เพิ่มบัตรเครดิต ใน wallet ไม่ได้

ถ้าในกระเป๋ามีสารพัดบัตรสมาชิกอัดแน่นไปหมด หรือรวมๆ แล้วได้บัตรสมาชิกห้อยพวงกุญแจได้พวงใหญ่ บทความวิกิฮาวนี้จะมาแนะนำวิธีการเพิ่มบัตรสมาชิก (membership card หรือ pass) เข้า Apple Wallet ให้คุณเอง จะมีเพิ่มอีกกี่บัตรก็สะดวกอย่าบอกใคร แต่ถ้าแอพ Wallet ไม่มีตัวเลือกเพิ่มบัตร ก็ต้องติดต่อแบรนด์ที่คุณเป็นสมาชิก ว่าเขารองรับ Apple Wallet หรือไม่ อีกวิธีคือถ้าได้รับอีเมลพร้อมบาร์โค้ดของบัตร ก็ต้องเข้าอีเมลนั้นใน iPhone แล้วแตะ Add to Wallet แทน[1]

ขั้นตอน

  1. เพิ่มบัตรเครดิต ใน wallet ไม่ได้

    1

    เปิด Apple Wallet. ไอคอนของแอพจะเป็นกระเป๋าสตางค์สีขาว กับบัตรหลากสี บนพื้นดำ ปกติอยู่ในหน้า Home ของ iPhone

  2. เพิ่มบัตรเครดิต ใน wallet ไม่ได้

    2

    แตะ Edit Passes. จะมีให้ Scan code (ถ้าบัตรนั้นรองรับการใช้งานผ่านแอพ เช่น บัตร Starbucks) หรือ Find Apps for Wallet (ถ้าบัตรนั้นไม่รองรับการใช้งานผ่าน Wallet เช่น บัตรสะสมแต้มของซูเปอร์มาร์เก็ต เพราะอาจจะมีแอพของตัวเองให้ใช้คูปองส่วนลดได้)

  3. เพิ่มบัตรเครดิต ใน wallet ไม่ได้

    3

    แตะ Scan Code. เพื่อเซฟบัตรไว้ใน Wallet (ถ้าไม่ได้ใช้แอพของบัตรนั้นๆ เช่น แอพ Home Pro หรือ Starbucks ที่มีคูปองในแอพ) แตะ Scan Code

    • กล้องจะเปิดขึ้นมา

  4. เพิ่มบัตรเครดิต ใน wallet ไม่ได้

    4

    ถ่ายรูปบาร์โค้ดที่บัตร. บาร์โค้ดก็คือแถบที่มีเส้นสีดำหลายๆ เส้น หนาบางต่างกันไป

    • ถ้าเลือก Find Apps for Wallet App Store จะเปิดขึ้นมา มีแอพต่างๆ ที่ใช้กับ Wallet ได้

  5. เพิ่มบัตรเครดิต ใน wallet ไม่ได้

    5

    แตะ Add to Apple Wallet (ถ้ามี) หรือ Add. ถ้ามี pop-up โผล่มา ให้แตะ Add to Apple Wallet หรือแตะ Add มุมขวาบนของหน้าจอ[2]

    โฆษณา

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

มีการเข้าถึงหน้านี้ 7,202 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

เพิ่มบัตรเดบิตหรือเครดิต

คุณสามารถเพิ่มบัตรที่รองรับลงใน Google Wallet เพื่อชำระเงินในร้านค้าด้วยโทรศัพท์หรือสมาร์ทวอทช์

เพิ่มบัตรใหม่

ด้วยแอป Google Wallet

  1. เปิดแอป Google Wallet
  2. ที่ด้านล่าง ให้แตะ "เพิ่มลงใน Wallet"
  3. แตะบัตรสำหรับชำระเงิน
    • บัตรทั้งหมดที่บันทึกไว้ในบัญชี Google จะแสดงขึ้นมา
  4. แตะบัตรเครดิตหรือบัตรเดบิตใหม่
    • หากต้องการเพิ่มบัตร ให้ใช้กล้องหรือแตะป้อนรายละเอียดด้วยตนเอง
  5. ที่ด้านล่าง ให้แตะบันทึก
  6. อ่านข้อกำหนดของผู้ออกบัตร แล้วแตะยอมรับ
  7. หากระบบขอให้ยืนยันวิธีการชำระเงิน ให้เลือกวิธียืนยันจากรายการ ดูวิธียืนยันวิธีการชำระเงิน

เคล็ดลับ: หลังจากขั้นตอนนี้ คุณควรได้รับข้อความแจ้งว่าระบบได้เพิ่มบัตรของคุณแล้วและพร้อมชำระเงินแบบไม่ต้องสัมผัสในร้านค้า ทางออนไลน์ หรือในแอปที่รองรับ Google Pay หากได้รับข้อความอื่น ให้ดูวิธีแก้ไขปัญหา

