โรคเบาหวาน คือ อะไร? ภาวะปกติของร่างกาย หมายถึง เมื่อรับประทานอาหารเข้าสู่ร่างกาย จะทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูงขึ้น หลังจากนั้นร่างกายจะหลั่งฮอร์โมนอินซูลินจาะนำพาน้ำตาลเข้าสู่เซลล์ โรคเบาหวาน หมายถึง โรคที่มีระดับน้ำตาลในเลือดสูงเกินกว่าปกติอย่างต่อเนื่องและเรื้อรัง เกิดจากความผิดปกติของตับอ่อน ทำให้เกิดการหลั่งฮอร์โมนอินซูลินได้น้อยกว่าปกติ หรือเกิดภาวะดื้อต่ออินซูลิน ทำให้อินซูลินออกฤทธิ์ได้ไม่เต็มที่ โรคเบาหวานแบ่งเป็น 4 ชนิด ได้แก่
ปัจจัยเสี่ยงของโรคเบาหวาน ชนิดที่ 2
อาการเริ่มแรกของโรคเบาหวาน คือ ผู้ป่วยเบาหวานในระยะแรกที่ระดับน้ำตาลในเลือดยังไม่สูงมาก อาการจะไม่เด่นชัดอย่างไรก็ตาม อาจไปพบแพทย์ด้วยอาการต่างๆ ดังนี้
น้ำตาลสะสม หรือน้ำตาลเฉลี่ยคืออะไร? น้ำตาลสะสม หรือ น้ำตาลเฉลี่ย หรือฮีโมโกลบินเอวันซี (HbA1C) คือ ค่าที่ช่วยบ่งชี้การควบคุมระดับน้ำตาลในช่วง 2-3 เดือนที่ผ่านมา และช่วยแพทย์ในการเฝ้าติดตามผู้ป่วยเบาหวานว่าสามารถควมคุมระดับน้ำตาลได้ดีเพียงใด ควบคู่ไปกับการดูระดับน้ำตาลหลังงดอาหาร 6-8 ชั่วโมง (Fasting plasma glucose; FPG) โดยแนะนำให้ตรวจระดับน้ำตาลสะสมอย่างน้อยปีละ 1 – 2 ครั้ง ในผู้ที่มีความเสี่ยงต่อการเกิดโรคเบาหวาน ภาวะแทรกซ้อนเฉียบพลันของโรคเบาหวาน ภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำ เป็นภาวะที่ร่างการยมีระดับน้ำตาลในเลือดน้อยกว่าหรือเท่ากับ 70 มิลลิกรรัม/เดซิลิตร เมื่อมีอาการภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำ ควรตรวจดูค่าน้ำตาลปลายนิ้วเพื่อยืนยันถ้าค่น้ำตาลในเลือดน้อยกว่าหรือเท่ากับ 70 มิลลิกรัม/เดซิลิตร เข้าเกรณฑ์ว่ามาภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำ หลักการแก้ไขภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำกรณียังรู้สึกตัว คือ 15, 15 รับประทานคาร์โบไฮเดรต 15 กรัม เช่น ตรวจน้ำตาลปลายนิ้วซ้ำ 15 นาที หลังรับประทานคาร์โบไฮเดรต 15 กรัม หากค่าน้ำตาลยังน้อยกว่าหรือเท่ากับ 70 มิลลิกรัม/เดซิลิตร ให้รับประทานคาร์โบไฮเดรต 15 กรัมซ้ำ และอีก 15 นาที ให้ตรวจดูค่าน้ำตาลปลายนิ้วอีกครั้ง หากมีภาวะน้ำตาลในเชือดต่ำระดับรุนแรง อาจทำให้มีอาการชักถึงขั้นหมดสติไม่รู้สึกตัว ห้าม! ให้อาหารทางปากเด็ดขาด เพราะอาจสำลักลงหลอดลมแนะนำควรส่งโรงพยาบาลใกล่เคียงทันที ภาวะน้ำตาลในเลือดสูงเฉียบพลัน แบ่งเป็น 2 ภาวะ ได้แก่ 1. ภาวะคีโตเอซิโดซิส (Diabetic Ketoacidosis; DKA) คือ ภาวะน้ำตาลในเลือดสูงที่มีระดับน้ำตาลในเลือดมากกว่าหรือเท่ากับ 250 มิลลิกรัม/เดซิลิตร ร่วมกับภาวะกรดเมตาบอลิกจากกรดคีโตนคั่งในร่างกาย 2. ภาวะไฮเปอร์ไกลซีมิกไฮเปอร์ออสโมล่าร์ (Hyperosmolar Hyperglycemic State; HHS) คือ ภาวะน้ำตาลในเลือดสูงที่มีระดับน้ำตาลในเลือดมากกว่าหรือเท่ากับ 60 มิลลิกรัม/เดซิลิตร แต่ไม่มีภาวะกรมเมตาบอลิกจากกรดคีโตนคั่งในร่างกาย ภาวะแทรกซ้อนเรื้อรังของโรคเบาหวาน ได้แก่ 1. ภาวะแทรกซ้อนที่หลอดเลือดขนาดเล็ก
2. ภาวะแทรกซ้อนที่หลอดเลือดขนาดใหญ่
ภาวะแทรกซ้อนเหล่านี้สามารถป้องกันและชะลอได้ โดยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดให้ใกล้เคียงปกติ และควบคุมโรคร่วมที่สำคัญ เช่น โรคความดันโลหิตสูงและโรคไขมันในเลือดสูง เป็นต้น คำแนะนำในการปฎิบัติตัวสำหรับผู้เป็นเบาหวาน
