ขั้น ตอน ของการ ธำรง ไว้ มี กี่ ขั้น ตอน

ขั้น ตอน ของการ ธำรง ไว้ มี กี่ ขั้น ตอน

     กระบวนการวางแผน สรรหาและรักษาบุคลากร คือ กระบวนการที่เริ่มต้นตั้งแต่การจูงใจโน้มน้าวชักชวนบุคคลที่มีคุณสมบัติที่ เหมาะสมให้เข้ามาร่วมเป็นทีมงานในองค์กร เพื่อทำงานให้บรรลุเป้าหมายตามกำหนดเวลา ที่ได้วางแผนกำลังพลไว้ ตามจำนวนที่ต้องการ เพื่อให้บรรลุเป้าหมาย คือ การได้คนเก่ง คนดี และมีผลการปฏิบัติงานดี อยู่ในองค์กร และทำให้องค์กรสามารถยังคงรักษาความสามารถในการแข่งขันเชิงธุรกิจ กระบวนดังกล่าวจึงถือเป็นส่วนหนึ่งของความสำเร็จขององค์กรในยุคใหม่

     ความสำเร็จหรือความสามารถบรรลุจุดมุ่งหมายขององค์กร เป็นผลเนื่องมาจากความสามารถในการใช้ทรัพยากรที่มีอยู่ในองค์กรได้อย่างมี ประสิทธิภาพและได้ประโยชน์สูงสุดทรัพยากรมนุษย์ ซึ่งถือเป็นปัจจัยหนึ่งในหลายปัจจัยที่มีความสำคัญยิ่งต่อความสำเร็จหรือล้ม เหลวขององค์กร

     การบริหารทรัพยากรมนุษย์ที่เหมาะสมจะสามารถสร้างความเจริญเติบโตแก่องค์กรได้เป็น อย่างดี เพราะ “มนุษย์” มีศักยภาพในตนเองมากมาย หากองค์กรมีหลักเกณฑ์ในการสรรหา การคัดเลือก การฝึกอบรมและพัฒนาที่ดี จะส่งเสริมให้พนักงานได้ใช้ความรู้ ความสามารถที่มีอยู่ทำงานให้บรรลุผล อุทิศตนให้แก่องค์กรอย่างเต็มที่ และพร้อมรับการเปลี่ยนแปลงในรูปแบบต่างๆ ได้ นอกจากนั้นการมุ่งเน้นไปที่การธำรงรักษาพนักงานที่ดีขององค์กรให้มีสุขภาพ กาย สุขภาพใจโดยคำนึงถึงความปลอดภัย สภาพแวดล้อมในการทำงานที่ดี ซึ่งจะส่งผลถึงขวัญและกำลังใจของพนักงาน องค์กรที่มุ่งเน้นในเรื่องดังกล่าวจะสามารถมุ่งไปสู่การเป็น “องค์กรแห่งความเป็นเลิศ”

     ปัจจุบันองค์กรต่างๆได้ให้ความสำคัญกับระบบการคัดเลือกพนักงานตามหลักวิทยาศาสตร์ (Employees can be scientifically selected)กันแพร่หลายมากขึ้น ระบบการคัดเลือกคนแบบใหม่ จะมุ่งสู่การคัดเลือกแบบ Merit system เพื่อคัดเลือกคนให้ตรงกับงาน และมีผลงานดี อ่านเพิ่มเติม:ฝ่ายสรรหาบุคคลากรพิจารณา Resume อย่างไร

     การจะสร้างระบบการคัดเลือกคนที่เหมาะสมกับองค์กรได้ นั้นหัวใจสำคัญอย่างคือ การวิเคราะห์งาน (Jobs can be scientifically analyzed) เมื่อองค์กรเข้าสู่ยุคของการแข่งขันแบบสมบูรณ์ คนจะมีความเป็นมืออาชีพ( Specialist) มากขึ้น และองค์กรจะมุ่งสู่การเป็น Core Organization

     การออกแบบระบบงาน แนวทางในการปฏิบัติงานและการสร้างสภาพแวดล้อมในการทำงานอย่างเหมาะสมให้สอด รับกับสภาพธุรกิจ จะทำให้พนักงานตระหนักว่าพวกเขาทุกคนเป็นส่วนสำคัญขององค์กร และทำให้องค์กรอยู่รอดได้ ไม่ว่าสภาพการณ์จะเปลี่ยนแปลงไปอย่างไร องค์กรและพนักงานก็พร้อมกับการเปลี่ยนแปลงได้เสมอ