หลังจากเพิ่มบัตรแล้ว คุณอาจเห็นธุรกรรมจำนวนเงินเล็กน้อยในบัญชีจาก Google Wallet ระบบใช้ธุรกรรมนี้เพื่อยืนยันว่าบัตรและบัญชีใช้งานได้ โดยธุรกรรมดังกล่าวจะหายไปในไม่ช้าและไม่ส่งผลต่อยอดคงเหลือของคุณ

จากแอปหรือเว็บไซต์ของธนาคาร

  1. เปิดแอปธนาคารบนอุปกรณ์เคลื่อนที่หรือไปที่เว็บไซต์ของธนาคาร
  2. ลงชื่อเข้าสู่บัญชี
  3. หาปุ่มเพิ่มลงใน Google Wallet หรือปุ่มเพิ่มลงใน GPay แล้วแตะปุ่มนั้น
  4. ทำตามวิธีการบนหน้าจอ

หากไม่เห็นปุ่ม "เพิ่มลงใน Google Wallet" หรือ "เพิ่มลงใน GPay" แสดงว่าบัตรหรือสถาบันการเงินอาจไม่รองรับฟีเจอร์นี้ โปรดติดต่อธนาคารของคุณเพื่อขอรายละเอียดเพิ่มเติม

แก้ปัญหา

"ตั้งค่าบัตรสำหรับแตะเพื่อจ่ายไม่สำเร็จ"

หากคุณได้รับข้อความนี้ แสดงว่าธนาคารไม่รองรับให้ใช้บัตรเพื่อชำระเงินแบบไม่ต้องสัมผัส โปรดติดต่อธนาคารเพื่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม

เคล็ดลับ: คุณสามารถบอกธนาคารว่า "ฉันเพิ่มบัตรลงในกระเป๋าเงินดิจิทัลไว้ทำธุรกรรมแบบแตะเพื่อจ่ายไม่ได้"

นอกจากนี้ คุณยังอาจได้รับข้อความนี้หากเกิดปัญหาขณะตั้งค่าบัตร ลองอีกครั้งในภายหลัง หรือลองใช้บัตรเดบิตหรือบัตรเครดิตอื่น ค้นหาวิธีการชำระเงินที่รองรับตามประเทศหรือภูมิภาค

"ตั้งค่าบัตรนี้สำหรับการแตะเพื่อจ่ายไม่ได้"

"ตั้งค่าโทรศัพท์เครื่องนี้สำหรับใช้แตะเพื่อจ่ายไม่ได้"

คุณอาจได้รับข้อความนี้เนื่องด้วยเหตุผลข้อใดข้อหนึ่งต่อไปนี้

  • โทรศัพท์ของคุณไม่มีเทคโนโลยี NFC: ต้องใช้ NFC เพื่อชำระเงินแบบไม่ต้องสัมผัส ตรวจสอบว่าโทรศัพท์ของคุณรองรับ NFC หรือไม่
  • โทรศัพท์ของคุณมีคุณสมบัติไม่ตรงตามมาตรฐานความปลอดภัยสำหรับการชำระเงินแบบไม่ต้องสัมผัส: ตรวจสอบว่าโทรศัพท์มีคุณสมบัติต่อไปนี้หรือไม่
    • เป็นอุปกรณ์ที่รูท
    • ใช้ ROM ที่กำหนดเอง
    • มี Bootloader ที่ปลดล็อกแล้ว
    • ใช้ซอฟต์แวร์ที่ไม่ผ่านการรับรอง

หากตั้งค่าบัตรสำหรับแตะเพื่อจ่ายไม่ได้ แต่บันทึกบัตรไว้ในบัญชี Google แล้ว คุณจะยังใช้บัตรทำสิ่งต่อไปนี้ได้

  • ซื้อผลิตภัณฑ์และบริการของ Google
  • ชำระเงินในแอปหรือเว็บไซต์หากมีการเสนอ Google Pay เป็นวิธีการชำระเงิน หรือมีปุ่ม "ซื้อด้วย GPay" ที่จุดชำระเงิน

"ตั้งค่าการแตะเพื่อจ่ายไม่สำเร็จ"

หากคุณได้รับข้อความแสดงข้อผิดพลาดนี้ แสดงว่าบัตรอาจบันทึกอยู่ในบัญชี Google แต่ไม่ได้บันทึกลงในแอป Google Wallet ลองเพิ่มวิธีการชำระเงินอื่นหรือตั้งค่าให้เสร็จสิ้น ค้นหาวิธีการชำระเงินที่รองรับตามประเทศหรือภูมิภาค หากยังพบปัญหา โปรดติดต่อเรา

