เฉลย ประวัติศาสตร์ ม.5 หน่วยที่ 1

ประวัติศาสตร์ ม.5 from ครูต๋อง ฉึก ฉึก

รายวชิ าพ้นื ฐาน

กลุ่มสาระการเรียนรู้ สงั คมศึกษา ศาสนา และวฒั นธรรม

ประวตั ิศาสตร์สากล ม.5

หน่วยการเรียนรู้ท่ี 1

เวลาและการแบ่งยุคสมยั ทางประวตั ศิ าสตร์สากล

เวลาและการแบ่งยุคสมยั ทางประวตั ศิ าสตร์สากล

• ความสาคญั ของเวลาและยคุ สมยั ทางประวตั ิศาสตร์
• การนบั และการเทียบศกั ราชในประวตั ิศาสตร์สากล
• การแบ่งยคุ สมยั ทางประวตั ิศาสตร์ตะวนั ตก
• การแบ่งยคุ สมยั ทางประวตั ิศาสตร์ตะวนั ออก
• ตวั อยา่ งเวลาและยคุ สมยั ที่ปรากฏในหลกั ฐานทางประวตั ิศาสตร์สากล

ความสาคญั ของเวลาและยุคสมยั

• ทาใหเ้ กิดความสะดวกในการศึกษาคน้ ควา้ เก่ียวกบั อดีต
• ทาให้เกิดความเข้าใจเหตุการณ์ทางประวัติศาสตร์

ตรงกนั
• ทาใหเ้ ห็นถึงลกั ษณะสาคญั ของเวลาแต่ละช่วง

การนับและการเทียบศักราชของโลกตะวนั ตก

ศกั ราชสากลท่ีนิยมใชก้ นั แพร่หลายที่สุด คือ คริสต์ศักราช
• คริสตศ์ กั ราชท่ี 1 เร่ิมนบั ในปี ท่ีพระเยซูถือกาเนิด
• ปี ก่อนพระเยซูถือกาเนิด เรียกวา่ Before Christ ยอ่ B.C.
• ผเู้ ร่ิมวธิ ีการนบั ค.ศ. คนแรก คือ ไดโอนิซิอุส เอซิกอุ ุส
• ผเู้ ร่ิมนบั เวลาก่อนปี ถือกาเนิดของพระเยซู คือ บีด
• การใชค้ ริสตศ์ กั ราชไดร้ ับความนิยมในช่วงการ
ขยายอานาจของลทั ธิจกั รวรรดินิยมในปลาย
คริสตศ์ ตวรรษท่ี 19 เป็นตน้ มา

การนับและการเทยี บศักราชของโลกตะวนั ออก

การนับศักราชแบบจนี

• จีนมีระบบปฏิทินยอ้ นหลงั เกือบ 4,000 ปี มาแลว้
เป็นระบบจนั ทรคติ หรือยดึ พระจนั ทร์เป็นหลกั

• การนบั ช่วงสมยั ของจีนยดึ ตามปี ท่ี
ครองราชสมบตั ิของจกั รพรรดิ
ปัจจุบนั การนบั ช่วงเวลาดงั กล่าว
จีนเลิกใชแ้ ลว้ แต่ญี่ป่ ุนยงั ใชอ้ ยู่

ภาพวาดชาวจนี โบราณอาศัยความรู้ทางดาราศาสตร์เข้า
มาช่วยในการคานวณวนั เวลาในรอบปี

การนับศักราชแบบอนิ เดยี พระเจา้ กนิษกะ

• เป็นการนบั โดยอาศยั การข้ึนครองราชสมบตั ิเป็น
สาคญั

• ในสมยั พระเจา้ กนิษกะ ถือเป็นการเริ่มตน้ ศกั ราช
กนิษกะ หรือศก ต่อมาเรียกวา่ มหาศกั ราช ซ่ึงเป็น
ที่ยอมรับและใชก้ นั อยา่ งแพร่หลาย

• ปัจจุบนั อินเดียใชค้ ริสตศ์ กั ราชตามแบบสากล

การนับศักราชแบบศาสนาอสิ ลาม

• เรียกวา่ ฮิจเราะห์ศกั ราช
• เร่ิมนบั เมื่อท่านนบีมุฮมั หมดั กระทาฮิจเราะห์จากเมืองเมกกะไปเมืองเมดินะ
• ใชร้ ะบบจนั ทรคติเป็นเกณฑ์

