การเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตมีกี่วิธี

การเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตแบบใช้สาย (Wire Internet) 
1. การเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตรายบุคคล (Individual Connection)  การเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตรายบุคคล คือ การเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตจากที่บ้าน (Home user) ซึ่งยังต้องอาศัยคู่สายโทรศัพท์ในการเข้าสู่เครือข่ายอินเตอร์เน็ต ผู้ใช้ต้องสมัครเป็นสมาชิกกับผู้ให้บริการอินเตอร์เน็ตก่อน จากนั้นจะได้เบอร์โทรศัพท์ของผู้ให้บริการอินเตอร์เน็ต รหัสผู้ใช้ (User name) และรหัสผ่าน (Password) ผู้ใช้จะเข้าสู่ระบบอินเตอร์เน็ตได้โดยใช้โมเด็มที่เชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์ของผู้ใช้หมุนไปยังหมายเลขโทรศัพท์ของผู้ให้บริการอินเตอร์เน็ต จากนั้นจึงสามารถใช้ งานอินเตอร์เน็ตได้

องค์ประกอบของการใช้อินเตอร์เน็ตรายบุคคล
1. โทรศัพท์
2. เครื่องคอมพิวเตอร์
3. ผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต ซึ่งจะให้เบอร์โทรศัพท์ รหัสผู้ใช้และรหัสผ่าน
4. โมเด็ม (Modem)

2. การเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตแบบองค์กร (Corporate Connection) การเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตแบบองค์กรนี้จะพบได้ทั่วไปตามหน่วยงานต่างๆ ทั้งภาครัฐและเอกชน หน่วยงานต่างๆ เหล่านี้จะมีเครือข่ายท้องถิ่น (Local Area Network : LAN) เป็นของตัวเอง ซึ่งเครือข่าย LAN นี้เชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตตลอดเวลา ผ่านสายเช่า (Leased line) ดังนั้น บุคลากรในหน่วยงานจึงสามารถใช้อินเตอร์เน็ตได้ตลอดเวลา การใช้อินเตอร์เน็ตผ่านระบบ LAN ไม่มีการสร้างการเชื่อมต่อ(Connection) เหมือนผู้ใช้รายบุคคลที่ยังต้องอาศัยคู่สายโทรศัพท์ในการเข้าสู่เครือข่ายอินเตอร์เน็ต

การเชื่อมต่อระบบอินเทอร์เน็ต นั้นขึ้นอยู่กับความต้องการในการใช้งานเป็นสำคัญ เช่นใช้อินเทอร์เน็ตเพื่อค้นหาข้อมูลที่บ้าน ใช้ในเชิงธุรกิจ ใช้เพื่อความบันเทิง หรือใช้ภายในองค์กรขนาดใหญ่ ดังนั้นการเชื่อมต่อระบบอินเทอร์เน็ตจึงมีความเเตกต่างกันซึ่งขึ้นอยู่กับปัจจัยด้านความต้อวการ รวมทั้งเงินทุนที่จะใช้ในการติดตั้งระบบด้วย ปัจจุบันการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตที่นิยมใช้มี 5 ลักษณะ คือ

1. การเชื่อมต่อเเบบ Dial Up เป็นการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตที่เคยได้ความนิยมในยุคเเรกๆโดยใช้เครื่องคอมพิวเตอร์บุคคล กับสายโทรศัพท์บ้านที่เป็นสายตรงต่อเชื่อมเข้ากับโมเด็ม (Modem) ก็สามารถใช้งานอินเทอร์เน็ตผ่านหมายเลขโทรศัพท์บ้าน โดยผู้ให้บริการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตจะกำหนดชื่อผู้ใช้ (Username) เเละรหัสผ่าน (Password) มาให้เพื่อเข้าให้บริการอินเทอร์เน็ต

ข้อดีของการเชื่อต่อเเบบ Dial Up คือ อุปกรณ์มีราคาถูก การติดตั้งง่าย การเคลื่อนย้ายอุปกรณ์ทำได้ง่าย

