วิชา เครื่องดื่มและการผสมเครื่องดื่ม

แผนการจัดการเรียนรู รายวิชา เคร่ืองดม่ื และการผสมเคร่ืองด่มื ระดบั ชนั้ มัธยมศกึ ษาปท ี่ 5 เวลาทงั้ หมด 60 ชวั่ โมง หนวยที่ 1-2 จัดทําโดย นางสาวปณ ชดา ไชยมงคล ตําแหนง ครู คศ.2 โรงเรยี นราชประชานเุ คราะห 31 ตําบลชา งเคงิ่ อาํ เภอแมแ จม จงั หวดั เชยี งใหม สาํ นกั บรหิ ารงานการศกึ ษาพเิ ศษสํานกั งานการศึกษาขนั้ พน้ื ฐาน กระทรวงศกึ ษาธกิ าร

หน่วยท.่ี .........1............ จานวน......1-6......ชั่วโมง แผนการจดั การเรยี นร๎ูวชิ า เครือ่ งดม่ื และการผสมเครอ่ื งดมื่ชื่อหนว่ ย หนํวยท่ี 1 ความรเ๎ู บือ้ งต๎นเกย่ี วกับงานอาหารและเครอื่ งดม่ื ในโรงแรม1. ช่อื เรื่อง ความร๎ูเบื้องต๎นเก่ียวกับงานอาหารและเครอื่ งดื่มในโรงแรม2. เวลาเรยี น 6 คาบ3. หวั ข้อเรอื่ ง ความร๎ูเบื้องตน๎ เกยี่ วกบั งานอาหารและเครอ่ื งด่มื ในโรงแรม4. ผังการวเิ คราะหม์ โนรายหน่วย ความรู๎เบ้อื งต๎นเก่ยี วกบั งานอาหารและเครือ่ งดืม่ ในโรงแรม ลกั ษณะของฝา่ ยอาหาร เคร่ืองดื่ม งานเล้ียงและบาร์ ฝ่าย F & B (Food & Beverage) บาร์และบาร์เทนเดอร์ZXฉXDepartment) คอฟฟช่ี ็อพ (Coffee5. สาระสาคัญ Shop)ความร๎เู บ้อื งต๎นเกยี่ วกับงานอาหารและเครื่องดื่มในโรงแรม ลักษณะของฝ่ายอาหาร เคร่ืองดื่ม งานเลี้ยงและบาร์การดาเนินงานของฝ่ายอาหาร เคร่ืองด่ืมงานเลี้ยงและบาร์ แผนกบาร์ บาร์และบาร์เทนเดอร์ คาจากัดความของ “บาร์” บาร์ประเภทตํางๆ งานบรกิ ารในบาร์ วิธกี ารดาเนินการเปิดบาร์ ข้ันตอนการปิดบาร์ รายละเอียดการทางานของบาร์เทนเดอร์ หรือบาร์เมตการรับคาสั่งเครื่องดื่มท่ีมีแอลกอฮอล์ การบริการที่ดีควรทาอยํางไร ข้ันตอนการดาเนินการผสมเครือ่ งดืม่ การเตรียมบารใ์ นบา๎ นไวร๎ บั แขก เกร็ดความรเู๎ ลก็ นอ๎ ยท่ีจะทาใหง๎ านปาร์ตีส้ มบรู ณ์ การจัดการกับแขกท่ีเมาเหลา๎ และงานดแู ลเคร่ืองด่มื และของใช๎

6. จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ - อธบิ ายลักษณะของฝ่ายอาหาร เครอื่ งดม่ื งานเล้ยี งและบาร์ - บอกเทคนิคการดาเนินงานของฝา่ ยอาหาร เครอื่ งดม่ื งานเล้ียงและบาร์ - เขยี นแผนผงั การบริหารงานแผนกบาร์ - อธบิ ายคาจากดั ความ “บาร”์ - จาแนกประเภทของบาร์ตําง ๆ - บอกวิธปี ฏบิ ตั ิงานบรกิ ารในบาร์ - ระบวุ ิธกี ารดาเนินการเปดิ บาร์ - ลาดับข้นั ตอนการปิดบาร์ - บอกขอ๎ สรุปรายละเอียดการทางานของบาร์เทนเดอร์หรือบาร์เมต - บอกวธิ ปี ฏิบัตกิ ารรบั คาสง่ั เครือ่ งด่ืมทม่ี แี อลกอฮอล์ - บอกเทคนคิ การบรกิ ารทด่ี ีของพนกั งานบารเ์ ทนเดอร์ - ลาดบั ข้ันตอนการดาเนินการผสมเครอ่ื งด่มื - บอกวธิ ปี ฏิบตั ิการเตรียมบาร์ในบ๎านไวร๎ บั แขก - ให๎ขอ๎ เสนอแนะเกร็ดความร๎เู ลก็ นอ๎ ยท่ีทาให๎งานปาร์ตสี้ มบูรณ์ - บอกลักษณะการจดั การกับแขกท่เี มาเหลา๎ - บอกข๎อสรปุ งานดูแลเคร่อื งดม่ื และของใช๎7. เนือ้ หาสาระ ความร๎เู บอื้ งต๎นเก่ยี วกบั งานอาหารและเครอื่ งด่ืมในโรงแรม ลกั ษณะของฝ่ายอาหาร เครื่องด่ืม งานเลีย้ งและบาร์ แตํเดิมน้ันสัดสํวนรายได๎จากฝ่ายอาหาร เครื่องด่ืม งานเล้ียงและบาร์เม่ือเทียบกับ รายได๎จาก ห๎องพักแล๎วดูไมํสาคัญนัก แตํปัจจุบันนอกจากโรงแรมขนาดเล็กแล๎วรายได๎ของฝ่ายอาหาร เคร่ืองดื่ม งาน เลี้ยงและบาร์ก็เป็นสํวนสาคัญ เป็นสัดสํวนถึงร๎อยละ 45-60% เลยทีเดียว งานของฝ่ายนี้ยังมีผลตํอช่ือเสียง ของโรงแรมโดยตรงอีกดว๎ ย เดมิ นัน้ เม่อื แขกกลําวถงึ การบรกิ ารของโรงแรมหนึง่ ๆ วําดีหรือไมอํ ยํางไร สํวนมากจะพิจารณาจากงานบรกิ ารของงานสํวนหนา๎ และฝ่ายห๎องพัก แตํปัจจุบันเมื่อดูสัดสํวนการดาเนินการแล๎วจะเห็นได๎วํา แขกพิจารณาจากฝา่ ยอาหาร เครอ่ื งดม่ื งานเลีย้ งและบารเ์ สยี มากกวาํ ฝ่ายอาหาร เคร่ืองดื่ม งานเลี้ยงและบาร์เรียกรวม ๆ กันวําฝ่าย F & B (Food & BeverageDepartment) ผ๎ูรับผิดชอบเรียกวํา ผ๎ูจัดการฝ่าย F & B งานควบคุมราคาอาหาร เคร่ืองดื่ม (Food & BeverageCost Control) เรยี กวาํ งานควบคมุ F & B พนักงานท่เี ก่ียวข๎องกบั ห๎องอาหารและงานเลยี้ งกเ็ รียกวํา พนักงาน

