Show
เปิดช่องทางการขึ้นทะเบียนเกษตรกรผ่านระบบออนไลน์ด้วยเครื่องมือ e-Form เริ่มแล้ววันนี้นายเข้มแข็ง ยุติธรรมดำรง อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร กล่าวว่า ในปี 2565 ดำเนินการเพิ่มช่องทางการขึ้นทะเบียนเกษตรกรผ่านระบบออนไลน์ด้วยเครื่องมือ e-form โดยเริ่มนำร่องใช้สำหรับเกษตรกรรายใหม่ที่ปลูกไม้ผล ไม้ยืนต้น ในพื้นที่มีเอกสารสิทธิ์ประเภทโฉนด น.ส.4 เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่เกษตรกรและตอบโจทย์ในการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลเพื่อสนับสนุนในการปฏิบัติงาน การขึ้นทะเบียนและปรับปรุงทะเบียนเกษตรกร ถือว่ามีความสำคัญอย่างยิ่ง เกษตรกรจะได้รับการสนับสนุนในด้านต่างๆ รวมทั้งความช่วยเหลือและสิทธิประโยชน์ตามโครงการที่หน่วยงานภาครัฐได้จัดทำขึ้น ขอให้เกษตรกรขึ้นทะเบียนและปรับปรุงทะเบียนเกษตรกร ปี 2565 กับกรมส่งเสริมการเกษตร เพื่อปรับปรุงข้อมูลทะเบียนเกษตรกรให้เป็นปัจจุบัน สำหรับนำข้อมูลไปใช้วางแผนการผลิต การตลาดและส่งเสริมสนับสนุนเกษตรกรได้อย่างถูกต้องเหมาะสม รวมถึงใช้ในการดำเนินการตามมาตรการต่างๆ ของภาครัฐ โดยเกษตรกรสามารถขึ้นและปรับปรุงทะเบียนเกษตรกร ผ่านระบบออนไลน์โดยสามารถลงทะเบียนได้ที่ เว็บไซต์ทะเบียนเกษตรกร หลังจากเจ้าหน้าที่ทำการตรวจสอบข้อมูลบุคคลภายใน 5 วันแล้ว เกษตรกรสามารถขึ้นและปรับปรุงทะเบียนเกษตรกรผ่านช่องทางออนไลน์ได้ทันที โดยระบบ e-Form จะเริ่มใช้งานในวันนี้เป็นวันแรก สำหรับเกษตรกรรายใหม่ที่ปลูกไม้ผล ไม้ยืนต้น ในพื้นที่มีเอกสารสิทธิ์ประเภทโฉนด น.ส.4 ส่วนในช่องทางการขึ้นทะเบียนและปรับปรุงทะเบียนเกษตรกรเดิมที่ให้บริการคือ สำนักงานเกษตรอำเภอ และแอปพลิเคชัน Farmbook ยังสามารถใช้งานได้เช่นเดิม แนะนำให้สอบถามทางโทรศัพท์ไปยังสำนักงานเกษตร หรือผู้นำชุมชนเพื่อรับทราบแนวทางปฏิบัติเพื่อลดความเสี่ยงช่วงการระบาดของโรคโควิด-19 ข้อมูลข่าวและที่มา ผู้สื่อข่าว : อุไรวรรณ กลิ่นหอม ผู้เรียบเรียง : ธนพิชฌน์ แก้วกา แหล่งที่มา : Radio-สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย กรมส่งเสริมการเกษตร เปิดช่องทางการขึ้นทะเบียนเกษตรกรผ่านระบบออนไลน์ ด้วยเครื่องมือ e-Form สำหรับเกษตรกรรายใหม่ที่ปลูกไม้ผล ไม้ยืนต้น ในพื้นที่มีเอกสารสิทธิ์ประเภทโฉนด น.ส.4 เพื่อใช้เป็นข้อมูลในการวางแผนการส่งเสริมการเกษตรและให้ความช่วยเหลือเกษตรกรตามมาตรการต่าง ๆ ของภาครัฐ เช่น กรณีประสบภัยพิบัติด้านการเกษตรโครงการประกันรายได้เกษตรกร เป็นต้น วิธีการขึ้นทะเบียนและปรับปรุงทะเบียนเกษตรกร ปี 2565