ภาพเมืองเมกกะ ประเทศซาอดุ อิ าระเบีย

สมยั ก่อนประวตั ศิ าสตร์

ยุคหินเก่า

• ชื่อยุคมาจากการค้นพบเคร่ื องมือที่
มนุษยย์ คุ น้นั ใช้

• มนุษยย์ คุ หินเก่าเป็นพวกเร่ร่อน ล่าสัตว์
อาศัยอยู่ตามเพิงผา มีผู้นาชนเผ่า อยู่
รวมกนั เป็นกลุ่ม

• มนุษยย์ คุ หินเก่ามีพฒั นาการดา้ นการใช้
สติปัญญา มีภาษาพดู มีพธิ ีการฝังศพ

• มีการสร้างสรรคง์ านศิลปะ โดยการวาด

ภาพบนฝาผนงั และรู้จกั ใชไ้ ฟ

จติ รกรรมฝาผนังที่ถา้ ลาโกซ์ ประเทศฝรั่งเศส
เป็ นหลกั ฐานทแ่ี สดงให้เห็นถงึ พฒั นาการของมนุษย์
ยคุ หินเก่าทีร่ ู้จกั สร้างสรรค์ผลงานศิลปะทส่ี วยงาม

ยคุ หินใหม่

• ช่ือของยคุ ไดม้ าจากการคน้ พบเคร่ืองมือที่มีการทาใหม้ ีความเหมาะสม
ในการดารงชีวติ มากข้ึน

• มนุษยเ์ ขา้ สู่สงั คมเกษตรกรรม รู้จกั เพาะปลูก และการเล้ียงสตั ว์
• มีการต้งั ถ่ินฐานเป็นชุมชน และมีการจดั ระเบียบการปกครอง

เมืองชาทัลฮูยุค ในประเทศตรุ กี แหล่งชุมชนยุค ภาพวาดจนิ ตนาการ การดารงชีวติ ของ
หินใหม่ขนาดใหญ่ มนุษย์ยคุ หินใหม่

ยคุ โลหะ

• มนุษยร์ ู้จกั นาโลหะมาทาเคร่ืองมือเคร่ืองใช้ โลหะชนิด
แรกๆ คือ ทองแดง ตะกว่ั ต่อมารู้จกั ใชส้ าริด และเหลก็

• มีชุมชนใหญ่ระดบั เมือง มีการจดั ระเบียบการปกครอง
• แหล่งอารยธรรมเริ่มแรกอยทู่ ่ีลุ่มแม่น้าไนล์ ลุ่มแม่น้า

ไทกริส-ยเู ฟรทีส ลุ่มแม่น้าสินธุ และล่มุ แม่น้าหวงเหอ

ภาพวาดมนุษย์ในยุคโลหะ ท่รี ู้จกั นาสาริดมาหลอมใช้ทาเคร่ืองมือ

สมยั ประวตั ศิ าสตร์

สมยั โบราณ

• เริ่มจากการประดิษฐต์ วั อกั ษร
ของชาวซูเมเรีย ถึงการล่มสลาย
ของจกั รวรรดิโรมนั ตะวนั ตก

• เป็นช่วงเวลาของการสร้างสม
อารยธรรมท่ียง่ิ ใหญ่ของโลก
ตะวนั ตก ไดแ้ ก่ อารยธรรมเมโสโป
เตเมีย อารยธรรมอียปิ ต์ อารยธรรม
กรีก และอารยธรรมโรมนั

จักรพรรดโิ รมูลสั ออกสั ตลุ สั ออกจากบลั ลงั ก์

สมัยกลาง
• นบั จากการสิ้นสุดของจกั รวรรดิโรมนั ตะวนั ตก ถึงการคน้ พบทวปี อเมริกา

ของคริสโตเฟอร์ โคลมั บสั
• สมยั กลางตอนตน้ มีช่ือเรียกอีกอยา่ งหน่ึงวา่ ยุคมืด

สภาพเมืองและการค้าในสมยั กลาง

สมัยกลาง
• การปกครองในระบอบฟิ วดลั รุ่งเรือง
• ในช่วงคริสตศ์ ตวรรษท่ี 11-13 เมืองและการคา้ ฟ้ื นตวั ประชากรเพ่ิมข้ึนอยา่ ง

รวดเร็ว มีการจดั ต้งั มหาวิทยาลยั ต่างๆ ปลายสมยั กลางเริ่มมีการฟ้ื นฟูศิลปวิทยาการ
นาไปสู่การปฏิรูปศาสนา

