ลู่วิ่งไฟฟ้า มอเตอร์ AC กับ DC แตกต่างกันอย่างไร ?รู้ไว้ก่อนตัดสินใจชื้อลู่วิ่งไฟฟ้ามาใช้งาน กับคำถามที่หลายๆคนสงสัยว่ามอเตอร์ AC กับ DC แตกต่างกันยังไง จึงอยากให้ได้ลองศึกษาถึงความสามารถของ 2 มอเตอร์กันก่อน เพื่อเลือกใช้งานลู่วิ่งได้ตรงตามเป้าหมายที่สุด โดยเรา Core-Fitnees ได้มีลู่วิ่งไฟฟ้าให้เลือกใช้งานอย่างครบวงจร พร้อมทีมงานผู้เชียวชาญและบริการหลังการขายนานถึง 7 ปี Show
DC Motor (มอเตอร์ DC)มอเตอร์ DC (Direct Current) เป็นมอเตอร์กระแสงตรงเหมาะสำหรับ Home Use โดยมีราคาที่สบายกระเป๋า และประหยัดค่าไฟฟ้าได้มากกว่า ถือว่าเป็นมอเตอร์สามัญประจำสำหรับผู้ที่ออกกำลังกายที่บ้าน โดยไม่ต้องเสียเงินค่าเดินทางออกไปวิ่งข้างนอกบ้าน จุดเด่น
ข้อสังเกตมอเตอร์ DC จะไม่เหมาะกับการใช้งานแบบเชิงพาณิชย์ เช่นในฟิตเนส หรือโรงยิม ที่มีผู้ใช้งานต่อคิวใช้งานเป็นจำนวนมากๆ เนื่องจากความร้อนสะสมจากการใช้งานต่อเนื่องในแต่ล่ะวัน สรุปเกี่ยวกับมอเตอร์ DCภาพจำที่หลายๆคนมองว่า มอเตอร์ DC ด้อยกว่า มอเตอร์ AC นั้น อยากให้มองถึงความเหมาะกับการนำไปใช้งานมากกว่า ถ้าคุณเลือกที่ใช้ลู่วิ่ง AC Motor นำไปใช้งานในบ้านเพียงวันล่ะ 1-2 ชม. และยอมรับกับขนาดใหญ่ของลู่วิ่งที่ใช้พลังงานไฟขึ้น อาจจะไม่ค่อยเหมาะสมกับจุดประสงค์ของมอเตอร์สักเท่าไหร่ จึงทำให้ DC Motor ถือกำเนิดขึ้นและเป็นมอเตอร์ที่เหมาะสมกับการใช้งานภายในบ้าน หรือที่พักอาศัย ที่ไม่ต้องรองรับผู้ใช้งานเป็นจำนวนมากๆเหมือนในฟิตเนสเซ็นเตอร์ AC Motor (มอเตอร์ AC)มอเตอร์ AC (Alternating Current) เป็นมอเตอร์กระแสสลับ ที่สร้างขึ้นเพื่อรองรับการใช้งานในรูปแบบ Commercial สำหรับการใช้งานเชิงพาณิชย์ เช่น ธุรกิจฟิตเนสเซ็นเตอร์ โรงยิม หรือคลับออกกำลังกาย โดยมีราคาที่สูงและใช้งานไฟฟ้ามากกว่ามอเตอร์ DC จึงไม่เหมาะกับผู้ใช้งานในบ้านสักเท่าไหร่ นอกจากคุณต้องชื้อลู่วิ่ง AC ที่มีราคาแพงขึ้น และนำไปใช้งานในแต่วันให้คุ้มค่าที่สุด จุดเด่น
ข้อสังเกตมอเตอร์ AC ในลู่วิ่งจะมีราคาสูงกว่ามอเตอร์ DC อยู่พอสมควร และขนาดโครงสร้างของลู่วิ่งมอเตอร์ AC ค่อนข้างจะมีความใหญ่ จึงจำเป็นต้องจัดเตรียมพื้นที่ตั้งว่างและไม่สะดวกต่อการขนย้ายบ่อยๆ สรุปเกี่ยวกับมอเตอร์ ACนอกจากการชื้อลู่วิ่งมอเตอร์ AC มาใช้งานในฟิตเนสเซ็นเตอร์ที่ตรงจุดประสงค์แล้ว สำหรับผู้ที่จะเลือกนำมาใช้งานในบ้าน ต้องถามตัวเองก่อนว่าจะได้ใช้งานอย่างหนักหน่วงในแต่วันถึง 10 