ข้อสอบวิทยาการคํานวณ ป.6 pdf

บทเรียนออนไลน์

บทเรียนบนเว็บ เรียนรู้ทุกที่ ทุกเวลา อยุู่ที่ไหนก็เรียนได้

Pages

  • หน้าแรก
  • แบบทดสอบ มาตรฐานกลาง ป.4
  • แบบทดสอบมาตรฐานกลาง ป.5
  • แบบทดสอบประวัติศาสตร์
  • แบบทดสอบคอมพิวเตอร์ ป.6

วันจันทร์ที่ 24 สิงหาคม พ.ศ. 2563

แบบทดสอบ วิทยาการคำนวณ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ปีการศึกษา 2563

แบบทดสอบ  หน่วยที่ 1  “เหตุผลเชิงตรรกะกับการแก้ปัญหา” 

แบบทดสอบ  หน่วยที่ 2 “การเขียนโปรแกรมโดยใช้เหตุผลเชิงตรรกะ”

แหล่งอ้างอิง  ห้องเรียนครูกุ้ง "เรียนคอมง่ายนิดเดียว"

เขียนโดย Admin ที่ วันจันทร์, สิงหาคม 24, 2563

ข้อสอบวิทยาการคํานวณ ป.6 pdf

7 ความคิดเห็น:

  1. ข้อสอบวิทยาการคํานวณ ป.6 pdf

    ไม่ระบุชื่อ7 ธันวาคม 2563 10:01

    0641675962

    ตอบลบ

    คำตอบ

      ตอบ

  2. ข้อสอบวิทยาการคํานวณ ป.6 pdf

    ด.ช.สมพร ลุงคํา15 กุมภาพันธ์ 2564 12:03

    555

    ตอบลบ

    คำตอบ

      ตอบ

  3. ข้อสอบวิทยาการคํานวณ ป.6 pdf

    Unknown16 กุมภาพันธ์ 2564 18:49

    ไม่รู้เรื่องเลยเว็บอะไร

    ตอบลบ

    คำตอบ

      ตอบ

  4. ข้อสอบวิทยาการคํานวณ ป.6 pdf

    ไม่ระบุชื่อ17 กุมภาพันธ์ 2564 14:56

    555555555

    ตอบลบ

    คำตอบ

      ตอบ

  5. ข้อสอบวิทยาการคํานวณ ป.6 pdf

    ไม่ระบุชื่อ17 กุมภาพันธ์ 2564 14:56

    อ๊อด

    ตอบลบ

    คำตอบ

      ตอบ

  6. ข้อสอบวิทยาการคํานวณ ป.6 pdf

    ไม่ระบุชื่อ17 กุมภาพันธ์ 2564 15:02

    ไออ๊อดดดดดดดดดดดด

    ตอบลบ

    คำตอบ

      ตอบ

  7. ข้อสอบวิทยาการคํานวณ ป.6 pdf

    ไม่ระบุชื่อ22 กรกฎาคม 2565 14:57

    อ๊อด

    ตอบลบ

    คำตอบ

      ตอบ

เพิ่มความคิดเห็น

โหลดเพิ่มเติม...

บทความใหม่กว่า บทความที่เก่ากว่า หน้าแรก

สมัครสมาชิก: ส่งความคิดเห็น (Atom)

คำอธิบายรายวิชา

รายวชิ าพื้นฐานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (เทคโนโลยี) กลมุ่ สาระการเรียนรวู้ ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ่ี 6 เวลา 40 ชว่ั โมง จำนวน 1 หนว่ ยกิต

ศึกษาและฝึกทกั ษะเกย่ี วกบั การใช้เหตผุ ลเชงิ ตรรกะในการอธบิ ายและออกแบบวิธกี ารแกป้ ัญหาท่ีพบใน
ชีวติ ประจำวนั ออกแบบและเขยี นโปรแกรมอยา่ งงา่ ย เพ่ือแก้ปญั หาในชีวติ ประจำวนั ตรวจหาข้อผิดพลาดของ
โปรแกรมและแก้ไข ใชอ้ นิ เทอร์เนต็ ในการค้นหาข้อมูลอย่างมปี ระสิทธิภาพ ใชเ้ ทคโนโลยีสารสนเทศทำงานรว่ มกนั
อย่างปลอดภัย เข้าใจสทิ ธิและหน้าที่ของตนเคารพในสิทธิของผู้อื่น แจ้งผ้เู กี่ยวข้องเมื่อพบข้อมลู หรือบุคคลท่ีไม่
เหมาะสม

ว. 4.2 เทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ)
1. ใชเ้ หตุผลเชงิ ตรรกะในการอธิบายและออกแบบวิธกี ารแกป้ ญั หาที่พบในชวี ิตประจำวัน
2. ออกแบบและเขยี นโปรแกรมอยา่ งง่าย เพื่อแก้ปัญหาในชวี ิตประจำวนั ตรวจหาขอ้ ผิดพลาดของ

โปรแกรมและแก้ไข
3. ใช้อินเทอร์เน็ตในการค้นหาขอ้ มลู อย่างมปี ระสทิ ธภิ าพ
4. ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศทำงานร่วมกันอย่างปลอดภัย เข้าใจสิทธแิ ละหน้าท่ีของตนเคารพในสทิ ธขิ อง

ผู้อ่นื แจ้งผู้เก่ียวข้องเม่ือพบข้อมูลหรือบุคคลท่ีไม่เหมาะสม

รวมทั้งหมด 4 ตวั ช้ีวดั

โครงสร้างรายวชิ า ชน้ั ประถมศึกษาปีที่ 6
รายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (เทคโนโลยี) จำนวน 40 ชั่วโมง/ปี
รหัสวชิ า ว16101

หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ ช่ือหน่วยการเรยี นรู้ มาตรฐาน/ตัวช้ีวัด จำนวนชว่ั โมง
1
1 ปฐมนเิ ทศและข้อตกลงในการเรียน - 1
1
2 รับนอ้ งใหม่ หัวใจปิ๊งๆ ว 4.2 ป.6/1 1
2
3 รบั น้องใหม่ หัวใจป๊ิงๆ ตอน ตามลา่ หาสมบัติ ว 4.2 ป.6/1 1
1
4 รบั นอ้ งใหม่ หวั ใจปง๊ิ ๆ ตอน ตราชัง่ แสนกล ว 4.2 ป.6/1 1

5 รบั น้องใหม่ หัวใจปงิ๊ ๆ ตอน ภารกิจพิชิตฝั่งแมน่ ้ำ ว 4.2 ป.6/1 1

6 คลปิ ซอ้ น ซ่อนเง่ือน ว 4.2 ป.6/4 2
1
7 คลิปซอ้ น ซ่อนเงื่อน ตอน ละเมิดหรอื ไม่ ถามใจเธอดู ว 4.2 ป.6/4 1
1
8 คลปิ ซอ้ น ซ่อนเงื่อน ตอน รายงานผลิตภัณฑท์ ้องถน่ิ ว 4.2 ป.6/4 1
1
9 คลปิ ซอ้ น ซ่อนเง่ือน ว 4.2 ป.6/4 1
ตอน ละเมิดลิขสิทธ์ิ ละเมดิ ความเป็นสว่ นตัว 1
1
10 เดินตามเสน้ เล่นตามสคริปต์ ว 4.2 ป.6/1-2
2
11 เดนิ ตามเสน้ เลน่ ตามสครปิ ต์ ตอน เจา้ จ๋อนักคิด ว 4.2 ป.6/1-2
2
12 สงิ สยอง สำรองอิ่ม ว 4.2 ป.6/4 1
1
13 สิงสยอง สำรองอม่ิ ตอน คลาวด์แอนด์คอม ว 4.2 ป.6/4 1

14 สิงสยอง สำรองอ่ิม ตอน สำรองไว้ก่อน ว 4.2 ป.6/4

15 สิงสยอง สำรองอิ่ม ตอน กำหนดสทิ ธิ์ ว 4.2 ป.6/4

16 ค้างคาวกินกล้วย ว 4.2 ป.6/1-2

17 ค้างคาวกินกลว้ ย ตอน โคด้ ไม่ดเี ลยมีบัก ว 4.2 ป.6/1-2

18 ค้างคาวกินกล้วย ตอน กระต่ายหมายจันทร์ ว 4.2 ป.6/1-2

19 ค้างคาวกนิ กล้วย ว 4.2 ป.6/1-2
ตอน หนนู อ้ ยหมวกแดงเก็บแอปเปลิ

20 เรือ่ งวนุ่ ๆ หนงั สอื รุน่ ออนไลน์ ว 4.2 ป.6/4

ทดสอบกลางปี ว 4.2 ป.6/1-4

21 เรื่องวุน่ ๆ หนงั สือร่นุ ออนไลน์ ตอน ทำงานรว่ มกัน ว 4.2 ป.6/4

22 รวบรวม รว่ มแรง จดั แจงข้อมูล ว 4.2 ป.6/4

โครงสรา้ งรายวิชา (ต่อ) ชั้นประถมศึกษาปที ่ี 6
รายวชิ าพ้ืนฐานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (เทคโนโลยี) จำนวน 40 ช่ัวโมง/ปี
รหัสวชิ า ว16101

หน่วยการเรยี นรทู้ ี่ ช่ือหน่วยการเรียนรู้ มาตรฐาน/ตวั ช้ีวัด จำนวนช่วั โมง
2
23 รวบรวม รว่ มแรง จัดแจงขอ้ มูล ว 4.2 ป.6/4 1
ตอน กล่นั กรองข้อมลู 1
2
24 รวบรวม รว่ มแรง จดั แจงขอ้ มูล ตอน โปรแกรมจดั ให้ ว 4.2 ป.6/4 1

25 รวบรวม รว่ มแรง จดั แจงข้อมูล ตอน ทศั นศึกษา ว 4.2 ป.6/4 1
1
26 น้ำนองเต็มตลงิ่ ค้นความจรงิ ให้กระจ่าง ว 4.2 ป.6/3 1

27 นำ้ นองเตม็ ตลงิ่ คน้ ความจริงใหก้ ระจา่ ง ว 4.2 ป.6/3 2
ตอน ชานมไข่มกุ 1
40 ช่ัวโมง
28 นำ้ นองเตม็ ตลิ่ง ค้นความจริงให้กระจ่าง ว 4.2 ป.6/3
ตอน วัตถปุ รศิ นา

29 ลงเรอื ลำใหญ่ ท่องไปในโลกกวา้ ง ว 4.2 ป.6/4

30 ลงเรือลำใหญ่ ท่องไปในโลกกว้าง ว 4.2 ป.6/4
ตอน ปลอดภัยไว้กอ่ น

31 ลงเรอื ลำใหญ่ ท่องไปในโลกกวา้ ง ว 4.2 ป.6/4
ตอน ใช้งานสอื่ สังคมอย่างปลอดภยั

สอบปลายปี ว 4.2 ป.6/1-4

รวม 1 มฐ. 4 ตชว.