F & B รายได๎จากห๎องพักซ่ึงเป็นรายได๎หลักอยํางหนึ่งของโรงแรมนั้นจะจากัดอยูํเฉพาะกับแขกที่ลงทะเบียนเข๎าพักเทําน้ัน แตํรายได๎ของฝ่าย F & B นั้นนอกจากจะได๎จากแขกที่มาพักแล๎วยังได๎จากแขกผู๎ท่มี าเยือน ลูกค๎าท่ีเข๎ามารับประทานอาหารและแขกท่ีมางานเลี้ยงซ่ึงมีเป็นจานวนมาก จะเห็นได๎วําขอบเขตของงานฝ่าย F & B จะกวา๎ งขวางกวํามาก ลูกคา๎ ของฝ่าย F & B กม็ ากกวาํ ฝา่ ยของห๎องพกั เป็นอนั มาก การดาเนินงานของฝ่ายอาหาร เครอื่ งดืม่ งานเลีย้ งและบาร์ ในโรงแรมทท่ี นั สมยั โดยท่ัวไปฝ่าย F & B จะมีการดาเนินการในรูปแบบตําง ๆ เชํนห๎องอาหารตําง ๆ (Dining Room) บรกิ ารอาหารประเภทตําง ๆ คอฟฟีช่ ็อพ (Coffee Shop) เปดิ บริการตลอด 24 ชั่วโมง หอ๎ งกริล (Grill Room) บรกิ ารอาหารประเภทปง้ิ ยาํ ง ห๎องอาหารจีน ห๎องอาหารญ่ีปุ่น ห๎องอาหารฝรั่งเศส หรืออ่ืน ๆ ซึ่งจะบริการอาหารของแตํละชาติโดยเฉพาะ นอกจากนี้ ฝ่ายเครื่องดื่มยังดาเนินการในรูปแบบตาํ ง ๆ อีก เชํน บาร์หลัก เป็นบาร์หลักของโรงแรมบาร์ดาดฟ้า บาร์ช้ันใต๎ดิน คอกเทลเล๎านจ์ ฯลฯ ก็เป็นอีกรูปแบบหน่ึงของบาร์หรือไนต์คลับท่ีโรงแรมนามาใช๎ นอกจากน้ัน การบริการอาหารและเครื่องดื่มในงานเลี้ยงตําง ๆ ก็เป็นอีกรูปแบบหน่ึงในการดาเนินงานของฝา่ ย F & B และถอื วําเปน็ งานท่ีสาคัญอีกสวํ นหนง่ึ ดว๎ ย แผนกบาร์ ปัจจุบันแผนกบาร์ในโรงแรมมักจะปรับขนาดให๎ใหญํมากข้ึน ยิ่งหากเป็นโรงแรมขนาดใหญํที่มี ห๎องเป็นจานวนนับพัน จะมีการจัดผังการบริหารบาร์อยํางละเอียดเลยทีเดียว บาร์เป็นสถานที่พักผํอนและ เป็นทพี่ บปะสนทนากัน ดงั นน้ั บารจ์ ึงไมํเพียงแตํต๎องบริการด๎านเคร่ืองด่ืมเทํานั้น ยังต๎องบริการด๎านสถานท่ี โดยจัดบรรยากาศให๎เหมาะสม และยังต๎องมีมุมสํวนตัวที่เงียบสงบให๎หนํุมสาวด๎วย สภาพจึงตํางไปจาก ห๎องอาหาร บารแ์ ละบารเ์ ทนเดอร์ คาจากดั ความของ “บาร”์ คาวํา บาร์ ได๎มาจากทวปี อเมริกาเหนือ หมายถึง คอก ราว รั้ว ฝาก้ัน แตํในธุรกิจที่เกี่ยวกับเคร่ืองด่ืมซึ่งรวมไว๎ทั้งประเภทเคร่ืองดื่มท่ีมีแอลกอฮอล์และเคร่ืองดื่มที่ไมํมีแอลกอฮอล์ เรียกกันโดยท่ัวไปวํา บาร์

ธุรกิจด๎านนี้มีความจาเป็นอยํางยิ่งที่จะต๎องใช๎พนักงานท่ีมีความร๎ูความชานาญในการบริการและผสมเครื่องดืม่ ไวค๎ อยบริการตอํ ลูกค๎า สดุ แตลํ กู ค๎าจะตอ๎ งการพนกั งานเหลาํ น้ี คอื บารแ์ มนหรือบารเ์ ทนเดอร์ บารป์ ระเภทตาํ ง ๆ 1. อเมรกิ นั บาร์ (American Bar) 2. เอก็ เพรสโซบํ าร์ (Expresso Bar) 3. ดา๏ นซ์ซงิ่ บาร์ (Dancing Bar) 4. มิลท์บาร์ (Milk Bar or Soda Fountain) งานบริการในบาร์ บาร์โดยท่ัวไปจะเปิดบริการคํอนข๎างช๎า คือ ประมาณ 11.00 น. แตํบางแหํง อาจเปิดเวลา17.00 น. และเปิดตํอเนื่องไปจนดึก ดังนั้นจึงต๎องมีระบบการป้องกันอุบัติเหตุและ การโจรกรรมให๎ดีงานตอ๎ นรบั และบรกิ ารแขกก็มีลกั ษณะเชํนเดียวกับท่ีห๎องอาหารขณะที่ถามแขกวําจะรับอะไร พนักงานไมํควรยนื ชดิ แขกเกนิ ไป การรบั คาส่ังและการบรกิ ารจะตอ๎ งให๎แขกสตรกี อํ น เม่ือแขกสง่ั เครอ่ื งดื่มแล๎วต๎องทบทวนอีกคร้ังเพื่อความแนํใจ เพราะเคยมีตัวอยํางท่ีแขกชาวตํางประเทศส่ัง Rum Coke แตํพนักงานบริการเข๎าใจเป็น Lemon Coke พนักงานจึงต๎องระวังอยําให๎เกิดเหตุการณ์ทานองน้ีขึ้นเม่ือทบทวนรายการท่ีแขกสั่งแล๎วต๎องยิ้มพรอ๎ มกับกลําวคาขอบคุณแขกการเข๎าบริการ ควรเข๎าทางด๎านขวาของแขก หากทาไมํได๎จริง ๆ จึงจะพลิกแพลงเป็นอยํางอื่นแขกที่กาลังสนทนากันอยํางออกรส มักจะขยับตัวอยํางแรงและรวดเร็ว พนักงานจะต๎องระวังให๎ดีเพื่อป้องกันการเกิดอุบัติเหตุ ท่ีเคาน์เตอร์ควรมีผ๎าเตรียมไว๎ให๎พร๎อมเพื่อ แก๎ปัญหาเมื่อสูทเลอะเทอะต๎องจดจาชื่อของแขกท่ีมาประจา รวมท้ังใบหน๎าและรสนิยมการดื่มท่ีแขกชอบด๎วยการเติมเครื่องดื่มควรเป็นหน๎าท่ีของหัวหน๎าพนักงานบริการ และต๎องถามแขกอื่นท่ีรํวมโต๏ะด๎วยวําต๎องการเติมหรือไมํ แตํทั้งน้ีต๎องไมํเป็นการรบเร๎าแขกเวลาจะเช็คบิลควรจะบอกทบทวนจานวนเงินท่ีแขกต๎องจํายให๎ผู๎รวํ มโต๏ะทราบด๎วย เพราะบางครั้งแขกอาจจะเมาเหล๎าและฟังตัวเลขจานวนเงินผิดไปจนเป็นเหตุให๎เกิดความขดั แย๎งขึ้นต๎องไมํลมื กลาํ วขอบคณุ แขก เมอื่ แขกจะจากไปวธิ ีการดาเนินการเปิดบาร์ เปิดลอ็ คตทู๎ ง้ั หมดและเครือ่ งทาความเย็น ตรวจเช็คดูวําเครื่องเหลํานั้นทางานดีหรือไมํ เติมสินค๎าท่ีขาดไปให๎เต็มอยูํเสมอ น้าแข็งควรเตรียมไว๎ในที่ใสํน้าแข็ง และจัดตั้งของที่ต๎องใช๎ในการบริการและพ้ืนท่ีใช๎ในการผสมเครื่องด่ืมขึ้นอยูํกับรูปแบบแผนงานท่ีเตรียมไว๎ไปรับเหล๎า เบียร์และไวน์ท่ีทาเร่ืองเบิกไวจ๎ ากห๎องเก็บของ (Store Room) บาร์เทนเดอร์จะต๎องแนํใจวํารายการทุกรายการที่เขียนบนใบเบิกของนั้นได๎รับครบและถกู ต๎อง โดยการเช็คด๎วยตวั เอง กํอนท่จี ะเซ็นชอ่ื ในใบรับของทุกครั้ง ในกรณีท่ีมีความผดิ พลาดเกิดข้ึน หรอื มีบางสิง่ บางอยาํ งหายไปควรจะแจ๎งแผนกหอ๎ งเกบ็ ของทนั ที สาหรับสินค๎าใหมํที่ได๎รับ

