Show
ล่าสุดสายการบินชั้นนำอย่าง “การบินไทย” ออกมาประกาศปรับน้ำหนักกระเป๋าโหลดฟรีเหลือ 20 กก. ตั๋วชั้นประหยัด เริ่ม 1 เม.ย. นี้ ส่วนตั๋วกรุ๊ปทัวร์ เริ่ม 1ก.ค. นี้ ลดต้นทุนน้ำมันเครื่องบิน สำหรับมาตรการนี้ จะปรับใช้สำหรับตั๋วชั้นประหยัด หรือ Economy Class ที่เป็นตั๋วราคาโปรโมชั่นเท่านั้น แต่สำหรับตั๋วชั้นประหยัดราคาปกติ ยังคงได้น้ำหนักกระเป๋า 30 Kg. เหมือนเดิม และจะเริ่มมีผลตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย. 62 เป็นต้นไป รหัสตั๋วโดยสารที่ได้รับผลกระทบ รหัสตั๋ว L (Economy Class Discounted) ชั้นประหยัดลดราคาพิเศษ รหัสตั๋ว W (Economy Class Premium) ชั้นประหยัดบริการพิเศษ รหัสตั่ว V (Economy Class Discounted) ชั้นประหยัดลดราคาพิเศษ นอกจากนี้ ตั๋วสำหรับกรุ๊ปทัวร์ที่เป็นแบบชั้นประหยัด ก็จะถูกลดน้ำหนักลง จาก 30 Kg. เป็น 20 Kg. เช่นกัน ซึ่งจะมีผลตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค. 62 เป็นต้นไป ส่วนสาเหตุหลักของการปรับลดน้ำหนักกระเป๋าครั้งนี้ ก็เพื่อจะได้บริหารจัดการน้ำหนักสัมภาระของผู้โดยสารได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น และเป็นการลดต้นทุนค่าน้ำมันนั่นเอง Reated post:About Author
gtt-admin สัมภาระที่นำขึ้นเครื่องของการบินไทยได้ สามารถแบ่งง่าย ๆ ได้เป็น 2 ประเภท คือ สัมภาระฝาก(โหลด)ใต้เครื่อง และ สัมภาระถือขึ้นเครื่อง ซึ่งสัมภาระในส่วนที่โหลดลงใต้เครื่อง จะมีปัจจัยที่เป็นตัวกำหนดปริมาณน้ำหนักสูงสุดสำหรับแต่ละท่าน อยู่ที่ประเภทของชั้นโดยสารที่เดินทาง และ การถือครองสมาชิกรอยัลออร์คิดพลัส(Royal Orchid Plus, ROP) สัมภาระฝากใต้เครื่อง (Checked Baggage)สัมภาระที่ไม่มีค่าใช้จ่าย (Free baggage)ทางการบินไทยมีเกณฑ์กำหนดขีดจำกัดนำหนักของสัมภาระที่ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม โดยขึ้นอยู่กับเงื่อนไขและข้อจำกัดของการบินไทย สำหรับเกณฑ์น้ำหนักสัมภาระของชั้นโดยสารแต่ละประเภท ที่ใช้สำหรับการเดินทางระหว่างประเทศ มีดังนี้..
หมายเหตุ: ตารางนี้ใช้สำหรับการเดินทางระหว่างประเทศในกลุ่ม TC3 และ ระหว่างกลุ่ม TC2, TC3 "การบินไทย ประกาศเพิ่มน้ำหนักสัมภาระทุกที่นั่ง 10 กก. เมื่อเดือนกันยายน 2014" สิทธิประโยชน์เพิ่มน้ำหนักสัมภาระจากรอยัลออร์คิดพลัสสถานภาพในแต่ละระดับของบัตรสมาชิกรอยัลออร์คิดพลัส จะมีสิทธิประโยชน์ที่แตกต่างกันเมื่อเดินทางกับการบินไทย และสายการบินพันธมิตร สตาร์อัลไลแอนซ์ สำหรับสิทธิการเพิ่มพิกัดน้ำหนักกระเป๋ามีรายละเอียดดังนี้..