เฉลยแบบทดสอบ ชัน้ ประถมศกึ ษาปที ี่ 6
รายวิชาพ้ืนฐานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (เทคโนโลยี)

คำช้แี จง ให้นกั เรียนเลือกข้อทถ่ี กู ต้องทสี่ ุดเพยี งข้อเดยี ว

1. มะนาวปลกู ตน้ ไมจ้ ำนวน 3 ต้น สามารถเขยี นการทำงานแบบวนซำ้ ที่มจี ำนวนครัง้ แน่นอนได้อย่างไร
ก. เริม่ ต้น > ปลูกตน้ ไม้ > หยุดปลกู
ข. เริ่มต้น > ปลกู ตน้ ไม้ 3 ตน้ > หยดุ ปลกู
ค. เริม่ ต้น > ปลกู ต้นที่ 1 > ปลูกตน้ ที่ 3 > หยดุ ปลูก
ง. เริม่ ตน้ > ปลกู ตน้ ที่ 1 > ปลกู ตน้ ท่ี 2 > ปลูกต้นท่ี 3 > หยดุ ปลกู

2. งานใดเหมาะกับการใช้แนวคิดการทำงานแบบเงื่อนไขมากทส่ี ดุ
ก. การแต่งตวั ไปโรงเรยี น
ข. การรอ้ ยลูกปดั เพ่ือทำสร้อยคอ
ค. การสงั เกตไฟจราจรกอ่ นข้ามถนน
ง. การแจกนมใหน้ ักเรียนในตอนเช้า

3. วธิ ีเขียนสครปิ ต์ในโปรแกรม Scratch เป็นอย่างไร
ก. การนำบลอ็ กคำสั่งมาวางต่อกนั
ข. การแยกบล็อกคำส่ังออกจากกัน
ค. การพิมพค์ ำส่ังในกระดานสคริปต์
ง. การคลิกปุม่ ธงเขียว

4. ข้อใดไม่ใชป่ ระโยชน์ของการออกแบบโปรแกรม
ก. เพื่อให้เห็นลำดับขัน้ การทำงานของโปรแกรม
ข. เพ่ือให้แก้ไขข้อผิดพลาดของโปรแกรมได้ง่ายขนึ้
ค. เพ่ือใช้อธบิ ายการทำงานอย่างเปน็ ลำดบั ขั้นตอน
ง. เพอื่ ฝึกการออกแบบโปรแกรมด้วยข้อความและผงั งาน

5. จาก Script มีเงื่อนไขการทำงานอยา่ งไร

ก. ถา้ .....เปน็ จริงแล้ว….. (if…..then…..)
ข. ถ้า.....ถ้าไม่จริงแล้ว..... (if…..else…..)
ค. ถา้ .....เป็นจริงแลว้ .....ถ้าไม่จรงิ แล้ว..... (if…..then…..else…..)
ง. ถา้ .....ถ้าไม่จริงแล้ว.....เปน็ จรงิ แลว้ ..... (if…..else…..then…..)

6. จาก Script หมายถงึ ข้อใด

ก. ถ้าตวั เลขหารดว้ ย 5 แลว้ เทา่ กบั 0 ให้เพ่ิมค่า number ขนึ้ 1
ข. ถ้าตัวเลขหารด้วย 5 แลว้ เศษเท่ากบั 0 ใหเ้ พิ่มค่า number ขน้ึ 1
ค. ถา้ ตัวเลขคูณด้วย 5 แลว้ เศษเทา่ กับ 0 ใหแ้ สดง ตัวเลขลงในรายการ list_number
ง. ถ้าตวั เลขหารดว้ ย 5 แลว้ เศษเท่ากับ 0 ใหแ้ สดง ตวั เลขลงในรายการ list_number

7. ข้อใดไม่ใชข่ ้นั ตอนการตรวจสอบขอ้ ผิดพลาดของโปรแกรม
ก. ทดสอบการทำงานของโปรแกรม
ข. ตรวจสอบการทำงานของคำสั่งทลี ะคำสั่ง
ค. ทดลองเปลีย่ นคา่ ในโปรแกรมจนกว่าจะไดผ้ ลท่ตี อ้ งการ
ง. เม่ือพบจุดทท่ี ำให้โปรแกรมไม่เปน็ ไปตามตอ้ งการ ใหแ้ กไ้ ขข้อผิดพลาดนน้ั จนกว่าจะได้โปรแกรมตามที่ตอ้ งการ

8. ข้อใดต่อไปนี้ ไมใ่ ช่ ซอฟต์แวรต์ าราง
ก. Microsoft Excel
ข. Microsoft Word
ข. OpenOffice Calc
ข. Google sheet

9. sum ท่ใี ชใ้ นซอฟต์แวร์ตาราง หมายถงึ อะไร
ก. ผสาน
ข. แถว
ค. ผลรวม
ง. คอลัมน์

10. ขอ้ ใดคอื ประโยชน์ของการออกแบบโปรแกรมก่อนทีจ่ ะเขยี นโปรแกรม
ก. เพื่อใช้ดผู ลการทำงานของโปรแกรม
ข. เพ่ือใหโ้ ปรแกรมมีความซบั ซ้อนมากย่ิงข้นึ
ค. เพ่อื ใหเ้ ห็นลำดับข้ันการทำงานของโปรแกรม
ง. เพอ่ื ทดสอบการออกแบบโปรแกรมด้วยข้อความและผังงาน

11. สถานการณ์ขอ้ ใดไมจ่ ำเป็นต้องเขียนโปรแกรมวนซำ้ แทนการเขียนคำส่ังโปรแกรมเดมิ ซำ้ กนั หลายๆ ครั้ง
ก. ขน้ั ตอนการอาบน้ำ
ข. ขน้ั ตอนการทานอาหารเชา้
ค. ข้ันตอนการจัดหนังสอื เขา้ ตู้
ง. ขัน้ ตอนการซ้ือขนมท่ีร้านสะดวกซ้ือ

12. หากตอ้ งการนําภาพ ขอ้ ความ หรือผลงานของผู้อนื่ ไปใชเ้ พือ่ การศึกษา ควรปฏบิ ตั อิ ย่างไร
ก. ควรบอกท่ีมาของข้อมลู
ข. ไมค่ วรบอกทมี่ าของข้อมูล
ค. ควรบอกท่ีมาของข้อมูลเพ่ือใหเ้ กยี รติแก่เจา้ ของข้อมลู
ง. ไมค่ วรบอกท่มี าของข้อมูลเพอื่ ใหเ้ กียรตแิ ก่เจา้ ของข้อมลู

13. เพราะเหตุใดจงึ ไม่ควรถา่ ยภาพหรือวดิ ีโอในสถานพยาบาล
ก. เปน็ การละเมิดสิทธิผปู้ ่วย
ข. อาจขัดขวางการทำงานของเจ้าหนา้ ที่
ค. เป็นการรักษาสิทธิผู้ป่วย
ง. ขอ้ ก. และ ข. ถกู

14. การกระทำใดทไ่ี มถ่ ือวา่ เปน็ การละเมิดลขิ สิทธ์ิ
ก. นำภาพของผู้อ่นื มาดัดแปลงแลว้ นำไปขาย
ข. เผยแพร่ภาพยนตรท์ ่ีกำลงั ฉายอยใู่ นโรงภาพยนตร์ใหเ้ พ่ือนดูผา่ นทางสื่อสงั คม
ค. บอกท่ีมาของข้อมลู เพ่อื ใหเ้ กียรตแิ ก่เจ้าของข้อมูล
ง. คดั ลอกเนื้อหาจากหนงั สือมาดัดแปลงแล้วเผยแพร่ในเว็บไซตข์ องตนเอง

15. บล็อกคำสง่ั touching ใช้สำหรบั ส่ิงใด
ก. ตรวจสอบการสัมผสั ตวั ช้ีเมาสเ์ สน้ ขอบหรอื ตัวละคร
ข. ใชส้ ำหรับกำหนดให้โปรแกรมหยุดรอจนกระทั่งเงอื่ นไข เป็นไปตามท่ีกำหนด แล้วจงึ ทำงานต่อ
ค. ใชเ้ ปลีย่ นเง่ือนไขทน่ี ำมาต่อดา้ น หลัง ใหเ้ ปน็ เง่ือนไขท่ีตรงข้ามกัน
ง. ใช้หยุดการทำงานทั้งหมด ของโปรแกรม

16. บล็อกคำสงั่ เท่ากับ (=) อยใู่ นบล็อกกลุ่มใด
ก. Variables
ข. Control
ค. Operators
ง. Sounds

17. บล็อกคำสั่ง not อยู่ในกลุ่มบลอ็ ก Operators ใช้สำหรบั อะไร
ก. ตรวจสอบการสมั ผสั ตวั ช้เี มาส์เสน้ ขอบหรอื ตวั ละคร
ข. ใช้สำหรับกำหนดใหโ้ ปรแกรมหยุดรอจนกระทัง่ เงื่อนไข เปน็ ไปตามท่ีกำหนด แล้วจึงทำงานต่อ
ค. ใช้เปลยี่ นเงื่อนไขท่นี ำมาต่อด้าน หลงั ใหเ้ ป็นเง่ือนไขท่ีตรงข้ามกนั
ง. ใชห้ ยุดการทำงานทั้งหมด ของโปรแกรม

18. บล็อกคำสั่งเทา่ กับ (=) อยู่ในกลมุ่ บลอ็ ก Operators
ก. ใช้เปรยี บเทียบค่า 2 ค่า
ข. ใชส้ ำหรบั ตรวจสอบการสัมผัสตวั ช้เี มาสเ์ สน้ ขอบหรือตัวละคร
ค. ใชส้ ำหรับเปลี่ยนค่าตวั แปรใหเ้ พม่ิ ข้นึ หรือลดลงจากเดมิ ตามจำนวนที่กำหนด
ง. ใชต้ รวจสอบ การสมั ผัสระหว่างสี

19. ระบบปฏบิ ตั กิ าร (Operating System: OS) คืออะไร
ก. บรกิ ารบนอนิ เทอรเ์ นต็
ข. อุปกรณ์จัดเกบ็ ข้อมูลชนิดหนึง่
ค. การคดั ลอกข้อมลู สำคัญไปเกบ็ ไว้อีกทหี่ น่งึ
ง. โปรแกรมพ้ืนฐานทค่ี วบคุม เครอ่ื งคอมพิวเตอร์ แท็บเล็ต และสมาร์ตโฟน

20. การคดั ลอกข้อมลู สำคัญไปเกบ็ ไว้อีกทห่ี น่ึง มีชื่อเรยี กว่าอย่างไร
ก. ฮาร์ดดสิ
ข. การสำรองข้อมูล
ค. ระบบปฏิบตั กิ าร
ง. คลาวด์

21. การแชร์โฟลเดอร์บนคลาวด์ สามารถแชรไ์ ด้กวี่ ธิ ี
ก. 1 วิธี
ข. 2 วธิ ี
ค. 3 วธิ ี
ง. 4 วิธี

22. Anyone with the link can edit มคี วามหมายวา่ อย่างไร
ก. แก้ไขไฟล์ได้
ข. แกไ้ ขไฟล์ไม่ได้
ค. มองเห็นไดเ้ ทา่ น้นั แตแ่ ก้ไขขอ้ มลู ไม่ได้
ง. ทุกคนทมี่ ลี ิงกเ์ อกสารน้ีสามารถแก้ไขไฟลไ์ ด้

23. คลาวด์ (cloud) คืออะไร
ก. พ้นื ทีบ่ นอินเทอรเ์ น็ตทีม่ ีไว้สำหรับเกบ็ ขอ้ มลู และแชร์ให้กนั ได้
ข. อปุ กรณ์จัดเกบ็ ข้อมลู ชนดิ หนึ่ง
ค. การคัดลอกข้อมลู สำคัญไปเกบ็ ไวอ้ ีกทหี่ นึ่ง
ง. โปรแกรมพ้ืนฐานทค่ี วบคมุ เครื่องคอมพิวเตอร์ แท็บเลต็ และสมารต์ โฟน

24. วธิ กี ารแชร์ไฟล์ใหผ้ ูอ้ น่ื บนคลาวด์ มขี ้อดีอย่างไร
ก. ไมม่ าสามารถดาวนโ์ หลดไฟลท์ แี่ ชรบ์ นคลาวด์ได้
ข. ต้องอัปโหลดไฟล์หลายครัง้ และใชส้ ่งไฟลท์ ่มี ขี นาดใหญ่ไมไ่ ด้
ค. ไมต่ ้องอปั โหลดไฟล์หลายคร้งั และใชส้ ่งไฟลท์ ี่มขี นาดใหญ่ได้
ง. การคดั ลอกข้อมูลสำคญั ไปเก็บไวอ้ ีกที่หนงึ่

25. ขน้ั ตอนในการแชรไ์ ฟลม์ ีอะไรบา้ ง
ก. คลิกทไ่ี ฟลห์ รือโฟลเดอรท์ ี่ตอ้ งการแชร์ แลว้ เลอื กคำสงั่ Share พมิ พท์ ่ีอยู่อีเมลของผรู้ ับ