ในแตํละวัน ควรใสํในชํองเบิกของในเอกสารให๎ถูกต๎อง ในระหวํางทาเอกสารให๎สมบูรณ์ บาร์เทนเดอร์นําจะเอาบัญชีรายชื่อเหล๎าท่ีเป็นขวด (Bottle Inventory) มาเช็ค เพื่อให๎แนํใจวําสินค๎าสต็อกนั้นได๎ถูกนามาใสํในใบแจ๎งยอดกํอนหน๎า (Par Stock) น้ันแล๎ว จึงจะเซ็นชื่อลงในแผํนบัญชีรายการของพร๎อมใสํวันท่ีและเวลาลงไปด๎วย ดูแลจัดเตรียมเกี่ยวกับน้าผลไม๎และสํวนผสมที่ต๎องใช๎ในวันน้ัน (น้ามะเขือเทศ น้าผลไม๎สาหรับ Broddy Mary น้าส๎มและอ่ืน ๆ) ตรวจทานการเช็ครายการของที่ใช๎ในบาร์ท้ังหมดอีกคร้ัง เพ่ือให๎แนํใจวํามีจานวนที่ถูกต๎องในมือ และของเหลํานั้นได๎ถูกจัดวางในท่ีที่เหมาะสม (เครื่องตวงเหล๎า ที่ตักน้าแข็ง เคร่ืองคั้นน้าผลไม๎ กรวยเทน้าใสํขวด น้าตาล ครีม ผลไม๎ที่ใช๎ตกแตํง ที่เปิดไวน์ กระดาษหรือผ๎าเช็ดปาก ไม๎คนและอ่ืน ๆ) ให๎ความชํวยเหลือลูกมือหรือผู๎ฝึกงานบาร์เทนเดอร์ในการหั่นผลไม๎สาหรับใช ๎ไมวํ ําจะใชใ๎ นการตกแตํงหรือผสม 1. ผลไม๎ควรนาไปลา๎ งนา้ กํอนท่ีจะเริ่มหน่ั เสมอ 2. การฝานควรจะมีความหนาประมาณ ¼ นิ้ว กรีดเป็นชํองยาวด๎วยมีดเพ่ือสะดวกในการจัดวางบนปากแก๎ว 3. เปลือกที่ปอกเป็นเกลียว ควรปราศจากเปลือกชั้นในหรือสขี าวใต๎ผิวชน้ั นอก จะดกี วาํ 4. เมื่อยังไมํนาผลไม๎ไปใช๎งาน ผลไม๎ที่เตรียมไว๎ควรจะได๎รับการคลุมด๎วยผ๎าท่ีชื้นและหมาด แล๎วนาเข๎าเก็บในต๎ูเย็น ซึ่งจะทาให๎ผลไม๎สดและป้องกันไมํให๎ผลไม๎แห๎งและไมํสวย สอนบาร์เทนเดอร์ ลกู มือหรอื บารฝ์ กึ งานให๎ทารายการส่งั ของทต่ี อ๎ งการใชใ๎ นบาร์มาเตรียมและจดั วางใหถ๎ ูกท่ี เชนํ น้าแข็ง, แก๎ว , กาแฟและอื่น ๆ บาร์เทนเดอร์ควรพร๎อมที่จะผสมเครื่องดื่ม และบริการเครื่องดื่มเหลําน้ันให๎แกํพนักงาน บริการหรอื ลูกค๎าได๎ทันที ขนั้ ตอนการปิดบาร์ 1. ควรมีการบอกกลําวครั้งสุดท๎ายกับลูกค๎าหรือบริกร เพ่ือให๎เขาทราบกํอนท่ีจะทาการปิด บาร์ 2. แก๎วท้ังหมดและอุปกรณ์ท่ีใช๎สอยควรนามาล๎าง เช็ดให๎แห๎ง และเก็บไว๎ในท่ีที่เหมาะสม กํอนการปิด 3. เหล๎าทุกชนดิ ไวน์ และเบยี ร์ควรเกบ็ เข๎าที่และปิดใสํกุญแจให๎เรยี บรอ๎ ย 4. ผลไม๎ทุกชนดิ และผลไมท๎ ใ่ี ชส๎ าหรบั การตกแตํง ต๎องคลุมด๎วยผ๎าหมาดและใสไํ วใ๎ นทเี่ ย็น 5. ทาการนับของทีใ่ ชท๎ ้งั หมดเพอื่ ท่จี ะได๎ทารายการเบกิ เขา๎ มาแทนที่ตํอไป 6.พื้นที่บาร์ทั้งหมดต๎องได๎รับการทาความสะอาด ดูแลให๎เรียบร๎อย รวมทั้ง เคร่ืองสแตนเล สต๎องได๎รบั การขัดเช็ดอยาํ งดีกํอนทบี่ ารเ์ ทนเดอร์จะกลับไป รายละเอยี ดการทางานของบารเ์ ทนเดอร์ หรือบารเ์ มต

