บัตรเครดิต มนุษย์ เงินเดือน

สำหรับมือใหม่ที่ยังไม่เคยถือบัตร อาจมีคำถามในใจว่าจะสมัครบัตรไหนดี เตรียมตัวยังไง วันนี้ The Richest Duck จะมาเผยเคล็ดลับ สมัครยังไงให้ผ่าน ฉบับมนุษย์เงินเดือน พร้อมกับแนะนำ บัตรเครดิตใบแรกที่คุ้ม ไม่เสียค่าธรรมเนียม!! แล้วใบไหนคุ้ม ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คุณ บอกเลยถ้าเลือกดี ๆ มีแต่คุ้มกับคุ้ม

มีบัตรเครดิตดีอย่างไร? ทำไมใคร ๆ ก็อยากมี

ข้อดีของการมีบัตรเครดิต

• ลดการพกเงินสดจำนวนมาก ๆ ใช้จ่ายสินค้าและบริการต่าง ๆ ได้ในใบเดียว

• ได้รับส่วนลดในการซื้อสินค้ากับร้านค้าที่เข้าร่วมโปรโมชั่นของบัตร

• ได้คะแนนสะสมจากการใช้จ่ายผ่านบัตร เพื่อใช้แลกเป็นของรางวัลหรือส่วนลด

• ได้รับเครดิตเงินคืน จากการใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตตามเปอร์เซ็นต์ของจำนวนเงินที่ใช้ไป

• สิทธิพิเศษในการเข้าใช้บริการห้องพักรับรองของสนามบินฟรีทั้งภายในประเทศ และต่างประเทศทั่วโลก

• ผ่อนชำระสินค้าและบริการได้หลายประเภทได้ในอัตราดอกเบี้ย 0% สูงสุดถึง 10 เดือนได้ (ถ้าช่วงโปรโมชั่นสามารถผ่อนได้นานถึง 36 เดือนเลยก็มีนะ)

• กดเงินสดผ่านบัตรจากตู้ ATM ได้ใช้ในยามฉุกเฉินได้เต็มวงเงิน (สำหรับฉุกเฉินเท่านั้นนะ)

ประโยชน์เยอะขนาดนี้กับวลีฮิตที่ว่า “ของมันต้องมี” ทำให้บางครั้งเกิดการใช้จ่ายเกินตัว หรือใช้จ่ายแบบไม่ทันคิด หากจ่ายไม่ตรงเวลาที่กำหนด หรือหมุนเงินไม่ทันจนต้องกดเงินสดมาใช้ เงินส่วนนี้จะถูกคิดดอกเบี้ยทันที ทำให้กลายเป็นภาระหนี้สินในภายหลังนั่นเอง

⚠️รู้หรือไม่! บัตรเครดิตมีอัตราดอกเบี้ยสูงถึง 18% ต่อปี

เตรียมตัวอย่างไร สมัครบัตรเครดิตใบแรกให้ผ่านฉลุย!!!

1. ตรวจสอบสถานะของตัวเองก่อนสมัคร

• ฐานเงินเดือน โดยทั่วไปแล้ว เราสามารถสมัครบัตรเครดิตได้เมื่อมีฐานเงินเดือนขั้นต่ำอยู่ที่ 15,000 บาท และรายรับดังกล่าวต้องเป็นรายได้ประจำ

• ระยะเวลาการทำงาน ต้องทำงานมาอย่างน้อย 4-6 เดือน

• ไม่มีประวัติการผิดชำระหนี้มาก่อน

2. เตรียมความพร้อมในส่วนของเอกสารการสมัคร

1. สำเนาบัตรประชนชน 1 ใบ

2. สำเนาหน้าสมุดบัญชีธนาคาร 1 ใบ ที่ใช้รับเงินเดือน

3. สำเนารายการเงินฝากถอนในบัญชีเงินฝาก (Bank Statement) ที่ใช้รับเงินเดือนย้อนหลัง 3-6 เดือน

4. สำเนาสลิปเงินเดือนย้อนหลัง 1-3 เดือน

5. หนังสือรับรองเงินเดือน

6. สำเนาทะเบียนบ้าน (สำหรับบางธนาคาร)

7. เอกสารอื่น ๆ

⚠️เอกสารมีผลต่อการอนุมัติวงเงิน เอกสารต้องครบถ้วนตามที่ธนาคารกำหนด มีลายเซ็นกำกับชัดเจน ไม่ควรใช้น้ำยาลบคำผิด หรือขีดฆ่าตัวหนังสือเยอะเกินไป โดยเฉพาะเอกสารแสดงรายได้ เช่น Statement , สลิปเงินเดือน