และคลิกปุ่ม Send
ข. คลกิ ท่ีไฟลห์ รือโฟลเดอร์ที่ต้องการแชร์ แล้วเลือกคำสัง่ Share พิมพท์ ่ีอยู่อเี มลของผู้รับ
ค. คลกิ ที่ไฟล์หรือโฟลเดอร์ท่ีตอ้ งการแชร์ แลว้ เลอื กคำสง่ั Share
ง. คลิกทีไ่ ฟล์หรือโฟลเดอรท์ ต่ี ้องการแชร์

26. OFF-only specific people can access ใช้ในกรณีใด
ก. ใช้ในกรณีทตี่ ้องการแชร์ไฟลใ์ หท้ ุกคนท่ีไดร้ ับลิงกน์ ส้ี ามารถแก้ไขข้อมูลในไฟล์
ข. ใช้ในกรณที ่ตี ้องการใหค้ นอื่นอ่านได้เท่าน้นั ไมส่ ามารถแก้ไขข้อมลู ในไฟล์ได้
ค. ใชใ้ นกรณที ่ตี ้องการระบุเฉพาะ รายบุคคล โดยไม่ต้องการเผยแพร่ใหบ้ ุคคลทว่ั ไปเหน็
ง. ใช้ในกรณที ไี่ มต่ ้องการให้คนอ่นื เข้าถงึ ข้อมลู ในไฟล์ได้

27. การใช้งานข้อมูลบนคลาวด์ มีขอ้ เสยี อยา่ งไร
ก. สามารถแก้ไขข้อมลู ไดท้ ุกทท่ี ่ีมีบริการอินเทอร์เน็ต
ข. ไมต่ อ้ งใช้เครื่องเดมิ ทีบ่ ันทึกไว้
ค. ขอ้ มูลของเราอาจถูกผอู้ ่นื แก้ไข/เปลยี่ นแปลง
ง. แก้ไขเอกสารรว่ มกันกบั ผู้อ่ืนได้

28. ข้อใดคือประโยชน์ของเทคนคิ การคน้ หาข้อมลู
ก. การตั้งคำถามกบั เหตกุ ารณ์บางอย่าง
ข. เพอ่ื ให้ไดข้ ้อมูลภายในระยะเวลาอนั รวดเร็ว
ค. เพ่ือให้ไดข้ ้อมลู ที่มีประโยชน์และสรา้ งสรรค์
ง. ถกู ทกุ ขอ้

29. ข้อใดเป็นเทคนิคการคน้ หาข้อมูล
ก. การค้นหาโดยใชต้ ัวเลข
ข. การคน้ หาโดยใช้คำประสม
ค. การค้นหาโดยใชต้ วั ดำเนนิ การ
ง. การค้นหาโดยระบปุ ระเภทของเว็บไซต์

30. หากตอ้ งการค้นหาเฉพาะไฟลท์ น่ี ามสกุล .ppt เทา่ น้นั ควรใชเ้ ทคนคิ ใดในการคน้ หา
ก. การค้นหาโดยใชค้ ำสำคัญ
ข. การคน้ หาโดยระบชุ นดิ ของไฟล์
ค. การค้นหาโดยระบปุ ระเภทของเว็บไซต์
ง. การคน้ หาโดยใช้เครอ่ื งหมายหรือสญั ลักษณ์

31. ขอ้ ใดไมใ่ ช่ขอ้ มูลพ้นื ฐานของเวบ็ ไซต์
ก. ทีอ่ ย่เู วบ็ ไซต์
ข. ท่มี าของข้อมลู
ค. วนั ท่เี ผยแพรข่ ้อมลู
ง. ชอื่ หัวข้อของเว็บไซต์

32. หากนกั เรียนต้องการเขา้ สกู่ ารค้นหาขน้ั สูง นักเรยี นต้องเลือกคำสง่ั ใดกอ่ น
ก. เพิม่ เตมิ
ข. ข่าวสาร
ค. การตั้งค่า
ง. เครอื่ งมือ

33. หากนกั เรียนต้องการค้นหาขอ้ มูลทเ่ี ผยแพร่ตั้งแตป่ ี พ.ศ. 2560-2562 ควรปอ้ นข้อมูล พ.ศ. หลังคำใด
ก. อปั เดตล่าสุด
ข. คำที่ปรากฏ
ค. คำใด ๆ เหล่าน้ี
ง. จำนวนตง้ั แต่ ... ถึง ...

34. ข้อใดคอื เว็บไซตท์ เี่ กี่ยวข้องกับการศึกษา
ก. เวบ็ ไซต์ทล่ี งทา้ ยด้วย .com
ข. เว็บไซตท์ ่ลี งท้ายดว้ ย .co.th
ค. เวบ็ ไซต์ที่ลงท้ายด้วย .ac.th
ง. เวบ็ ไซตท์ ี่ลงทา้ ยดว้ ย .or.th

35. ขอ้ ใดเป็นการประเมนิ ความนา่ เชอ่ื ถือของข้อมูลทไ่ี ด้จากอินเทอร์เนต็
ก. ตรวจสอบวา่ มกี ารระบุประเภทของข้อมูล
ข. ตรวจสอบว่ามีผู้ใช้งานแชรข์ ้อมูลหลายคน
ค. ตรวจสอบวา่ มีการระบุวันทเ่ี ผยแพร่และครง้ั ทป่ี รบั ปรงุ
ง. ตรวจสอบวา่ มีการกลา่ วถงึ ประโยชนแ์ ละโทษของขอ้ มูล

36. การกระทำใดท่ที ำให้ได้ข้อมลู ทีน่ ่าเช่ือถือ
ก. หาขอ้ มลู จากเวบ็ ไซต์ที่ไมม่ ีการอา้ งอิง
ข. หาเลือกข้อมลู ท่เี ผยแพร่เมื่อ 10 ปที แ่ี ล้ว
ค. หาขอ้ มลู จากเว็บไซต์ท่เี กี่ยวข้องกบั การศึกษา
ง. หาขอ้ มลู จากเพจที่มคี นเข้ามาแสดงความคดิ เห็นไว้

37. ขอ้ ใด ไมใ่ ช่ อนั ตรายที่อาจเกิดจากการใช้งานอินเทอรเ์ น็ตโดยตรง
ก. มีคนนำภาพตัดตอ่ เคนไปโพสล้อเลยี นในสอื่ สังคมออนไลน์
ข. ฟ้าเลน่ แอพพลิเคชนั สอื่ สงั คมออนไลน์ขณะเดินขา้ มถนน
ค. ปลายสแกนหนงั สือการ์ตนู ทซี่ อ้ื มาสง่ ให้เพ่ือน ๆ ทางอีเมล
ง. เพอื่ นทร่ี จู้ ักคร้งั แรกผา่ นส่อื สงั คมออนไลน์ ชวนแซมไปเท่ียวและขโมยเงนิ

38. การตั้งรหัสผา่ นแบบใดมีความปลอดภยั สูง
ก. ใช้วันเดอื นปีเกดิ เช่น 10122550
ข. ใช้ตวั เลขซำ้ ๆ เพื่อใหจ้ ำงา่ ย เช่น 181818
ค. เรียงตวั เลขจากมากไปหาน้อย เช่น 654321
ง. ใช้อกั ษรพมิ พ์ใหญ่ พิมพ์เล็ก ตัวเลข สญั ลกั ษณ์ เช่น Mtf6wU_1969

39. ขอ้ ควรปฏบิ ัตใิ นการเขา้ ใชง้ านโดยใชร้ หัสผา่ นในคอมพิวเตอร์
ก. เปลย่ี นรหัสผ่านบอ่ ย ๆ ทกุ 2-3 เดือน
ข. บอกรหัสผ่านเฉพาะเพ่ือนสนิทเท่านน้ั
ค. บนั ทกึ รหัสผ่านแบบอตั โนมัตเิ พ่ือปอ้ งกันการพิมพ์ รหสั ผา่ นผิดพลาด
ง. จดรหัสผ่านใสก่ ระดาษหรือในอุปกรณ์เทคโนโลยี เพอ่ื ป้องกันการลืมรหัสผา่ น

40. ขอ้ ใด ไมถ่ ือวา่ เปน็ การกระทำความผิด ตาม พ.ร.บ. คอมพิวเตอร์
ก. อายส่งอเี มลเพ่ือขอยืมเงินจากฝน
ข. ตามเขา้ ไปลบไฟล์การบ้านในคอมพิวเตอร์ของผ้ึง
ค. ตนุ่ นำรหสั ผ่านอเี มลของเต่าไปโพสในสอ่ื สงั คมออนไลน์
ง. ทรายตัดตอ่ ภาพแอนกบั ภาพชดุ วา่ ยน้ำ โพสในสือ่ สังคมออนไลน์

แบบทดสอบ ชั้นประถมศึกษาปที ี่ 6
รายวชิ าพื้นฐานวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี (เทคโนโลยี)

คำชแ้ี จง ใหน้ ักเรียนเลือกข้อทถ่ี ูกต้องท่ีสุดเพียงข้อเดียว

1. มะนาวปลกู ต้นไม้จำนวน 3 ต้น สามารถเขยี นการทำงานแบบวนซ้ำท่ีมีจำนวนครง้ั แนน่ อนได้อย่างไร
ก. เรม่ิ ตน้ > ปลกู ตน้ ไม้ > หยดุ ปลูก
ข. เรม่ิ ต้น > ปลูกต้นไม้ 3 ต้น > หยุดปลูก
ค. เรม่ิ ตน้ > ปลูกต้นท่ี 1 > ปลูกต้นที่ 3 > หยุดปลูก
ง. เรมิ่ ต้น > ปลกู ตน้ ท่ี 1 > ปลกู ต้นที่ 2 > ปลูกตน้ ท่ี 3 > หยุดปลกู

2. งานใดเหมาะกับการใช้แนวคิดการทำงานแบบเง่ือนไขมากทส่ี ดุ
ก. การแต่งตัวไปโรงเรยี น
ข. การรอ้ ยลกู ปดั เพ่ือทำสรอ้ ยคอ
ค. การสังเกตไฟจราจรก่อนข้ามถนน
ง. การแจกนมให้นักเรยี นในตอนเช้า

3. วธิ เี ขียนสครปิ ต์ในโปรแกรม Scratch เปน็ อยา่ งไร
ก. การนำบลอ็ กคำสัง่ มาวางต่อกนั
ข. การแยกบล็อกคำสั่งออกจากกนั
ค. การพิมพค์ ำสั่งในกระดานสคริปต์
ง. การคลิกป่มุ ธงเขียว

4. ขอ้ ใดไม่ใชป่ ระโยชน์ของการออกแบบโปรแกรม
ก. เพอ่ื ใหเ้ ห็นลำดับข้ันการทำงานของโปรแกรม
ข. เพ่ือให้แก้ไขข้อผิดพลาดของโปรแกรมได้งา่ ยขึ้น
ค. เพ่ือใช้อธบิ ายการทำงานอย่างเป็นลำดับข้นั ตอน
ง. เพ่ือฝึกการออกแบบโปรแกรมดว้ ยข้อความและผงั งาน

5. จาก Script มเี ง่ือนไขการทำงานอย่างไร

ก. ถ้า.....เป็นจริงแล้ว….. (if…..then…..)
ข. ถ้า.....ถ้าไม่จริงแล้ว..... (if…..else…..)
ค. ถา้ .....เป็นจริงแล้ว.....ถ้าไม่จริงแลว้ ..... (if…..then…..else…..)
ง. ถา้ .....ถ้าไมจ่ ริงแล้ว.....เปน็ จริงแล้ว..... (if…..else…..then…..)