1. ติดตามเร่ืองคาส่ังและกาหนดการที่แนํนอนของบาร์จากหัวหน๎าผ๎ูดูแล หรือที่ เรียกวําSupervisor 2. จัดหาส่ิงของให๎เพียงพออยํูเสมอ (ตามท่ีได๎กาหนดไว๎ในรายการ) สาหรับท่ีจะขายและใช๎ในบาร์ ซ่ึงได๎แกํ เคร่ืองดื่มทั่วไป เหล๎า ไวน์ น้าอัดลมตําง ๆ และเบียร์ (เบียร์ท๎องถ่ิน เบียร์นาเข๎า และเบียร์สด) 3. ควรเกบ็ และแชเํ คร่อื งดม่ื ตามรายการขา๎ งตน๎ ใหเ๎ พียงพอท่ีจะขาย 4. จัดหาของตามรายการท่ีต๎องการและกาหนดไว๎สาหรับใช๎ในการผสมเคร่ืองด่ืม เชํนมะกอก เชอร์รี่ หัวหอมดองสาหรบั คอ็ กเทล มะนาวฝาน น้ามะนาว นา้ เชอ่ื มและอน่ื ๆ 5. จัดหาน้าแข็ง แก๎วสะอาด แก๎วค็อกเทล ผ๎าหรือกระดาษเช็ดปาก ไม๎คนค็อกเทล กระดาษรองแกว๎ หลอด และอื่น ๆ 6. เครอื่ งทากาแฟ ถังแชํเย็น เคร่ืองทาเบียร์ เครื่องฉีดน้าอัดลม หากเกิดความบกพรํองหรือถึงกาหนดการซํอมบารุงจะต๎องแจง๎ ตํอหัวหนา๎ ผดู๎ ูแลทันที 7. ดูแลเร่ืองความสะอาดของบาร์ ด๎านหลังของบาร์ พื้นที่ด๎านหน๎าและพื้นท่ีด๎านหลังบาร์โดยรอบ 8. จดบันทึกส่ิงของที่ใช๎เฉพาะที่อยํูในบาร์ ซ่ึงนาออกไปจากห๎องเก็บของให๎ถูกต๎อง โดยไมํรวมเอาของที่นาจากสํวนอื่น ๆ ภายในโรงแรมมารวมไว๎ด๎วย ในเอกสารการเคลื่อนย๎ายภายในบาร์ (Inter-Bar Transfer) 9. ทารายการเบิกเครื่องดื่มประจาวันสาหรับห๎องเก็บของ (Store Room) เคร่ืองด่ืมทั้งหมดที่ถูกเคลื่อนย๎ายระหวํางบาร์ต๎องบันทึกในใบเคลื่อนย๎าย (Inter-Bar Transfer) เครื่องด่ืมทั้งท่ีขายเป็นขวดและแบํงขายใหอ๎ อกด๎วยการใชใ๎ บส่ัง (Captain Order) 10. จะต๎องมีคุณภาพและการตวงวัดในปริมาณท่ีถูกต๎องของเครื่องด่ืมท้ังหมดที่ ถูกเสิร์ฟจะต๎องเป็นที่คนุ๎ เคยและไดม๎ าตรฐานของคอ็ กเทลตามต๎นตารบั จริง ๆ ทง้ั การทาและรสชาติหรอื อน่ื ๆ 11. เครื่องแบบจะตอ๎ งเรยี บรอ๎ ยประณีตตามแบบฉบบั ของคูํมือการทางานของพนกั งาน 12. ควรเขา๎ รํวมในการประชมุ บารท์ ุกคร้งัการบรกิ ารทดี่ คี วรทาอยาํ งไร 1. การทางานตอ๎ งตรงตํอเวลาและทางานอยํางมปี ระสิทธิภาพ 2. สุภาพอํอนโยนและเอาอกเอาใจลกู ค๎า 3. ใบหน๎าจะต๎องยมิ้ แยม๎ และทักทายแขกดว๎ ยความสภุ าพ 4. บรกิ ารรวดเร็วและซือ่ สตั ยก์ ับลูกค๎า

5. เช่อื ฟังและปฏิบัตติ ามกฎของสถานบริการโดยเครํงครดั 6. ให๎ความรวํ มมอื และชํวยเหลือเพื่อนรํวมงานอยาํ งดี 7. กอํ นท่จี ะปฏบิ ตั งิ านจะต๎องเช็คยอดขายและจัดหาเตรยี มของที่จะขายให๎พรอ๎ ม 8. จะตอ๎ งทราบชอื่ เหลา๎ ราคา วธิ ีการผสมเหล๎า ให๎ถกู ต๎องตามราคาเคร่ืองด่ืม 9. พยายามจาชื่อของลูกคา๎ ใหไ๎ ด๎ เพราะลูกค๎าจะภาคภูมิใจมากหากเรยี กช่ือเขาไดถ๎ ูกตอ๎ ง 10. แนะนาลูกค๎าให๎ด่ืมเหล๎าที่คิดวําเขาชอบ และอยําพยายามขืนใจลูกค๎าให๎ดื่มเหล๎าที่เขาไมํ ชอบ 11. ห๎ามทะเลาะหรือมปี ากมเี สยี งกบั ลูกคา๎ 12. จุดบหุ ร่ใี ห๎ลกู คา๎ เมื่อเห็นเขาควักบุหรีข่ ้นึ มาสบู 13. ผสมเหล๎าตามใจตามท่ลี กู ค๎าส่งั การบรกิ ารที่ดีควรทาอยาํ งไร 1. การทางานตอ๎ งตรงตํอเวลาและทางานอยํางมีประสิทธิภาพ 2. สภุ าพอํอนโยนและเอาอกเอาใจลูกคา๎ 3. ใบหนา๎ จะตอ๎ งย้ิมแยม๎ และทักทายแขกด๎วยความสุภาพ 4. บริการรวดเร็วและซ่ือสัตยก์ ับลกู คา๎ 5. เช่อื ฟังและปฏบิ ตั ติ ามกฎของสถานบริการโดยเครงํ ครัด 6. ให๎ความรํวมมอื และชวํ ยเหลือเพ่ือนรํวมงานอยํางดี 7. กอํ นทจี่ ะปฏิบัตงิ านจะต๎องเช็คยอดขายและจดั หาเตรียมของท่ีจะขายให๎พรอ๎ ม 8. จะตอ๎ งทราบช่อื เหล๎า ราคา วธิ ีการผสมเหลา๎ ให๎ถูกตอ๎ งตามราคาเครื่องดืม่ 9. พยายามจาชอื่ ของลูกค๎าใหไ๎ ด๎ เพราะลูกค๎าจะภาคภมู ใิ จมากหากเรยี กช่อื เขาได๎ถูกต๎อง 10. แนะนาลูกค๎าให๎ดื่มเหล๎าท่ีคิดวําเขาชอบ และอยําพยายามขืนใจลูกค๎าให๎ด่ืมเหล๎าที่เขาไมํ ชอบ 11. ห๎ามทะเลาะหรอื มีปากมเี สียงกับลูกคา๎ 12. จดุ บุหรีใ่ ห๎ลูกค๎าเม่ือเห็นเขาควักบหุ รี่ขนึ้ มาสูบ 13. ผสมเหลา๎ ตามใจตามท่ีลกู คา๎ สง่ั 14. ใหล๎ ูกคา๎ เลือกทีน่ ่ังตามสบายและพยายามชวนคยุ กับลูกค๎าที่มาคนเดียว เพ่ือให๎เขาหายเหงาและอยําใหเ๎ ขารูส๎ กึ วาํ เขาถกู ทอดทิง้ ให๎น่ังอยอูํ ยาํ งเดยี วดาย