สภาพเมืองและการค้าในสมยั กลาง

มหาวหิ ารชาตร์ ในฝรั่งเศส ศิลปะกอทกิ เป็ นมหาวหิ ารท่มี ชี ื่อเสียงและสวยงามมากแห่งหน่ึงในสมัยกลาง

สมยั ใหม่

1. สมยั การสารวจทางทะเล
เกิดก่อนโคลมั บัสคน้ พบทวีปอเมริกา นัก
เดินเรือของสเปนและโปรตุเกส ออกสารวจ
เส้นทางไปหมู่เกาะอินเดียตะวนั ออก และ
กลายเป็นประเทศท่ีมง่ั คง่ั ทาใหห้ ลายชาติต้งั
บริษทั เดินเรือเพื่อทาการคา้ เรียกว่า บริษทั
อินเดียตะวนั ออก ทาใหเ้ กิดการปฏิวตั ิการคา้
ตามมา

อู่ต่อเรือของบริษัทดชั ต์อนิ เดยี ตะวนั ออก ในกรุงอมั สเตอร์ดมั

2. สมยั การปฏิวตั ทิ างวทิ ยาศาสตร์ เกิดการ
แสวงหาความรู้ใหม่โดยการทดลอง การสงั เกต การใช้
เหตุผล ทาใหเ้ กิดสมยั แห่งการใชเ้ หตุผล หรือยคุ แห่งการ
รู้แจง้ นกั ปรัชญาคนสาคญั เช่น วอลแตร์ มงเตสกีเยอ

และชอง ชาก รูโซ

เซอร์ไอแซค นิวตนั
ผู้ค้นพบกฎความถ่วง

3. สมัยการปฏวิ ตั ิอตุ สาหกรรม เป็นการนาเคร่ืองจกั รมาใชแ้ ทน
แรงงานมนุษย์ ทาใหผ้ ลิตไดเ้ ป็นจานวนมาก และเป็นมาตรฐานเดียวกนั
ทาใหโ้ ลกตะวนั ตกมีความมงั่ คง่ั มีอานาจ
นาไปสู่การเกิดสมยั จกั รวรรดินิยม

เคร่ืองจักรท่ปี ระดษิ ฐ์ขึน้ ในสมยั การปฏิวัติ
อตุ สาหกรรม นาไปใช้ในโรงงานทอผ้าในยุโรป

4. สมัยเสรีนิยม ชาตินิยม และประชาธิปไตย เป็นยคุ ของการใชเ้ หตุผล ทา
ใหเ้ กิดความคิดทางการเมืองใหม่ๆ จนนาไปสู่การปฏิวตั ิฝรั่งเศส เกิดการปกครองแบบ
ประชาธิปไตย ความคิดเร่ืองชาตินิยมนาไปสู่การรวมประเทศ เช่น เยอรมนี และอิตาลี

การทลายคุกบาสตีย์ เป็ นเหตุการณ์สาคญั ท่สี ุดในการ
ปฏวิ ตั ฝิ รั่งเศส ค.ศ. 1789

5. สมัยจกั รวรรดนิ ิยมใหม่ เป็นผลสืบเนื่องจากการปฏิวตั ิอตุ สาหกรรม ยโุ รป
และอเมริกาต่างแสวงหาอาณานิคม โดยแข่งขนั กนั เพื่อความยง่ิ ใหญข่ องชาติ

6. สมัยสงครามโลก เป็ นช่วงเวลาที่โลกอยู่ในภาวะสงครามคร้ังใหญ่
รุนแรง และนองเลือดที่สุด การสิ้นสุดสงครามโลกคร้ังที่ 2 ถือเป็ นการสิ้นสุด
ประวตั ิศาสตร์ตะวนั ตกสมยั ใหม่

สมยั ปัจจุบนั

1. สมยั สงครามเยน็ เป็นการแขง่ ขนั ทางการเมืองของคา่ ยประชาธิปไตยท่ี
มีสหรัฐอเมริกาเป็นผนู้ า กบั ค่ายคอมมิวนิสตท์ ี่มีสหภาพโซเวยี ตเป็นผนู้ า ในขณะที่
องคก์ ารสหประชาชาติไดพ้ ยายามไกลเ่ กลี่ยใหเ้ กิดสนั ติภาพ