6. จาก Script หมายถึงข้อใด

ก. ถ้าตัวเลขหารด้วย 5 แล้วเท่ากบั 0 ใหเ้ พิม่ ค่า number ข้ึน 1
ข. ถา้ ตวั เลขหารด้วย 5 แลว้ เศษเท่ากบั 0 ใหเ้ พมิ่ ค่า number ข้ึน 1
ค. ถา้ ตวั เลขคณู ด้วย 5 แล้วเศษเท่ากบั 0 ให้แสดง ตวั เลขลงในรายการ list_number
ง. ถา้ ตัวเลขหารดว้ ย 5 แล้วเศษเท่ากบั 0 ให้แสดง ตัวเลขลงในรายการ list_number

7. ข้อใดไมใ่ ชข่ ัน้ ตอนการตรวจสอบข้อผิดพลาดของโปรแกรม
ก. ทดสอบการทำงานของโปรแกรม
ข. ตรวจสอบการทำงานของคำส่ังทลี ะคำสง่ั
ค. ทดลองเปลยี่ นค่าในโปรแกรมจนกวา่ จะได้ผลท่ตี อ้ งการ
ง. เมือ่ พบจุดที่ทำให้โปรแกรมไม่เป็นไปตามต้องการ ใหแ้ ก้ไขข้อผดิ พลาดน้นั จนกว่าจะไดโ้ ปรแกรมตามทตี่ อ้ งการ

8. ข้อใดต่อไปนี้ ไม่ใช่ ซอฟต์แวรต์ าราง
ก. Microsoft Excel
ข. Microsoft Word
ข. OpenOffice Calc
ข. Google sheet

9. sum ท่ใี ชใ้ นซอฟต์แวร์ตาราง หมายถงึ อะไร
ก. ผสาน
ข. แถว
ค. ผลรวม
ง. คอลัมน์

10. ขอ้ ใดคอื ประโยชน์ของการออกแบบโปรแกรมก่อนทีจ่ ะเขยี นโปรแกรม
ก. เพื่อใช้ดผู ลการทำงานของโปรแกรม
ข. เพ่ือใหโ้ ปรแกรมมีความซบั ซ้อนมากย่ิงข้นึ
ค. เพ่อื ใหเ้ ห็นลำดับข้ันการทำงานของโปรแกรม
ง. เพอ่ื ทดสอบการออกแบบโปรแกรมด้วยข้อความและผังงาน

11. สถานการณ์ขอ้ ใดไมจ่ ำเป็นต้องเขียนโปรแกรมวนซำ้ แทนการเขียนคำส่ังโปรแกรมเดมิ ซำ้ กนั หลายๆ ครั้ง
ก. ข้ันตอนการอาบน้ำ
ข. ขน้ั ตอนการทานอาหารเชา้
ค. ข้ันตอนการจัดหนังสอื เขา้ ตู้
ง. ขัน้ ตอนการซ้ือขนมท่ีร้านสะดวกซ้ือ

12. หากตอ้ งการนําภาพ ขอ้ ความ หรือผลงานของผู้อนื่ ไปใชเ้ พือ่ การศึกษา ควรปฏบิ ตั อิ ย่างไร
ก. ควรบอกท่ีมาของข้อมลู
ข. ไมค่ วรบอกทมี่ าของข้อมูล
ค. ควรบอกท่ีมาของข้อมูลเพ่ือใหเ้ กยี รติแก่เจา้ ของข้อมลู
ง. ไมค่ วรบอกท่มี าของข้อมูลเพอื่ ใหเ้ กียรตแิ ก่เจา้ ของข้อมลู

13. เพราะเหตุใดจงึ ไม่ควรถา่ ยภาพหรือวดิ ีโอในสถานพยาบาล
ก. เปน็ การละเมิดสิทธิผปู้ ่วย
ข. อาจขัดขวางการทำงานของเจ้าหนา้ ที่
ค. เป็นการรักษาสิทธิผู้ป่วย
ง. ขอ้ ก. และ ข. ถกู

14. การกระทำใดทไ่ี มถ่ ือวา่ เปน็ การละเมิดลขิ สิทธ์ิ
ก. นำภาพของผู้อ่นื มาดัดแปลงแลว้ นำไปขาย
ข. เผยแพร่ภาพยนตรท์ ่ีกำลงั ฉายอยใู่ นโรงภาพยนตร์ใหเ้ พ่ือนดผู า่ นทางสื่อสงั คม
ค. บอกท่ีมาของข้อมลู เพ่อื ใหเ้ กียรตแิ ก่เจ้าของข้อมูล
ง. คดั ลอกเนื้อหาจากหนงั สือมาดัดแปลงแลว้ เผยแพร่ในเว็บไซตข์ องตนเอง

15. บล็อกคำสง่ั touching ใช้สำหรบั ส่ิงใด
ก. ตรวจสอบการสัมผสั ตวั ช้ีเมาสเ์ สน้ ขอบหรอื ตวั ละคร
ข. ใชส้ ำหรับกำหนดให้โปรแกรมหยุดรอจนกระท่งั เงอื่ นไข เป็นไปตามท่ีกำหนด แล้วจงึ ทำงานต่อ
ค. ใชเ้ ปลีย่ นเง่ือนไขทน่ี ำมาต่อดา้ น หลัง ใหเ้ ป็นเง่ือนไขท่ีตรงขา้ มกนั
ง. ใช้หยุดการทำงานทั้งหมด ของโปรแกรม

16. บล็อกคำสงั่ เท่ากับ (=) อยใู่ นบล็อกกลุ่มใด
ก. Variables
ข. Control
ค. Operators
ง. Sounds

17. บล็อกคำสั่ง not อยู่ในกลุ่มบลอ็ ก Operators ใช้สำหรบั อะไร
ก. ตรวจสอบการสมั ผสั ตวั ช้เี มาส์เสน้ ขอบหรือตัวละคร
ข. ใช้สำหรับกำหนดใหโ้ ปรแกรมหยุดรอจนกระทง่ั เงื่อนไข เปน็ ไปตามท่ีกำหนด แล้วจึงทำงานต่อ
ค. ใช้เปลยี่ นเงื่อนไขท่นี ำมาต่อด้าน หลงั ให้เปน็ เง่ือนไขทตี่ รงขา้ มกนั
ง. ใชห้ ยุดการทำงานทั้งหมด ของโปรแกรม

18. บล็อกคำสั่งเทา่ กับ (=) อยู่ในกลมุ่ บลอ็ ก Operators
ก. ใช้เปรยี บเทียบค่า 2 ค่า
ข. ใชส้ ำหรบั ตรวจสอบการสัมผัสตวั ช้เี มาสเ์ สน้ ขอบหรือตัวละคร
ค. ใชส้ ำหรับเปล่ยี นคา่ ตวั แปรใหเ้ พม่ิ ข้นึ หรือลดลงจากเดมิ ตามจำนวนที่กำหนด
ง. ใชต้ รวจสอบ การสมั ผัสระหว่างสี

19. ระบบปฏบิ ตั กิ าร (Operating System: OS) คืออะไร
ก. บรกิ ารบนอนิ เทอร์เนต็
ข. อุปกรณ์จัดเกบ็ ข้อมลู ชนิดหนึง่
ค. การคดั ลอกข้อมลู สำคัญไปเกบ็ ไว้อีกทหี่ น่งึ
ง. โปรแกรมพ้ืนฐานทค่ี วบคุม เครอ่ื งคอมพิวเตอร์ แท็บเล็ต และสมาร์ตโฟน

20. การคดั ลอกข้อมลู สำคัญไปเกบ็ ไว้อีกทห่ี น่ึง มีชื่อเรยี กว่าอย่างไร
ก. ฮาร์ดดสิ
ข. การสำรองข้อมูล
ค. ระบบปฏิบตั กิ าร
ง. คลาวด์

21. การแชร์โฟลเดอร์บนคลาวด์ สามารถแชรไ์ ด้กวี่ ธิ ี
ก. 1 วิธี
ข. 2 วธิ ี
ค. 3 วธิ ี
ง. 4 วธิ ี

22. Anyone with the link can edit มีความหมายว่าอย่างไร
ก. แกไ้ ขไฟล์ได้
ข. แก้ไขไฟล์ไม่ได้
ค. มองเหน็ ได้เทา่ นัน้ แตแ่ ก้ไขขอ้ มูลไม่ได้
ง. ทุกคนทมี่ ีลิงกเ์ อกสารนส้ี ามารถแก้ไขไฟล์ได้

23. คลาวด์ (cloud) คืออะไร
ก. พ้นื ทบ่ี นอินเทอร์เน็ตที่มีไว้สำหรบั เกบ็ ข้อมลู และแชรใ์ ห้กนั ได้
ข. อปุ กรณ์จดั เกบ็ ข้อมลู ชนดิ หนึ่ง
ค. การคัดลอกข้อมูลสำคญั ไปเก็บไว้อีกทีห่ นึ่ง
ง. โปรแกรมพื้นฐานทค่ี วบคมุ เครือ่ งคอมพวิ เตอร์ แท็บเลต็ และสมารต์ โฟน

24. วิธกี ารแชรไ์ ฟล์ให้ผอู้ ื่นบนคลาวด์ มขี ้อดีอย่างไร
ก. ไมม่ าสามารถดาวน์โหลดไฟลท์ แ่ี ชร์บนคลาวด์ได้
ข. ตอ้ งอัปโหลดไฟลห์ ลายครั้ง และใชส้ ่งไฟลท์ ม่ี ีขนาดใหญ่ไมไ่ ด้
ค. ไม่ตอ้ งอัปโหลดไฟล์หลายครั้ง และใชส้ ่งไฟลท์ ี่มีขนาดใหญ่ได้
ง. การคดั ลอกข้อมูลสำคญั ไปเก็บไว้อีกทห่ี น่งึ

25. ขั้นตอนในการแชรไ์ ฟล์มีอะไรบา้ ง
ก. คลิกทีไ่ ฟลห์ รือโฟลเดอรท์ ่ีต้องการแชร์ แล้วเลอื กคำส่ัง Share พมิ พท์ ่ีอยู่อีเมลของผรู้ ับ

และคลกิ ปุ่ม Send
ข. คลกิ ทีไ่ ฟล์หรอื โฟลเดอร์ท่ีต้องการแชร์ แล้วเลือกคำสง่ั Share พิมพท์ ่ีอยู่อเี มลของผู้รับ
ค. คลิกทไ่ี ฟล์หรือโฟลเดอร์ท่ีต้องการแชร์ แลว้ เลือกคำส่ัง Share
ง. คลกิ ทีไ่ ฟลห์ รือโฟลเดอร์ท่ตี ้องการแชร์

26. OFF-only specific people can access ใช้ในกรณีใด
ก. ใช้ในกรณีที่ต้องการแชรไ์ ฟลใ์ หท้ กุ คนที่ได้รับลงิ กน์ ี้สามารถแก้ไขข้อมูลในไฟล์
ข. ใชใ้ นกรณที ีต่ ้องการให้คนอ่ืนอ่านได้เท่านัน้ ไม่สามารถแกไ้ ขข้อมลู ในไฟล์ได้
ค. ใชใ้ นกรณที ตี่ ้องการระบุเฉพาะ รายบุคคล โดยไม่ต้องการเผยแพร่ใหบ้ ุคคลทว่ั ไปเหน็
ง. ใชใ้ นกรณที ไ่ี มต่ ้องการใหค้ นอ่ืนเขา้ ถึงข้อมูลในไฟล์ได้

27. การใช้งานข้อมูลบนคลาวด์ มีขอ้ เสยี อยา่ งไร
ก. สามารถแก้ไขข้อมลู ไดท้ ุกทท่ี ่ีมีบริการอินเทอร์เน็ต
ข. ไมต่ อ้ งใช้เครื่องเดมิ ทีบ่ ันทึกไว้
ค. ขอ้ มูลของเราอาจถูกผอู้ ่นื แก้ไข/เปลยี่ นแปลง
ง. แก้ไขเอกสารรว่ มกันกบั ผู้อ่ืนได้

28. ข้อใดคือประโยชนข์ องเทคนคิ การคน้ หาข้อมลู
ก. การตั้งคำถามกบั เหตกุ ารณ์บางอย่าง
ข. เพอ่ื ให้ไดข้ ้อมูลภายในระยะเวลาอนั รวดเร็ว
ค. เพ่ือให้ไดข้ ้อมลู ที่มีประโยชน์และสรา้ งสรรค์
ง. ถกู ทกุ ขอ้

