การดำเนินงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ให้เป็นไปตามแนวพระราชดำริ และบรรลุวัตถุประสงค์ มีหลักการสำคัญ ดังนี้ Show เมื่อแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าได้แล้ว ก็จะเป็นการพัฒนาเพื่อให้ประชาชนอยู่ในสังคมได้ตามสภาพ ในลักษณะของการพึ่งตนเอง ตัวอย่างโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริที่เน้นหลัก "การพึ่งตนเอง" เพื่อพัฒนาแก้ไข ปัญหาความยากจนของราษฎร เช่น โครงการธนาคารข้าว โครงการธนาคารโค-กระบือ และโครงการพัฒนาที่ดินตาม พระราชประสงค์ "หุบกระพง" อำเภอชะอำ จังหวัดเพชรบุรี ซึ่งดำเนินการเพื่อให้ประชา ชนมีที่อยู่อาศัยทำกิน และรวมตัวกันในรูปของกลุ่มสหกรณ์ เพื่อแก้ไขปัญหาของชุมชน และการทำมาหากินร่วมกัน เป็นต้น นอกจากนั้น โครงการพัฒนาอันเนื่องมาจากพระราช ดำริ ในระยะหลังก็ล้วนแต่เพื่อให้ประชาชนสามารถช่วยตัวเองได้ เพราะเป็นโครงการ ที่ สนับสนุนให้ประชาชนสามารถประกอบอาชีพให้ได้ผล และมีประสิทธิภาพ เช่น การ พัฒนาแหล่งน้ำเพื่อการเกษตร การให้การอบรมความรู้สาขาต่าง ๆ ทั้งด้านการเกษตร และศิลปาชีพพิเศษ เป็นต้น ๔. การส่งเสริมความรู้ และเทคนิควิชาการสมัยใหม่ที่เหมาะสม ด้วยพระราชประสงค์ที่ต้องการให้ราษฎรได้รับในสิ่งที่ขาดแคลน และต้องมีตัวอย่างของความสำเร็จ จึงทรงพระราชทานพระราชดำริให้จัดตั้ง ศูนย์ศึกษาการพัฒนาอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ในทุกภูมิภาคของประเทศ เพื่อใช้เป็นสถานที่ศึกษา ทดลอง วิจัย และแสวงหาความรู้สมัยใหม่ที่ราษฎรรับได้ และนำไปดำเนินการเองได้ โดยต้องเป็นวิธีการที่ประหยัด เหมาะสม และสอดคล้องกับสภาพแวดล้อม ๕. การอนุรักษ์และพัฒนาทรัพยากรธรรมชาติ จากการพัฒนาประเทศในช่วงที่ผ่านมา ส่งผลให้ทรัพยากรธรรมชาติเสื่อมโทรมลงโดยมิได้มีการฟื้นฟูขึ้นมา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวจึงทรงสนพระราชหฤทัยในการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติเป็นอย่างยิ่ง เพราะมีผลโดยตรงต่อการพัฒนาการเพิ่มผลผลิตทางการเกษตร ของราษฎรในพื้นที่ต่างๆ ๖. การส่งเสริมและปรับปรุงคุณภาพสิ่งแวดล้อม จากการที่โครงสร้างทางเศรษฐกิจของประเทศได้เปลี่ยนไป สู่การผลิตที่มีภาคอุตสาหกรรม และบริการเป็นหลัก ทำให้สังคมไทยเริ่ม เปลี่ยนจากสังคมชนบท สู่ความเป็นสังคมเมืองมากขึ้น ปัญหาที่เกิดตามมาคือปัญหาทางด้านความเสื่อมโทรมของสภาพแวดล้อม พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงมีพระราชดำริที่จะแก้ไขปัญหา โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องของการ กำจัดน้ำเสีย ใน กรุงเทพมหานคร และในเมืองหลัก ในต่างจังหวัดด้วยวิธีการต่าง ๆ โครงการตามพระราชประสงค์ คือ โครงการซึ่งทรงศึกษาและทดลองปฏิบัติเป็นการส่วนพระองค์ ทรงปรึกษาหารือกับผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านนั้น ๆ แสวงหาวิธีทดลอง พัฒนา ส่งเสริม เมื่อได้ผลดีว่าจะเกิดประโยชน์แก่ประชาชน ก็จะทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้รัฐบาลรับดำเนินการต่อไป ทรงตระหนักในปัญหาที่ใหญ่ที่สุด ปัญหาหนึ่งของประเทศไทย คือ ปัญหาชาวไร่ชาวนาไม่มีที่ดินทำกินของตนเองเป็นหลักแหล่งอย่างเพียงพอ จึงทรงดำเนินการพัฒนาที่ดินที่รกร้างว่างเปล่า ซึ่งหมดสภาพป่าสงวนของชาติแล้ว ให้มีสภาพเป็นที่ดินอุดมสมบูรณ์ แล้วนำมาจัดสรรให้ชาวไร่ชาวนาที่ต้องการจะช่วยตนเองและช่วยเหลือซึ่งกันและกันให้ได้เข้ามาหากินเป็นการถาวร โดยดำเนินการในรูปสหกรณ์การเกษตร ให้สมาชิกมีสิทธิในการครอบครองทำมาหากินในที่ดินได้ชั่วลูกชั่วหลานแต่กรรมสิทธิ์ในที่ดินเป็นของสหกรณ์ หลักการและวิธีดำเนินการดังกล่าวทำให้เกษตรกรสามารถยกระดับฐานะความเป็นอยู่ของตนเองให้ดีขึ้น โครงการที่ยังคงใช้คำว่า “ตามพระราชประสงค์” มีอยู่ 4 แห่ง คือ 1. โครงการจัดพัฒนาที่ดินตามพระราชประสงค์หนองพลับ-กลัดหลวง จังหวัดประจวบคีรีขันธ์และจังหวัดเพชรบุรี พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม แต่งตั้งคณะกรรมการอำนวยการโครงการตามพระราชประสงค์หมู่บ้านสหกรณ์ห้วยสัตว์ใหญ่ ป่าเด็ง-ป่าละอู หุบกะพง ดอนขุนห้วย หนองพลับ-กลัดหลวง จังหวัดประจวบคีรีขันธ์และจังหวัดเพชรบุรี (ชุดใหม่) โดยมีพลอากาศเอก ชลิต พุกผาสุข องคมนตรี ประธานกรรมการอำนวยการโครงการตามพระราชประสงค์หมู่บ้านสหกรณ์ห้วยสัตว์ใหญ่ ป่าเด็ง-ป่าละอู หุบกะพง ดอนขุนห้วย หนองพลับ-กลัดหลวง จังหวัดประจวบคีรีขันธ์และจังหวัดเพชรบุรี ตรวจเยี่ยมผลการดำเนินงานโครงการ ฯ |