Call Number : 323.44 ป6ท 2561 Author : ปิยะบุตร บุญอร่ามเรือง Detail
Referปิยะบุตร บุญอร่ามเรือง. (2561). Thailand data protection guidelines 1.0 : แนวปฏิบัติเกี่ยวกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล. กรุงเทพฯ: จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย. ปิยะบุตร บุญอร่ามเรือง . 2561. "Thailand data protection guidelines 1.0 : แนวปฏิบัติเกี่ยวกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล". กรุงเทพฯ: จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย. ปิยะบุตร บุญอร่ามเรือง " Thailand data protection guidelines 1.0 : แนวปฏิบัติเกี่ยวกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล". กรุงเทพฯ: จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, 2561. Print. Attachment- Document not found - Scan For Read This Page
Full items Result {{ total }} List
Related ItemsScan here for visit website© 2020 Court of Justice All Rights Reserved สภากาชาดไทย เป็นองค์กรสาธารณะกุศลระดับชาติมีการ ดำเนินการเพื่อมนุษยธรรม ตามหลักการกาชาดสากล เป็นองค์กรที่มีลักษณะเป็นพลวัต และนวัตกรรม โดยมีวิสัยทัศน์ที่จะก้าวไปข้างหน้าสู่ความเป็นเลิศ เป็นไปตามคติทัศน์ ซึ่งสภากาชาดไทยมีพันธกิจหลักอยู่ 4 กลุ่ม ดังนี้
เนื่องจากสภากาชาดไทยมีกิจกรรมและให้บริการต่าง ๆ อาทิ การรับบริจาค การช่วยเหลือผู้ประสบภัย การส่งเสริมคุณภาพชีวิตผู้สูงอายุ เด็กและเยาวชน การให้บริการทางการแพทย์ การรับสมัครอาสาสมัคร เป็นต้น ซึ่งกิจกรรมและการให้บริการในสังกัดสภากาชาดไทย จะจัดให้มีการดำเนินการต่างๆ เพื่อคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลบนหลักการที่กำหนดไว้ตามนโยบายฯฉบับนี้ เว้นแต่บางกิจกรรมและการบริการอื่นใด ที่มีการกำหนดและประกาศนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลไว้เป็นการเฉพาะ ซึ่งท่านสามารถอ่านและทำความเข้าใจได้ตามประกาศที่เว็บไซต์ หรือในเอกสารแยกตามประเภทกิจกรรมหรือบริการของสภากาชาดไทย 1.ขอบเขตและการบังคับใช้ นโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้ ใช้บังคับกับสภากาชาดไทย บุคลากรของสภากาชาดไทย และบุคคลที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินการใด ๆ เช่น การเก็บรวมรวบ บันทึก จัดระบบ ทำโครงสร้าง เก็บรักษา ปรับปรุง เปลี่ยนแปลง กู้คืน ใช้ เปิดเผย ส่งต่อ เผยแพร่ โอน ผสมเข้าด้วยกัน ลบ ทำลาย กับข้อมูลส่วนบุคคลตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่บังคับใช้ในปัจจุบัน หรือที่จะมีการแก้ไขเป็นครั้งคราว สภากาชาดไทยมีความมุ่งมั่นเสมอมาในการให้ความสำคัญกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล การล่วงละเมิดสิทธิในข้อมูลส่วนบุคคล การควบคุมการใช้ข้อมูล และการป้องกันการรั่วไหลของข้อมูลส่วนบุคคล ด้วยความรับผิดชอบต่อสังคม นโยบายฉบับนี้ได้จัดทำขึ้น เพื่อให้เกิดความเชื่อมั่นและได้รับความไว้วางใจจากท่านในการดำเนินการจัดการข้อมูลส่วนบุคคลของท่านอย่างเหมาะสม และมีมาตรการรักษาความปลอดภัยข้อมูลส่วนบุคคลตามที่กฎหมายกำหนด