ชั่วโมงขึ้นไปหรือไม่? หรือเน้นการฝึกซ้อมวิ่งแบบจริงจังมากกว่าการออกกำลังกายเพื่อสุขภาพ ถ้าได้คำตอบที่ตรงสัก 1 ข้อ ก็แสดงว่าเหมาะกับลู่วิ่งมอเตอร์ AC กว่า ความต่างของ A.C. Motor กับ D.C. Motor เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านๆมากับหลากหลายบทความไม่ว่าจะเป็นเรื่องมาตรฐานการติดตั้งมอเตอร์, ความเร็วรอบของมอเตอร์, การดูแลและการเก็บรักษามอเตอร์ ทั้งยังได้รู้จักกับแรงบิดและแรงม้าของมอเตอร์ผู้อ่านคงพอได้สาระความรู้กันพอสมควรเกี่ยวกับมอเตอร์ไฟฟ้า และบทความนี้เราจะมารู้จักกับความแตกต่างกันระหว่างมอเตอร์ที่เป็น A.C. Motor กับ D.C. Motor กัน แล้ว A.C. Motor กับ D.C. Motor มีลักษณะที่เฉพาะตัวยังไงบ้าง เราไปเริ่มกันเลย A.C. MOTORมอเตอร์ไฟฟ้ากระแสสลับ (Alternating Current Motor) หรือเรียกว่า เอ.ซี มอเตอร์ (A.C. MOTOR) คือมอเตอร์ที่ป้อนไฟฟ้ากระแสสลับเข้าไปเพื่อให้ได้พลังงานกลออกมาเพื่อใช้ในการขับโหลดชนิดต่าง ๆ โครงสร้างของมอเตอร์คล้ายมอเตอร์กระแสตรง แต่จำนวนเฟสมีทั้ง 1 เฟสและ 3 เฟส โดย 3เฟสจะมีจำนวนขดลวดเพิ่มเป็น 3 ชุด มอเตอร์กระแสสลับนิยมใช้งานทุกประเภทตั้งแต่อุปกรณ์ขนาดเล็กไปจนถึงในอุสาหกรรมทุกประเภท เนื่องจากมีราคาถูกกว่าเครื่องจักรกลไฟฟ้ากระแสตรง และสามารถต่อกับไฟฟ้ากระแสสลับได้โดยง่าย A.C. MOTOR มีองค์ประกอบของตัวมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ส่วนหลักๆ ด้วยกันคือ1.Stator คือ ส่วนที่อยู่กับที่และรับพลังไฟฟ้าจากภายนอกเพื่อเปลี่ยนเป็นสนามแม่เหล็กไฟฟ้า มีลักษณะเป็นแผ่นลามิเนทประกอบเข้าด้วยกันเป็นแกนเหล็ก
มีร่องเอาไว้สำหรับพันขดลวดเพื่อทำหน้าที่เป็นตัวกำเนิดสนามแม่เหล็กและเป็นวงจรแม่เหล็ก 1.สเตเตอร์หรือตัวอยู่กับที่ ( Stator ) ทำด้วยเหล็กแผ่นลามิเนท มีร่องเป็นแบบกึ่งปิด โครงทำด้วยเหล็กหล่อหรือเหล็กเหนียว ขดลวดที่พันไว้ในร่องของ Stator มีสองชุด ( เป็นลวดทองแดงอาบด้วยฉนวนไฟฟ้า) คือขดลวดช่วย (Auxiliary winding) หรือขดสตาร์ท(Starting winding) และขดลวดหลัก(Main winding) หรือขดรัน (Running winding) สเตเตอร์จะเป็นส่วนที่อยู่กับที่ซึ่งจะประกอบด้วยโครงของมอเตอร์ แกนเหล็กสเตเตอร์ และขดลวด 1.1 โครงมอเตอร์ ( Frame or Yoke ) จะทำด้วยเหล็กหล่อทรงกระบอกกลวง ฐานส่วนล่างจะเป็นขาตั้ง มีกล่องสำหรับต่อสายไฟอยู่ด้านบนหรือด้านข้าง โครงจะทำหน้าที่ยึดแกนเหล็กสเตเตอร์ให้แน่นอยู่กับที่ผิวด้านนอกของโครงมอเตอร์ จะออกแบบให้มีลักษณะเป็นครีบ เพื่อช่วยในการระบายความร้อน