2. สมัยโลกาภิวัตน์ ความเจริญทางดา้ นการส่ือสารคมนาคมทาให้โลก
แคบลง เหตุการณ์ที่เกิดข้ึนในทุกส่วนของโลกสามารถรับรู้กนั ไดอ้ ยา่ งรวดเร็ว

การแบ่งยุคสมยั จีนตามแบบสากล

สมยั ก่อนประวตั ศิ าสตร์ จีน

ยคุ หินเก่า มนุษยใ์ ชช้ ีวติ แบบเร่ร่อน เกบ็ ของป่ า ล่าสตั ว์
ยุคหินกลาง ใชช้ ีวติ ก่ึงเร่ร่อนก่ึงต้งั หลกั แหล่งถาวร
ยุคหินใหม่ ต้งั ชุมชน รู้จกั เพาะปลูก เล้ียงสตั ว์
ยคุ โลหะ รู้จกั การใชท้ องแดง เหลก็ และสาริด

ชิ้นส่ วนโครงกระดูกมนุษย์
หยวนโหม่ว

สมยั ประวตั ิศาสตร์จนี

สมยั โบราณหรือสมยั คลาสสิก เป็นช่วงของการสร้างอารยธรรม
สมยั จักรวรรดิ เร่ิมต้งั แต่สมยั ราชวงศฉ์ ิน เป็นช่วงที่จีนรวมกนั เป็นจกั รวรรดิ
ถึงสิ้นสุดสมยั ราชวงศช์ ิง
สมัยใหม่ เริ่มในสมยั ราชวงศช์ ิง
จนถึงสิ้นสุดการปกครองระบอบสาธารณรัฐ
จีนแพใ้ นสงครามฝ่ิน
ประวตั ศิ าสตร์ร่วมสมัย เริ่มต้งั แต่
จีนเปล่ียนแปลงการปกครองเป็ น
ระบอบคอมมิวนิสต-์ ปัจจุบนั

ภาชนะสาริด 4 ขา สมัยราชวงศ์ชาง

การแบ่งยุคสมยั จีนตามแบบลทั ธิมากซ์

สมัยโบราณ มนุษยด์ ารงชีวติ ตามธรรมชาติ เป็นสงั คมยคุ เริ่มแรก
สังคมทาส ต้งั แต่ราชวงศช์ างถึงราชวงศโ์ จว เป็นสมยั ที่มีทาสในสังคมจีน
สังคมศักดนิ า ต้งั แต่ราชวงศฉ์ ินถึงปลายราชวงศช์ ิง จีนมีการปกครอง
ระบอบจกั รพรรดิ มีชนช้นั ในสงั คมแบบศกั ดินา

หลงั จากน้นั เป็นสมยั การปฏิวตั ิ
ของชนช้นั กลาง นาโดย ดร.ซุน ยตั เซ็น
ภายหลงั เปลี่ยนแปลงเป็น
ระบอบคอมมิวนิสตถ์ ึงปัจจุบนั

คาร์ล มากซ์ ดร.ซุน ยตั เซ็น

การแบ่งยุคสมยั ของอนิ เดีย

สมยั ก่อนประวตั ิศาสตร์อนิ เดยี ประตมิ ากรรมชายมเี ครา สันนิษฐานว่าเป็ น
ชาวเมืองอารยธรรมลุ่มแม่นา้ สินธุ
ยคุ หินเก่า พบเครื่องมือหิน ผคู้ นดารงชีพดว้ ย
การเกบ็ ของป่ า ล่าสตั ว์

ยุคหินกลาง ใชเ้ ครื่องมือหินท่ีเลก็ ลง รู้จกั
เขียนภาพบนผนงั ถ้า

ยคุ หินใหม่ เคร่ืองมือหินถูกขดั จนเป็นใบมีด
ขนาดเลก็ รู้จกั ทาเครื่องป้ันดินเผาและเพาะปลูก

ยคุ โลหะ รู้จกั ใชท้ องแดงและสาริด เป็ นยคุ
แห่งความรุ่งเรืองของอินเดียโบราณ

สมยั ประวตั ิศาสตร์อนิ เดยี

สมัยโบราณ เริ่มเมื่อมีการประดิษฐต์ วั อกั ษร ศาสนาพราหมณ์-ฮินดู และ
พระพทุ ธศาสนาถือกาเนิดข้ึน