ทุกธนาคารจะมีการขอเบอร์โทรศัพท์พื้นฐานของบริษัท ในกรณีที่บริษัทไม่มีเบอร์พื้นฐานที่เป็นเบอร์ 02 สามารถใช้เบอร์มือถือแทนได้ แต่เบอร์มือถือต้องเป็นเบอร์แบบรายเดือนมีการแจ้งจดทะเบียนในนามของบริษัท มีที่ตั้งเป็นหลักแหล่ง ก็สามารถแนบสำเนาใบแจ้งหนี้ค่าโทรศัพท์ให้กับธนาคารไปด้วยซึ่งจะทำให้ดูมีความน่าเชื่อถือมากยิ่งขึ้น

นักศึกษาจบใหม่ หรือใครที่พึ่งเริ่มทำงาน คิดว่าอยากมี “บัตรเครดิต” สักใบแต่คิดว่า เอ้เงินเดือนเท่านี้จะทำได้ไหมน้า? ไม่ต้องห่วงเลย วันนี้พี่ทุยมีรายละเอียดบัตรเครดิตที่น่าสนใจ เพียงมีเงินเดือนเริ่มต้นที่ “15,000 บาท ก็สมัครบัตรเครดิตได้”

มีทั้งรายละเอียดของ “บัตรเครดิต” และจุดเด่นของบัตร ที่เพื่อน ๆ สามารถเลือกให้เหมาะสมกับการใช้งานของตนเองอีกด้วย ไปดูกันเลย

          หวังว่ามนุษย์เงินเดือนอย่างเราๆนั้น จะถูกใจ มาลองดูและเปิดใจกันได้ถึงแม้เงินจะน้อย ได้เงินเดือนละ 15,000 บาทก็สามารถสมัครบัตรเครดิตได้ เพื่อนๆก็ลองเช็คดูเลยว่าอันใหนจะตอบโจทย์เราที่สุด รับรองว่ามีแต่ได้กับได้ และเราได้นับเสนอสิ่งที่ดีให้กับเพื่อนๆ เพราะแต่ละบัตรนั้นไม่มีการจ่ายค่าธรรมเนียมเลยปีเลย หวังว่าจะโดนใจมนุษย์เงินเดือนอย่างแน่นอน

หลังจากที่เริ่มทำงานมาได้สักพัก ปฎิเสธไม่ได้ว่า มนุษย์เงินเดือนเกือบทุกคน ก็เริ่มมีความต้องการอยาก "ทำบัตรเครดิต" ใบแรก เนื่องด้วยสังคมปัจจุบัน ยุคสมัยที่เปลี่ยนไป เริ่มเข้าสู่ยุคดิจิตอล การจับจ่ายใช้สอยเริ่มเป็นเรื่องที่ง่ายขึ้น ไม่จำเป็นต้องพกเงินสด สามารถสั่งซื้อของได้จากทางออนไลน์ มีความสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น บัตรเครดิตจึงยิ่งมีความจำเป็นต่อมนุษย์เงินเดือนอย่างเราๆ นี่ล่ะ

เพราะประโยชน์ของบัตรเครดิต ไม่ใช่แค่เพียงเอาไว้รูดซื้อของเพียงเท่านั้น แต่ยังสามารถนำเอามาเป็นส่วนลดในการจับจ่ายซื้อของ รวมไปถึงโปรโมชั่นร้านค้าต่างๆ สิทธิพิเศษที่จะได้รับเฉพาะบัตรเครดิตเพียงเท่านั้น รวมไปถึงการสะสมคะแนน แลกแต้ม เพื่อรับของสมนาคุณ และแลกรับสิทธิประโยชน์ต่างๆ

หลายๆ คน พอจะทราบประโยชน์ของบัตรเครดิตกันมาบ้างแล้ว ถ้าอยากจะทำบัตรเครดิตสักหนึ่งใบ เราจะเริ่มต้นอย่างไรดีล่ะ มีหลายธนาคารที่ให้บริการด้านบัตรเครดิต แต่คงไม่ดีแน่ถ้าเราเลือกที่จะสมัครบัตรเครดิตกับทุกธนาคาร ปัจจัยหรือสิ่งที่สำคัญที่สุดในการตัดสินใจเลือกสมัครบัตรเครดิต มีดังนี้

