📚การประมาณการกําไรสุทธิ “เพื่อเสียภาษีเงินได้นิติบุคคลครึ่งรอบระยะเวลาบัญชี (ภ.ง.ด.51)” ให้ถูกต้องและถูกใจกรมสรรพากร 📖ทำความรู้จักกับ “การประมาณการกําไรสุทธิ” ?? การประมาณการผลประกอบกิจการในรอบระยะเวลาบัญชีนั้นๆ ก่อนสิ้นรอบระยะเวลาบัญชี โดยผู้เสียภาษีอากรที่มีหน้าที่จัดทำประมาณการกำไรสุทธิ ต้องยื่นแบบ ภ.ง.ด.51และชําระภาษีเงินได้ครึ่งปี จากประมาณการกำไรสุทธิที่ได้คาดการณ์ไว้ ➡️เหตุผลที่ต้องมีประมาณการกําไรสุทธิ 1. เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมในการจัดเก็บภาษีเงินได้นิติบุคคลและภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา 2.เพื่อเป็นการลดภาระภาษีเงินได้นิติบุคคลที่ต้องจ่ายปีละครั้งลงกึ่งหนึ่ง 3. เพื่อส่งเสริมความสมัครใจในการเสียภาษี 4.เพื่อให้รัฐจัดเก็บรายได้ภาษีเงินได้นิติบุคคลได้รวดเร็วขึ้น 👥ผู้มีหน้าที่เสียภาษีเงินได้นิติบุคคลจากฐานกำไรสุทธิ 1.บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลที่ตั้งขึ้นตามกฎหมายไทย ไม่วาจะประกอบกิจการประเภทใด หรือที่ใด ก็ตาม 2.บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลที่ตั้งขึ้นตามกฎหมายของต่างประเทศ และเข้ามาประกอบกิจการในไทย และเป็นกิจการที่ไม่ใช่การขนส่งระหวางประเทศ 3.กิจการที่หากำไรโดยรัฐบาลต่างประเทศ หรือนิติบุคคลอื่นที่ตั้งขึ้นตามกฎหมายของต่างประเทศ และเข้ามาประกอบกิจการในไทย เป็นกิจการอื่นใดที่ไม่ใช่การ ขนส่งระหว่างประเทศ 4.กิจการร่วมค้า (Joint Venture) 🏛กฎหมายที่เกี่ยวข้องในการจัดทำประมาณการ 1. มาตรา 38 แห่งประมวลรัษฎากร 2. มาตรา 65แห่งประมวลรัษฎากร • รายได้จากความหมายของ “กำไรสุทธิหรือขาดทุนสุทธิทางภาษีอากร” • รอบระยะเวลาบัญชี (ดูมาตรา 72 และมาตรา 73 ประกอบ) • ประเภทรายได้ทางภาษีอากร (กิจการและรายได้เนื่องจากกิจการ) • เกณฑ์รับรู้รายได้ –รายจ่ายทางภาษีอากร 3.มาตรา 65 ทวิ แห่งประมวลรัษฎากร • เงื่อนไขเกี่ยวกับรายได้ (ม.65 ทวิ (4)(10)(11)(12)(14)) • เงื่อนไขเกี่ยวกับรายจ่าย (ม.65 ทวิ (1)(2)(7)(8)(9)) • หลักเกณฑ์ในการตีราคาทรัพย์สินและหนี้สินเพื่อการคํานวณรายได้และรายจ่าย (ม.65 ทวิ (3)(5)(6)) 4. มาตรา 65 ตรี แห่งประมวลรัษฎากร • รายจ่ายต้องห้ามโดยแท้ (ม.65 ตรี (1)(2)(3)(5)(6 ทวิ)(9)(10)(11) (12)(13)(14)(16)) • รายจ่ายต้องห้ามโดยผลของกฎหมาย (ม.65 ทวิ (2)(4)(6)(7)(8)(9) (12)(15)(17)(18)(19)(20)) • รายจ่ายที่กฎหมายยอมให้ถือเป็นรายจ่ายได้ (Deductible Exp.) 5. มาตรา 67 แห่งประมวลรัษฎากร 6. มาตรา 67 ทวิ แห่งประมวลรัษฎากร • เฉพาะบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลที่มีหน้าที่เสีย CIT จากฐานกำไรสุทธิเท่านั้น 7. มาตรา 67 ตรี แห่งประมวลรัษฎากร 📑ผู้เสียภาษีอากรต้องยื่นแบบอย่างไร ?? ◾️ให้บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลยื่นรายการตามแบบที่อธิบดีกรมสรรพากรกำหนดพร้อมกับชําระภาษีภายใน 2 เดือน นับแต่วันสุดท้ายของรอบระยะเวลา 6 เดือน นับแต่วันแรกของรอบ ระยะเวลาบัญชี ผู้เสียภาษีอากรต้องยื่นแบบ ภ.ง.ด. 51 อย่างไร ❓❔ 1.กิจการทั่วไป และกิจการที่ได้รับการส่งเสริมการลงทุน (BOI) ให้ยื่นแบบ ภ.ง.ด.51 ฉบับเดียวกันและนําประมาณการกำไรสุทธิของกิจการที่ได้รับการส่งเสริมการลงทุน (BOI) หักออกในรายการที่ 2 (5) เพื่อให้ได้ประมาณการกำไรสุทธิที่ต้องนําไปคํานวณภาษีเงินได้ครึ่งปี 2.กิจการทั่วไป และกิจการที่ได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษี เช่น ROH ให้ยื่น แบบ ภ.ง.ด.51 แยกเป็นรายกิจการ ◾️ ช่องทางการยื่นแบบ ภ.ง.ด.51 ◾️ ยื่นที่สำนักงานสรรพากรพื้นที่สาขาทั่วประเทศ ◾️ยื่นทางอินเทอร์เน็ต www.rd.go.th 🌟วิธีการ “ประมาณการกำไรสุทธิ” ➡️ขั้นตอนที่ 1 การประมาณการโดยนําผลการประกอบกิจการจริง 6 เดือนแรก บวกกับผลประกอบการที่คาดว่าจะเกิดขึ้นในช่วง 6 เดือนหลัง โดยพิจารณาจากข้อเท็จจริงที่คาดวาจะเกิดขึ้น 2 ด้าน ดังนี้ 1. ด้านรายได้ ประกอบด้วย รายได้โดยตรง รายได้อื่น เช่น กำไรจากการจําหน่ายทรัพย์สิน และกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน เป็นต้น 2. ด้านรายจ่าย ประกอบด้วย ต้นทุนขาย ค่าใช้จ่ายขายและ บริหาร รายจ่ายอื่น เช่น ขาดทุนจากการจําหน่ายทรัพย์สิน และขาดทุน จากอัตราแลกเปลี่ยน เป็นต้น *สำหรับรายจ่ายให้พิจารณาเรื่องรายจ่าย ต้องห้ามด้วย เพราะไม่สามารถนํามารวมคํานวณเป็นรายจ่ายในการ ประกอบกิจการกำไรสุทธิได้เช่นเดียวกับกรณีการยื่น แบบ ภ.ง.ด.50 ➡️ขั้นตอนที่ 2 นําประมาณการกำไรสุทธิ มาคํานวณ เพื่อยื่นแบบ ภ.ง.ด.51 และพิจารณาว่าภาษีที่คํานวณได้ ตามแบบ ภ.ง.ด.51 มีจำนวนไม่น้อยกว่ากึ่งหนึ่งของภาษีที่คํานวณได้ ตามแบบ ภ.ง.ด.50 ของรอบระยะเวลาบัญชีที่แล้วหรือไม่ เพื่อให้สอดคล้องกับคำสั่งกรมสรรพากร ที่ ป.50/2537ฯ ลว. 31 ส.ค.2537 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยคำสั่งกรมสรรพากร ที่ ป.152/2558ฯ ทั้งนี้ กรณี มีการลดอัตราภาษีในปีที่ประมาณการ ให้พิจารณาตามข้อ 1 (2) ของคำสั่งกรมสรรพากรที่ ป.51/2537ฯ ลงวันที่ 31 ส.