แต่ละแบบจะมีลักษณะความคุ้มครอง และผลประโยชน์แตกต่างกันยังไงบ้าง วันนี้พี่ทุยจะสรุปแบบเข้าใจง่าย ๆ เป็นวิทยาทาน สำหรับใครที่ยังลังเลว่าจะเลือก ประกันชีวิตแบบไหนดี ให้เหมาะสมกับความต้องการของชีวิตตัวเอง ไปฟังกัน เลือก ประกันชีวิตแบบไหนดี1. ประกันชีวิตแบบชั่วระยะเวลา หรือ Termคือ แบบประกันชีวิตที่เน้นคุ้มครองชีวิตในระยะเวลาหนึ่ง หากเราเสียชีวิตลงในขณะที่กรมธรรม์ยังมีผลบังคับ บริษัทจะจ่ายเงินให้แก่ผู้รับผลประโยชน์ของเราตามที่ตกลงไว้ในกรมธรรม์ แต่ถ้าอยู่จนครบสัญญาจะไม่มีเงินคืน เป็นเบี้ยจ่ายทิ้ง ซึ่งเมื่อเทียบเปรียบกับประกันชีวิตประเภทอื่น ๆ เบี้ยประกันที่จ่ายต่อความคุ้มครองที่ได้รับถือว่าถูกที่สุด ตัวอย่างเช่น แบบประกันชีวิต 7/7 คือ ชำระเบี้ย 7 ปี คุ้มครอง 7 ปี ประกันชีวิตแบบชั่วระยะเวลาเหมาะกับใคร เหมาะกับคนที่ต้องการความคุ้มครองเพียงอย่างเดียว หรือคนที่มีหนี้สินเยอะในช่วงเวลาหนึ่ง หากตัวเองเป็นอะไรไป หนี้สินจะได้ไม่ตกไปเป็นภาระคนรุ่นหลัง ข้อดีของประกันชีวิตแบบชั่วระยะเวลา
ข้อเสียของประกันชีวิตแบบชั่วระยะเวลา
2. ประกันชีวิตแบบตลอดชีพคือ แบบประกันชีวิตที่เน้นคุ้มครองชีวิตระยะยาวถึงอายุ 85, 90 หรือ 99 ปี (แล้วแต่แบบประกัน) หากเราเสียชีวิตลงในขณะที่กรมธรรม์ยังมีผลบังคับ บริษัทจะจ่ายเงินให้แก่ผู้รับผลประโยชน์ของเราตามที่ตกลงไว้ในกรมธรรม์ แต่ถ้าอยู่จนครบสัญญาก็จะมีเงินคืนตามทุนประกันที่ทำไว้ทันที ตัวอย่างเช่น แบบประกันชีวิต 99/20 คือ ชำระเบี้ย 20 ปี แต่คุ้มครองถึงอายุ 99 ปี (ได้รับเงินคืนเมื่ออายุ 99 ปี) ประกันชีวิตแบบตลอดชีพเหมาะกับใคร เหมาะกับคนที่เป็นหัวหน้าครอบครัว หากตัวเองเป็นอะไรไป คนข้างหลังจะได้ไม่ลำบาก หรือคนที่ต้องการซื้อประกันสุขภาพ สามารถใช้แบบประกันตลอดชีพเป็นตัวหลักแล้วใส่สัญญาเพิ่มเติมอย่างค่ารักษาพยาบาล, ค่าห้อง หรือโรคร้ายแรงเข้าไปได้ ข้อดีของประกันชีวิตแบบตลอดชีพ
ข้อเสียของประกันชีวิตแบบตลอดชีพ
3. ประกันชีวิตแบบสะสมทรัพย์คือ แบบประกันชีวิตที่เน้นการออมเงิน และให้ความคุ้มครองชีวิตด้วย โดยเราจะได้เงินคืนเมื่อครบกำหนดสัญญา แต่ถ้าเราเสียชีวิตลงในขณะที่กรมธรรม์ยังมีผลบังคับ บริษัทจะจ่ายเงินให้แก่ผู้รับผลประโยชน์ของเราตามที่ตกลงไว้ในกรมธรรม์ ตัวอย่างเช่น แบบประกันออมทรัพย์ 15/10 คือ ชำระเบี้ย 10 ปี คุ้มครอง 15 ปี (ได้รับเงินคืนปีที่ 15) แต่มีเงินคืน 10% ระหว่างทาง (แล้วแต่แบบประกัน) ประกันชีวิตแบบสะสมทรัพย์เหมาะกับใคร เหมาะกับผู้ที่ต้องการฝึกนิสัยการออมเงิน ที่ได้ผลตอบแทนมากกว่าการฝากธนาคาร รวมทั้งได้รับความคุ้มครองจากการประกันชีวิต และเป็นตัวช่วยลดหย่อนภาษีด้วย ข้อดีของประกันชีวิตแบบสะสมทรัพย์