1. สิทธิประโยชน์ที่เราจะได้รับ

เราควรคำนึงถึงสิทธิประโยชน์ที่เราจะได้รับเป็นหลัก อย่างเช่น สำหรับนักช้อป เห็นของ Sale แล้วร้องว้าวว เห็นของ Sale แล้วใจมันเริ่มหวิวๆ สั่นๆ อยากจะคว้ามาเป็นเจ้าของให้ได้   ไม่ว่าจะเป็นช้อปออนไลน์ Shopee หรือ Lazada หรือช้อปตามห้างสรรพสินค้าชื่อดัง ก็แนะนำเน้นบัตรที่มีสิทธิพิเศษได้เครดิตเงินคืนเยอะๆ (Cash Back) และโปรโมชั่นส่วนลดเป็นหลัก หรือผ่อนชำระ 0% ได้ก็ยิ่งดี เช่น ผ่อน 0% สูงสุด 24 เดือน จะทำให้เราได้ทั้งประหยัดลดค่าใช้จ่าย ได้สินค้าราคาถูก คุ้มค่า และยังทำให้เราสามารถผ่อนในจำนวนไม่มากในแต่ละเดือนอีกด้วย

• โปรโมชั่นรับเครดิตเงินคืน แน่นอนว่าเกือบทุกผู้ให้บริการจะมีโปรโมชั่นเงินคืนมาให้กับร้านค้า สินค้าบางประเภทที่ร่วมรายการ ซึ่งเราจะไม่ได้รับเงินคืนกับทุกสินค้าและทุกครั้งที่รูด ถ้าจะให้ดีเราควรเลือกผู้ให้บริการที่ให้เงินคืนครอบคลุมสินค้าหลายประเภท เพื่อความคุ้มสุดๆ ยกตัวอย่างเช่น บัตรเครดิตกรุงศรีเฟิร์สช้อยส์ วีซ่า แพลทินัม รับเครดิตเงินคืนคุ้ม ตลอดปี ครอบคลุมแทบทุกไลฟ์สไตล์การใช้จ่ายที่จำเป็น อาทิ ซูเปอร์มาร์เก็ต จองโรงแรม แพคเกจทัวร์ ตั๋วเครื่องบิน ช้อปออนไลน์ ช้อปห้างสรรพสินค้า ตกแต่งบ้าน ร้านอาหาร ภัตตาคาร เติมน้ำมันและอีกมากมาย ไม่ต้องรอง้อโปร ก็ช้อป กิน เที่ยวกันได้เพลินๆ ได้เงินคืนคุ้มๆเลยจ้า

• คะแนนสะสม หรือพอยท์ ที่เราจะได้รับเวลารูดซื้อของ ซึ่งเราจะสามารถนำพอยท์ในส่วนนี้ ไปแลกคะแนนเพื่อเป็นส่วนลดเพิ่มได้อีก เพราะฉะนั้น ยิ่งบัตรที่มีการคูณพอยท์ให้เราเยอะๆ ก็จะยิ่งทำให้เรามีพอยท์เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว เพื่อนำไปเป็นส่วนลดหรือเครดิตเงินคืนได้ค่ะ

• ใครว่าผ่อน 0% นั้นไม่สำคัญ นอกจากเราจะได้ของเหมือนซื้อเงินสดแล้ว เรายังได้ประหยัดไม่ต้องเสียดอกเบี้ย ค่าธรรมเนียม แถมได้ผ่อนจ่ายเป็นงวดๆ โดยที่ไม่ต้องเสียเงินก้อนโตในครั้งเดียว เรายังสามารถนำเงินในส่วนนี้ไปทำอะไรได้อีกเยอะเลย และยิ่งผ่อนนานแบบไม่เสียดอกเบี้ยได้ก็ยิ่งดี เพราะจะทำให้เราลดค่าใช้จ่ายไปในแต่ละเดือนได้ค่อนข้างมากเลยทีเดียว เคยไหมฉันอยากได้แอร์รุ่นนี้จังเลย แต่ว่าไม่มีโปรผ่อน 0% ร่วมรายการกับบัตรไหนเลย ปัญหาเหล่านี้ของคุณจะหมดไป ถ้ามีบัตรเครดิตกรุงศรีเฟิร์สช้อยส์ วีซ่า แพลทินัม จะได้รับอภิสิทธิ์ผ่อน 0% สั่งได้ดังใจ เปลี่ยนทุกยอดใช้จ่ายบัตรเครดิต เป็นยอดแบ่งจ่ายรายเดือน 0% นาน 3 เดือน แบบไม่ต้องรอง้อโปรร่วมรายการอีกต่อไป อีกทั้งยังโปรโมชั่นผ่อน 0% สูงสุดถึง 24 เดือน สำหรับสินค้ามือถือ เครื่องใช้ไฟฟ้ารุ่นใหม่ๆ ที่ร่วมรายการอีกด้วย