29. ข้อใดเป็นเทคนิคการคน้ หาข้อมูล
ก. การค้นหาโดยใชต้ ัวเลข
ข. การคน้ หาโดยใช้คำประสม
ค. การค้นหาโดยใชต้ วั ดำเนนิ การ
ง. การค้นหาโดยระบปุ ระเภทของเว็บไซต์

30. หากตอ้ งการค้นหาเฉพาะไฟลท์ น่ี ามสกุล .ppt เทา่ น้นั ควรใชเ้ ทคนคิ ใดในการคน้ หา
ก. การค้นหาโดยใชค้ ำสำคัญ
ข. การคน้ หาโดยระบชุ นดิ ของไฟล์
ค. การค้นหาโดยระบปุ ระเภทของเว็บไซต์
ง. การคน้ หาโดยใช้เครอ่ื งหมายหรือสญั ลักษณ์

31. ขอ้ ใดไมใ่ ช่ขอ้ มูลพ้นื ฐานของเวบ็ ไซต์
ก. ทีอ่ ย่เู วบ็ ไซต์
ข. ท่มี าของข้อมลู
ค. วนั ท่เี ผยแพรข่ ้อมลู
ง. ชอื่ หัวข้อของเว็บไซต์

32. หากนกั เรียนต้องการเขา้ สกู่ ารค้นหาข้นั สงู นักเรียนต้องเลือกคำสั่งใดก่อน
ก. เพิม่ เตมิ
ข. ข่าวสาร
ค. การตั้งค่า
ง. เครอื่ งมือ

33. หากนกั เรียนต้องการค้นหาขอ้ มูลที่เผยแพรต่ ้ังแตป่ ี พ.ศ. 2560-2562 ควรปอ้ นข้อมูล พ.ศ. หลังคำใด
ก. อปั เดตล่าสดุ
ข. คำที่ปรากฏ
ค. คำใด ๆ เหล่าน้ี
ง. จำนวนตง้ั แต่ ... ถึง ...

34. ข้อใดคอื เว็บไซตท์ เี่ กี่ยวข้องกับการศึกษา
ก. เวบ็ ไซต์ท่ลี งทา้ ยด้วย .com
ข. เว็บไซตท์ ่ลี งท้ายดว้ ย .co.th
ค. เวบ็ ไซต์ทลี่ งท้ายด้วย .ac.th
ง. เวบ็ ไซตท์ ่ีลงท้ายดว้ ย .or.th

35. ขอ้ ใดเป็นการประเมนิ ความนา่ เชอื่ ถือของข้อมูลท่ีได้จาก อนิ เทอรเ์ นต็
ก. ตรวจสอบวา่ มกี ารระบุประเภทของขอ้ มลู
ข. ตรวจสอบวา่ มีผู้ใช้งานแชร์ข้อมลู หลายคน
ค. ตรวจสอบวา่ มีการระบุวันที่เผยแพรแ่ ละครัง้ ที่ปรับปรุง
ง. ตรวจสอบวา่ มีการกลา่ วถึงประโยชน์และโทษของขอ้ มลู

36. การกระทำใดท่ที ำให้ได้ข้อมลู ทีน่ ่าเชื่อถือ
ก. หาขอ้ มลู จากเวบ็ ไซต์ที่ไม่มีการอ้างอิง
ข. หาเลือกข้อมลู ท่เี ผยแพร่เมื่อ 10 ปีท่แี ล้ว
ค. หาขอ้ มลู จากเว็บไซต์ท่เี กยี่ วข้องกบั การศึกษา
ง. หาขอ้ มลู จากเพจที่มคี นเข้ามาแสดงความคิดเห็นไว้

37. ขอ้ ใด ไมใ่ ช่ อนั ตรายที่อาจเกิดจากการใช้งานอินเทอรเ์ น็ตโดยตรง
ก. มีคนนำภาพตัดตอ่ เคนไปโพสล้อเลยี นในสอื่ สังคมออนไลน์
ข. ฟ้าเลน่ แอพพลิเคชนั สอื่ สงั คมออนไลน์ขณะเดินขา้ มถนน
ค. ปลายสแกนหนงั สือการ์ตนู ทซี่ อ้ื มาสง่ ให้เพ่ือน ๆ ทางอีเมล
ง. เพอื่ นทร่ี จู้ ักคร้งั แรกผา่ นส่อื สงั คมออนไลน์ ชวนแซมไปเท่ียวและขโมยเงนิ

38. การตั้งรหัสผา่ นแบบใดมีความปลอดภยั สูง
ก. ใช้วันเดอื นปีเกดิ เช่น 10122550
ข. ใช้ตวั เลขซำ้ ๆ เพื่อใหจ้ ำงา่ ย เช่น 181818
ค. เรียงตวั เลขจากมากไปหาน้อย เช่น 654321
ง. ใช้อกั ษรพมิ พ์ใหญ่ พิมพ์เล็ก ตัวเลข สญั ลกั ษณ์ เช่น Mtf6wU_1969

39. ขอ้ ควรปฏบิ ัตใิ นการเขา้ ใชง้ านโดยใชร้ หัสผา่ นในคอมพิวเตอร์
ก. เปลย่ี นรหัสผ่านบอ่ ย ๆ ทกุ 2-3 เดือน
ข. บอกรหัสผ่านเฉพาะเพ่ือนสนิทเท่านน้ั
ค. บนั ทกึ รหัสผ่านแบบอตั โนมัตเิ พ่ือปอ้ งกันการพิมพ์ รหสั ผา่ นผิดพลาด
ง. จดรหัสผ่านใสก่ ระดาษหรือในอุปกรณ์เทคโนโลยี เพอ่ื ป้องกันการลืมรหัสผา่ น

40. ขอ้ ใด ไมถ่ ือวา่ เปน็ การกระทำความผิด ตาม พ.ร.บ. คอมพิวเตอร์
ก. อายส่งอเี มลเพ่ือขอยืมเงินจากฝน
ข. ตามเขา้ ไปลบไฟล์การบ้านในคอมพิวเตอร์ของผ้ึง
ค. ตนุ่ นำรหสั ผ่านอเี มลของเต่าไปโพสในสอ่ื สงั คมออนไลน์
ง. ทรายตัดตอ่ ภาพแอนกบั ภาพชดุ วา่ ยน้ำ โพสในสือ่ สังคมออนไลน์

ช่อื – สกลุ ............................................................................................................................. ...ช้ัน ..................... เลขที่.........................

ใบงาน เรือ่ ง การใชเ้ หตุผลในการแก้ปัญหา
คำชแ้ี จง ให้นกั เรียนเรียงลำดับขน้ั ตอนการล้างจาน โดยใชแ้ นวคดิ การทำงานแบบเป็นลำดับ

ช่อื – สกลุ ............................................................................................................................. ...ชัน้ ..................... เลขที่.........................

ใบงาน เรอ่ื ง การใชเ้ หตุผลในการแกป้ ัญหา
คำชแ้ี จง ให้นกั เรยี นเรยี งลำดับขนั้ ตอนการล้างจาน โดยใชร้ หัสลำลอง

ชอ่ื – สกลุ ............................................................................................................................. ...ชัน้ ..................... เลขท.ี่ ........................

ใบงาน เร่ือง คลิปซ้อน ซอ่ นเงอื่ น

คำชแี้ จง จงตอบคำถามต่อไปนี้

1. นักเรยี นคดิ ว่าเราสามารถโพสต์ภาพผอู้ น่ื บนส่ือสังคมได้หรอื ไม่ เพราะอะไร

2. ควรปฏบิ ัติอยา่ งไรบา้ งเพอ่ื ไม่ให้เป็นการละเมดิ สิทธิความเปน็ สว่ นตวั ของผู้อน่ื

3. ควรปฏบิ ัติอย่างไรบ้างเพื่อไมใ่ ห้เปน็ การละเมดิ สิทธิลขิ สทิ ธ์ิของผู้อ่ืน

ช่อื – สกุล ............................................................................................................................. ...ช้นั ..................... เลขท่.ี ........................

ใบงาน เรอ่ื ง ดีบัก นกั โปรแกรม
คำช้ีแจง ให้นกั เรียนบอกส่วนประกอบหลกั ของโปรแกรม Scratch

แถบเมนู กลมุ่ บลอ็ ก พ้ืนท่ที ำงาน เวที

บลอ็ กในกลุ่มทเี่ ลือก ข้อมูลของเวทีหรือตวั ละครทีถ่ กู เลอื ก

รายการตวั ละครและเวทที ่ีใช้ในโปรเจกต์ปัจจบุ ัน

1. ……………………………………………………………………………………………..
2. ……………………………………………………………………………………………..
3. ……………………………………………………………………………………………..
4. ……………………………………………………………………………………………..
5. ……………………………………………………………………………………………..
6. ……………………………………………………………………………………………..
7. ……………………………………………………………………………………………..

ช่อื – สกลุ ............................................................................................................................. ...ชัน้ ..................... เลขท่.ี ........................

ใบงาน
คำชแ้ี จง ให้นกั เรียนบอกหน้าที่ของบล็อก ในโปรแกรม Scratch

สัญลกั ษณ์ ช่ือเรียก มีหน้าท่ี

ช่อื – สกลุ ............................................................................................................................. ...ช้ัน ..................... เลขที่.........................

ใบงาน
คำช้ีแจง ให้นักเรียนทำรายงาน เรอื่ ง ของดีประจำจงั หวดั (บูรณาการกบั วิชาภาษาไทย) โดยการค้นหาข้อมลู จาก
แหล่งขอ้ มลู ต่าง ๆ

นักเรยี นควารทำอย่างไร เพื่อไมใ่ หเ้ ปน็ การละเมดิ ลิขสิทธิข์ องผอู้ น่ื ในการทำรายงานนี้

ชอื่ – สกุล ............................................................................................................................. ...ชนั้ ..................... เลขท.ี่ ........................

ใบงาน เรื่อง คลิปซ้อน ซอ่ นเงอ่ื น

คำชแ้ี จง จงตอบคำถามต่อไปน้ี

1. จงยกตวั อยา่ ง พฤติกรรมการละเมิดลิขสิทธิ์ของผู้อื่น มาอยา่ งน้อย 2 ตัวอย่าง

2. จงยกตวั อย่าง พฤติกรรมการละเมดิ ความเปน็ ส่วนตัวของผ้อู ื่น มาอย่างน้อย 2 ตัวอย่าง

3. จงยกตัวอย่าง พฤติกรรมท่ไี ม่ไดล้ ะเมดิ ความเป็นส่วนตวั ของผู้อ่นื มาอยา่ งน้อย 2 ตวั อย่าง

ชอ่ื – สกุล ............................................................................................................................. ...ชั้น ..................... เลขท่.ี ........................

ใบงาน

คำชแ้ี จง จงตอบคำถามตอ่ ไปนี้

1. จงยกตวั อย่างวิธีการกำหนดสทิ ธิ์ในการเข้าใช้งาน 1 ตัวอยา่ ง และอธิบายข้นั ตอนการกำหนดสทิ ธ์ิ

ชอ่ื – สกลุ ............................................................................................................................. ...ชั้น ..................... เลขที.่ ........................
ใบงาน

คำช้ีแจง อ่านสถานการณ์ที่กำหนด แลว้ บอกว่าควรใชเ้ ทคนิคการคน้ หาข้อมลู แบบใด และใช้คำค้นใดในการค้นหาข้อมูล

1. ตอ้ งการค้นหา วิธีการทำเคก้ กล้วยหอม
เทคนคิ การคน้ หาข้อมูลท่ีใช้ คือ ........................................................................................................................................
โดยพมิ พ์คำคน้ หาวา่ .........................................................................................................................................................

2. ต้องการค้นหา ท่ีพักในจงั หวดั บรุ ีรัมย์
เทคนคิ การค้นหาขอ้ มูลท่ใี ช้ คือ ........................................................................................................................................
โดยพมิ พ์คำคน้ หาวา่ .........................................................................................................................................................