ข้อเสียของประกันชีวิตแบบสะสมทรัพย์
4. ประกันชีวิตแบบบำนาญคือ แบบประกันชีวิตที่เน้นการออมเงินไว้ใช้หลังเกษียณ และให้ความคุ้มครองชีวิตด้วย โดยจะจ่ายเบี้ยประกันไปจนถึงอายุ 55 หรือ 60 ปี (แล้วแต่แบบประกัน) หลังจากนั้นจะได้เงินคืนเป็นบำนาญไปเรื่อย ๆ จนครบกำหนดสัญญา แต่ถ้าเราเสียชีวิตลงในขณะที่กรมธรรม์ยังมีผลบังคับ บริษัทจะจ่ายเงินให้แก่ผู้รับผลประโยชน์ของเราตามที่ตกลงไว้ในกรมธรรม์ ตัวอย่างเช่น แบบประกันบำนาญ 60/85 คือ ชำระเบี้ยถึงอายุ 60 ปี คุ้มครองถึงอายุ 85 ปี หลังจากนั้นจะได้รับบำนาญจนถึงอายุ 85 ปี (แล้วแต่เลือกในแบบประกัน) ประกันชีวิตแบบบำนาญเหมาะกับใครเหมาะกับคนที่ต้องการมีเงินใช้แบบบำนาญหลังเกษียณ และสามารถนำเบี้ยประกันที่จ่ายไปลดหย่อนภาษีได้ แต่เมื่อนับรวม SSF, RMF, กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ, กองทุนสงเคราะห์ครูโรงเรียนเอกชน, กอช. และกบข. ห้ามเกิน 500,000 บาท ข้อดีของประกันชีวิตแบบบำนาญ
ข้อเสียของประกันชีวิตแบบบำนาญ
5. ประกันชีวิตแบบควบการลงทุนเป็นประกันชีวิตอีกทางเลือกหนึ่งสำหรับคนที่ต้องการความคุ้มครองชีวิต และเพิ่มโอกาสในการได้รับผลตอบแทนจากการลงทุน ซึ่งสูงกว่าแบบประกันชีวิตทั่วไป โดยแบ่งเป็น 2 แบบ คือ ประกันชีวิตแบบยูนิตลิงค์ (Unit Linked) และประกันชีวิตแบบยูนิเวอร์แซลไลฟ์ (Universal Life) ประกันชีวิตแบบควบการลงทุนมี 2 แบบ ซึ่งต่างกันเพียงเล็กน้อยตรงที่ ประกันชีวิตแบบยูนิเวอร์แซลไลฟ์ (Universal Life) บริษัทประกันชีวิตจะเป็นผู้บริหารการลงทุนเอง ทำให้มีผลตอบแทนค่อนข้างแน่นอน และมีการการันตีผลตอบแทนขั้นต่ำให้กับลูกค้า ประกันชีวิตแบบยูนิตลิงค์ (Unit Linked) มีโอกาสได้ผลตอบแทนที่สูงกว่า แต่ก็ย่อมมาพร้อมกับความเสี่ยงที่สูงกว่าด้วย เนื่องจากตัวเราเป็นผู้บริหารการลงทุนของตัวเอง แต่ดีตรงที่ทำให้เราสามารถปรับเปลี่ยนการลงทุนได้ตามต้องการ ประกันชีวิตแบบควบการลงทุนเหมาะกับใครเหมาะกับคนที่เข้าใจในการลงทุน ต้องการผลตอบแทนที่มากกว่าประกันชีวิตทั่วไป ยอมรับความเสี่ยงได้ และต้องการความคุ้มครองสูง ข้อดีของประกันชีวิตแบบควบการลงทุน
ข้อเสียของประกันชีวิตแบบบำนาญ
อย่างไรก็ตาม พี่ทุยขอแนะนำเพิ่มเติมว่า สิทธิประโยชน์การลดหย่อนภาษีเป็นเพียงผลประโยชน์เพิ่มเติม ยังไงตอนซื้อเราก็ควรดูเรื่องความคุ้มครอง ความเหมาะสมกับตัวเราเป็นหลักจะดีที่สุด เพราะ ประกันชีวิต แต่ละประเภทถูกออกแบบมาให้ตอบโจทย์ทางการเงินที่แตกต่างกันนั่นเอง อ่านเพิ่ม
รูปบน ของ desktop # ประกันชีวิตประกันชีวิตแบบควบการลงทุนประกันชีวิตแบบชั่วระยะเวลาประกันชีวิตแบบตลอดชีพประกันชีวิตแบบบำนาญประกันชีวิตแบบสะสมทรัพย์ |