อย่างไรก็ตาม ในอนาคตทางประกันสังคมจะเปิดโอกาสให้เราสามารถเลือกได้ว่าจะรับเงินบำเหน็จ หรือบำนาญ หลังจากเมื่อวันที่ 10 พฤษภาคม 2565 ครม. มีมติเห็นชอบในหลักการให้แก้ไขสิทธิประโยชน์กรณีชราภาพ ซึ่งก็ต้องรอดูกันว่าทางประกันสังคมจะมีหลักเกณฑ์และเงื่อนไขอย่างไรบ้าง หากเรา "ขอเลือก" ว่าจะรับเงินชราภาพในรูปแบบไหน และกรณี "ขอคืน" เงินชราภาพบางส่วนก่อนอายุครบ 55 ปีบริบูรณ์ Show สำนักงานประกันสังคม กระทรวงแรงงาน อธิบาย เงินประกันสังคมที่จ่ายกันอยู่ทุก ๆ เดือน ส่วนหนึ่งจะถูกกันไว้ออมยามเกษียณ หรือที่เรียกกันว่า เงินบำเหน็จ และ เงินบำนาญ ชราภาพ ต้องรู้! สิทธิประโยชน์จากส่วนนี้ได้เมื่อไหร่ และคิดเป็นจำนวนกันอย่างไร ดังนี้ เงินบําเหน็จ คํานวณสิทธิที่ได้รับ จ่ายสบทบตั้งแต่ 12-179 เดือน เงินบํานาญ คํานวณสิทธิที่ได้รับ จ่ายสบทบเกิน 180 เดือน (15 ปี) มีผู้ประกันตนจำนวนมากที่ให้ความสนใจในส่วนของเงินกรณีชราภาพ โดยตั้งแต่งวดสมทบวันที่ 31 ธันวาคม พ.ศ. 2541 เป็นต้นมา ประกันสังคมเริ่มเก็บเงินสมทบเพิ่มในกรณีชราภาพเพื่อจัดเป็นกองทุนเพื่อสร้างความมั่นคงให้กับผู้ประกันตนในวัยเกษียณให้สามารถมีเงินพอเพียงเลี้ยงชีพทุกเดือนไปตลอดชีวิต โดยที่ระบุไว้ในพระราชบัญญัติประกันสังคม มาตราที่ 77 ทวิ ดังนี้
ผู้ประกันตนหลายท่านมีความสงสัยว่าหากเราส่งเงินสมทบเป็นเวลา 15 ปี หรือ 180 เดือน สิทธิประโยชน์ที่จะได้รับกรณีชราภาพจะเป็นอย่างไรจากมาตรา 77 ทวิ ที่กำหนดไว้ในพระราชบัญญัติประกันสังคมได้เขียนไว้อย่างชัดเจนว่า ผู้ประกันตนที่ส่งเงินสมทบไม่น้อยกว่า 180 เดือน มีสิทธิ์ได้รับเงินบำนาญชราภาพเป็นรายเดือนไปจนกว่าจะเสียชีวิต ภายใต้ 2 เงื่อนไขที่สำคัญ คือ หนึ่งต้องมีอายุครบ 55 ปีบริบูรณ์ และสองต้องสิ้นสุดความเป็นผู้ประกันตนคือต้องลาออกจากประกันสังคมเท่านั้น กฎหมายประกันสังคมได้ระบุไว้ชัดเจนว่า หากส่งเงินสมทบถึง 180 เดือน ผู้ประกันตนจะได้รับเงินบำนาญชราภาพเป็นเงินบำนาญหรือเงินรายเดือนไปจนตลอดชีวิต หากผู้ประกันตนต้องการได้รับเงินบำนาญชราภาพต้องรอจนมีอายุครบ 55 ปีเท่านั้น และจะต้องลาออกจากประกันสังคมด้วย โดยเงินสมทบ 180 เดือน ให้นับเฉพาะเดือนที่มีการส่งเงินสมทบเข้ามาและจะส่งติดต่อกันหรือไม่ก็ได้ ทีนี้ก็มาถึงคำถามว่าแล้วเงินบำนาญรายเดือนที่ว่าจะได้เท่าไหร่ คิดคำนวณอย่างไรทางประกันสังคมก็ได้ให้รายละเอียดไว้ โดยสามารถเข้าไปอ่านศึกษาได้ที่ลิงค์เว็บไซต์ประกันสังคมตามนี้ โดยสรุปคือหากส่งเงินสมทบไม่น้อยกว่า 180 เดือน เงินบำนาญชราภาพรายเดือนที่จะได้ คิดจากอัตราร้อยละ 20 ของค่าจ้างเฉลี่ย 60 เดือนสุดท้าย ที่ใช้เป็นฐานในการคำนวณเงินสมทบก่อนสิ้นสุดความเป็นผู้ประกันตน หากส่งเงินสมทบเกินกว่า 180 เดือน เงินบำนาญชราภาพรายเดือนที่จะได้ ให้คิดเพิ่มจากอัตราร้อยละ 20 อีกร้อยละ 1.5 ต่อการจ่ายเงินสมทบเพิ่มทุก ๆ 12 เดือน สำหรับค่าจ้างเฉลี่ยที่ประกันสังคมให้นำใช้เป็นฐานในการคำนวณเงินสมทบ