• ความ Privileges อภิสิทธิ์เหนือชั้น  ข้อนี้เฟิร์สช้อยส์ขอแถมให้ค่ะ ไม่ใช่ทุกบัตรที่จะสามารถให้ความ Privileges ได้ แต่ถ้าเราได้ข้อนี้มาถือว่าโชคดีมากๆเลยค่ะ ความ Privileges ในที่นี้คือ สิทธิพิเศษต่างๆ ที่ได้มานอกเหนือจากการใช้คะแนนไปแลกมา ก็คือการได้สิทธิพิเศษที่เพียงแค่ลงทะเบียน ก็สามารถรับสิทธิ์นั้นไปใช้ได้ฟรีๆ เช่น บัตรเครดิตกรุงศรีเฟิร์สช้อยส์ วีซ่า แพลทินัม มีสิทธิพิเศษ BLUE PLUS+ and BLUE ในการรับส่วนลด หรือรับของฟรีกับแบรนด์ชั้นนำต่างๆ ที่ร่วมรายการ เช่น Grab , Lazada , KAMU , True Coffee , D'Oro , Dunkin Donuts

2. ตาม Lifestyle ของเรา

บัตรเครดิตของแต่ละสถาบันการเงิน มีความแตกต่างกันตรงที่สิทธิประโยชน์ ขึ้นอยู่กับกิจกรรมไลฟ์สไตล์ความเป็นอยู่ของเราด้วย ว่าเราชอบแบบไหน อย่างเช่น เราเป็นคนที่ชอบช้อปปิ้ง เข้าห้างฯซื้อของเป็นประจำ ควรเลือกสมัครบัตรเครดิตที่มีโปรโมชั่นร่วมกับค่ายช้อปออนไลน์ชั้นนำ ห้างสรรพสินค้า ซูเปอร์มาร์เก็ต ที่เราไปซื้อของเป็นประจำ จะทำให้เราได้สิทธิพิเศษจากห้างฯนั้นๆ ไม่ว่าจะเป็นส่วนลด แลกคะแนน รับเครดิตเงินคืน เป็นต้น หรือถ้าเราเป็นคนชอบทานอาหาร เราก็ควรเลือกบัตรเครดิตที่มีโปรโมชั่นร่วมกับร้านอาหาร หรือส่วนลดร้านอาหารต่างๆ ที่มีมากกว่าบัตรเครดิตใบอื่นๆ

3. ตรวจสอบคุณสมบัติ

เนื่องจากเกณฑ์การสมัครบัตรของแต่ละสถาบันการเงิน และแต่ละบัตรเครดิตนั้นไม่เหมือนกัน จึงต้องตรวจสอบให้ถี่ถ้วน ว่าเรามีสิทธิ์ หรือคุณสมบัติที่จะสามารถสมัครบัตรเครดิตตามที่เราต้องการได้หรือไม่ เช่น

• ฐานเงินเดือน โดยส่วนใหญ่รายได้ขั้นต่ำจะประมาณ 15,000 บาทขึ้นไป

• ระยะเวลาการทำงาน อยู่ในเกณฑ์ที่แต่ละสถาบันการเงินกำหนดไว้หรือไม่

• มีข้อมูลที่ติดต่อง่าย ชัดเจน เบอร์โทรติดต่อ ที่อยู่ และสถานที่ทำงาน เป็นหลักแหล่งสามารถติดต่อได้ พร้อมทั้งระบุเบอร์ที่ทำงานลงในใบสมัครให้ชัดเจน เพราะผู้ให้บริการนั้นต้องการปล่อยสินเชื่อให้กับผู้ที่มีความน่าเชื่อถือ และสามารถติดต่อได้ง่าย เมื่อผ่านการพิจารณาคุณสมบัติในขั้นตอนแรกแล้ว จะต้องมีการโทรหาผู้สมัครเพื่อยืนยันข้อมูล

4. มีประวัติการธุรกรรมทางการเงินที่ดี

สำหรับมนุษย์เงินเดือนอย่างเราๆ สมัครบัตรเครดิตใบแรก แน่นอนว่าต้องไม่เคยมีประวัติในเครดิตบูโรในการทำธุรกรรมต่างๆ อย่างแน่นอน จึงทำให้สถาบันการเงินไม่สามารถเช็คประวัติข้อมูลทางการเงินของเราได้ เพราะฉะนั้นควรลองทำธุรกรรมเล็กๆ มีการชำระหนี้อย่างสม่ำเสมอ เพียงเท่านี้ ทางผู้ให้บริการก็สามารถตรวจสอบความน่าเชื่อถือของเราได้แล้วค่ะ