หากตั้งค่าบัตรสำหรับแตะเพื่อจ่ายไม่ได้ แต่บันทึกบัตรไว้ในบัญชี Google แล้ว คุณจะยังใช้บัตรทำสิ่งต่อไปนี้ได้

  • ซื้อผลิตภัณฑ์และบริการของ Google
  • ชำระเงินในแอปหรือเว็บไซต์หากมีการเสนอ Google Pay เป็นวิธีการชำระเงิน หรือมีปุ่ม "ซื้อด้วย GPay" ที่จุดชำระเงิน

"บัตรนี้ไม่พร้อมใช้ชำระเงินออนไลน์"

"บัตรของฉันหายไปจากแอป Google Pay หรือฉันได้รับอีเมลแจ้งว่าบัตรถูกลบ"

อาจมีการนำบัตรของคุณออกจาก Google Wallet เพื่อเป็นการรักษาความปลอดภัย ตรวจสอบว่าคุณได้ทำสิ่งต่อไปนี้หรือไม่

  • ปิดการล็อกหน้าจอหรือเปลี่ยนเป็นการล็อกหน้าจอที่ Google Wallet ไม่รองรับ เช่น Smart Lock หรือ Knock to Unlock
  • ไม่ได้เปิดแอป Google Wallet เป็นเวลาอย่างน้อย 90 วัน
  • รีเซ็ตโทรศัพท์เป็นค่าเริ่มต้น
  • ล้างข้อมูลทั้งหมดจากบริการ Google Play หรือ Google Wallet ในการตั้งค่าของโทรศัพท์
  • นำบัญชี Google ออกจากโทรศัพท์
  • ล้างข้อมูลหรือล็อกอุปกรณ์จากระยะไกล
  • ใช้ฟังก์ชัน Dual Apps ในอุปกรณ์

หากคุณได้ดำเนินการตามข้อใดข้อหนึ่งข้างต้น ให้ทำตามขั้นตอนเหล่านี้เพื่อเพิ่มบัตรที่นำออกลงใน Google Wallet อีกครั้ง

หากไม่ได้ดำเนินการใดข้างต้น ให้รายงานปัญหาหรือส่งความคิดเห็นเกี่ยวกับแอป

Dual Apps

Google Wallet ใช้ไม่ได้กับฟีเจอร์ Dual Apps หากคุณใช้อุปกรณ์ที่มีฟีเจอร์ Dual Apps ให้ทำดังนี้เพื่อปิดฟีเจอร์

  1. เปิดแอป "การตั้งค่า" ในอุปกรณ์
  2. เลื่อนลง
  3. แตะแอป
    เพิ่มบัตรเครดิต ใน wallet ไม่ได้
    Dual Apps
  4. ตรวจสอบว่าฟีเจอร์ Dual Apps ปิดอยู่หรือไม่สำหรับแอปที่รองรับ
  5. ที่ด้านบนขวา ให้แตะการตั้งค่า
  6. แตะบัญชี Dual Apps
    เพิ่มบัตรเครดิต ใน wallet ไม่ได้
    ลบข้อมูลของบัญชี Dual App
  7. รีสตาร์ทอุปกรณ์
  8. เปิดแอป Google Wallet
    • เพิ่มบัตรหากจำเป็น แล้วตรวจสอบว่าปัญหาได้รับการแก้ไขหรือไม่

"ทำธุรกรรมให้เสร็จสมบูรณ์ไม่ได้"

หากระบบขอให้คุณระบุข้อมูลเพิ่มเติมหลังจากได้รับข้อความนี้ โปรดทำตามวิธีการบนหน้าจอ

หากระบบไม่ขอข้อมูลเพิ่มเติม ให้ทำดังนี้

  • ลองใช้วิธีการชำระเงินวิธีอื่น
  • ตรวจสอบว่าที่อยู่สำหรับการเรียกเก็บเงินของวิธีการชำระเงิน เช่น บัตรเครดิต ตรงกับที่อยู่ในการตั้งค่า Google Pay หรือไม่ หากไม่ตรงกัน โปรดอัปเดตที่อยู่ใน pay.google.com แล้วลองทำธุรกรรมอีกครั้ง
  • หากใช้แอป ให้ลองชำระเงินในเว็บไซต์ของผลิตภัณฑ์แทน
  • หากใช้เว็บไซต์อยู่ ให้ลองชำระเงินในแอป
  • หากคุณชำระเงินด้วยบัตรเครดิต ให้ติดต่อธนาคารหรือสถาบันการเงินของคุณเกี่ยวกับธุรกรรมนี้

หากยังต้องการความช่วยเหลือ

หากยังพบปัญหาหรือมีข้อสงสัย คุณสามารถถามชุมชนหรือจะติดต่อเราก็ได้

ข้อมูลนี้มีประโยชน์ไหม

เราจะปรับปรุงได้อย่างไร