3. ต้องการคน้ หา วัฏจกั รพืช โดยเลือกคน้ หาจากเว็บไซต์ทางการศกึ ษาเทา่ นัน้
เทคนคิ การค้นหาขอ้ มลู ทใี่ ช้ คือ ........................................................................................................................................
โดยพิมพ์คำค้นหาว่า .........................................................................................................................................................

4. ตอ้ งการคน้ หา คำศัพทพ์ นื้ ฐานภาษาอังกฤษ ป.6 โดยคน้ หาเฉพาะไฟลท์ ่ีมนี ามสกุล .pdf เทา่ น้นั
เทคนิคการคน้ หาขอ้ มูลท่ใี ช้ คอื ........................................................................................................................................
โดยพิมพ์คำค้นหาวา่ .........................................................................................................................................................

ชอื่ – สกุล ............................................................................................................................. ...ช้ัน ..................... เลขท.ี่ ........................
ใบงาน

คำช้ีแจง เลอื กปญั หาท่พี บในชีวิตประจำวนั ของตนเอง มา 1 เรื่อง พร้อมเขียนผงั งานแสดงข้นั ตอนการแกป้ ัญหาท่ีเหมาะสม
ทส่ี ดุ

เขยี นสถานการณป์ ัญหาที่พบในชวี ติ ประจำวนั ที่เลอื กมา
...........................................................................................................................................................................................
...........................................................................................................................................................................................
...........................................................................................................................................................................................
...........................................................................................................................................................................................
เขียนผังงาน

ชอ่ื – สกุล ............................................................................................................................. ...ชนั้ ..................... เลขท.่ี ........................

ใบงาน

คำชีแ้ จง จงตอบคำถามต่อไปน้ี

สหกรณ์ร้านค้าโรงเรียน มีนโยบายใหน้ กั เรียนทเ่ี ปน็ พนกั งานสหกรณโ์ รงเรียน แสดงข้อความบนเคาท์เตอร์
เพอื่ นสื่อสารกบั ลูกค้าที่เข้ามาซอื้ สินค้า โดยมีขอ้ ความทตี่ ่างกันในแตล่ ะชว่ งเวลา ดงั นี้

เวลา 08.00 – 11.59 น. แสดงขอ้ ความ Good Morning
เวลา 12.00 – 17.59 น. แสดงขอ้ ความ Good Afternoon
นอกเหนือจากเวลาที่กำหนด แสดงข้อความ Closed

1. ถา้ ฟ้าและเมฆ เขา้ มาซ้ือดินสอ เวลา 10.25 น. พนกั งานจะแสดงข้อความอยา่ งไร
...........................................................................................................................................................................................
...........................................................................................................................................................................................

2. ถ้านกั เรยี น เข้ามาซอ้ื ขนม ช่วงพักกลางกวนั พนักงานจะแสดงข้อความอยา่ งไร
...........................................................................................................................................................................................
...........................................................................................................................................................................................

3. ถา้ นักเรยี น เขา้ มาซ้ือขนม ชว่ งเวลา 18.30 น. พนักงานจะแสดงข้อความอย่างไร
...........................................................................................................................................................................................
...........................................................................................................................................................................................

ช่อื – สกุล ............................................................................................................................. ...ชัน้ ..................... เลขที่.........................
ใบงาน

คำช้แี จง ให้พจิ ารณาพฤติกรรมการใชโ้ ทรศัพท์หรือสมารต์ โฟนในที่สาธารณะ แลว้ ทำเครอื่ งหมาย  หนา้ ข้อ
ทส่ี ามารถทำได้ และทำเครื่องหมาย  หนา้ ขอ้ ที่ไม่ควรทำ

1. เล่นเกมสใ์ นสมาร์ตโฟนขณะเขา้ แถวหนา้ เสาธง
2. คยุ โทรศัพท์ในห้องสมุด
3. ส่งขอ้ ความหาเพ่ือนผา่ นโปรแกรมสนทนาในห้องเรียนขณะครสู อน
4. อา่ นข่าวออนไลน์ในสวนสาธารณะ
5. ดูคลิปออนไลน์ระหวา่ งเดินบนทางเทา้ หรือข้างถนน
6. รบั สายเรียกเขา้ ขณะชมภาพยนตร์
7. ดลู ะครย้อนหลังผ่านสมาร์ตโฟนบนรถโดยสารทม่ี ีคนแน่น
8. คุยกับเพื่อนผา่ นส่ือสังคมออนไลน์ ขณะรับประทานอาหารร่วมกันในครอบครัว
9. ถ่ายภาพขณะการน่งั ชมการแขง่ ขันฟตุ บอลท่สี นามกีฬา
10. ฟังเพลงจากสมาร์ตโฟนขณะนัง่ รอผปู้ กครองมารบั ทีโ่ รงเรยี น

ชอื่ – สกุล ............................................................................................................................. ...ช้นั ..................... เลขที่.........................
ใบงาน

คำช้แี จง ให้พิจารณาสถานการณต์ ่อไปน้ี แล้วทำเครื่องหมาย  หน้าข้อท่ีสามารถถ่ายทอดสดผา่ นสอ่ื ส่งั คมได้ และทำ
เคร่ืองหมาย  หนา้ ข้อที่ไม่ควรถา่ ยทอดสด

1. ขณะท่ีเพื่อนกำลังล้างหน้าอยใู่ นห้องนำ้ ของโรงเรียน
2. ขณะทเ่ี พื่อนแอบรับประทานอาหารในห้องเรียน
3. ขณะท่เี พ่ือนกำลงั ทะเลาะกัน
4. ขณะถีบจกั รยานเพ่ือใหเ้ พื่อนเหน็ ว่าตนเองมจี กั รยานใหม่
5. ขณะดูการแข่งขันฟตุ บอลของศิษยเ์ กา่ เพ่ือให้คณุ พอ่ ที่ขาเจ็บอยบู่ า้ นไดเ้ ห็น

บรรยากาศ
6. ขณะไปช่วยงานการกุศลหรอื จติ อาสาเพ่ือชกั ชวนให้เพ่อื น ๆ มาช่วยงาน
7. เมือ่ เพ่ือนสะดุดขอนไม้หกล้ม
8. ขณะคณุ พ่อสาธติ วธิ กี ารติดตั้งระบบรดน้ำตน้ ไม้ เพ่ือใหค้ วามรู้
9. ขณะกำลังซ้อมดนตรี
10. ขณะดา่ ทอผู้อนื่ ใหเ้ พ่ือน ๆ ฟัง

ชื่อ – สกลุ ............................................................................................................................. ...ชน้ั ..................... เลขที.่ ........................
ใบงาน

คำชีแ้ จง ใหน้ ักเรยี นระบุคำค้น เพอื่ คน้ หาข้อมูลต่อไปนี้

1. ตอ้ งการค้นหา ดูภาพยนตรก์ ารต์ ูนทมี่ เี นื้อหาเกี่ยวกับบ้านท่ีลอยได้ด้วยยลกู โป่ง แต่ไมร่ วู้ ่าชื่อเรือ่ งอะไร
โดยพมิ พ์คำคน้ หาวา่ .........................................................................................................................................................

2. ต้องการคน้ หา ทราบคำขน้ึ ต้นและคำลงทา้ ยในการเขียนจดหมายเพอื่ ขอบคุณผอู้ ำนวยการมูลนิธิทม่ี อบ
ทนุ การศึกษาใหก้ บั นักเรียนในโรงเรียน
โดยพมิ พ์คำคน้ หาว่า .........................................................................................................................................................

3. ต้นโหระพาทคี่ ณุ น้าปลูกไวม้ ใี บเหลอื งซีด และมีจดุ ต้องการค้นหาขอ้ มูลวา่ จะแก้อาการนีไ้ ด้อย่างไร
โดยพมิ พค์ ำคน้ หาวา่ .........................................................................................................................................................

4. คณุ ลุงตอ้ งการทราบเส้นทางขบั รถจากทอ่ี ยู่ปัจจบุ ันไปจงั หวัดนครราชสีมา
โดยพิมพค์ ำคน้ หาว่า .........................................................................................................................................................

5. นอ้ ยหน่าตอ้ งการทราบกำหนดการสอบ O-NET ประจำปีการศกึ ษา 2562
โดยพมิ พค์ ำคน้ หาวา่ .........................................................................................................................................................

ชอ่ื – สกลุ ............................................................................................................................. ...ช้นั ..................... เลขท.่ี ........................
ใบงาน

คำช้ีแจง ให้นกั เรยี นระบุคำค้น เพือ่ คน้ หาข้อมลู ต่อไปน้ี และบอกแหล่งข้อมลู ของคำตอบเหลา่ น้ี

1. ตอ้ งการคน้ หา ดภู าพยนตรก์ ารต์ นู ทมี่ ีเน้ือหาเกย่ี วกับบา้ นทีล่ อยได้ดว้ ยยลกู โป่ง แตไ่ ม่รวู้ า่ ช่อื เรอ่ื งอะไร
โดยพมิ พค์ ำค้นหาวา่ .........................................................................................................................................................
แหล่งข้อมลู .........................................................................................................................................................

2. ตอ้ งการคน้ หา ทราบคำขนึ้ ต้นและคำลงทา้ ยในการเขยี นจดหมายเพ่ือขอบคุณผู้อำนวยการมูลนิธทิ ม่ี อบ
ทนุ การศกึ ษาให้กับนกั เรยี นในโรงเรียน
โดยพิมพค์ ำคน้ หาว่า .........................................................................................................................................................
แหลง่ ขอ้ มลู .........................................................................................................................................................

3. ตน้ โหระพาท่คี ุณน้าปลูกไวม้ ใี บเหลืองซีด และมีจดุ ต้องการคน้ หาขอ้ มูลว่าจะแก้อาการนี้ได้อยา่ งไร
โดยพมิ พค์ ำคน้ หาวา่ .........................................................................................................................................................
แหลง่ ขอ้ มลู .........................................................................................................................................................

4. คณุ ลุงตอ้ งการทราบเส้นทางขับรถจากทอี่ ยู่ปจั จบุ ันไปจังหวัดนครราชสีมา
โดยพมิ พค์ ำค้นหาวา่ .........................................................................................................................................................
แหล่งขอ้ มลู .........................................................................................................................................................

5. น้อยหน่าต้องการทราบกำหนดการสอบ O-NET ประจำปีการศกึ ษา 2562
โดยพมิ พค์ ำคน้ หาว่า .........................................................................................................................................................
แหล่งขอ้ มลู .........................................................................................................................................................

ช่อื – สกลุ ............................................................................................................................. ...ชั้น ..................... เลขท.่ี ........................

ใบงาน
คำชีแ้ จง ให้นกั เรยี นระบายสีคำศัพทท์ ซ่ี ่อนอยู่ในตาราง

ช่อื – สกลุ ............................................................................................................................. ...ชั้น ..................... เลขท.่ี ........................

ใบงาน
คำชีแ้ จง ให้นกั เรยี นระบายสีคำศัพทท์ ซ่ี ่อนอยู่ในตาราง

ช่อื – สกุล ............................................................................................................................. ...ช้นั ..................... เลขที่.........................

ใบงาน
คำชี้แจง วิเคราะหข์ ้อดี ข้อเสียของกิจกรรมต่างๆ ต่อไปนี้

1. การสำรองข้อมลู

ขอ้ ดี ข้อเสีย

2. การจดั เก็บข้อมลู ลงบนคอมพิวเตอร์ ข้อเสีย
ข้อดี

3. การจัดเก็บข้อมลู ลงบนคลาวด์ ขอ้ เสยี
ข้อดี

แผนการจัดการเรยี นรูท้ ่ี 1

กลุ่มสาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี รายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (เทคโนโลยี)
ช้ันประถมศึกษาปที ี่ 6 ปกี ารศกึ ษา ..........
เรือ่ ง ปฐมนเิ ทศและข้อตกลงในการเรียน เวลา 1 ช่วั โมง
ครผู ้สู อน.........................................

