การสร้างสมดุลชีวิต ในการทํางาน

Work-life balance การสร้างสมดุลระหว่างการทำงานและชีวิตส่วนตัว เป็นหนึ่งในสิ่งที่คนทำงานพูดถึงอยู่บ่อยๆ หรือตั้งคำถามอยู่เสมอว่าต้องทำอย่างไร สองสิ่งนี้ถึงจะสมดุล และบางคนอาจจะตั้งเป็นเป้าหมายเลยด้วยซ้ำ แต่เราสามารถหาจุดที่สมดุลระหว่างสองสิ่งนี้ได้จริงเหรอ UK Berkeley Haas กล่าวถึง Work-life balance ว่าคำนี้ให้ความรู้สึกถึงการแยก Work กับ Life ออกจากกันอย่างชัดเจน เหมือนว่าสองสิ่งนี้เป็นขั้วตรงข้ามและต้องแข่งขันกันอยู่เสมอ

Work-life integration เริ่มเข้ามีบทบาทมากขึ้นเมื่อไม่นานมานี้ ข้อมูลจาก UK Berkeley Haas อธิบายว่า Work-life integration มองการทำงาน และชีวิตส่วนตัวเป็นภาพรวม เมื่อคนรุ่นใหม่เริ่มเข้าสู่วัยทำงาน มุมมองการทำงานและการใช้ชีวิตก็เปลี่ยนแปลงไปจากคนรุ่นก่อน เน้นความสำคัญกับความเข้ากันของงานและชีวิต

จะเป็น Work-life balance หรือ Work-life integration ก็อยู่ที่ใครจะมอง และนำไปปรับใช้กับตัวเองอย่างไร รวมถึงลักษณะของงานที่ทำ กฎระเบียนของบริษัท ว่าแบบไหนถึงจะเหมาะ ถ้าสุดท้ายแล้วคนคนนั้นมีความสุขกับทั้งสองอย่างในสัดส่วนที่แตกต่างกันไปก็ไม่น่าจะเป็นปัญหาอะไร

ไม่ว่าทุกคนจะเลือกแบบไหน ทำได้หรือไม่ ก็อย่าให้คำนิยามมาขีดเส้นหรือตีกรอบชีวิตของเราจนเกินไป จนเราไม่ได้ใช้ชีวิตของตัวเองนะ

SD Journey จะคอยหาข้อมูลที่น่าสนใจเกี่ยวกับการทำงานและใช้ชีวิตอย่างมีความสุข มาแบ่งปันให้กับทุกคนผ่านทางเพจนี้ อย่าลืมติดตามกันนะ

ขอบคุณข้อมูล

https://haas.berkeley.edu/human.../work-life-integration/

https://www.adp.com/.../the-evolution-from-work-life...

ภาพประกอบ

https://www.freepik.com/photos/woman created by goonerua

การสร้างสมดุลชีวิต ในการทํางาน

เริ่มต้นปี 2021 หลายบริษัท เริ่มมีการปรับให้พนักงาน Work From Home ทำให้ต้องมีการปรับลักษณะการทำงาน การติดต่อประสานงานความร่วมมือต่างๆ กัน ภายในบริษัท ส่งผลให้เกิดการเหลื่อมล้ำกันระหว่างเวลาในชีวิตส่วนตัวและเวลาการทำงาน เนื่องจากไม่ได้มีกรอบเวลาการทำงานที่ชัดเจนเหมือนทำงานที่บริษัท โดยในบทความนี้เราจะขอแนะนำถึงวิธีที่จะช่วยสร้างสมดุล “Balancing” ชีวิตส่วนตัวและการทำงานให้ดียิ่งขึ้น ด้วยเทคนิคง่าย ๆ 5 วิธีดังนี้

1. จัดสรรพื้นที่สำหรับการทำงานโดยเฉพาะ : จัดพื้นที่สำหรับการทำงานเป็นสัดส่วนแยกจากพื้นใช้ชีวิตประจำวันส่วนตัว นอกจากจะช่วยให้มีโฟกัสและมีสมาธิในการทำงานที่ดีขึ้นแล้ว ยังช่วยในเรื่องการรับรู้ให้ผู้ทำงานสามารถแยกแยะพื้นที่ทำงานและพื้นที่ส่วนตัวได้ดียิ่งขึ้น และสามารถสร้างสมดุลระหว่างเวลางานและเวลาพักผ่อนได้

2. จัดลำดับความสำคัญก่อนหลัง : วางแผนการทำงานโดยลำดับความสำคัญและความเร่งด่วนของงาน ที่ต้องทำในแต่ละวัน จะช่วยทำให้ผู้ทำงานสามารถประมาณปริมาณงานและเวลาที่ต้องใช้ได้ดียิ่งขึ้น ซึ่งจะช่วยให้ งานที่ได้รับหมายสำเร็จภายในกรอบเวลา และไม่ล่วงเวลาจนรบกวนเวลาในชีวิตส่วนตัว

3. จัดสรรให้มีการประชุมกันภายในทีมอย่างสม่ำเสมอ : จัดให้มีการประชุมออนไลน์ พูดคุยกันภายในทีมอย่างสม่ำเสมอ เพื่อร่วมกันวางแผนการทำงาน อัพเดตเนื้อหาสำคัญๆ รวมถึงการติดตามและประเมินผลงานในช่วงระหว่าง Work From Home เพื่อให้การทำงานมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

