(Intellectual Disability หรือชื่อเดิม Mental Retardation) เป็นภาวะที่บุคคลมีระดับสติปัญญา (IQ) ต่ำกว่าเกณฑ์เฉลี่ยทั่วไป ทำให้เกิดปัญหาเกี่ยวกับการเรียนรู้เข้าใจ การสื่อสาร พัฒนาการ และขาดทักษะต่าง ๆ ที่จำเป็นในการดำเนินชีวิต โดยผู้ป่วยมักมีการเรียนรู้ช้ากว่าปกติ แต่ผู้ป่วยยังสามารถเรียนรู้ทักษะต่าง ๆ ได้ผ่านการฝึกฝนดูแลอย่างเหมาะสม ส่วนใหญ่ภาวะปัญญาอ่อนยังไม่สามารถหาสาเหตุของการเกิดได้ และบางส่วนอาจมีสาเหตุมาจากพันธุกรรม การเจ็บป่วย การบาดเจ็บกระทบกระเทือนกับสมอง หรือปัจจัยภายนอกอื่น ๆ อย่างสุขอนามัย การดื่มสุรา การใช้ยาเสพติด หรือสารพิษที่เข้าสู่ร่างกาย เป็นต้น อาการของปัญญาอ่อน ผู้ที่มีภาวะปัญญาอ่อนจะมีความบกพร่องทางสติปัญญา จนทำให้เกิดปัญหาในพัฒนาการด้านต่าง ๆ โดยลักษณะอาการแสดงของปัญญาอ่อนขึ้นอยู่กับความรุนแรงของความบกพร่องในด้านนั้น ๆ ด้วย สำหรับเด็กที่มีภาวะปัญญาอ่อน อาจไม่ปรากฏอาการแสดงที่ชัดเจนจนกว่าเด็กจะเข้าสู่วัยเรียน อย่างไรก็ตาม การติดตามพัฒนาการของเด็กอย่างใกล้ชิดสม่ำเสมอจะช่วยคัดกรองภาวะปัญญาอ่อนได้ ตัวอย่างพัฒนาการและอาการที่เป็นสัญญาณของภาวะปัญญาอ่อน ได้แก่
เด็กบางรายที่มีภาวะปัญญาอ่อนอย่างรุนแรง อาจพบว่ามีปัญหาสุขภาพอื่น ๆ ร่วมด้วย เช่น
สาเหตุของปัญญาอ่อน กว่า 2 ใน 3 ของผู้ที่มีภาวะปัญญาอ่อน ยังไม่สามารถหาสาเหตุของการเกิดได้ ส่วนที่เหลืออาจเกิดจากสาเหตุดังต่อไปนี้
การวินิจฉัยปัญญาอ่อน หากพบว่าเด็กที่ดูแลมีพัฒนาการช้า หรือบุคคลใกล้ชิดมีอาการที่เป็นสัญญาณของภาวะปัญญาอ่อน ควรแนะนำให้พาไปพบกุมารแพทย์เพื่อตรวจอย่างละเอียด หากมีภาวะปัญญาอ่อนจริง แพทย์จะแนะนำวิธีกาารวางแผนดูแลผู้ป่วยอย่างเหมาะสมต่อไป โดยการวินิจฉัยว่าบุคคลนั้นมีภาวะปัญญาอ่อนหรือไม่ ทำได้โดย สังเกตอาการ แพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญจะสังเกตพฤติกรรมและอาการแสดงต่าง ๆ รวมไปถึงทักษะในพัฒนาการด้านต่าง ๆ ตามวัย โดยเปรียบเทียบกับผู้ที่อยู่ในวัยเดียวกัน เช่น การรับประทานอาหาร การแต่งตัวสวมเสื้อผ้า การพูดคุยสื่อสาร การเข้าใจความหมาย การมีปฏิสัมพันธ์ต่อคนในครอบครัวและเพื่อน เป็นต้น ทดสอบไอคิว (IQ Test) หรือทดสอบความฉลาดทางปัญญา โดยการใช้ชุดทดสอบที่เหมาะสมตามวัยของผู้ป่วย โดยผู้ที่มีภาวะปัญญาอ่อนจะมีผลไอคิวที่ต่ำกว่า 70 ลงมา หากผู้ป่วยมีลักษณะทางกายภาพภายนอกที่ผิดปกติ แพทย์อาจทำการตรวจวินิจฉัยเพิ่มเติมเพื่อหาโรคที่อาจเป็นสาเหตุของภาวะปัญญาอ่อน อย่างกลุ่มโรคความผิดปกติทางพันธุกรรม เช่น ตรวจเลือด ตรวจปัสสาวะ ฉายภาพเอกซเรย์สมอง หรือตรวจคลื่นไฟฟ้าสมองเพื่อตรวจภาวะลมชัก สำหรับผู้ป่วยเด็กที่มีพัฒนาการล่าช้า แพทย์อาจตรวจหาความผิดปกติอื่น เช่น ปัญหาสายตา ปัญหาการได้ยิน หรือตรวจหาโรคทางระบบประสาทอื่น ๆ เพิ่มเติมด้วย การรักษาปัญญาอ่อน ภาวะปัญญาอ่อนไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้ แต่ครอบครัว ผู้ปกครอง และผู้ดูแลผู้ป่วยสามารถช่วยเหลือประคับประคองให้ผู้ป่วยเกิดการเรียนรู้และช่วยเหลือตนเอง เพื่อให้ผู้ป่วยสามารถดำเนินชีวิตได้ดียิ่งขึ้น โดยสามารถศึกษารับคำแนะนำเกี่ยวกับวิธีการดูแลผู้ป่วย ซึ่งอาจมีขั้นตอนดังนี้
ทั้งนี้ ผู้ดูแลสามารถรับบริการความช่วยเหลือทางการแพทย์ในรูปแบบต่าง ๆ ได้ด้วย เช่น
อย่างไรก็ตาม ในปัจจุบันยังไม่มียารักษาตัวใดที่รักษาภาวะปัญญาอ่อนได้ ส่วนผู้ป่วยปัญญาอ่อนที่มีภาวะอาการป่วยอื่น ๆ ร่วมด้วย ก็ต้องรับประทานยาและปฏิบัติตามขั้นตอนการรักษาของโรคที่ป่วย เช่น
การป้องกันภาวะปัญญาอ่อน แนวทางการป้องกันที่สำคัญเพื่อไม่ให้เกิดภาวะปัญญาอ่อน ควรกระทำตั้งแต่การวางแผนการตั้งครรภ์ไปจนขณะที่ทารกอยู่ในครรภ์ ได้แก่
นอกจากนี้ การป้องกันและลดความเสี่ยงไม่ให้เกิดภาวะปัญญาอ่อนกับตนเอง คนในครอบครัว หรือบุคคลใกล้ชิด คือ การรักษาสุขภาพและสุขอนามัยให้แข็งแรงสมบูรณ์อยู่เสมอ ตรวจร่างกายเป็นประจำ เข้ารับการรักษาโรคประจำตัวหรืออาการที่ป่วยอยู่ และระมัดระวังการเกิดอุบัติเหตุหรือภัยอันตรายที่จะกระทบกระเทือนต่อสมองและร่างกาย เป็นต้น |