หมายเหตุ: สิทธิ์การเพิ่มพิกัดน้ำหนักสำหรับผู้ถือบัตรเงินอาจมีการยกเว้น กรณีในเส้นทางบินที่มีการพิจารณาน้ำหนักกระเป๋าเป็นจำนวนชิ้น และสิทธิประโยชน์นี้อาจไม่สามารถใช้ได้ในทุกเส้นทางบินของการบินไทย ส่วนผู้ถือบัตรทองและบัตรแพลทินัมจะได้รับสิทธิ์ในการเพิ่มกระเป๋า 1 ชิ้น ทดแทนการเพิ่มน้ำหนัก สัมภาระส่วนเกิน (Excess baggage)นอกเหนือไปจากขีดจำกัดของน้ำหนักสัมภาระที่ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย ตามข้อมูลข้างต้นแล้ว หากมีสัมภาระส่วนที่เกินมาจะต้องมีการถูกชั่ง และเก็บค่าบริการก่อนที่ผู้โดยสารจะขึ้นเครื่อง ตามเกณฑ์ที่กำหนดของสายการบิน ซึ่งขึ้นอยู่กับระยะทางของเที่ยวบินในแต่ละโซน เช่น จากประเทศไทย (โซน 1) ไปยัง ประเทศออสเตรเลีย SYD, BNE, MEL (โซน 4) คิดราคาที่กิโลกรัมละ 30 USD เป็นต้น พร้อมทั้งพิจารณาถึงประเภทของสัมภาระส่วนเกิน ว่าเข้าเงื่อนไขสัมภาระพิเศษ*หรือไม่ (รายละเอียด..) ดังนั้นควรหากไม่มั่นใจเรื่องน้ำหนักสัมภาระของท่านว่าจะเกินหรือไม่ ควรชั่งก่อนเดินทาง ซึ่งถ้าเกินกว่าขีดจำกัดที่กำหนด สามารถซื้อน้ำหนักกระเป๋าเพิ่มได้ (รายละเอียดท้ายบทความ) สัมภาระถือขึ้นเครื่อง (Carry-on Baggage)นอกจากสัมภาระที่ฝากใต้เครื่องโดยไม่เสียค่าใช้จ่ายแล้ว ผู้โดยสารของการบินไทยแต่ละท่าน ยังสามารถถือสัมภาระขึ้นเครื่องได้อีก 1 ชิ้น โดยมีข้อกำหนดดังนี้..
ขนาดดังกล่าวนี้วัดระยะรวมทั้งล้อ มือจับ และกระเป๋าด้านข้างแล้ว ทั้งนี้ผู้โดยสารจะต้องวางกระเป๋าสัมภาระดังกล่าวไว้บนตู้เก็บเหนือศีรษะ หรือ ใต้เบาะของตนเอง และผู้โดยสารยังสามารถนำสิ่งของต่อไปนี้ขึ้นเครื่องได้อีก โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ได้แก่..