15. พยายามอยาํ สนทนาเรื่องท่ีลูกค๎าไมํชอบและเกลียดกลัวเป็นอันขาด เพราะจะทาให๎การดื่มขาดรสชาติ ถ๎าเหน็ ลูกค๎าเร่มิ เมาแลว๎ กไ็ มคํ วรคะยน้ั คะยอให๎ด่ืมอกี ในกรณีที่ลูกค๎าเมาแล๎วมาส่ังเหล๎าด่ืม ไมํควรให๎และปรึกษากับผูจ๎ ัดการสถานท่ที ันที 16. ถ๎ามีสตรี คนสูงอายุมาส่ังเคร่ืองด่มื ควรบริการให๎กํอนสุภาพบรุ ษุ 17. ตงั้ ขวดเหล๎าทีบ่ รกิ ารลูกคา๎ ให๎ตราย่ีห๎อน้ัน ๆ อยูํตรงหน๎าลูกค๎า เพ่ือเป็นการให๎ลูกค๎าเห็นวําเหล๎าทแี่ ขกสง่ั มาดื่มนน้ั เป็นชนิดทเ่ี ขาตอ๎ งการหรือไมํ 18. ห๎ามสูบบุหร่ี รับประทานอาหาร เคี้ยวหมากฝร่ังในบาร์ เพราะลูกค๎าเห็นแล๎วจะเป็นการไมนํ าํ ดู 19. ไมํควรผสมเหล๎าใกล๎ ๆ ลูกค๎า เพราะน้าเหล๎าอาจกระฉอก หก หรือมีอุบัติเหตุเกิดข้ึนกับลูกคา๎ ได๎ 20. ไมคํ วรรินนา้ หรอื เหลา๎ ให๎ลกู ค๎าจนเตม็ แกว๎ เพราะดูไมํสวยงาม 21. เวลาผสมเหล๎าควรต้ังโชวแ์ ละตวงเหล๎าหรือของที่ผสมในทท่ี ีล่ ูกค๎าสามารถมองเห็น เพราะการผสมเหล๎าและทาํ ทขี องบาร์เทนเดอรเ์ ปน็ สํวนหน่ึงทที่ าให๎รสชาติของเหลา๎ อรํอยขึ้น 22. ไมํควรอํานหนังสืออํานเลํน หนังสือพิมพ์ หรือคุยกับเพ่ือนฝูงเสียงดัง ตลอดจนไมํสมควรที่จะมีการหยอกลอ๎ กันเลํนเป็นอนั ขาด 23. ไมํหาวนอน ตลอดจนยนื ผิงผนงั ดว๎ ยอาการแสดงวําเหน่อื ยหรือเมอ่ื ยอยํางใดอยาํ งหนึง่ 24. ความสะอาดของพนักงานบาร์จะต๎องเร่ิมต้ังแตํหน๎าตาท่ีสะอาด ผมหวีเรียบร๎อย เส้ือผ๎าตลอดจนถุงนอํ งรองเทา๎ ทส่ี ะอาดเป็นเงางาม เล็บมอื ตอ๎ งตัดให๎สน้ั และหมนั่ ล๎างมืออยูเํ สมอ 25. ห๎ามใช๎มือจับปากแก๎วน้าบริการลูกค๎าควรจับท่ีก๎นแก๎ว และท่ีสาคัญคือ ความสะอาดของแกว๎ ตอ๎ งระวังอยําให๎มีคราบลิปสติก หรือรอยคราบของความสกปรกหลงเหลอื อยูํ 26. จงจาใสํใจวําไมํเพียงแตํจะบริการเครื่องด่ืมแกํลูกค๎าเทําน้ัน แตํเรายังขายบริการอีกด๎วยดงั น้ัน การบริการท่ีดพี ร๎อมด๎วยการตอ๎ นรับที่อบอนํุ ดว๎ ยไมตรจี ติ และใบหนา๎ ทย่ี ้มิ ละไมจะทาให๎ลูกค๎าติดใจและหวนกลบั มาอดุ หนุนทํานอีกในภายหน๎า8. กิจกรรมการเรียนรู้ ขน้ั นาเขา้ สู่บทเรียน 1. ครูกลาํ วถึงความรู๎เบอื้ งต๎นเกยี่ วกบั งานอาหารและเครื่องด่ืมในโรงแรม 2. ลักษณะของฝ่ายอาหาร เคร่ืองดืม่ งานเลี้ยงและบาร์ 3. การดาเนินงานของฝ่ายอาหาร เคร่ืองด่มื งานเลี้ยงและบาร์ 4. ความสมั พนั ธร์ ะหวาํ งบารแ์ ละบารเ์ ทนเดอร์

5. ให๎นักเรียนแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับความรู๎เบ้ืองต๎นเก่ียวกับงานอาหารและเคร่ืองดื่มใน โรงแรม ขัน้ สอน 1. ครูอธิบายถึงความร๎เู บื้องตน๎ เก่ยี วกบั งานอาหารและเครื่องดื่มในโรงแรม 2. ครไู ด๎แจกแจงลกั ษณะของฝา่ ยอาหาร เคร่ืองด่มื งานเล้ียงและบาร์ 3. การดาเนนิ งานของฝ่ายอาหาร เครื่องด่ืม งานเล้ียงและบาร์ 4. หนา๎ ทีแ่ ละความรับผิดชอบของบารเ์ ทนเดอร์ 5. ให๎นักเรียนแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับความรู๎เบ้ืองต๎นเกี่ยวกับงานอาหารและเคร่ืองด่ืมใน โรงแรม ข้ันสรปุ ครูกลําวสรุปความร๎ูเบ้ืองต๎นเกี่ยวกับงานอาหารและเคร่ืองด่ืมในโรงแรม ลักษณะและการดาเนินงานของฝา่ ยอาหาร เครอ่ื งดื่ม งานเลยี้ งและบาร์ ความสมั พนั ธ์ระหวํางบาร์และบาร์เทนเดอร์9. ส่อื และแหลง่ การเรียนรู้ 9.1 หนังสือประกอบการเรียนวิชาเครื่องดื่มและการผสมเคร่ืองดื่มห๎องสมุดวิทยาลัย/โรงเรียน ศูนยว์ ทิ ยบริการ ห๎องปฏบิ ัตกิ ารโรงแรม 9.2 สิ่งพิมพ์ประเภทตําง ๆ เชํน นิตยสาร/วารสาร/หนังสือ/Brochure/Catalog/Supplement/ บทความท่ีเก่ยี วขอ๎ งกบั งานโรงแรม ครูผสู๎ อน, Internet, E-learning, E-books, Website10. หลักฐาน 10.1 แบบประเมนิ ตามสภาพจรงิ 10.2 แบบทดสอบและกิจกรรมการฝกึ ทกั ษะ 10.3 แบบประเมินการทางานเป็นทมี (ใหค๎ วามสาคัญในการทางานเป็นทมี งาน) 10.4 การประเมินโดยกลมํุ เพ่อื น การประเมินตนเอง 10.5 แบบฟอรม์ การประเมินผลดา๎ นจิตพิสยั (Affective Domain)