ค.2537 ด้วย หากประมาณการกําไรสุทธิคลาดเคลื่อน มีความผิดหรือไม่ ⁉️ ▪️มาตรา 67 ตรีในกรณีที่บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลไม่ยื่นรายการและชําระภาษีตามม.67ทวิ (1) หรือยื่น รายการและชําระภาษีตามม.67 ทวิ (1) โดยแสดงประมาณการกำไรสุทธิขาดไปเกินร้อยละ 25 ของกำไรสุทธิซึ่งได้จากกิจการ หรือเนื่องจากกิจการที่กระทำในรอบระยะเวลาบัญชีนั้น โดยไม่มีเหตุอันสมควร บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลนั้นต้องเสีย เงินเพิ่มอีก 20% ของจำนวนเงินภาษีที่ต้องชําระตามม.67ทวิ (1) หรือของกึ่งหนึ่งของจำนวนเงินภาษีที่ต้องเสียในรอบ ระยะเวลาบัญชีนั้น หรือของภาษีที่ชําระขาด แล้วแต่กรณี ▪️ในกรณีที่บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลไม่ยื่นรายการและชําระภาษีตามม.67 ทวิ (2) หรือยื่นรายการและชําระภาษีตามม.67 ทวิ (2) ไว้ไม่ถูกต้อง โดยไม่มีเหตุอันสมควร ทำให้จำนวนภาษีที่ต้องชําระขาดไป บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลนั้นต้องเสียเงินเพิ่มอีก 20% ของจำนวนเงินภาษีที่ต้องชําระตามม. 67 ทวิ (2) หรือของภาษีที่ชําระขาด แล้วแต่กรณี ***เงินเพิ่มดังกล่าวให้ถือเป็นค่าภาษีและอาจลดลงได้ตามคำสั่งกรมสรรพากรที่ ท.ป.81/2542ฯ ▪️กรณีที่ 2 บริษัทหรือหจก. ไม่ยื่นรายการและชําระภาษีตามม.67 ทวิ (2) หรือยื่น ไว้ไม่ถูกต้อง โดยไม่มีเหตุผลที่ควร ทำให้จำนวนภาษีที่ต้องชําระขาดไป ต้องเสียเงินเพิ่มอีก 20% ของจำนวนเงินภาษีที่ต้องชําระตามม. 67 ทวิ (2) หรือของภาษีที่ชําระขาด แล้วแต่กรณี ***เงินเพิ่มดังกล่าวให้ถือเป็นค่าภาษีและอาจลดลงได้ตามคำสั่งกรมสรรพากรที่ ท.ป.81/2542ฯ 📖บทสรุปการประมาณการกำไรสุทธิ ผู้เสียภาษีอากรต้องยื่นแบบ ภ.ง.ด.51 ภายในระยะเวลาที่กฎหมายกำหนด และยื่นประมาณการกําไรสุทธิให้สอดคล้องกับข้อเท็จจริงของการประกอบกิจการ ที่มา : กรมสรรพากร ☑️☑️ สนใจทดลองใช้ระบบ AccRevo ☑️☑️ สามารถลงทะเบียนรับสิทธิ์ทดลองใช้งานฟรี 30 วัน คลิกที่ลิ้งค์เลยค่า >> https://bit.ly/2H8HqFE ➡️ ติดตามข่าวสาร สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ID Line : @accrevo Facebook : Accrevo : Platform บัญชีดิจิทัล Instagram : accrevo_ai Youtube chanel : Accrevo : Platform บัญชีดิจิทัล โทร : 086-531-6211 Website : www.accrevo.com |