4. หาเวลาพักให้ตนเอง : กำหนดให้มีเวลาพักผ่อน ในระหว่างชั่วโมงการทำงานนอกเหนือไปจาการพักทานอาหารกลางวัน โดยอาจแบ่งออกเป็นช่วงเวลาสั้นๆ 5-10 นาที ในแต่ละวัน

5. ละจากคอมพิวเตอร์เมื่อหมดเวลางาน : ปิดคอมพิวเตอร์ ละจากพื้นที่ทำงานหลังจากทำงานเสร็จเรียบร้อย เมื่อหมดเวลางานในแต่ละวัน ควรให้เวลากับชีวิตส่วนตัวของตนเองบ้าง อาจเดินเล่นที่สวนหน้าบ้าน ทำกิจกรรมผ่อนคลายกับคนในครอบครัว เพื่อสร้างสมดุลให้กับชีวิต

Chiravud Thumpunyawutr
Brand Marketing Expert
CONSYNC Group


เผยแพร่ 9 พ.ย. 2564 ,17:28น.




“Work-Life Balance” น่าจะเป็นคำพูดที่เหล่าคนทำงานคงเคยได้ยินมาบาง อย่างที่รู้มันคือการสร้างความสมดุลระหว่างการทำงานและชีวิตส่วนตัวแต่จะมีวิธีอย่างไรบ้างในการทำให้สมดุลมาดูกัน

เวลาใน 1 วันของเราทุกคนมี 24 ชั่วโมงเท่ากัน แต่การดำรงชีวิต และจัดสรรเวลาการทำงาน และชีวิตส่วนตัว ถึงไม่เท่ากัน บางคน ก็ทุ่มเวลาให้กับการทำงานไปแล้วเกิน 12 ชั่วโมง แต่บางคน สามารถทำงานเพียงแค่ 8 ชั่วโมง หรืออาจจะน้อยกว่านั้น แล้วเอาเวลาที่เหลือไปดูแลครอบครัว ให้เวลากับตัวเอง ซึ่งนั้นอาจเป็นเพราะบุคคลนั้นสามารถ “Work-Life Balance”  ชีวิตตัวเองได้อย่าสมดุล

ลดวันทำงานช่วยเพิ่ม "ประสิทธิภาพ-คุณภาพของงาน"

ชงศบค.เคาะเปิด ผับ บาร์ โควิดยังไม่น่าไว้ใจ เบรกงานลอยกระทง ครม.จัดเคานต์ดาวน์ เช็กยอดบินเข้าไทยติดโ...

การสร้างสมดุลชีวิต ในการทํางาน

แนวคิด Work-life Balance  คือการที่เราต้องปรับสมดุลระหว่างงานและชีวิตส่วนตัวก็เเพื่อลดผลกระทบจากการทำงานหนักเกินไป โดยถ้าคุณทำได้ ก็จะสามารถสร้างความสุขให้กับชีวิต  ทำให้สุขภาพกาย และสุขภาพจิตดี ตามไปด้วยอีกทั้งยังส่งผลให้ครอบครัวมีความสุขร่วมกัน

รู้จัก Hard skills และ Soft skills ทักษะที่ต้องมีควบคู่กันในการทำงาน

3 ยาสมุนไพรที่ควรมีติดบ้าน รักษาอาการเจ็บป่วยช่วงฤดูหนาว  

โดยเราสามารถสร้าง Work-Life Balance ด้วย 5 วิธีนี้ 

1. ตั้งเป้าหมายการทำกิจกรรมต่าง ๆ ในแต่ละวันควรตั้งเป้าหมายและจัดรายการลำดับการทำงานในแต่ละวันเพื่อการจัดการเวลาได้ดีขึ้น
2. เคารพเวลาพักผ่อนของตนเองเมื่อถึงเวลาพักผ่อนควรหยุดคิดถึงเรื่องงาน ไม่นำงานกลับมาทำที่บ้านปิดโทรศัพท์มือถือ ใช้เวลาพักผ่อนเพื่อเป็นรางวัลให้กับความอดทนและตั้งใจของตนเองในแต่ละวัน
3. เรียนรู้ที่จะปฏิเสธและต่อรองการขอความช่วยเหลือจากหัวหน้าและเพื่อนร่วมงานเพื่อแบ่งเบาภาระงานเพื่อช่วยให้จดจ่อกับงานและผลิตงานที่มีคุณภาพได้มากขึ้น
4. ใช้เวลากับคนรอบตัวให้มากขึ้นการแบ่งเวลาให้กับคนรอบตัวหรือคนในครอบครัวจะส่งผลดีต่อความสัมพันธ์ และช่วยบรรเทาความเครียดหรือความทุกข์ภายในจิตใจ จึงไม่ควรละเลยคนรอบตัวที่ควรให้ความสำคัญ
5. ใส่ใจกับตนเองมากขึ้นควรแบ่งเวลาเพื่อดูแลสุขภาพตนเอง เช่น ออกกำลังกาย รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ พักผ่อนให้เพียงพอ ทำกิจกรรมที่ชอบเพื่อผ่อนคลายความเครียด จะช่วยให้ร่างกายและจิตใจแข็งแรงพร้อมสำหรับการทำงานและการใช้ชีวิต

ที่มา : 
อ. นพ.ชาวิท ตันวีระชัยสกุล ภาควิชาจิตเวชศาสตร์ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย

อัปเดตข่าวล่าสุดก่อนใคร Add friend ได้ที่ @PPTVOnline