11. วดั ผลและประเมนิ ผล 11.1 เครอ่ื งมอื ประเมิน 11.1.1 แบบประเมินตามสภาพจริง 11.1.2 แบบทดสอบและกิจกรรมการฝึกทักษะ 11.1.3 แบบประเมินการทางานเป็นทมี (ให๎ความสาคัญในการทางานเป็นทีมงาน) 11.1.4 การประเมนิ โดยกลุํมเพ่อื น การประเมนิ ตนเอง 11.1.5 แบบฟอร์มการประเมินผลด๎านจิตพิสัย (Affective Domain) 11.1.6 แบบทดสอบหลงั เรียน 11.1.7 แบบประเมินพฤตกิ รรมการเขา๎ รํวมกิจกรรมกลุํม 11.2 เกณฑ์การประเมนิ 11.2.1 การประเมินจากแบบทดสอบต๎องได๎คะแนนไมตํ ากวําร๎อยละ 50% 11.2.2 การประเมนิ พฤตกิ รรมการเข๎ารํวมกจิ กรรมกลมํุ ต๎องไดค๎ ะแนนไมํตากวาํ 80%) 1. ประเมนิ ผลจากกระบวนการปฏิบัติงานตามสภาพจรงิ 2. สังเกตขั้นตอนการปฏบิ ัตงิ าน การแบํงกลํุมการทางาน การบูรณาการโดยเชื่อมโยง วิชาท่ีเกี่ยวขอ๎ ง การบูรณาการภายในกลุํมงานและระหวํางกลมํุ งาน 3. การประเมินผล 3.1 ความถูกต๎องทางวิชาการ 3.2 ความคิดสร๎างสรรค์ การตรงตํอเวลา ความรบั ผดิ ชอบ 4. จติ พสิ ยั 4.1 ตั้งใจทางานจรงิ จงั 4.2 เตม็ ใจแกป๎ ญั หา 4.3 มุํงมั่นทางานใหส๎ าเรจ็ 4.4 ขยนั และให๎ความรวํ มมอื ดี 4.5 กระตอื รือรน๎ ในการทางาน 4.6 รบั อาสาผอู๎ ื่นทางาน 4.7 การมีไมตรีจติ (Rapport)

บนั ทกึ หลังการสอนผลการใชแ๎ ผนการจัดการเรียนรู๎……………………………………………………………………………………………………………....……………………………………………………………………………………………………………....สภาพปญั หา……………………………………………………………………………………………………………....……………………………………………………………………………………………………………....กิจกรรมท่ีผส๎ู อนพงึ พอใจ……………………………………………………………………………………………………………....……………………………………………………………………………………………………………....……………………………………………………………………………………………………………....ขอ๎ เสนอแนะในการปรับปรงุ แก๎ไข……………………………………………………………………………………………………………....……………………………………………………………………………………………………………....…………………………………………………………………………………………………………….... ลงชอ่ื ................................................ ( นางสาวปัณชดา ไชยมงคล )

บนั ทกึ ผลการนิเทศผลการใช้แผนการจดั กิจกรรมการเรียนรู้บรรลตุ ามจดุ ประสงค์  ครบทกุ ข๎อ  ไมํครบ.................เวลาท่ใี ช้ในการสอน  เหมาะสม  มากเกนิ ไป  นอ๎ ยเกินไปเน้ือหา  สอดคล๎องกบั จุดประสงค์  ไมํสอดคลอ๎ งกับจุดประสงค์กิจกรรมการสอน  ปฏิบตั ิได๎ครบทกุ กิจกรรม  ปฏิบัติกิจกรรมได๎บางสํวน  กจิ กรรมเหมาะสมกับเนือ้ หา  กิจกรรมบางสํวนไมํเหมาะสมการใช้ส่ือการสอน  เหมาะสม  ไมเํ หมาะสมผลการเรียนของนักเรยี น ความสนใจ / ต้ังใจเรยี น  มาก  ปานกลาง  นอ๎ ย การซกั ถาม / ตอบคาถาม  มาก  ปานกลาง  นอ๎ ย มคี วามรํวมมือในการจัดกิจกรรม  มาก  ปานกลาง  น๎อยสภาพปญั หาในการสอน (ถามครผู สู้ อน)............................................................................................................................................................กจิ กรรมทผี่ ้สู อนพงึ พอใจ (พูดคยุ , สอบถามครผู สู้ อน)............................................................................................................................................................ขอ้ เสนอแนะในการปรับปรงุผู๎สอน.........................................................................................................................................................ผน๎ู ิเทศ........................................................................................................................................................ บันทกึ การนิเทศ  สอนเนื้อหาไดค๎ รบถว๎ น  สอนเน้ือหาไดไ๎ มํครบถ๎วน  สอนได๎ตามเวลาทกี่ าหนด  สอนไดไ๎ มํตรงตามเวลาทกี่ าหนด  อ่ืน ๆ .................................................. ......................................................... (..................................................................) ผน๎ู เิ ทศ.............................................................

หน่วยท่ี..........2............ จานวน......7-12......ชัว่ โมง แผนการจดั การเรยี นรู๎ วิชา เครอื่ งดมื่ และการผสมเครอื่ งดมื่ ช่อื หน่วย หนวํ ยท่ี 2 ความรเ๎ู ก่ยี วกับเคร่อื งด่มื1. ชือ่ เรื่อง ความร๎ูเกยี่ วกบั เคร่อื งดมื่2. เวลาเรยี น 6 คาบ3. หัวข้อเรอ่ื ง ความรูเ๎ ก่ียวกบั เครอ่ื งดมื่4. ผังการวเิ คราะหม์ โนรายหนว่ ย ความรูเ๎ กย่ี วกบั เคร่อื งด่มื เคร่ืองดื่มประเภทท่ีไมํมีแอลกอฮอล์ผสม เคร่ืองด่ืมประเภทที่แอลกอฮอล์ผสมอยูํ อยํู โทษของเคร่อื งดมื่ ทม่ี ีแอลกอฮอล์ ประโยชนข์ องเครือ่ งดมื่ ท่มี ีแอลกอฮอล์5. สาระสาคัญ คาจากัดความของสปิริต (Spirit) และลิเคอร์ (Liquor) ประเภทของเหล๎าสปิริต หรือ ลิเคอร์ การกาเนิดสุรา ประโยชน์และโทษของสุราเมรยั6. จดุ ประสงค์การเรยี นการสอน - บอกคาจากัดความของสปิรติ หรอื ลเิ คอร์ - ระบปุ ระเภทของเหล๎าสปริ ติ หรือลเิ คอร์ - อธบิ ายการกาเนดิ สุรา