1. มาตรฐานการเรียนรู/้ ตัวชี้วัด
-

2. จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ (ความรู,้ ทักษะ, เจตคต)ิ
1. มีความรู้ความเข้าใจแนวทางการจัดการเรียนรู้รายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตร์เทคโนโลยี

(เทคโนโลยี) และการวัดและประเมินผลวิชาวิทยาศาสตร์
2. ชแ้ี จงเจตคติที่มตี อ่ วทิ ยาศาสตร์ได้
3. สือ่ สารและนำความรูค้ วามเข้าใจเจตคตติ อ่ วิชาวิทยาศาสตร์ไปใชใ้ นชีวิตประจำวนั ได้

3. สาระสำคญั
การปฐมนิเทศเป็นการสร้างความเข้าใจอันดีต่อกันระหว่างครูกับนักเรียน เป็นการตกลงกันใน

เบ้ืองตน้ ก่อนท่ีจะเรม่ิ การเรียนการสอน ครูไดร้ จู้ ักนักเรียนดียิง่ ข้ึน รับทราบความต้องการ ความรู้สึก และเจต
คติต่อวิชาที่เรียน ในขณะเดียวกันนักเรียนได้ทราบความต้องการของครู แนวทางในการจัดการเรียนการสอน
และการวัดและประเมินผล สิ่งต่าง ๆ ดังกล่าวจะนำไปสู่การเรียนการสอนที่มีประสิทธิภาพ ครูสามารถจัด
กิจกรรมการเรียนการสอนได้อย่างเหมาะสม ช่วยให้นักเรียนคลายความวิตกกังวล สามารถเรียนได้อย่างมี
ความสุข อนั จะส่งผลใหน้ กั เรียนประสบความสำเร็จบรรลุตามเป้าหมายท่ีได้กำหนดไว้

4. สาระการเรยี นรู้
การปฐมนเิ ทศ
– แนวทางการจัดการเรยี นรู้รายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (เทคโนโลยี)
– เจตคติตอ่ วิชาวทิ ยาศาสตร์
– การวดั และประเมินผลวิชาวิทยาศาสตร์

5. คุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์
1. ใฝเ่ รียนรู้
2. อยอู่ ย่างพอเพยี ง
3. มุง่ มั่นในการทำงาน

6. ชิน้ งานหรอื ภาระงาน
-

7. กิจกรรมการเรียนรู้
แนวคิด/รูปแบบการสอน/วิธีการสอน/เทคนิค : สืบเสาะหาความรู้ (5Es Instructional Model)

โดยเน้นผู้เรยี นเปน็ สำคัญ ดำเนนิ การเรียนการสอนดังต่อไปนี้

1. ขั้นสร้างความสนใจ (engagement)
1. ครแู นะนำตนเองแล้วให้นกั เรยี นในหอ้ งเรยี นแนะนำตนเองทกุ คน
2. ครูอาจให้นักเรียนแนะนำทีละกลุ่มตัวอักษร หรือตามลำดับหมายเลขประจำตัว หรือตาม

แถวทีน่ งั่ ตามความเหมาะสม

2. ขัน้ สำรวจและคน้ หา (exploration)
1. ครูอธิบายข้อตกลงในการเรียนรายวิชาพืน้ ฐาน รวมถึงคำอธิบายรายวิชาพื้นฐาน โครงสร้าง

รายวชิ าพื้นฐาน และเนอ้ื หาทตี่ ้องเรยี นรูใ้ นรายวชิ าพื้นฐาน วทิ ยาศาสตร์ ชัน้ ประถมศึกษาปที ี่ 6 ว่ามีอะไรบา้ ง
2. ครถู ามความคิดเห็นของนกั เรียนเกย่ี วกบั ขัน้ ตอนการรดี ชุดนักเรยี น
3. ให้นักเรียนอภิปรายร่วมกันว่า การเรียนด้วยวิธกี าร ให้นักเรียนค้นคว้าด้วยตนเอง จากการ

ทดลองและปฏิบัตจิ รงิ เหมอื นนกั วิทยาศาสตร์ นักเรยี นคิดว่ามปี ระโยชนห์ รือไม่
4. ครเู ปิดโอกาสใหน้ กั เรียนซักถามปัญหาเพ่ือทำความเข้าใจรว่ มกัน
5. ครแู นะนำวิธีการเรียนรู้วทิ ยาศาสตร์วา่ นกั เรียนมวี ิธกี ารเรียนรูห้ ลายแบบ เช่น
– ลงมอื ปฏิบตั ิกิจกรรมทีบ่ า้ นและท่โี รงเรยี น
– ค้นขอ้ มลู จากแหลง่ การเรยี นรูต้ า่ ง ๆ
– อภิปรายกลุม่ ย่อย
– แสวงหาความรดู้ ว้ ยตนเอง
6. ครูถามความคดิ เห็นของนักเรียนเกี่ยวกับการเรียนร้วู ิทยาศาสตร์ว่า การเรียนรู้วิทยาศาสตร์

ใหป้ ระสบความสำเรจ็ ตอ้ งมีลักษณะนสิ ัยอยา่ งไร
7. ครใู ห้นักเรียนร่วมกันตอบคำถามและแสดงความคิดเห็น (แนวคำตอบ 1. ช่างสงั เกต เพราะ

การสงั เกตทำใหค้ ้นพบส่ิงใหม่ ๆ ซงึ่ นำไปสู่การคน้ พบความรูใ้ หม่ 2. อยากรู้อยากเหน็ เพราะการเปน็ คนอยากรู้
อยากเหน็ ช่างคิดช่างสงสัย มกั คิดตัง้ คำถามเพ่อื ค้นหาคำตอบ ลักษณะนสิ ัยแบบนน้ี ำไปสกู่ ารค้นพบความรู้ใหม่
เสมอ 3. มเี หตผุ ล เพราะความรทู้ างวทิ ยาศาสตรต์ ้องอธบิ ายดว้ ยเหตุและผล เมื่อได้ความรู้ใหม่ต้องอธิบายได้ว่า
ผลทีไ่ ดเ้ กิดจากสาเหตุใด เมื่อทราบสาเหตแุ ล้วกอ็ ธิบายไดว้ า่ ผลเปน็ อย่างไรโดยเชื่อในหลักฐานทสี่ นับสนุน 4. มี
ความคิดริเร่ิมสร้างสรรค์ เพราะผูท้ ม่ี ีความคิดรเิ ร่ิมสรา้ งสรรค์เป็นผู้ทอ่ี ยากคิดอยากทำในส่งิ ใหม่ ๆ อยเู่ สมอ ซ่ึง
นำไปสู่การค้นพบความรู้ใหม่ได้ 5. มีความพยายามและความอดทน เพราะผลของคำตอบไม่ใช่ได้มาโดยการ

ค้นคว้าและทดลองเพียงครั้งเดียว แต่ต้องใช้ความพยายามและความอดทนในการผ่านอุปสรรคต่าง ๆ เพื่อให้

ได้คำตอบ)

8. ครูแนะนำวธิ ีการวดั และประเมนิ ผลการเรยี นรูข้ องนกั เรียน ซึง่ มอี ตั ราสว่ นคะแนน ดงั น้ี

(1) การวัดและประเมินผลด้านความรู้ (K) 60 คะแนน

สอบกลางปี (ตามกำหนดการของโรงเรียน) 30 คะแนน

สอบปลายปี (ตามกำหนดการของโรงเรียน) 30 คะแนน

(2) การวัดและประเมินผลด้านทกั ษะ/กระบวนการ (P) 30 คะแนน

– การประเมนิ การสงั เกต

– การประเมินการสำรวจ

– การประเมนิ การสบื ค้นขอ้ มูล

– การประเมินโครงงานวิทยาศาสตร์

– การประเมนิ แฟม้ สะสมผลงาน

– การประเมนิ ดา้ นทักษะ/กระบวนการ

– การประเมินดา้ นสมรรถนะสำคญั ของผู้เรียน

(3) การวดั และประเมนิ ผลด้านคณุ ธรรม จริยธรรมและจิตวิทยาศาสตร์ (A) 10 คะแนน

– การประเมนิ ดา้ นเจตคติทางวทิ ยาศาสตร์ 10 คะแนน

คะแนนรวม 100 คะแนน

3. ขน้ั อธิบายและลงข้อสรปุ (explanation)
1. ครูและนักเรียนร่วมกันสรปุ ความเข้าใจเกี่ยวกบั แนวทางการจัดการเรยี นรู้วทิ ยาศาสตร์ เจต

คติต่อวิชาวิทยาศาสตร์ และการวดั และประเมินผลวิชาวิทยาศาสตร์
2. ครูมอบหมายให้นักเรียนไปศึกษาค้นคว้าเนื้อหาของบทเรียนชั่วโมงหน้า เพื่อจัดการเรียนรู้

ครั้งต่อไป โดยให้นักเรียนศึกษาค้นคว้าล่วงหน้าในหัวข้อนักเรียนมีวิธีการรีดชุดนักเรียนอย่างไร โดยใช้ใบงาน
สงั เกตก่อนเรยี น 1 ทค่ี รจู ัดเตรยี มไวใ้ ห้ประกอบการศึกษาค้นคว้า

3. ครูอธิบายขั้นตอนการปฏิบัติกิจกรรมและมอบหมายให้นักเรียนไปปฏิบัติกิจกรรมที่บ้าน
พร้อมทั้งให้นักเรียนเตรียมประเด็นคำถามที่สงสัยมาอย่างน้อยคนละ 1 คำถาม เพื่อนำมาอภิปรายร่วมกันใน
หอ้ งเรยี นครง้ั ต่อไป

7. กระบวนการวัดและประเมนิ ผล
การประเมนิ การเรยี นรู้ของนักเรียนทำได้ ดงั น้ี
1. ประเมินความรเู้ ดิมจากการอภปิ รายในชน้ั เรยี น
2. ประเมินการเรียนรู้จากคำตอบของนักเรียนระหว่างการจัดการเรียนรู้และจากแบบบันทึก

กจิ กรรม
3. ประเมินทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์และทักษะแห่งศตวรรษที่ 21 จากการทำกิจกรรม

ของนักเรียน

การประเมินจากการทำกิจกรรม

ระดบั คะแนน

3 คะแนน หมายถงึ ดี 2 คะแนน หมายถงึ พอใช้ 1 คะแนน หมายถึง ควรปรับปรงุ

รหัส สิ่งทป่ี ระเมนิ ระดับคะแนน

ทกั ษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์

S1 การสังเกต

S8 การลงความเหน็ จากขอ้ มูล

S13 การตีความหมายขอ้ มูลและลงข้อสรปุ

ทกั ษะแหง่ ศตวรรษท่ี 21

C4 การส่อื สาร

C5 ความร่วมมือ

8. ความเหน็ ของหัวหน้าสถานศกึ ษา/ผทู้ ไ่ี ด้รบั มอบหมาย

ได้ทำการตรวจแผนการจัดการเรียนรู้ของ.......................................................... แลว้ มีความเหน็ ดังนี้
1. เป็นแผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี
 ดีมาก
 ดี
 พอใช้
 ควรปรับปรงุ
2. การจัดกจิ กรรมไดน้ ำเอากระบวนการเรยี นรู้
 เนน้ ผู้เรยี นเปน็ สำคญั มาใช้ในการสอนไดอ้ ยา่ งเหมาะสม
 ยงั ไมเ่ น้นผเู้ รยี นเปน็ สำคัญ ควรปรับปรงุ พัฒนาตอ่ ไป
3. เปน็ แผนการจัดการเรยี นรู้ที่
 นำไปใช้ได้จริง
 ควรปรับปรงุ กอ่ นนำไปใช้
4. ขอ้ เสนอแนะอ่นื ๆ

..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................

ลงชอื่ ..................................................
(.................................................)

วันท่ี........เดือน...............พ.ศ. ...........

9. บนั ทกึ ผลหลังการสอน
 ด้านความรู้

 ดา้ นสมรรถนะสำคญั ของผ้เู รยี น

 ดา้ นคณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์

 ด้านความสามารถทางวทิ ยาศาสตร์

 ด้านอน่ื ๆ (พฤติกรรมเดน่ หรือพฤติกรรมที่มีปญั หาของนกั เรียนเป็นรายบคุ คล (ถ้ามี))

 ปญั หา/อปุ สรรค

 แนวทางการแกไ้ ข

ลงชอ่ื ..................................................ครูผสู้ อน
(.................................................)