ในกรณีที่เป็นมอเตอร์ขนาดเล็ก ๆ โครงจะทำด้วยเหล็กหล่อ แต่ถ้าเป็นมอเตอร์ขนาดใหญ่โครงจะทำด้วยเหล็กหล่อเหนียวซึ่งจะทำให้มอเตอร์มีขนาดเล็กกะทัดรัดมากขึ้น นอกจากนี้แล้วโครงของมอเตอร์ยังอาจทำด้วยเหล็กหล่อเหนียวม้วนเป็นแผ่นม้วนรูปทรงกระบอก แล้วเชื่อมติดกันให้มีความแข็งแรง เช่น Split phase motor หรือมอเตอร์แบบแยกเฟส เป็นมอเตอร์ไฟฟ้ากระแสสลับเฟสเดียวแบบเหนี่ยวนำใช้กันอย่างแพร่หลายในปัจจุบัน เช่น ตู้เย็น เครื่องซักผ้า ปั้มน้ำขนาดเล็ก โบลเวอร์ (Blowers) ปั้มแรงเหวี่ยง (Centrifugal pumps) เครื่องล้างขวด เครื่องดนตรีอัตโนมัติ เป็นต้น มีขนาดตั้งแต่ 1/4 , 1/3 ,1/2 แรงม้าแต่จะมีขนาดไม่เกิน 1แรงม้า 1.2 แกนเหล็กสเตเตอร์ (Stator Core) ทำด้วยแผ่นเหล็กบาง ๆ มีลักษณะกลม เจาะตรงกลางและเซาะร่องภายในโดยรอบ แผ่นเหล็กชนิดนี้เรียกว่า ลามิเนท ซึ่งจะถูกเคลือบด้วยซิลิกอน เหล็กแต่ละแผ่นจะมีความหนาประมาณ 0.025 นิ้ว หลังจากนั้นจึงนำไปอัดเข้าด้วยกันจนมีความหนาที่เหมาะสม เรียกว่าแกนเหล็กสเตเตอร์ 1.3 ขดลวด (Stator Winding) จะมีลักษณะเป็นเส้นลวดทองแดงเคลือบฉนวนที่เรียกว่า อีนาเมล (Enamel) พันอยู่ในร่องของแกนเหล็กสเตเตอร์ตามรูปแบบต่าง ๆ ของการพันมอเตอร์ 2.โรเตอร์หรือตัวหมุน (Rotor) มอเตอร์ชนิดเหนี่ยวนำจะมีโรเตอร์ 2 ชนิด คือ โรเตอร์แบบกรงกระรอก (Squirrel cage rotor)และโรเตอร์แบบขดลวดพันหรือแบบวาวนด์ (Wound Rotor) ซึ่งจะมีส่วนประกอบดังนี้คือ แกนเหล็ก โรเตอร์ ขดลวด ใบพัด และเพลา 2.1โรเตอร์แบบกรงกระรอก (Squirrel cage rotor) โรเตอร์ทำด้วยเหล็กแผ่นบาง ๆ อัดซ้อนกัน มีร่องไปทางยาวซึ่งจะมีแท่งทองแดงหรือแท่งอลูมิเนียมฝังอยู่โดยรอบปลายของแท่งทองแดงหรือแท่งอลูมิเนียมจะเชื่อมติดกันด้วยวงแหวนซึ่งมีลักษณะคล้ายกรงนกหรือกรงกระรอก 2.2โรเตอร์แบบขดลวดพันหรือแบบวาวนด์ (Wound Rotor) โรเตอร์ชนิดนี้จะมีส่วนประกอบคล้าย ๆ กับโรเตอร์แบบกรงกระรอกคือ มีแกนเหล็กที่เป็นแผ่นลามิเนทอัดเข้าด้วยกันแล้วสวมเข้าที่เพลา แต่จะแตกต่างกันตรงที่ขดลวด จะเป็นเส้นลวดชนิดที่หุ้มด้วยน้ำยาฉนวนอีนาเมลพันลงไปในร่องสล็อตของโรเตอร์จำนวน 3 ชุด ซึ่งจะมีลักษณะเหมือนกับที่พันบนสเตเตอร์ของมอเตอร์ 3 เฟส D.C. MOTORมอเตอร์ไฟฟ้ากระแสตรง (Direct current motor) หรือเรียกว่า ดี.