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ คลิก!! คลินิกเบาหวาน ไทรอยด์ และต่อมไร้ท่อ ชั้น 4 โซน D โรคเบาหวาน คือ อะไร? ภาวะปกติของร่างกาย หมายถึง เมื่อรับประทานอาหารเข้าสู่ร่างกาย จะทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูงขึ้น หลังจากนั้นร่างกายจะหลั่งฮอร์โมนอินซูลินจาะนำพาน้ำตาลเข้าสู่เซลล์ โรคเบาหวาน หมายถึง โรคที่มีระดับน้ำตาลในเลือดสูงเกินกว่าปกติอย่างต่อเนื่องและเรื้อรัง เกิดจากความผิดปกติของตับอ่อน ทำให้เกิดการหลั่งฮอร์โมนอินซูลินได้น้อยกว่าปกติ หรือเกิดภาวะดื้อต่ออินซูลิน ทำให้อินซูลินออกฤทธิ์ได้ไม่เต็มที่ โรคเบาหวานแบ่งเป็น 4 ชนิด ได้แก่
ปัจจัยเสี่ยงของโรคเบาหวาน ชนิดที่ 2
อาการเริ่มแรกของโรคเบาหวาน คือ ผู้ป่วยเบาหวานในระยะแรกที่ระดับน้ำตาลในเลือดยังไม่สูงมาก อาการจะไม่เด่นชัดอย่างไรก็ตาม อาจไปพบแพทย์ด้วยอาการต่างๆ ดังนี้
น้ำตาลสะสม หรือน้ำตาลเฉลี่ยคืออะไร? น้ำตาลสะสม หรือ น้ำตาลเฉลี่ย หรือฮีโมโกลบินเอวันซี (HbA1C) คือ ค่าที่ช่วยบ่งชี้การควบคุมระดับน้ำตาลในช่วง 2-3 เดือนที่ผ่านมา และช่วยแพทย์ในการเฝ้าติดตามผู้ป่วยเบาหวานว่าสามารถควมคุมระดับน้ำตาลได้ดีเพียงใด ควบคู่ไปกับการดูระดับน้ำตาลหลังงดอาหาร 6-8 ชั่วโมง (Fasting plasma glucose; FPG) โดยแนะนำให้ตรวจระดับน้ำตาลสะสมอย่างน้อยปีละ 1 – 2 ครั้ง ในผู้ที่มีความเสี่ยงต่อการเกิดโรคเบาหวาน ภาวะแทรกซ้อนเฉียบพลันของโรคเบาหวาน ภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำ เป็นภาวะที่ร่างการยมีระดับน้ำตาลในเลือดน้อยกว่าหรือเท่ากับ 70 มิลลิกรรัม/เดซิลิตร เมื่อมีอาการภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำ ควรตรวจดูค่าน้ำตาลปลายนิ้วเพื่อยืนยันถ้าค่น้ำตาลในเลือดน้อยกว่าหรือเท่ากับ 70 มิลลิกรัม/เดซิลิตร เข้าเกรณฑ์ว่ามาภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำ หลักการแก้ไขภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำกรณียังรู้สึกตัว คือ 15, 15 รับประทานคาร์โบไฮเดรต 15 กรัม เช่น ตรวจน้ำตาลปลายนิ้วซ้ำ 15 นาที หลังรับประทานคาร์โบไฮเดรต 15 กรัม หากค่าน้ำตาลยังน้อยกว่าหรือเท่ากับ 70 มิลลิกรัม/เดซิลิตร ให้รับประทานคาร์โบไฮเดรต 15 กรัมซ้ำ และอีก
15 นาที ให้ตรวจดูค่าน้ำตาลปลายนิ้วอีกครั้ง หากมีภาวะน้ำตาลในเชือดต่ำระดับรุนแรง อาจทำให้มีอาการชักถึงขั้นหมดสติไม่รู้สึกตัว ห้าม! ให้อาหารทางปากเด็ดขาด เพราะอาจสำลักลงหลอดลมแนะนำควรส่งโรงพยาบาลใกล่เคียงทันที ภาวะน้ำตาลในเลือดสูงเฉียบพลัน แบ่งเป็น 2 ภาวะ ได้แก่ 1. ภาวะคีโตเอซิโดซิส (Diabetic Ketoacidosis; DKA) คือ ภาวะน้ำตาลในเลือดสูงที่มีระดับน้ำตาลในเลือดมากกว่าหรือเท่ากับ 250 มิลลิกรัม/เดซิลิตร ร่วมกับภาวะกรดเมตาบอลิกจากกรดคีโตนคั่งในร่างกาย 2. ภาวะไฮเปอร์ไกลซีมิกไฮเปอร์ออสโมล่าร์ (Hyperosmolar Hyperglycemic State; HHS) คือ ภาวะน้ำตาลในเลือดสูงที่มีระดับน้ำตาลในเลือดมากกว่าหรือเท่ากับ 60 มิลลิกรัม/เดซิลิตร แต่ไม่มีภาวะกรมเมตาบอลิกจากกรดคีโตนคั่งในร่างกาย ภาวะแทรกซ้อนเรื้อรังของโรคเบาหวาน ได้แก่ 1. ภาวะแทรกซ้อนที่หลอดเลือดขนาดเล็ก
2. ภาวะแทรกซ้อนที่หลอดเลือดขนาดใหญ่
ภาวะแทรกซ้อนเหล่านี้สามารถป้องกันและชะลอได้ โดยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดให้ใกล้เคียงปกติ และควบคุมโรคร่วมที่สำคัญ เช่น โรคความดันโลหิตสูงและโรคไขมันในเลือดสูง เป็นต้น คำแนะนำในการปฎิบัติตัวสำหรับผู้เป็นเบาหวาน
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ คลิก!! คลินิกเบาหวาน ไทรอยด์ และต่อมไร้ท่อ ชั้น 4 โซน D |