- บอกประโยชน์และโทษของสุราเมรัย7. เนอ้ื หาสาระ เครือ่ งด่ืมท่ีมีการจาหนํายในท๎องตลาด จะเห็นได๎วํามีอยูํหลายชนิดด๎วยกัน สามารถแบํงได๎เป็น 2ประเภท คือ 1. เคร่อื งดม่ื ประเภทท่ีไมํมีแอลกอฮอลผ์ สมอยูํเคร่ือ2ง.ดื่มประเภททแ่ี อลกอฮอลผ์ สมอยํูความจากดั ความของสปิรติ หรอื ลิเคอร์สปริ ิต หรอื ลิเคอร์หมายถึง เครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ ซ่ึงมีคาจากัดความที่มีความหมายบํงชัดและเรียกได๎งํายโดยท่ัวไป คือ เหล๎าเป็นเครื่องดื่มที่ได๎มาจาการหมักและนาไปกล่ัน จากธัญพืชตําง ๆ หลายชนิดด๎วยกัน เม่ือผํานกรรมวิธีการกล่ันเสร็จแล๎วยังไมํสามารถด่ืมได๎ โดยเรียกกันทั่วไปวํา “เหล๎าดิบ”จาเป็นต๎องนาไปผสมกับน้าบริสุทธิ์ ซ่ึงผํานกรรมวิธีการฆําเชื้อเรียบร๎อยแล๎ว เสร็จจากกรรมวิธีและขั้นตอนแลว๎ ก็จะต๎องนาไปวดั ปรมิ าตรใหไ๎ ดอ๎ ัตราสํวนของน้าทแ่ี นํนอนทต่ี อ๎ งใช๎ผสมเหล๎าดิบ จากน้ันก็จะทาการเก็บหรือบํม โดยการนาสํวนผสมเหลําน้ีไปเก็บกักไว๎ในถังไม๎ซึ่งเตรียมไว๎ เพื่อให๎เกิดสีและกลิ่นหอม เมื่อกาหนดระยะเวลาในการเก็บบํมจนได๎ที่แล๎วก็จะทาการทดสอบขั้นสุดท๎าย เพื่อจะให๎ได๎คุณภาพและรสชาตติ ามที่ผผู๎ ลิตไดต๎ ั้งกฏเกณฑเ์ อาไว๎ แลว๎ กส็ ามารถนาไปบรรจุขวดเพ่อื ดื่มหรือออกจาหนํายได๎ แตํยังมีเหล๎าอีกหลายชนิดหลังจากการหมักกลั่นและผสมแล๎ว ไมํต๎องนาไปเก็บบํมก็สามารถใช๎ดื่มได๎ เชํนยนี วอดก๎า อคั วาวิท ฟรุต บร่ันดี อวู ์ เดอ วฟี ์ เปน็ ต๎น Spirit or Liquor คือ เหล๎าท่ีมีดีกรีระหวําง 35, 45, 75 เป็นดีกรีของเหล๎าท่ีวงการแพทย์ท่ัวโลกให๎การรับรองและพิสูจน์แล๎ววํา สาหรับรํางกายมนุษย์ต๎านทานหรือรับได๎ ความหมายคือสามารถด่ืมได๎ แตํตอ๎ งเป็นไปในอตั ราทีพ่ อเหมาะพอควร ประเภทของเหล๎าสปริ ิต หรอื ลิเคอร์ เหล๎าสปิริต หรอื ลิเคอร์ แบํงออกเปน็ ประเภทที่สาคัญได๎ดังนี้ 1. วิสก้ี ผลติ จากธญั พืชพวกข๎าวตําง ๆ 2. บร่ันดี ผลิตจากองุํน หรือเหลา๎ องนุํ และผลไมต๎ ําง ๆ 3. รัม ผลิตจากอ๎อยหรือนา้ ตาลจากอ๎อย 4. ยนี ผลติ จากข๎าวโพด ขา๎ วสาลี เมล็ดจนู เิ ปอร์ เบอร์รี่ 5. วอดก๎า ผลิตจากมนั ฝรงั่ และขา๎ วสารี 6. เตกวิ ลา ผลิตจากตน๎ จีเนิส แอมมะรลิ ลสิ กับอะกาวี และเมสแคลรวมกนั 7. อัควาวิท, อูว์ เดอ วีฟ,์ ฟรตุ บรนั่ ดี ผลิตจากธญั พืชและผลไม๎

การกาเนิดสรุ า สุรา เมรยั นา้ โสม นา้ จัณฑ์ ฯลฯ สุรา คอื เหลา๎ ทไี่ ด๎จากการหมกั แลว๎ นาไปกล่นั เมรยั คือ เหล๎าทีไ่ ด๎จากกการหมกั เชํน เบยี ร์ เหล๎าองํนุ สุรามมี าตง้ั แตํโบราณกาลหลายร๎อยสมัย สุราหรอื เหล๎าเกิดขน้ึ จากธรรมชาตโิ ดยแท๎มนุษย์ได๎สังเกตและเรียนร๎ูจากพวกสัตว์ตําง ๆ ในป่า จากการที่พืชผักผลไม๎เหลําน้ันเกิดการหมักโดยตัวเองและธรรมชาติชวํ ยเสรมิ แตํงใหส๎ มบรู ณ์ พวกพชื ตําง ๆ เมอ่ื ไปพบแล๎งน้าและผลไม๎เหลําน้ีเข๎าก็จะดื่มหรือกินผลไม๎เหลําน้ีเมื่อมนุษย์ไปพบเห็นและสังเกตจากหลักการเหลําน้ี จึงนาข๎อมูลมาคิดวิเคราะห์และดัดแปลงเริ่มผลิตเป็นสุราข้นึ สรุ าท่ไี ดม๎ ีวิวัฒนาการและปรบั ปรงุ เรื่อยมาจากโบราณถึงสมัยปัจจุบัน ประเทศตําง ๆ ในโลกตํางก็มกี ารผลติ สุราของตนใชด๎ ่ืมและสํงออกจาหนาํ ย ประเทศที่ผลิตสุราและเมรัยออกจาหนํายมีชื่อเสียงไปท่ัวโลก เชํน สก๏อตแลนด์ อังกฤษไอร์แลนด์ อเมริกา อติ าลี ฮอลแลนด์ แคนาดา ฝร่ังเศส เยอรมนั ฮงั การี ฯลฯประโยชนแ์ ละโทษของสรุ าเมรัย ประโยชน์ของเครื่องดืม่ ท่มี ีแอลกอฮอล์ ไดแ๎ กํ 1. ให๎พลังงานตํอรํางกาย คือ 1 กรัมของแอลกอฮอล์ ให๎พลังงานตํอรํางกาย 7 แคลอรี ซ่ึง มากกวําโปรตีน และคาร์โบไฮเดรต 1 กรัม ให๎คุณประโยชน์ตํอรํางกายเพียง 4 แคลอรี แตํมี ข๎อเสียที่วํารํางกายไมํสามารถเก็บกักพลังงานเหลํานี้ไว๎ใช๎ได๎นาน การเผาผลาญหมดสิ่นไปก็ ได๎โดยการขับถาํ ยของราํ งกาย 2. เจรญิ อาหารและชํวยในการยอํ ยดขี ้ึน 3. ชํวยกระตุน๎ หัวใจทาให๎เลือดฉีดแรง 4. ทาให๎หลอดเลือดโดโรนารยี ข์ ยายตวั เพ่ือสํงไปหลอํ เลีย้ งทว่ั รํางกาย 5. ชวํ ยไตในระบบการขบั ถาํ ยให๎ดีขี้น 6. ทาให๎รํางกายเกดิ ความอบอุนํ 7. ใช๎ดื่มกํอนอาหารหรอื หลังอาหารกไ็ ด๎ 8. ใชด๎ ่ืมควบคูํกบั ของหวานได๎ 9. ด่มื เพอ่ื ให๎กาลงั คนไข๎หรอื ฟ้นื ไข๎ 10. ใช๎ผสมหรอื ดองยาได๎ 11. ใหท๎ าดับพิษอาหารคันและฆําเชอ้ื โรคได๎บางชนดิ 12. ใชผ๎ สมหรอื ประกอบอาหารได๎