ซี มอเตอร์ (D.C. MOTOR) เป็นเครื่องกลไฟฟ้ากระแสตรงที่เปลี่ยนพลังงานไฟฟ้าเป็นพลังงานกล มีทั้งชนิดกระตุ้นฟีลด์จากภายนอก (Separated excited motor) และชนิดกระตุ้นฟีลด์ด้วยตัวเอง (Self excited motor) มอเตอร์ไฟฟ้ากระแสตรงเป็นต้นกำลังขับที่สำคัญอย่างหนึ่งในโรงงานอุตสาหกรรม เพราะมีคุณสมบัติที่เด่นในด้านการปรับความเร็วรอบตั้งแต่ความเร็วรอบต่ำสุดไปจนถึงความเร็วรอบสูงสุด นิยมใช้ในโรงงานทอผ้า โรงงานเส้นใยโพลี เอสเตอร์ โรงงานถลุงโลหะ และเป็นต้นกำลังขับในรถไฟฟ้า หลักการทำงานของมอเตอร์ไฟฟ้ากระแสตรง (Direct current motor) เมื่อแรงดันไฟฟ้ากระแสตรงเข้าไปในมอเตอร์ ส่วนหนึ่งจะ แปรงถ่านผ่านคอมมิวเตเตอร์เข้าไปในขดลวดอาร์มาเจอร์สร้างสนามแม่เหล็กขึ้น และกระแสไฟฟ้าอีกส่วนหนึ่งจะไหลเข้าไปในขดลวดสนามแม่เหล็ก (Field coil) สร้างขั้วเหนือ-ใต้ขึ้น จนเกิดสนามแม่เหล็ก 2 สนาม ในขณะเดียวกันตามคุณสมบัติของเส้นแรง แม่เหล็กจะไม่ตัดกัน ทิศทางตรงข้ามจะหักล้างกันและทิศทางเดียวจะเสริมแรงกัน ทำให้เกิดแรงบิดในตัวอาร์มาเจอร์ ทำให้อาร์มาเจอร์นี้หมุนได้ อาร์เมจอร์ที่หมุนนี้เรียกว่า โรเตอร์ (Rotor) D.C. MOTOR มีองค์ประกอบของตัวมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ส่วนหลักๆ ด้วยกันคือ1.สเตอเตอร์(Stator) เป็นส่วนที่อยู่กับที่ ประกอบด้วยโครงภายนอกทำหน้าที่เป็นทางเดินเส้นแรงแม่เหล็กจากขั้วเหนือไปขั้วใต้ให้ครบวงจร และยึดส่วนประกอบอื่น ๆ ให้แข็งแรง สเตเตอร์ทำด้วยเหล็กหล่อหรือเหล็กเหนียว รูปทรงกระบอก มีลักษณะเป็นขั้วแม่เหล็กยื่นทำด้วยเหล็กแผ่นบาง ๆ เคลือบด้วยฉนวนเรียงซ้อนกัน ผิวด้านหน้าเป็นรูปโค้งรับกับทรงกลมของอาร์เมอเจอร์ และที่แกนเหล็กจะพันด้วยขดลวดทองแดงทำหน้าที่รับกระแสไฟฟ้าจากภายนอก เพื่อสร้างเส้นแรงแม่เหล็กให้เกิดขึ้น อาจจะมี 2 ขั้ว 4 ขั้ว หรือหลายขั้วขึ้นอยู่กับการออกแบบมอเตอร์ นอกจากนั้นยังมีแปรงถ่านและซองติดตั้งไว้สัมผัสกับคอมมิวเตเตอร์ ทำหน้าที่รับกระแสไฟฟ้าเข้าสู่มอเตอร์เพื่อเปลี่ยนพลังงานไฟฟ้าเป็นพลังงานกล โดยมีฝาปิดหัวท้ายสำหรับรองรับแบริ่ง และเพลาอีกด้วย แปรงถ่าน ทำด้วยคาร์บอนมีรูปร่างเป็นแท่งสี่เหลี่ยมผืนผ้า ในซองแปรงมีสปิงกดอยู่ด้านบนเพื่อให้ถ่านนี้สัมผัสกับซี่คอมมิวเตเตอร์ตลอดเวลาเพื่อรับกระแสไฟฟ้า และส่งกระแสไฟฟ้าระหว่างขดลวดอาร์มาเจอร์กับวงจรไฟฟ้าจากภายนอก คือถ้าเป็นมอเตอร์กระแสไฟฟ้าตรงจะทำหน้าที่รับกระแสจากภายนอกเข้าไปยังคอมมิวเตเตอร์ให้ลวดอาร์มาเจอร์เกิดแรงบิดทำให้มอเตอร์หมุนได้ 2.ตัวหมุนหรืออาร์เมเจอร์ มีลักษณะเป็นทุ่นทรงกระบอก ทำด้วยแกนเหล็กแผ่นบาง ๆ อัดซ้อนกันที่ผิวด้านหน้าของทรงกระบอก สอบถามข้อมูลได้ที่ |