     กระบวนการวางแผน สรรหาและรักษาบุคลากร นอกจากการมองทุกสิ่งเป็นกระบวนการแล้ว ยังจำเป็นต้องสร้างความสัมพันธ์ระหว่างองค์ประกอบอื่นๆ ด้วย ปัญหาบางอย่างไม่ใช่เกิดขึ้นจากการเปลี่ยนแปลงกลยุทธ์องค์กรอย่างเดียว แต่บางครั้งอาจเกิดจากความไม่เข้าใจกันของคนในองค์กร และการละเลยการปรับปรุงความสัมพันธ์ระหว่างพนักงานและองค์กร

     ในฐานะเป็นฝ่ายทรัพยากรมนุษย์ เราจะต้องยอมรับว่า นอกจากหัวใจสำคัญของการมีวิธีการรับคนเข้าทำงานอย่างมีประสิทธิภาพแล้ว การมุ่งรักษาคนดีให้อยู่กับองค์กรต่อไปนั้นยังเป็นสิ่งจำเป็น องค์กรในช่วงเศรษฐกิจขาลง นั้นต้องอาศัยบุคลากรที่เข้มแข็งและมีประสิทธิภาพควบคู่กัน จึงจะทำให้สามารถฝ่าวิกฤตและเจริญก้าวหน้าต่อไปได้

     มีหลายประการที่ฝ่ายบริหารในฐานะที่เป็น Strategic Maker และฝ่ายทรัพยากรมนุษย์ในฐานะที่เป็น Strategic Partnership ขององค์กรควรดำเนินการ ในมุมมองของผู้เขียนจึงขอสรุปในประเด็นสำคัญ ดังต่อไปนี้

     ตามแนวคิดใหม่ กล่าวว่า แทนที่จะเน้นเรื่องการจ้างงาน (Employment) แบบเดิม ให้หันมาเน้นด้าน Employability ซึ่งเป็นแนวคิดในการพัฒนาคนหรือหาโอกาสให้คนได้พัฒนาศักยภาพของตนเอง เพื่อให้คนมีความสามารถหลายๆ ด้าน เป็นการเตรียมพร้อมสำหรับการหางานใหม่ เมื่อบริษัทจะลดคนพนักงานก็ไม่เดือดร้อน เพราะสามารถหางานใหม่ได้ง่ายขึ้น 
    อ่านต่อ:กระบวนการวางแผน สรรหาและรักษาบุคลากร (จบ)

ขั้น ตอน ของการ ธำรง ไว้ มี กี่ ขั้น ตอน

     ฝ่ายทรัพยากรมนุษย์ขององค์กร จะต้องเสนอให้บริษัทเปิดโอกาสให้พนักงานได้พัฒนาตนเอง เพื่อเพิ่มศักยภาพหรือโอกาสในการเรียนรู้ (Employability) เป็นการแลกเปลี่ยนกับผลผลิตที่ดีกว่าและเพิ่มความภักดีกับองค์การ ในระหว่างที่พนักงานยังอยู่กับองค์กร ควรให้พนักงานมีส่วนร่วมในการกำหนด Career ของตนเอง ขณะเดียวกัน ผู้บริหารทุกระดับจะต้องมีหน้าที่ในการใส่ใจกับพนักงานทุกคนไม่ว่าเขาจะอยู่ หรือกำลังจะไป(แนวคิดเรียกว่า Self-Reliant Workers หรือ Career-Resilient Workforce) หรือนำแนวคิด Learning Organization เข้ามาใช้ การเรียนรู้ตลอดเวลา และการปรับปรุงพัฒนาทักษะเป็นเรื่องที่สำคัญสำหรับองค์กร จึงจำเป็นต้องสร้างสภาพแวดล้อมให้เกิดการเรียนรู้ โดยการสร้างแรงจูงใจ เพื่อการพัฒนาศักยภาพของพนักงาน 