ข้อเสีย คืออัตราการรับส่งข้อมูลค่อนข้างต่ำเพียงไม่เกิน 56 kbit (กิโลบิต) ต่อวินาที

2.การเชื่อมต่อเเบบ ISDN (Internet Services Digital Network) เป็นการเชื่อมต่อที่คล้ายกับเเบบ Dial Up เพราะต้องใช้โทรศัพท์เเละโมเด็มในการเชื่อมต่อ ต่างกันตรงที่ระบบโทรศัพท์เป็นระบบความเร็วสูงที่ใช้เทคโนโลยีระบบดิจิตอล (Digital) เเละต้องใช้โมเด็มเเบบ ISDN Modem ในการเชื่อมต่อ ดังนั้นการเชื่อต่ออินเทอร์เน็ตเเบบ ISDN จะต้องคำนึงถึงสิ่งเหล่านี้ คือ

1. ต้องการติดต่อผู้บริการอินเทอร์เน็ต (ISP) ที่ให้บริการเชื่อมต่อเเบบ ISDN

2.การเชื่อมต่อต้องใช้ ISDN Modem ในการเชื่อมต่อ

3.ต้องการตรวจสอบที่ที่จะใช้บริากรนี้ อยู่ในอาณาเขตที่ใช้บริการ ISDN ได้หรือไม่

ข้อดี คือไม่มีสัญญาณรบกวน มีความเร็วสูง เเละยังคงสามารถใช้โทรศัพท์เพื่อพูดคุยไปได้พร้อมๆกับการเล่นอินเทอร์เน็ต

ข้อเสีย คือมีค่าใช้จ่ายสูงกว่าระบบ Dial-Up

3.การเชื่อมต่อเเบบ DSL (Digital Subscriber Line) เป็นเทคโนโลยีการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตความเร็วสูงโดยใช้สายโทรศัพท์ธรรมดา ที่สามารถใช้อินเทอร์เน็ตเเละพูดผ่านสายโทรศัพท์ปกติได้ในเวลาเดียวกัน สิ่งที่ต้องคำนึงถึงในการตัดสินในการติดตั้งระบบอินเทอร์เน็ตเเบบ DSL ก็คือ

1.ต้องตรวจสอบว่าสถานที่ที่ติดตั้งอยู่ในเขตพื้นที่ให้บริการระบบโทรศัพท์เเบบ DSL หรือไม่

2.บัญชีผู้ใช้อินเทอร์เน็ตจากผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตในเเบบ DSL

3.การเชื่อมต่อต้องใช้ DSL Modem ในการเชื่อมต่อ

4.ต้องติดตั้ง Ethernet Adapter Card หรือ Lan Card ไว้ที่เครื่องคอมพิวเตอร์ที่ใช้ในการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตด้วย

ข้อดี คือมีความเร็วสูงกว่าเเบบ Dial-Up เเละ ISDN

ข้อเสีย คือไม่สามารถระบุความเร็วที่เเน่นอนได้

4. การเชื่อมต่อเเบบ Cable เป็นกาารเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตโดยผ่านสายสื่อสารเดียวกับ Cable TV จุงทำให้เราสามรถเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตไปพร้อมๆกับการดูทีวีได้ โดยต้องจัดหาอุปกรณ์เพิ่มเติม คือ

1. ใช้ Cable Modem เพื่อเชื่อมต่อ

2. ต้องติดตั้ง Ethernet Adapter Card หรือ Lan Card ไว้ที่เครื่องคอมพิวเตอร์ที่ใช้ในการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตด้วย

ข้อดี คือถ้ามีสายเคเบิลทีวีอยู่เเล้ว สามารถเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตได้โดยเพิ่มอุปกรณ์ Cable Modem ก็สามารถเชื่อมต่อได้

ข้อเสีย คือถ้าผู้ใช้เคเบิลในบริเวณใกล้เคียงมาก อาจทำให้การรับส่งข้อมูลช้าลง