เอกสาร สำหรับการขึ้นทะเบียน และปรับปรุงทะเบียนเกษตรปี 2565เกษตรกรรายใหม่ หรือ เกษตรกรรายเดิมเพิ่มแปลงใหม่
เกษตรกรรายเดิมแปลงเดิม
เศรษฐกิจ 25 ก.ค. 2565 เวลา 12:34 น.8.5k กรมส่งเสริมการเกษตร เปิดช่องทาง "ขึ้นทะเบียนเกษตรกร" ผ่านระบบออนไลน์ ด้วยเครื่องมือ e-Form เริ่มวันนี้ เกษตรกรรายใหม่ประเภทไหนต้องรู้นายเข้มแข็ง ยุติธรรมดำรง อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร กล่าวว่า กรมส่งเสริมการเกษตรได้ให้ความสำคัญในการขับเคลื่อนและเพิ่มประสิทธิภาพองค์กร ด้วยเทคโนโลยีดิจิทัล มุ่งพัฒนากรมส่งเสริมการเกษตรสู่การเป็น Digital DOAE เพิ่มศักยภาพบุคลากรทุกระดับให้มีทักษะที่จำเป็น โดยใช้เทคโนโลยีดิจิทัลสนับสนุนการปฏิบัติงาน เพื่อผลักดันองค์กรสู่ระบบราชการ 4.0 ปรับวิธีการทำงานเป็นแบบ New Normal และพร้อมรองรับ Next normal ซึ่งในปี 2565 กรมฯ ได้ดำเนินการเพิ่มช่องทางการขึ้นทะเบียนเกษตรกรผ่านระบบออนไลน์ด้วยเครื่องมือ e-form
โดยเริ่มนำร่องใช้สำหรับเกษตรกรรายใหม่ที่ปลูกไม้ผล ไม้ยืนต้นในพื้นที่มีเอกสารสิทธิ์ประเภทโฉนด น.ส.4 เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่เกษตรกร และตอบโจทย์ในการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลเพื่อสนับสนุนในการปฏิบัติงาน ซึ่งการขึ้นทะเบียนและปรับปรุงทะเบียนเกษตรกรถือว่ามีความสำคัญอย่างยิ่ง เกษตรกรจะได้รับการสนับสนุนในด้านต่างๆ รวมทั้งความช่วยเหลือและสิทธิประโยชน์ตามโครงการที่หน่วยงานภาครัฐได้จัดทำขึ้น จึงขอให้เกษตรกรขึ้นทะเบียนและปรับปรุงทะเบียนเกษตรกร ปี 2565 กับกรมส่งเสริมการเกษตร เพื่อปรับปรุงข้อมูลทะเบียนเกษตรกรให้เป็นปัจจุบัน สำหรับนำข้อมูลไปใช้วางแผนการผลิต การตลาดและส่งเสริมสนับสนุนเกษตรกรได้อย่างถูกต้องเหมาะสม รวมถึงใช้ในการดำเนินการตามมาตรการต่างๆ ของภาครัฐ
เกษตรกรสามารถขึ้นและปรับปรุงทะเบียนเกษตรกรผ่านระบบออนไลน์ โดยสามารถลงทะเบียนได้ที่เว็บไซต์ทะเบียนเกษตรกร (efarmer.doae.go.th) หลังจากเจ้าหน้าที่ทำการตรวจสอบข้อมูลบุคคลภายใน 5 วันแล้ว เกษตรกรสามารถขึ้นและปรับปรุงทะเบียนเกษตรกรผ่านช่องทางออนไลน์ได้ทันที
โดยระบบ e-Form จะเริ่มใช้งานในวันที่ 25 ก.ค. 2565 สำหรับเกษตรกรรายใหม่ที่ปลูกไม้ผล ไม้ยืนต้นในพื้นที่มีเอกสารสิทธิ์ประเภทโฉนด น.ส.4 ส่วนในช่องทางการขึ้นทะเบียนและปรับปรุงทะเบียนเกษตรกรเดิมที่ให้บริการคือ
สำนักงานเกษตรอำเภอ และแอปพลิเคชั่น Farmbook ยังสามารถใช้งานได้เช่นเดิม แนะนำให้สอบถามทางโทรศัพท์ไปยังสำนักงานเกษตร หรือผู้นำชุมชนเพื่อรับทราบแนวทางปฏิบัติเพื่อลดความเสี่ยงช่วงการระบาดของโรคโควิด-19 |