โดยสัมภาระถือขึ้นเครื่องทั้งหมดนี้ ต้องปฎิบัติตามกฎข้อจำกัดปริมาณของเหลว เจล สเปรย์ ที่มีภาชนะความจุแต่ละชิ้นไม่เกิน 100 มิลลิลิตร (วัดจากภาชนะ ไม่คำนึงของเหลวที่อยู่ข้างใน) และรวมกันไม่เกิน 1 ลิตร (1,000 มิลลิลิตร) พร้อมทั้งบรรจุลงในถุงพลาสติกใสซึ่งเปิด-ปิดผนึกได้ มีข้อยกเว้นสำหรับ นม อาหารสำหรับเด็กทารก และยาที่มีเอกสารกำกับ *รายละเอียดเพิ่มเติมดูที่เว็บไซต์ของการบินไทย คำแนะนำจากผู้เขียนควรระมัดระวังเรื่องน้ำหนักสัมภาระเกิน แม้บางครั้งเจ้าหน้าที่อาจจะผ่อนผันให้บ้าง แต่ก็เป็นดุลยพินิจของทางเจ้าหน้าที่ โดยมีสิทธิที่จะเรียกเก็บค่าบริการเพิ่ม หรือ ปฏิเสธในการรับสัมภาระ อีกเรื่องคือ.. ถึงแม้ผู้โดยสารจะได้สิทธิน้ำหนักสัมภาระปริมาณมาก แต่น้ำหนักสูงสุดต่อกระเป๋า 1 ใบ ต้องไม่เกิน 32 กิโลกรัม ซึ่งเป็นข้อกำหนดสากลของสายการบินนานาชาติ อันเนื่องมาจากการปกป้องสวัสดิภาพของพนักงานที่ยกกระเป๋า หมายเหตุ: บทความนี้ให้ข้อมูลเจาะจงเฉพาะเที่ยวบินเดินทางระหว่างประเทศไทยและออสเตรเลีย(ซิดนีย์ เมลเบิร์น บริสเบน)เป็นหลัก หากท่านเดินทางไปยังประเทศอื่น หรือ ใช้สายการบินเดินทางมากกว่าหนึ่งสายการบิน ควรตรวจสอบข้อมูลจากทางการบินไทยอีกครั้ง และบทความนี้เป็นข้อมูล ณ วันที่ผู้เขียนได้ทำการค้นคว้าและเผยแพร่ อาจมีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลได้ในอนาคต ทั้งนี้ผู้อ่านควรหาข้อมูลเพิ่มเติมเพื่อประกอบการพิจารณาอีกครั้ง ,ขอบคุณครับ พิเศษ.. การบินไทยเปิดให้บริการซื้อนำหนักกระเป๋าเพิ่มเมื่อกลางปี 2014 ที่ผ่านมา ทางเว็บไซต์ของการบินไทยได้เปิดช่องทางใหม่สำหรับผู้ที่ต้องการซื้อนำหนักสัมภาระเพิ่ม โดยต้องซื้อล่วงหน้าอย่างน้อย 24 ชั่วโมงก่อนเดินทาง และสามารถซื้อสูงสุดได้ไม่เกิน 30 กิโลกรัมต่อ 1 ท่าน (รายละเอียด..) ข้อมูลอ้างอิงและรูปประกอบ: กระเป๋าโหลดใต้เครื่องได้กี่กิโล การบินไทย
กระเป๋าโหลดใต้ท้องเครื่องได้กี่ใบท่านสามารถซื้อโควต้ากระเป๋าสัมภาระใต้ท้องเครื่องได้สูงสุด 2 ใบ และแต่ละใบต้องมีน้ำหนักไม่เกิน 20 กก. หากท่านนำกระเป๋าสัมภาระมา 2 ใบ โดยแต่ละใบมีน้ำหนัก 10 กก. จะถือว่าท่านนำกระเป๋ามาโหลดสัมภาระใต้ท้องเครื่อง 2 ใบ
เพิ่มน้ำหนักกระเป๋าการบินไทย ยังไงการซื้อน้ำหนักสัมภาระเพิ่มเติมล่วงหน้าสามารถทำได้ 1 ครั้งเท่านั้น หากต้องการซื้อน้ำหนักสัมภาระเพิ่ม สามารถซื้อได้ผ่านทางเคาน์เตอร์เช็คอินที่สนามบิน ในราคาปกติ ผู้โดยสารจะได้รับเอกสารอิเล็กทรอนิกส์ ยืนยันการซื้อน้ำหนักสัมภาระเพิ่มเติม (Electronic Miscellaneous Document (EMD)) หลังจากที่ได้ชำระเงินเรียบร้อยแล้ว
โหลดกระเป๋าขึ้นเครื่องได้กี่โล– Economy Class น้ำหนักไม่เกิน 20 กก.ต่อ ผู้ใหญ่,เด็ก 1 คน / ไม่เกิน 10 กก.ต่อ เด็กเล็ก 1 คน – Business Class น้ำหนักไม่เกิน 30 กก.ต่อ ผู้ใหญ่,เด็ก 1 คน / ไม่เกิน 10 กก.ต่อ เด็กเล็ก 1 คน ข้อมูลเพิ่มเติม : www.bangkokair.com/tha/pages/view/baggage.
|