เพื่อให้เป็นไปตามมาตรฐานที่ใช้กันทั้งในและต่างประเทศ 2. การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล 2.1 สภากาชาดไทยจะเก็บรวบรวมข้อมูล ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตามที่กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลอนุญาตให้ทำได้ โดยท่านสามารถตรวจสอบวัตถุประสงค์ของการใช้ การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล และประเภทข้อมูลที่สภากาชาดไทยเก็บรวบรวมจากหนังสือแจ้งการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของแต่ละกิจกรรมของสภากาชาดไทย ซึ่งท่านได้เข้าทำธุรกรรมใด ๆ กับสภากาชาดไทย ตามช่องทางกิจกรรมดังนี้ 2.1.1 งานบริการทางการแพทย์และโรงพยาบาล รายละเอียดหนังสือแจ้งการประมวลผลข้อมูลสำหรับกิจกรรมนี้ (คลิกเพื่ออ่าน) 2.1.2 งานบรรเทาทุกข์ อาสาสมัคร และการจัดอบรม รายละเอียดหนังสือแจ้งการประมวลผลข้อมูลสำหรับกิจกรรมนี้ (คลิกเพื่ออ่าน) 2.1.3 ศูนย์รับบริจาค และให้การสนับสนุนทางวิทยาศาสตร์และการแพทย์ รายละเอียดหนังสือแจ้งการประมวลผลข้อมูลสำหรับกิจกรรมนี้ (คลิกเพื่ออ่าน) 2.2 ในกรณีที่สภากาชาดไทยจะใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน เพื่อวัตถุประสงค์อื่นใดเป็นการเฉพาะนอกเหนือจากที่กล่าวมา สภากาชาดไทยจะดำเนินการแจ้งให้ท่านทราบเป็นครั้งคราว และอาจขอความยินยอมจากท่านเป็นกรณี ๆ ไป โดยพิจารณาจากประเภทของข้อมูล ข้อมูลอ่อนไหว (Sensitive Data) กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลได้มีการกำหนดข้อมูลบางประเภทให้เป็นข้อมูลที่มีความอ่อนไหว เช่น เชื้อชาติ ศาสนา พฤติกรรมทางเพศ ความคิดเห็นทางการเมือง ความพิการ ข้อมูลพันธุกรรม ข้อมูลชีวภาพ ข้อมูลสุขภาพ เป็นต้น และการเก็บรวบรวมจะทำได้ต้องเป็นไปตามที่กฎหมายกำหนด ซึ่งรวมถึงอาจต้องได้รับความยินยอมจากเจ้าของข้อมูล ดังนั้น สภากาชาดไทยจะดำเนินการเก็บข้อมูลอ่อนไหวเฉพาะในกรณีที่จำเป็นเท่านั้น และสภากาชาดไทยจะแจ้งให้ท่านทราบอย่างชัดแจ้งถึงเหตุผลความจำเป็น รวมถึงอาจขอความยินยอมจากท่านเพื่อเก็บรวบรวมข้อมูลอ่อนไหวดังกล่าว ข้อมูลส่วนบุคคลของผู้เยาว์ บุคคลเสมือนไร้ความสามารถ และบุคคลไร้ความสามารถ (“บุคคลที่ถูกจำกัดความสามารถทางกฎหมายในการทำธุรกรรม”) สภากาชาดไทยจะทำการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลที่ถูกจำกัดความสามารถทางกฎหมายในการทำธุรกรรมเฉพาะกรณีและตามแนวทางที่กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด โดยในกรณีที่สภากาชาดไทยมีความจำเป็นจะต้องขอความยินยอมในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลที่ถูกจำกัดความสามารถทางกฎหมายในการทำธุรกรรมสำหรับกิจกรรมใด สภากาชาดไทยจะดำเนินการขอความยินยอมจากผู้ปกครองหรือผู้ใช้อำนาจปกครอง ผู้พิทักษ์ หรือผู้อนุบาล ที่มีอำนาจกระทำการแทนบุคคลดังกล่าว เว้นแต่เป็นกรณีขอความยินยอมในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของผู้เยาว์ที่มีอายุมากกว่า 10 ปี ซึ่งเป็นการเฉพาะตัวหรือ เป็นการสมแก่ฐานานุรูปแห่งตนและเป็นการอันจำเป็นในการดำรงชีพอันสมควร ซึ่งผู้เยาว์ดังกล่าวสามารถให้ความยินยอมโดยลำพังได้ 2.3 สภากาชาดไทยอาจมีการเก็บรวบรวมข้อมูลของท่าน เมื่อท่านได้มีปฏิสัมพันธ์หรือเข้าร่วมกิจกรรมต่าง ๆ ของสภากาชาดไทย อาทิ สมัครเป็นอาสาสมัคร ลงทะเบียนเพื่อร่วมกิจกรรมกับสภากาชาดไทย สนับสนุนการดำเนินงานของสภากาชาดไทยผ่านการบริจาค การซื้อสินค้าหรือผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ
ในงานที่สภากาชาดไทยเป็นผู้จัดขึ้น การระดมเงินเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยในนามของสภากาชาดไทย การบอกเล่าเรื่องราวของท่านหรือให้คำแนะนำติชมของท่าน เข้าเป็นคู่สัญญากับสภากาชาดไทย ยื่นเอกสารคำร้อง คำขอ ประเภทต่างๆ เข้าใช้บริการต่างๆ ของสภากาชาดไทย เยี่ยมชมเพื่อทำความรู้จักสภากาชาดไทย หรือการบันทึกภาพจากกล้อง CCTV กล้องวีดีโอ กล้องถ่ายภาพนิ่งของสภากาชาดไทยเมื่อท่านเข้ามาในสถานที่ของสภากาชาดไทย หรือในสถานที่ร่วมกิจกรรมของสภากาชาดไทย เป็นต้น การใช้คุกกี้ คุกกี้ (Cookie) คือ ข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ขนาดเล็ก จัดเก็บในลักษณะของไฟล์ข้อความ (Text file) ที่จะถูกส่งไปยังเบราว์เซอร์ของเจ้าของข้อมูล เพื่อส่งข้อมูลกลับมายังเซิร์ฟเวอร์ทุกครั้งที่เจ้าของข้อมูลได้มีการเยี่ยมชมหน้าเว็บไซต์ โดยเว็บไซต์ของสภากาชาดไทยจะส่งคุกกี้ไปยังเบราว์เซอร์ของท่าน และอาจมีการบันทึกลงในเครื่องคอมพิวเตอร์หรืออุปกรณ์ที่ท่านใช้เข้าเว็บไซต์ ซึ่งคุกกี้มีประโยชน์สำคัญในการทำให้เว็บไซต์สามารถจดจำการตั้งค่าต่าง ๆ บนอุปกรณ์ของท่านได้ ทั้งนี้ เมื่อท่านเลือกการบริการใด ๆ ของสภากาชาดไทย ลงทะเบียนรับข่าวสารหรือการแจ้งทางอีเมล กรอกข้อมูลแบบฟอร์มออนไลน์ หรือกรอกแบบสอบถาม สภากาชาดไทยอาจระบุเบราว์เซอร์ของท่าน และนำข้อมูลจากคุกกี้ และข้อมูลอื่นที่เก็บรวบรวมออนไลน์ไปใช้ร่วมกับข้อมูลอื่นที่อยู่ในความครอบครองของสภากาชาดไทย ทั้งนี้ ท่านอาจลบการตั้งค่าเบราว์เซอร์เพื่อยกเลิกการใช้คุกกี้ และยังคงใช้งานเว็บไซต์ของสภากาชาดไทยต่อไปได้ รายละเอียดเพิ่มเติมเป็นไปตามนโยบายคุกกี้ (Cookie Policy) (คลิกเพื่ออ่าน) 2.6
สภากาชาดไทยจะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้เป็นระยะเวลาตราบเท่าที่วัตถุประสงค์ของการนำข้อมูลดังกล่าวไปใช้ยังคงมีอยู่ หลังจากนั้นสภากาชาดไทยจะลบและทำลายข้อมูลดังกล่าว เว้นแต่กรณีจำเป็นต้องเก็บรักษาข้อมูลต่อไปตามที่กฎหมายที่เกี่ยวข้องกำหนด หรือเพื่อเป็นการคุ้มครองสิทธิประโยชน์ของสภากาชาดไทย โดยปกติระยะเวลาการเก็บข้อมูลสูงสุดจะไม่เกินกำหนดระยะเวลา 10 (สิบ) ปี เว้นแต่จะมีกฎหมายกำหนดให้เก็บรักษาข้อมูลไว้เป็นระยะเวลานานกว่าที่กำหนดไว้ดังกล่าวข้างต้น หรือหากมีความจำเป็นเพื่อวัตถุประสงค์อื่น ๆ เช่น
เพื่อความปลอดภัย เพื่อการป้องกันการละเมิดหรือการประพฤติมิชอบ หรือเพื่อการเก็บบันทึกทางการเงิน เป็นต้น 3.การรักษาความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคล 3.1 สภากาชาดไทยจะใช้มาตรการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคล ซึ่งครอบคลุมถึงมาตรการป้องกันด้านการบริหารจัดการ (Administrative Safeguard) มาตรการป้องกันด้านเทคนิค (Technical Safeguard) และมาตรการป้องกันทางกายภาพ (Physical Safeguard) ในเรื่องการเข้าถึงหรือควบคุมการใช้งานข้อมูลส่วนบุคคล (Access Control) เพื่อป้องกันการเข้าถึงและเปิดเผยข้อมูลโดยไม่ได้รับอนุญาต