สมยั กลาง อินเดียเกิดความแตกแยกภายใน
ถูกมุสลิมรุกราน

สมยั ใหม่ เร่ิมเมื่อราชวงศโ์ มกลุ ข้ึนมามีอานาจ
ถึงการไดร้ ับเอกราชจากองั กฤษ

ประวตั ศิ าสตร์ร่วมสมยั เม่ืออินเดีย
ไดร้ ับเอกราชถึงปัจจุบนั

อกั บาร์มหาราช จกั รพรรดทิ ่ยี งิ่ ใหญ่แห่ง
ราชวงศ์โมกลุ

สถูปสาญจี สร้างขนึ้ ในสมัยพระเจ้าอโศกมหาราช แห่งราชวงศ์เมารยะ

ทชั มาฮัล สถาปัตยกรรมที่พระเจ้าชาห์ เจฮัน โปรดให้สร้างขนึ้ เพ่ือระลกึ ถึงพระนางมุมตชั พระมเหสี

ตวั อย่างเวลาและยุคสมยั

ตัวอย่างเวลาและยุคสมัยของโลกตะวนั ตก

“...หากชายใดสมรสกบั นางผเู้ ป็นภรรยา และเขาหนั ไปมีนางบาเรอ
ชายผนู้ ้นั สามารถนานางบาเรอมาเล้ียงดูที่บา้ น แต่หา้ มมีศกั ด์ิเสมอภรรยา

หากภรรยาของชายใดใหห้ ญิงรับใชข้ องตนแก่สามี และต่อมานาง
ผนู้ ้นั ใหก้ าเนิดบุตร และอา้ งสิทธิเสมอกบั ภรรยาท่ีเป็นนายหญิง นายหญิง
สามารถลดฐานะของเธอใหเ้ ป็นทาสีได.้ ..”

ประมวลกฎหมายพระเจา้ ฮมั มูราบี

อธิบายเพม่ิ เติม ประมวลกฎหมายน้ีจดั ทาข้ึนในสมยั โบราณ ทาใหท้ ราบวา่ ในอดีตท่ีห่างไกลน้นั
ไดม้ ีความพยายามท่ีจะจดั ระเบียบสงั คมท่ีแบ่งเป็นชนช้นั และมีการคานึงถึงสิทธิสตรีและบุตรดว้ ย

ตวั อย่างเวลาและยุคสมยั ของจนี

“วนั ซินโฉ่ว เดือนเกา้ ปี ท่ีส่ีสิบหา้ รัชศกเฉียนหลง
มีพระราชโองการ...ความวา่ ...เน่ืองดว้ ยเจิ้งเจา เจา้ เมืองเซียนหลวั
ไดเ้ ตรียมเคร่ืองราชบรรณาการเอกจานวนหน่ึงพร้อมหนงั สือแจง้

โดยขอใหช้ ่วยกราบบงั คมทูลใหท้ รงทราบ...”

ประชุมพระราชพงศาวดารฉบบั กาญจนาภิเษก เล่ม 13

อธิบายเพมิ่ เติม วนั ซินโฉ่วตรงกบั วนั ท่ี 18 เดือนเกา้ ตรงกบั เดือนตุลาคม ปี ท่ีส่ีสิบหา้
รัชศกเฉียนหลง คือปี จกั รพรรดิเฉียนหลงครองราชยป์ ี ที่ 45 เจิ้งเจา คือ พระบาทสมเด็จ
พระเจา้ ตากสินมหาราช เซียนหลวั คือ สยาม ตามที่จีนเรียก

ตัวอย่างเวลาและยุคสมัยของอนิ เดยี

“ขา้ ฯ ไดเ้ กิดมีความคิดข้ึนวา่ ขา้ ฯ จกั จดั ใหม้ ีการ
ประกาศธรรมสั่งสอนประชาชนท้งั หลาย คร้ันไดส้ ดบั ธรรมน้ี
แลว้ กจ็ กั พากนั ประพฤติปฏิบตั ิตาม จกั ยกระดบั ตนเองสูงข้ึน
และจกั มีความเจริญกา้ วหนา้ มากข้ึน ดว้ ยความเจริญทางธรรม
อยา่ งมน่ั คง...”

จารึกอโศก พระธรรมปิ ฎก (ป.อ. ปยตุ ฺโต แปล)

อธิบายเพม่ิ เติม พระเจา้ อโศกมหาราชโปรดใหจ้ ารึกการเผยแผพ่ ระธรรมในพระพทุ ธศาสนา