เรื่องเงินบำนาญชราภาพของประกันสังคมมีรายละเอียดปลีกย่อยที่ต้องทำความเข้าใจกันมาก จึงขอยกตัวอย่างการคำนวณเงินบำนาญชราภาพเพื่อให้เห็นภาพและเข้าใจมากขึ้น สมมติว่าเราทำงานในบริษัทเอกชนเริ่มส่งเงินสมทบตั้งแต่เดือนมีนาคม พ.ศ. 2540 ตอนอายุ 22 ปีพอดี เงินเดือนเริ่มต้น 15,000 บาท ถึงเดือนธันวาคม พ.ศ. 2555 จึงได้ลาออกมาเพื่อประกอบอาชีพอิสระแต่ก็เลือกสมัครประกันตนเองโดยสมัครใจตามมาตรา 39 ต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน ในกรณีนี้จะคำนวณเงินบำนาญชราภาพอย่างไร
กลับมาที่ตัวอย่างของเรากันต่อ ในกรณีนี้เงินบำนาญชราภาพที่เราจะได้รับรายเดือนเมื่อมีอายุครบ 55 ปี และได้ลาออกจากประกันสังคมเพื่อรับสิทธิ์เงินบำนาญ คำนวณดังนี้
เริ่มส่งเงินสมทบเดือนแรกเดือนมีนาคม พ.ศ. 2540 แต่เงินกรณีชราภาพทางประกันสังคมเริ่มเก็บเมื่อเดือนธันวาคม พ.ศ. 2541 ดังนั้น เงินสมทบที่ส่งมาก่อนหน้านั้นไม่นับรวมเป็นงวดสมทบกรณีชราภาพ ให้เริ่มนับตั้งแต่เดือนธันวาคม พ.ศ. 2541 จนถึงปัจจุบัน เดือนมิถุนายน พ.ศ. 2559 รวมส่งเงินสมทบทั้งหมด 216 เดือน เมื่อย้อนกลับไปดูในเงื่อนไขเป็นการจ่ายเงินสมทบเกิน 180 เดือน เกินอยู่ 36 เดือน เมื่อคิดส่วนเกินทุก ๆ 12 เดือน ก็จะมีส่วนเกินอยู่ 3 ขั้น (36/12 =3 )
เมื่ออายุครบ 55 ปีบริบูรณ์ และลาออกจากประกันสังคมเพื่อได้รับเงินบำนาญชราภาพ ผู้ประกันตนก็จะได้รับเงินบำนาญเป็นรายเดือน 1,925.70 บาท เท่ากันไปจนกว่าจะเสียชีวิต
อย่างที่บอกไว้ข้างต้นว่าเงินบำนาญรายเดือนที่คำนวณได้ในตอนนี้ อาจมีโอกาสเปลี่ยนแปลงไปตามสภาพการเป็นผู้ประกันตนและระยะเวลาที่ส่งเงินสมทบ หากกรณีตามตัวอย่างปัจจุบันเดือนมิถุนายน พ.ศ. 2559 เรามีอายุ 41 ปี หากเราส่งเงินสมทบต่อเนื่องไปจนถึงอายุ 55 ปี การคำนวณนี้ก็จะเปลี่ยนไป เงินบำนาญรายเดือนก็จะต้องคำนวณใหม่ด้วย รับเงินชราภาพแล้วสมัครม39ได้ไหม8.ถาม กรณีรับเงินบำนาญชราภาพอยู่ ต่อมาได้รับการอนุมัติเป็นผู้ประกันตนมาตรา 39 จะมีสิทธิได้รับบำนาญต่อหรือไม่ ตอบ ไม่มีสิทธิ เพราะเมื่อเป็นผู้ประกันตนมาตรา 39 แล้ว จะหยุดจ่ายเงินบำนาญให้จนกว่าจะสิ้นสุดความเป็นผู้ประกันตน มาตรา 39 ถึงจะได้รับเงินชราภาพตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไข
บํานาญประกันสังคม ม.33 คิดยังไงผู้ประกันตน ม.33 ที่เกษียณอายุครบ 55 ปี และสิ้นสุดความเป็นผู้ประกันตน ยื่นเรื่องขอรับเงินกรณีชราภาพ รับเงินสะดวกผ่านพร้อมเพย์เลขบัตรประชาชน - ผู้ประกันตนชำระเงินสมทบครบ 180 เดือน จะได้รับเงินบำนาญชราภาพเป็นรายเดือนตลอดชีวิต - ชำระเงินสมทบไม่ครบ 180 เดือน จะได้รับเป็นเงินบำเหน็จชราภาพ รับเป็นเงินก้อนครั้งเดียว
ผู้ประกันตนมาตรา 39 ได้อะไรบ้างผู้ประกันตน มาตรา 39 จะได้รับความคุ้มครอง 6 กรณี ต่อเนื่องจากการเป็นผู้ประกันตน มาตรา 33 ซึ่งได้แก่ กรณีเจ็บป่วย คลอดบุตร ทุพพลภาพ เสียชีวิต สงเคราะห์บุตร และชราภาพ โดยจะได้รับสิทธิประโยชน์ต่าง ๆ เช่นเดียวกับ ผู้ประกันตน มาตรา 33.
รับเงินชราภาพ ประกันสังคม ทำ อย่างไร1. ผู้ประกันตน / ทายาทผู้มีสิทธิต้องกรอกแบบ สปส. 2-01 พร้อมลงลายมือ ชื่อ และนํามายื่นที่สํานักงานประกันสังคมจังหวัด / สํานักงาน ประกันสังคมเขตพื้นที่หรือยื่นขอรับทางไปรษณีย์โดยมีหลักฐานครบถ้วน 2. เจ้าหน้าที่ตรวจหลักฐานและพิจารณา 3. สํานักงานประกันสังคมมีหนังสือแจ้งผลการพิจารณา 4. พิจารณาสั่งจ่าย
|