     ต้องสร้างบรรยากาศให้พนักงานยอมรับค่านิยมใหม่ๆ ขององค์กร วัฒนธรรม ที่มุ่งเน้นเรื่อง Speed, Delivery, Best Quality, CRM หรือ Innovation ก็จะเป็นตัวกำหนด Norm ของบริษัทที่ทุกคนในองค์การต้องยอมรับ นอกจากนั้นการสร้างค่านิยมอื่นๆ เช่น ารให้ความสำคัญกับลูกค้า (Customer Based) การเน้นการทำกำไร(Maximize Profit) ขึ้นอีกด้วยซึ่งจะทำให้ผลผลิต(Productivity) ประสิทธิภาพ (Efficiency) ประสิทธิผล (Effectiveness) คุณภาพ (Quality) เพิ่มสูงขึ้นตามเป้าหมายของบริษัท 

     ให้แสวงหาแนวทางใหม่ๆ ในการทำงาน หมายถึง เมื่อมีปัญหาเกิดขึ้นก็จะหันกลับไปมองอดีตว่า ปัญหานี้เคยแก้ไขมาอย่างไร ก็จะนำเอาวิธีการในอดีตมาแก้ไขอีก เป็นความคิดที่วนเวียนอยู่กับที่ สมควรที่จะคิดใหม่ทำใหม่ เพราะสิ่งแวดล้อมในปัจจุบันกับอดีตย่อมมีความแตกต่างกัน 

     อย่าปิดกั้นตัวเองกับข้อมูลข่าวสาร อย่างน้อยข้อมูลข่าวสารที่สมควรทราบ คือ ข้อมูลข่าวสารในหน่วยงาน ภาคธุรกิจที่เกี่ยวข้อง ข่าวสารภายในประเทศ ภูมิภาคและโลกอย่าทำงานแบบตั้งรับ คือการทำงานแบบหัวคิดไม่นำ(Reactive) ซึ่งต้องรอให้เหตุการณ์เกิดขึ้นก่อนจึงจะมีการตอบโต้ ปัจจุบันต้องทำงานแบบหัวคิดก้าวหน้า(Proactive) รุกไปที่งานและสร้างโอกาสใหม่ๆ ให้เกิดผลลัพธ์ที่ดีกับองค์กร 

     บทเรียนของผู้บริหาร ผู้บริหารจะต้องสร้างปรัชญาการบริหารขึ้นมา ซึ่งนี้จะต้องอยู่บนพื้นฐานของความเชื่อเดิมคนในองค์การที่มีอยู่ ระบบการสื่อสารที่ดีภายในองค์กร อาจทำได้โดย การจัดประชุมพูดคุยกันทุกๆ สัปดาห์ สร้างมาตรวัดการทำงาน พยายามให้คนเข้ามามีส่วนร่วม เปลี่ยนวัตถุประสงค์ให้เป็นเป้าหมายที่วัดได้ จะทำให้พนักงานในองค์กรยอมรับในการเปลี่ยนแปลง และสามารถเพิ่มขวัญกำลังใจ และรักษาบุคลากรที่มีคุณภาพอยู่กับบริษัท 

     แนวคิดกระบวนการวางแผน สรรหาและรักษาบุคลากร เครือซิเมนต์ไทย

     จากการที่ผู้เขียนได้มีโอกาสทำงานในเครือซิเมนต์ไทยมาหลายปี (11 ปี) ทำให้ยอมรับและเชื่อว่าทฤษฎีกระบวนการวางแผน สรรหาและรักษาบุคลากร ของปูนซิเมนต์ไทย ที่ทำมายาวนานอย่างต่อเนื่อง ด้วยการยึดหลักว่า การสรรหาและการรักษาคนในองค์กรเป็นสิ่งสำคัญและต้องให้ความสำคัญอย่างต่อ เนื่องและสม่ำเสมอ แนวคิดเกี่ยวกับคน เครือซิเมนต์ไทย ถือว่า พนักงานคือ ทรัพยากรที่มีคุณค่า      ดังนั้น การลงทุนในมนุษย์(HUMAN CAPITAL) จะต้องลงทุนโดยใช้ระยะเวลาที่ยาวนาน เหมือนกับการปลูกต้นไม้ ที่ต้องคัดเลือกเมล็ดพันธ์ที่ดี ปลูกในแหล่งที่มีดินดี ให้การรดน้ำพรวนดินและใสปุ๋ยอย่างสม่ำเสมอ มีความต่อเนื่อง และพร้อมรอคอยระยะเวลาสำหรับการเก็บเกี่ยวผลิตผลที่ดีในอนาคต


ที่มา : ศักดิ์ดา หวานแก้ว