5. เตรียมความพร้อมในส่วนของเอกสารการสมัคร

เนื่องจากจะมีผลต่อการอนุมัติวงเงิน เอกสารต้องครบถ้วนตามที่แต่ละผู้ให้บริการกำหนด มีลายเซ็นกำกับชัดเจน ต้องระวังไม่ให้มีรอยลบหรือรอยขีดฆ่าเยอะจนเกินไป และไม่ควรใช้น้ำยาลบคำผิด ควรกรอกข้อมูลด้วยลายมือตัวบรรจง อ่านง่าย และกรอกให้ครบทุกช่องที่เว้นไว้ โดยเฉพาะเอกสารแสดงรายได้ เช่น Statement , สลิปเงินเดือน ยิ่งเตรียมให้มากเท่าไร ยิ่งทำให้มีโอกาสได้วงเงินสูงตามไปด้วย เนื่องจากหากมีความต้องการที่จะขอเพิ่มวงเงินในภายหลัง จะทำให้เพิ่มความยุ่งยากมากขึ้นอีกด้วย

6. อัตราดอกเบี้ย

สิ่งจำเป็นต้องรู้ ในกรณีที่เราเลือกจ่ายขั้นต่ำจากยอดเรียกเก็บทั้งหมด หากจ่ายไม่ครบจำนวน หรือจ่ายเงินล่าช้า ทุกกรณีเราต้องเสียดอกเบี้ยตามอัตราที่กำหนดของแต่ละผู้ให้บริการ

7. ใช้บัตรเครดิตอย่างไร ไม่ให้เสียค่าธรรมเนียมรายปี

ในความเป็นจริง ณ ปัจจุบัน มีบัตรเครดิตหลายธนาคารที่ให้บริการในรูปแบบเสียค่าธรรมเนียมรายปี แต่นั่นก็ไม่ใช่ประเด็นหลักที่จะทำให้เราต้องกังวลในเรื่องค่าใช้จ่ายในส่วนนี้ เพราะเพียงแค่เราใช้บัตรให้ถึงตามจำนวนขั้นต่ำที่ทางผู้ให้บริการกำหนดไว้ต่อปี เพียงเท่านี้ก็จะสามารถทำให้เราไม่จำเป็นต้องเสียค่าธรรมเนียมรายปีได้เช่นกัน เราจึงจำเป็นต้องเลือกสมัครบัตรเครดิตกับผู้ให้บริการที่สามารถให้เราใช้จ่ายผ่านบัตรฯ สะสมไม่สูงมากนัก เช่น บัตรเครดิตกรุงศรีเฟิร์สช้อยส์ วีซ่า แพลทินัม ไม่มีค่าธรรมเนียมแรกเข้าและรายปีปีแรก และยกเว้นค่าธรรมเนียมรายปีในปีต่อไป เมื่อมียอดใช้จ่ายผ่านบัตรฯสะสม 18,000 บาทต่อปีเท่านั้นเอง

8. ความสะดวกสบายในการชำระเงิน

สามารถเลือกชำระเงินได้หลากหลายช่องทาง โดยเฉพาะช่องทางฟรีค่าธรรมเนียมที่มีให้เราเลือกหลากหลาย อย่างเช่น บัตรเครดิตกรุงศรีเฟิร์สช้อยส์ วีซ่า แพลทินัม จะได้รับฟรีค่าธรรมเนียมกับการชำระผ่านทุกช่องทางของธนาคารกรุงศรีอยุธยา ไม่ว่าจะชำระที่สาขาธนาคารกรุงศรีฯ ใกล้บ้าน ที่มีมากกว่า 600 แห่งทั่วประเทศ  หรือชำระออนไลน์ ผ่าน แอพ KMA , ช่องทางอินเตอร์เน็ต หรือเลือกจ่ายผ่านตู้ ATM ทำให้เราสะดวกต่อการชำระเงิน ไม่ต้องเดินทาง และลดเวลาในการรอต่อคิว

การมีบัตรเครดิตสักหนึ่งใบ หลายๆ คน อาจจะมองว่าเป็นเรื่องที่ไม่ควรหรือเป็นการสร้างหนี้ในภายหลัง แต่ลองมองในอีกมุม บัตรเครดิตก็ให้ประโยชน์กับเรามากกว่าที่คิด ถ้าเรารู้จักใช้ให้เป็น ใช้ให้ถูกที่ ถูกเวลา ยิ่งไปกว่านั้นอาจจะทำให้เราสามารถเก็บออมเงินได้มากขึ้นอีกด้วย