วิตามินซีช่วยภูมิแพ้ จริงไหม

ภูมิแพ้อากาศเกิดจากอะไร

1.ภูมิแพ้อากาศจากพันธุกรรม

โรคภูมิแพ้อากาศเป็นโรคที่สามารถถ่ายทอดทางพันธุกรรมได้ โดยผลวิจัยพบว่าหากครอบครัวไหนที่ทั้งพ่อและแม่เป็นโรคภูมิแพ้อากาศ ลูกก็มีโอกาสเป็นโรคนี้ประมาณ 50-70% แต่ถ้าพ่อหรือแม่คนใดคนหนึ่งเป็นโรคภูมิแพ้อากาศ ลูกมีโอกาสเป็นประมาณ 30% เท่านั้น

2.ภูมิแพ้อากาศจากสารก่อภูมิแพ้   

สารก่อภูมิแพ้มาจากสิ่งแวดล้อมที่อยู่รอบ ๆ ตัวเราทั้งภายในและภายนอกบ้าน เช่น ไรฝุ่น, ฝุ่นควัน, เกสรดอกไม้, ขนสัตว์, สภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลง, ควันจากท่อไอเสีย, ควันบุหรี่ และฝุ่น PM 2.5 เป็นต้น

ภูมิแพ้อากาศมีสองประเภท คือ

ประเภทที่ 1 ภูมิแพ้อากาศที่เป็นเฉพาะฤดูกาล (Seasonal Allergic Rhinitis)

ภูมิแพ้อากาศชนิดนี้ ส่วนมากจะมีอาการภูมิแพ้รุนแรงในช่วงฤดูร้อน เนื่องจากเป็นช่วงที่ดอกไม้ และวัชพืชเริ่มสร้างละอองเกสรนั่นเอง ซึ่งเมื่อได้สัมผัสหรือสูดดมเกรสดอกไม้ที่มีขนาดเล็กเข้าไป ทำให้เกิดอาการแพ้ เบื้องต้นจะมีอาการ เช่น  มีน้ำมูกมากผิดปกติ, คัดจมูก, ตาแดง และระคายเคืองตา  เป็นต้น

ประเภทที่ 2 ภูมิแพ้อากาศที่เป็นตลอดทั้งปี (Perennial Allergic Rhinitis)

สิ่งแวดล้อมที่อยู่รอบ ๆ ตัวเราทั้งภายในและภายนอกบ้าน ถือเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้เกิดภูมิแพ้อากาศตลอดทั้งปี อาจเกิดจาก 5 สาเหตุ ได้แก่…

1. ภูมิแพ้อากาศจากขนสัตว์

หากคุณมีอาการคัดจมูก มีน้ำมูก ไอ จาม หรือแน่นหน้าอก หลังจากที่เล่นกับสัตว์เลี้ยงตัวโปรด นั่นอาจเป็นเพราะคุณกำลังมีอาการภูมิแพ้อากาศที่เกิดจากขนสัตว์ โดยเฉพาะสุนัขและแมว ซึ่งสารก่อภูมิแพ้จากสัตว์มักจะอยู่ที่ผิวหนัง ขน และน้ำลาย ซึ่งสามารถล่องลอยอยู่ในอากาศและติดอยู่ตามตัวหรือเสื้อผ้าได้นาน

2. ภูมิแพ้อากาศจากไรฝุ่นและแมลงต่าง ๆ

พบบ่อยบริเวณเตียงนอน หมอน ม่าน และตุ๊กตา มักก่อให้เกิดอาการคัดจมูก มีน้ำมูก คันคอ คันตา หรือหอบหืดร่วมด้วย ซึ่งมักจะมีอาการใน “ช่วงตื่นนอน” หรือ “ตอนกลางคืน”  ส่วนอาการภูมิแพ้ที่เกิดจากแมลง มักเกิดจากการถูกแมลงกัดหรือต่อย เช่น มด, ยุง, ต่อ, และยุง เกิดอาการบวมแดงและคันตามผิวหนัง

3. ภูมิแพ้อากาศจากการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศ

สภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วเป็นอีกปัจจัยที่ทำให้เกิดอาการภูมิแพ้ อากาศ ไม่ว่าจะเป็นอากาศร้อน อากาศหนาว หรือการเปลี่ยนแปลงของความชื้นในอากาศ โดยมักจะมีอาการเบื้องต้นคือ มีน้ำมูก, คัดจมูก, จามบ่อย, คันคอและตา

4. ภูมิแพ้อากาศจากเชื้อรา

หลายคนอาจจะยังไม่เคยรู้มาก่อนว่าเชื้อราสามารถแพร่กระจายในอากาศได้ และเมื่อคนที่เป็นโรคภูมิแพ้สูดดมหรือสัมผัส จะเกิดอาการแน่นจมูก หายใจไม่สะดวก มีน้ำมูก หรืออาจมีอาการหอบหืดร่วมด้วย

5. ภูมิแพ้อากาศจากมลภาวะทางอากาศ

มลภาวะทางอากาศเป็นตัวกระตุ้นให้เกิดอาการภูมิแพ้ได้เช่นกัน ควันจากการเผาไหม้และฝุ่นละอองที่มีขนาดเล็กถูกสูดดมและเข้าสู่ร่างกายได้ง่าย ทำให้รู้สึกคัดจมูก คัดตา คันคอ น้ำมูกไหล หรือมีผื่นลมพิษขึ้นตามร่างกาย ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งโรคยอดฮิตของคนเมืองเลยก็ว่าได้  