โทษของเคร่อื งดื่มที่มีแอลกอฮอล์ 1. เปน็ สิง่ เสพยต์ ดิ เปน็ พษิ ตอํ ระบบประสาท ทาให๎เป็นโรคเหน็บชา 2. เปน็ พษิ ตอํ กระเพาะอาหารและลาไส๎ 3. เปน็ พิษร๎ายแรงตอํ โรคความดนั โลหิตสงู 4. ดื่มมากทาให๎ขาดสติสัมปชัญญะ เสียบุคลิกภาพ ขาดความรับผิดชอบและเป็นท่ีรังเกียจของ สังคม 5. ดมื่ มากจนตดิ เปน็ นิสัย ทาใหเ๎ กิดโรคพิษสรุ าเรื้อรงั ตบั ไตพกิ ารได๎ 6. ทาให๎เกดิ หน้ี เสียงาน เสยี อนาคต8. กิจกรรมการเรียนรู้ ขน้ั นาเขา้ ส่บู ทเรยี น 1. ครูกลําวถงึ การกาเนดิ สรุ า 2. ครบู อกคาจากดั ความของสปิริต หรือลเิ คอร์ 3. ครูระบุประเภทของเหล๎าสปิรติ หรือลเิ คอร์ 4. บอกประโยชน์และโทษของสรุ าเมรยั ขนั้ สอน 1. ครูอธิบายถงึ การกาเนดิ สุรา 2. ครไู ด๎ บอกคาจากดั ความของสปิรติ หรอื ลเิ คอร์ 3. ครกู ลาํ วถงึ ประเภทของเหล๎าสปริ ติ หรือลิเคอร์ 4. ครูไดก๎ ลาํ วถงึ ประโยชนแ์ ละโทษของสรุ าเมรยั ข้ันสรุป ครูกลําวสรุปการกาเนิดสุรา คาจากัดความของสปิริต หรือลิเคอร์ ประเภทของเหล๎าสปิริต หรือลิเคอร์ และได๎กลาํ วถงึ ประโยชนแ์ ละโทษของสุราเมรยั9. สื่อและแหลง่ การเรยี นรู้ 5.1 หนงั สอื เรยี นรวบรวมรายวิชาเครื่องด่มื และการผสมเครื่องดม่ื 5.2 หอ๎ งสมดุ วิทยาลยั /โรงเรยี น ศนู ย์วทิ ยบริการ ห๎องปฏบิ ตั ิการโรงแรม 5.3 สิ่งพิมพ์ประเภทตําง ๆ เชํน นิตยสาร/วารสาร/หนังสือ/Brochure/Catalog/Supplement/ บทความที่เก่ียวข๎องกบั งานโรงแรม

5.1 ครผู ูส๎ อน, Internet, E-learning, E-books, Website10. หลกั ฐาน 6.1 แบบประเมินตามสภาพจริง 6.2 แบบทดสอบและกิจกรรมการฝึกทกั ษะ 6.3 แบบประเมนิ การทางานเปน็ ทมี (ให๎ความสาคญั ในการทางานเป็นทมี งาน) 6.4 การประเมินโดยกลุํมเพ่ือน การประเมินตนเอง 6.5 แบบฟอร์มการประเมินผลดา๎ นจติ พสิ ัย (Affective Domain)11. วัดผลและประเมนิ ผล 11.1 เครือ่ งมือประเมิน 11.1.1 แบบประเมินตามสภาพจริง 11.1.2 แบบทดสอบและกิจกรรมการฝึกทกั ษะ 11.1.3 แบบประเมินการทางานเป็นทีม (ให๎ความสาคัญในการทางานเป็นทีมงาน) 11.1.4 การประเมินโดยกลํมุ เพื่อน การประเมินตนเอง 11.1.5 แบบฟอร์มการประเมินผลด๎านจิตพิสัย (Affective Domain) 11.1.6 แบบทดสอบหลังเรียน 11.1.7 แบบประเมินพฤตกิ รรมการเขา๎ รํวมกิจกรรมกลุํม 11.2 เกณฑก์ ารประเมนิ 11.2.1 การประเมนิ จากแบบทดสอบต๎องได๎คะแนนไมตํ ากวําร๎อยละ 50% 11.2.2 การประเมินพฤติกรรมการเข๎ารวํ มกจิ กรรมกลมํุ ต๎องได๎คะแนนไมํตากวํา 80%) 1. ประเมนิ ผลจากกระบวนการปฏิบตั งิ านตามสภาพจรงิ 2. สังเกตข้ันตอนการปฏิบัติงาน การแบํงกลุํมการทางาน การบูรณาการโดยเช่ือมโยง วชิ าที่เกีย่ วข๎อง การบูรณาการภายในกลมุํ งานและระหวาํ งกลุมํ งาน

3. การประเมินผล 3.1 ความถูกตอ๎ งทางวชิ าการ 3.2 ความคดิ สร๎างสรรค์ การตรงตอํ เวลา ความรบั ผดิ ชอบ4. จติ พสิ ัย 4.1 ต้ังใจทางานจรงิ จัง 4.2 เตม็ ใจแกป๎ ญั หา 4.3 มงํุ ม่นั ทางานให๎สาเร็จ 4.4 ขยันและใหค๎ วามรวํ มมอื ดี 4.5 กระตือรอื ร๎นในการทางาน 4.6 รบั อาสาผูอ๎ ืน่ ทางาน 4.7 การมีไมตรีจติ (Rapport)

บันทึกหลงั การสอนผลการใช๎แผนการจดั การเรยี นร๎ู……………………………………………………………………………………………………………....……………………………………………………………………………………………………………....สภาพปัญหา……………………………………………………………………………………………………………....……………………………………………………………………………………………………………....กจิ กรรมท่ผี ๎สู อนพึงพอใจ……………………………………………………………………………………………………………....……………………………………………………………………………………………………………....……………………………………………………………………………………………………………....ข๎อเสนอแนะในการปรับปรงุ แก๎ไข……………………………………………………………………………………………………………....……………………………………………………………………………………………………………....…………………………………………………………………………………………………………….... ลงชือ่ ................................................ ( นางสาวปัณชดา ไชยมงคล )

บันทึกผลการนเิ ทศผลการใชแ้ ผนการจัดกจิ กรรมการเรียนรู้บรรลตุ ามจุดประสงค์  ครบทุกข๎อ  ไมํครบ.................เวลาทใ่ี ชใ้ นการสอน  เหมาะสม  มากเกินไป  นอ๎ ยเกนิ ไปเนอ้ื หา  สอดคลอ๎ งกับจุดประสงค์  ไมํสอดคลอ๎ งกับจุดประสงค์กจิ กรรมการสอน  ปฏบิ ตั ิไดค๎ รบทุกกจิ กรรม  ปฏบิ ตั กิ ิจกรรมไดบ๎ างสํวน  กิจกรรมเหมาะสมกับเน้อื หา  กจิ กรรมบางสวํ นไมํเหมาะสมการใช้สื่อการสอน  เหมาะสม  ไมํเหมาะสมผลการเรยี นของนกั เรียน ความสนใจ / ตั้งใจเรยี น  มาก  ปานกลาง  นอ๎ ย การซกั ถาม / ตอบคาถาม  มาก  ปานกลาง  น๎อย มคี วามรวํ มมือในการจัดกิจกรรม  มาก  ปานกลาง  น๎อยสภาพปัญหาในการสอน (ถามครูผสู้ อน)............................................................................................................................................................กจิ กรรมท่ผี ู้สอนพงึ พอใจ (พูดคุย, สอบถามครูผู้สอน)............................................................................................................................................................ข้อเสนอแนะในการปรบั ปรุงผูส๎ อน .........................................................................................................................................................ผนู๎ ิเทศ........................................................................................................................................................ บนั ทึกการนิเทศ  สอนเน้ือหาไดค๎ รบถว๎ น  สอนเนือ้ หาไดไ๎ มคํ รบถ๎วน  สอนได๎ตามเวลาท่กี าหนด  สอนได๎ไมตํ รงตามเวลาท่กี าหนด  อน่ื ๆ .................................................. ......................................................... (..................................................................) ผนู๎ ิเทศ.............................................................