ตำแหน่ง............................................

แผนการจัดการเรียนรูท้ ี่ 2

กลุ่มสาระการเรยี นร้วู ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี รายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (เทคโนโลยี)
ช้นั ประถมศกึ ษาปที ี่ 6 ปีการศกึ ษา ..........
เร่อื ง รบั นอ้ งใหม่ หวั ใจปิ๊งๆ เวลา 1 ช่ัวโมง
ครูผู้สอน.........................................

1. มาตรฐานการเรยี นร/ู้ ตวั ชี้วดั
สาระที่ 4 เทคโนโลยี
มาตรฐาน ว 4.2 เข้าใจและใช้แนวคิดเชิงคำนวณในการแก้ปัญหาที่พบในชีวิตจริงอย่างเป็นขั้นตอน
และเป็นระบบ ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารในการเรียนรู้ การทำงาน
และการแกป้ ัญหาไดอ้ ยา่ งมปี ระสทิ ธภิ าพ รู้เท่าทนั และมีจริยธรรม
ตวั ชว้ี ัด ป.6/1 ใช้เหตผุ ลเชงิ ตรรกะในการอธิบายและออกแบบวธิ ีการแกป้ ัญหาท่พี บใน
ชีวติ ประจำวัน

2. จุดประสงค์การเรียนรู้ (ความรู้, ทักษะ, เจตคติ)
1. นกั เรยี นมีความรูค้ วามเขา้ ใจเกยี่ วกับการใช้เหตผุ ลเชิงตรรกะในการแก้ปัญหา
2. นกั เรยี นสามารถใชผ้ ังงานแสดงขั้นตอนในการทำงานหรือการแก้ปัญหาได้
3. นักเรียนมีเจตคติที่ดีต่อวิชาวิทยาศาสตร์และสามารถใช้เหตุผลเชิงตรรกะในการแก้ปัญหาใน

ชีวิตประจำวันได้

3. สาระสำคัญ
การเปรียบเทยี บสง่ิ ของสามารถทำไดห้ ลายวิธี เชน่ เปรียบเทยี บทลี ะชนิ้ หรือแบ่งสิ่งของออกเป็นกลุ่ม

แล้วนำมาเปรียบเทยี บกัน
วิธีการแก้ปัญหาหนึ่ง ๆ มีได้หลายวิธี แต่ละวิธีอาจมีจำนวนขั้นตอนที่ไม่เท่ากัน แต่สามารถแก้ปัญหา

ได้เชน่ เดยี วกนั
การแสดงขั้นตอนในการแก้ปัญหาสามารถทำได้โดยเขียนรหัสลำลอง หรือเขียนผังงาน ผังงาน

(flowchart) ใช้ออกแบบหรือวางแผนขั้นตอนการทำงาน ช่วยให้เข้าใจขั้นตอนและเห็นภาพการทำงานท่ี
ชัดเจนขึ้น และสามารถตรวจสอบ ย้อนกลับเมื่อพบข้อผิดพลาดในการทำงานได้ นอกจากนี้เราสามารถใช้ผัง
งาน แสดงขั้นตอนการทำงานต่าง ๆ ในชีวิตประจำวันไดด้ ้วย สัญลักษณ์ที่ใช้ในการเขยี น ผังงาน เช่น เริ่มต้น/
จบ การปฏิบัติงาน การตดั สนิ ใจ ทศิ ทาง

4. สาระการเรียนรู้
1. การใช้เหตผุ ลในการแกป้ ัญหา
2. การเขยี นผังงานเพอื่ แสดงข้นั ตอนการแกป้ ญั หา

5. คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์
1. ใฝเ่ รยี นรู้
2. อยอู่ ยา่ งพอเพยี ง
3. มุง่ มนั่ ในการทำงาน

5. ชิ้นงานหรอื ภาระงาน
ใบงาน เรอ่ื ง การใชเ้ หตผุ ลในการแกป้ ัญหา

6. กจิ กรรมการเรียนรู้
แนวคิด/รูปแบบการสอน/วิธีการสอน/เทคนิค : สืบเสาะหาความรู้ (5Es Instructional Model)

โดยเนน้ ผ้เู รยี นเปน็ สำคญั ดำเนินการเรียนการสอนดงั ต่อไปน้ี

1. ข้นั สร้างความสนใจ (engagement)
1. ครูทบทวนความรู้เดิมโดยให้นักเรียนตอบคําถามในสำรวจความรู้ก่อนเรียน และอาจใช้

คำถามอื่น ๆ เช่น
- ส้ม 2 ผล กับสม้ โอ 2 ผล อะไรมนี ้ำหนักมากกวา่ กัน (สม้ โอ)
- มะพร้าว 1 ผล กับ ส้มโอ 1 ผล อะไรมีน้ำหนักมากกว่ากัน (อาจต้องชั่งน้ำหนักเพื่อ

เปรียบเทียบ)
2. ขัน้ สำรวจและค้นหา (exploration)
1. ครนู ำอภปิ รายเน้อื หาในหนงั สือเรยี น บทที่ 1 รบั นอ้ งใหมห่ วั ใจป้ิง ๆ หน้า 3 – 14 (ถึงภาพ

ที่เด็ก ๆ ช่วยกันชั่งของขวัญและแกะกระดาษ เพื่อนำยางลบออกมา) โดยระหว่างการอภิปราย ครูอาจเปิดรูป
หรือคลิปเกี่ยวกับเครือ่ งชั่ง 2 แขน ให้นักเรียนดู (อาจไม่ต้องให้ดู เนื้อหาทั้งหมด ในคลิป และเลือกเฉพาะการ
แสดงตัวอย่างในการชั่ง) ตัวอย่างคำถามระหว่างการศกึ ษาเน้อื หา เช่น

- เพราะอะไรในตอนแรกไม้กระดกจงึ คา้ งอย่ทู ี่เดิม (เพราะผ้เู ลน่ น้ำหนกั ตวั ต่างกันมาก)
- มีวิธแี กป้ ัญหาอย่างไร (ให้คนนำ้ หนกั ใกล้เคยี งกนั เล่นดว้ ยกัน)
- ถา้ ตอ้ งแกะกลอ่ งของขวญั ท้งั หมดเพ่อื ค้นหายางลบตอ้ งแกะท้ังหมดก่ีคร้งั
- ให้นักเรียนส่งตัวแทนออกมาวาดแผนภาพตามวิธีการค้นหากล่อง ที่ไม่มียางลบของก้อย
โปง้ และปอ้ ม ท่ีแตกต่างจากภาพท่ีอธิบายในหนังสือเรยี น

2. ครูนำนักเรียนศึกษาเนื้อหาในบทเรียน หน้า 14 (เริ่มที่บทสนทนาด้านลา่ ง) ถึงหน้า 16 (ถึง
ภาพท่คี ณุ ครูอธิบายสัญลักษณ์ที่ใช้ ในการเขยี นผังงาน) จากนั้นครยู กตวั อยา่ งการเขียนผงั งานจากสถานการณ์
ในชวี ติ ประจำวนั โดยให้นกั เรียนชว่ ยกนั เขยี นเป็น รหัสลำลองกอ่ น เชน่ ซ้อื ขนม (ควรใช้ข้นั ตอนท่กี ระชับเพ่ือให้
นักเรียนเข้าใจได้ง่าย) ดงั ตวั อย่าง

1. เรมิ่ ต้น
2. เลอื กขนม
3. ตรวจสอบว่ามีเงินเพียงพอหรอื ไม่

3.1 ถา้ จริง ซ้ือขนม
3.2 ถา้ เท็จ ยอ้ นกลับไปทำ ข้อ 2.
4. จา่ ยเงิน
5. จบ
3. ข้ันอธิบายและลงข้อสรปุ (explanation)
1. จากนั้นครูทบทวนเกี่ยวกับสัญลักษณ์ที่ใช้เขียนผังงาน และให้นักเรียนช่วยกันเขียนผัง
งานบนกระดานโดยเทยี บเคยี งขัน้ ตอนจากรหัสลำลอง และครูช่วยแนะนำโดยตง้ั คาํ ถาม เชน่
- การเรม่ิ ตน้ ควรใชส้ ัญลักษณใ์ ด
- การแสดงให้เห็นถงึ ลำดับของการทำงานควรใช้สัญลักษณ์ใด
- สัญลักษณ์ที่ใช้ในขั้นตอนการเลือกขนมควรเป็นสัญลักษณ์ใด ขั้นตอนการตรวจสอบว่ามี
เงินเพียงพอหรือไม่ ควรใช้สัญลักษณ์ใด สัญลักษณ์ที่เป็นการตัดสินใจ จะได้ทางเลือกที่ทาง อะไรบ้าง (2
ทางเลอื ก ทางเลือกในกรณที ีเ่ ปน็ จรงิ กับทางเลือกในกรณีท่ีเป็นเท็จ)
- เขยี นข้อความ “จริง” และ “เทจ็ ” ไว้ทต่ี ำแหนง่ ใดบ้าง
- การจ่ายเงนิ ใช้สญั ลกั ษณอ์ ะไร
- เม่ือจบขัน้ ตอนการทำงานใช้สญั ลักษณ์ใด

ตัวอยา่ ง ผงั งานทส่ี อดคล้องกับกจิ กรรม “ซ้ือขนม”

4. ข้ันขยายความรู้ (elaboration)
ครูให้นักเรียนทำใบงาน เรื่อง การใช้เหตุผลในการแก้ปัญหา และร่วมกันอภิปรายความ

คดิ เห็น ประเดน็ การอภิปราย เช่น
- นักเรียนคิดว่าการอธิบายวิธีการชั่งถุงขนมด้วยการเล่าปากเปล่ากับการอธิบายด้วย

การเขียนผังงานมีข้อดีข้อเสียต่างกัน อย่างไร การเล่าอาจไม่เห็นรายละเอียดและขั้นตอนที่เป็นลำดับ ชัดเจน
และการเขยี นเป็นผังงานสามารถตรวจสอบข้อผดิ พลาด ได้ง่ายกว่า)

- การเขียนผังงานมคี วามยาก-ง่าย อยา่ งไร จุดใดที่ยาก จุดใดท่งี า่ ย และจะมวี ธิ เี ขียนให้
เข้าใจง่ายๆ ได้อยา่ งไร (เขยี นขอ้ ความให้กระชบั มีลำดับการทำงานท่ชี ดั เจน)

5. ขั้นประเมิน (evaluation)
1. ครูให้นักเรียนแต่ละคนพิจารณาว่า จากหัวข้อที่เรียนมาและการปฏิบัติกิจกรรม มีจุด

ใดบ้างที่ยงั ไม่เขา้ ใจหรือยังมีขอ้ สงสัย ถา้ มี ครชู ว่ ยอธิบายเพ่ิมเติมใหน้ กั เรยี นเข้าใจ
2. นักเรยี นร่วมกนั ประเมินการปฏบิ ัติกจิ กรรมกลุ่มว่ามีปญั หาหรืออุปสรรคใด และได้มีการ

แกไ้ ขอย่างไรบ้าง
3. ครูและนักเรียนร่วมกันแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับประโยชน์ที่ได้รับจากการปฏิบัติ

กจิ กรรม และการนำความรทู้ ไ่ี ดไ้ ปใช้ประโยชน์

7. กระบวนการวดั และประเมินผล
การประเมนิ การเรียนรู้ของนกั เรยี นทำได้ ดงั น้ี
1. ประเมินความรู้เดมิ จากการอภปิ รายในชั้นเรียน
2. ประเมินการเรียนรู้จากคำตอบของนักเรียนระหว่างการจัดการเรียนรู้และจากแบบบันทึก

กจิ กรรม
3. ประเมินทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์และทักษะแห่งศตวรรษที่ 21 จากการทำกิจกรรม

ของนกั เรียน