นอกจากนี้ ในบางรายอาจมีอาการแพ้ฉับพลัน คือ มีอาการคลื่นไส้ อาเจียน วิงเวียนศรีษะ ศีรษะ เป็นผื่นลมพิษ ถ้าเป็นหนักจะส่งผลกระทบต่อการทำงานของระบบต่าง ๆ ในร่างกายอย่างรุนแรง และหากความดันเริ่มตก ก็อาจจะทำให้เป็นอันตรายถึงชีวิตได้ 

วิธีป้องกันและบรรเทาอาการแพ้อากาศ

ถ้าอยากมีร่างกายแข็งแรงห่างไกลภูมิแพ้อากาศ หรือบรรเทาอาการภูมิแพ้อากาศที่เกิดขึ้น ต้องรู้จักดูแลตัวเองอย่างถูกวิธี สามารถทำได้ดังต่อไปนี้ค่ะ  

1. ทำความสะอาดจมูกโดยการล้างจมูกอย่างถูกวิธี

การล้างจมูกเป็นประจำโดยใช้น้ำเกลือฉีดล้างทำความสะอาดโพรงจมูกวันละประมาณ 2 ครั้ง คือช่วงเช้าและก่อนนอน จะช่วยชะล้างสารก่อภูมิแพ้ เชื้อโรค และสิ่งสกปรกที่ตกค้างอยู่ในจมูกได้ และยังทำให้คนที่มีอาการภูมิแพ้อากาศหายใจสะดวกขึ้นด้วย ว่าแล้วก็มาดูวิธีการล้างจมูกที่ถูกต้องกันเลย

2. หลีกเลี่ยงสารก่อภูมิแพ้

ควรสังเกตตัวเองอยู่เรื่อยๆ ว่ามีสิ่งใดบ้างที่ทำให้เราจามหรือมีอาการแพ้อื่นๆ ทุกครั้งที่เข้าใกล้ เพื่อที่จะสามารถหลีกเลี่ยงได้ เช่น ฝุ่นควัน, ไรฝุ่น, สัตว์เลี้ยงมีขน, เกสรดอกไม้ เป็นต้น 

3. เสริมสร้างสภาพแวดล้อมให้ดีอยู่เสมอ

ปรับบรรยากาศภายในและภายนอกบ้านให้มีอากาศถ่ายเทได้สะดวก และใช้เครื่องฟอกอากาศเพื่อช่วยให้อากาศสะอาดอยู่เสมอ ตลอดจนควรทำความสะอาดห้องนอนเป็นประจำ โดยเฉพาะบริเวณใต้เตียง ชั้นวางของ มุ้งลวด และซอกมุมต่าง ๆ ที่อาจเป็นแหล่งสะสมฝุ่นชั้นดี นอกจากนี้ยังต้องซักทำความสะอาดปลอกหมอน ผ้าปูที่นอน รวมถึงเตียงนอนให้สะอาดอยู่เสมอเพื่อป้องกันไรฝุ่นและสารก่อภูมิแพ้อื่นๆ

4. ปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ

หลายคนที่ต่อให้หมั่นสังเกตตัวเองเป็นประจำแล้ว ก็ยังไม่รู้แน่ชัดว่าสาเหตุการแพ้นั้นมาจากอะไร ดังนั้น การปรึกษาแพทย์และเข้ารับการทดสอบสารก่อภูมิแพ้จะให้ผลที่ชัดเจนได้ รวมถึงได้รับแนวทางการรักษาที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น เช่น ทานยา พ่นยา หรือฉีดวัคซีน ทำให้อาการแพ้อากาศทุเลาลงนั่นเอง

5. ทานอาหารเสริมเพื่อเพิ่มภูมิคุ้มกัน

ไลฟ์สไตล์ของคนยุคใหม่ในปัจจุบันอาจทำให้ไม่สามารถดูแลตัวเองได้อย่างเต็มที่ ทั้งเรื่องการรับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ ออกกำลังกายเป็นประจำ และพักผ่อนให้เพียงพอ  จึงต้องหาตัวช่วยดีๆ ให้ร่างกายอีกทางหนึ่ง อย่างเช่น Cele Foos เครื่องดื่มชนิดผงบรรจุในซอง มีวิตามินซีสูง ฉีกชงดื่มได้ทั้งวัน มีส่วนประกอบของเบอร์รี่หลายชนิดซึ่งช่วยให้นอนหลับสบายมากขึ้น นอกจากนี้ยังมีกาแลคโตโอลิโกแซคคาไรด์ที่มีส่วนช่วยให้ระบบขับถ่ายทำงานเป็นปกติ

หรือหากต้องการอาหารเสริมซึ่งอุดมไปด้วยวิตามินซีจากผักผลไม้สูงถึง 260% รวมทั้งวิตามินบี 1 บี 2 ซึ่งมีส่วนช่วยให้ระบบประสาททำงานเป็นปกติ แนะนำเป็น Cele Neu ซองสีเขียวเลยค่ะ

การเลือกรับประทานเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพหรืออาหารเสริมก็เป็นสิ่งที่คนยุคใหม่นิยม ควรเลือกผลิตภัณฑ์ที่มีความน่าเชื่อถือ 

เมื่อได้ทำความรู้จักกับอาการภูมิแพ้อากาศ พร้อมสาเหตุและวิธีป้องกันแบบนี้แล้ว หวังว่าจะเป็นประโยชน์ให้กับทุกคนไม่มากก็น้อยนะคะ อย่างไรก็ตาม เราขอแนะนำให้ออกกำลังกาย และดูแลตัวเองด้วยการกินอาหารที่ดีควบคู่ไปด้วย หากใครมีอาการเข้าข่ายเป็นโรคภูมิแพ้ควรรีบไป