และสอดคล้องกับการดำเนินงานของสภากาชาดไทย และมาตรฐานที่รับรองโดยทั่วไป อย่างไรก็ดีแม้ว่าสภากาชาดไทย จะทุ่มเท และใช้ความพยายามในการดูแลข้อมูลให้มีความปลอดภัย ด้วยการใช้เครื่องมือทางเทคนิคร่วมกับการบริหารจัดการโดยบุคคล เพื่อควบคุมและรักษาความปลอดภัยข้อมูล มิให้มีการเข้าถึงข้อมูลส่วนตัวหรือข้อมูลที่เป็นความลับของเจ้าของข้อมูลโดยไม่ได้รับอนุญาต แต่อาจไม่สามารถป้องกันความผิดพลาดได้ทุกประการ เช่น การปกป้องข้อมูลของเจ้าของข้อมูลจากการถูกจู่โจมโดยไวรัสคอมพิวเตอร์ หรือถูกเข้าถึงโดยบุคคลที่ไม่มีอำนาจได้ เจ้าของข้อมูลจึงควรติดตามข่าวสารเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ให้ทันสมัยอยู่เสมอ ติดตั้งซอฟต์แวร์ประเภท personal firewall เพื่อป้องกันคอมพิวเตอร์จากการจู่โจม หรือโจรกรรมข้อมูล 4.การรองรับการใช้สิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล 4.1 สิทธิในการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคล ในกรณีที่เจ้าของข้อมูลเคยให้ความยินยอมใด ๆ ไว้ให้แก่สภากาชาดไทย (ที่ไม่ใช่ความยินยอมตามที่กฎหมายอื่นกำหนด) เจ้าของข้อมูลสามารถเพิกถอนความยินยอมดังกล่าวเมื่อใดก็ได้ แต่อาจกระทบต่อการให้บริการบางประการซึ่งจะได้แจ้งให้เจ้าของข้อมูลทราบในเวลาที่เจ้าของข้อมูลขอถอนความยินยอม 5. การติดต่อกับสภากาชาดไทย หากท่านเห็นว่า การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไม่เป็นไปตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ.2562 ท่านมีสิทธิที่จะร้องเรียนเป็นลายลักษณ์อักษรไปที่เจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของสภากาชาดไทยผ่านช่องทางที่ระบุไว้ด้านล่าง ทั้งนี้ สภากาชาดไทยจะตอบกลับมายังท่านภายในระยะเวลาที่สมเหตุสมผล และไม่เกินระยะเวลาที่กฎหมายกำหนด ทั้งนี้ สภากาชาดไทยจะใช้ความพยายามทุกวิถีทาง เพื่อแก้ไขข้อร้องเรียนหรือปัญหาต่าง ๆ โดยเร็วที่สุดเท่าที่ทำได้ อย่างไรก็ตาม สภากาชาดไทยจะชี้แจงให้ท่านทราบ หากคำร้องขอใช้สิทธิของท่านเกิดข้อจำกัดบางประการ ซึ่งไม่สามารถปฏิบัติตามคำร้องขอใช้สิทธิของท่านได้ เนื่องจากข้อจำกัดดังกล่าวเป็นไปตามที่กฎหมายกำหนด ส่งถึง: สภากาชาดไทย หมายเหตุ:
สภากาชาดไทย อาจมีปรับปรุงนโยบายนี้เป็นครั้งคราว เพื่อให้แน่ใจว่าเนื้อหาจะมีความเหมาะสมและเป็นปัจจุบัน หากสภากาชาดไทย มีการเปลี่ยนแปลงในสาระสำคัญเกี่ยวกับแนวปฏิบัติว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล สภากาชาดไทยจะปรับปรุงและแก้ไขนโยบายฉบับนี้ และแสดงบนเว็บไซต์ของสภากาชาดไทย เพื่อให้ท่านได้ทราบถึงวิธีการที่สภากาชาดไทย เก็บรวบรวม ใช้ จัดการ เปิดเผย และคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ประกาศนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันที่ประกาศ เป็นต้นไป ประกาศ ณ วันที่ 1 เดือน พฤศจิกายน พ.ศ. 2564 |