Show
โปรโมชันดอกเบี้ย หมายความว่าหลายธนาคารจะกำหนดดอกเบี้ยในช่วงนี้ไว้ต่ำ ทำให้เราผ่อนเงินต้นได้มาก ในขณะที่ผ่อนดอกเบี้ยน้อย แต่เมื่อช่วงดังกล่าวผ่านไป เข้าสู่ช่วงอัตราดอกเบี้ยลอยตัว เราจะเห็นบิลค่างวดของเรามีเงินที่ต้องจ่ายดอกเบี้ยสูงขึ้นกว่าเงินต้นเสียด้วยซ้ำจากสาเหตุดังกล่าวทำให้คนผ่อนบ้านต้องการรีไฟแนนซ์กับแหล่งเงินกู้ใหม่ๆ ที่มีดอกเบี้ยที่จูงใจให้เราอยากย้ายธนาคาร แต่เราจะรีไฟแนนซ์บ้านอย่างไรให้คุ้มค่ามากที่สุดมาดูกันดีกว่ามองหาดอกเบี้ยที่ต่ำลงกว่าเดิม การรีไฟแนนซ์ที่จะเห็นผลคุ้มค่าต่อการย้ายแหล่งกู้เงินใหม่ เราต้องมองหาดอกเบี้ยที่ต่ำลงกว่าเดิม ยิ่งมากยิ่งดี โดยเราสามารถเทียบจากอัตราดอกเบี้ยในการผ่อนชำระระหว่างวาระดอกเบี้ยโปรโมชันในช่วง 1-3 ปี ของที่ใหม่ กับอัตราดอกเบี้ยหลังจากวาระดอกเบี้ยโปรโมชันหมดลง
เพราะหลังจากนั้นอัตราดอกเบี้ยจะเป็นไปในลักษณะลอยตัว หรือ MLR หรือ ลอยตัวแล้วมีตัวลบ คือ MLR- ซึ่งอัตราดอกเบี้ย MLR ของแต่ละธนาคารจะไม่เท่ากัน ศึกษาค่าใช้จ่ายในการรีไฟแนนซ์ก่อน การรีไฟแนนซ์บ้านเราจะต้องรู้ค่าใช้จ่ายโดยรวมทั้งหมดเสียก่อน ควรคำนวณตัวเลขในอนาคตล่วงหน้าก่อนรีไฟแนนซ์ทุกครั้ง ยิ่งทำละเอียดเท่าไรก็ยิ่งดีต่อเราเท่านั้น แต่สิ่งที่เรามองข้ามไม่ได้เลย ก็คือ การศึกษาค่าใช้จ่ายในการรีไฟแนนซ์บ้านดังต่อไปนี้ กรณีรีไฟแนนซ์แล้วมีแถมพ่วงด้วยสินเชื่อส่วนบุคคลบางกรณีเมื่อเราขอรีไฟแนนซ์ใหม่ ธนาคารจะเสนอสินเชื่อต่อเติมบ้านมาให้เราด้วย กรณีนี้เราต้องพิจารณาให้ดีก่อนตัดสินใจรับเงินก้อนส่วนต่างจากวงเงินรีไฟแนนซ์เดิม เนื่องจากวงเงินก้อนใหม่ที่เติมเข้ามามักจะเป็นวงเงินในส่วนของสินเชื่อส่วนบุคคลที่มีอัตราดอกเบี้ยสูงกว่าสินเชื่อประเภทที่อยู่อาศัย หากเราต้องการรีไฟแนนซ์เพื่อลดดอกเบี้ยจ่าย กรณีนี้อาจผิดวัตถุประสงค์ที่เราตั้งเอาไว้ตั้งแต่ต้น อย่างไรก็ตามหากเรามีความจำเป็นจริงๆ เราก็สามารถตอบรับเงินก้อนที่เติมเข้ามาก้อนนี้เอาไว้ได้ แต่เราต้องพึงคิดอยู่เสมอว่าเราต้องนำเงินก้อนนี้ไปใช้เพราะจำเป็น และก่อให้เกิดประโยชน์จริงๆ จะทำให้เราใช้เงินได้อย่างมีประสิทธิภาพ สำหรับผู้ที่สนใจจะรีไฟแนนซ์ หรือขอสินเชื่อสำหรับที่อยู่อาศัย——————————————————- สำหรับใครที่มีสินเชื่อบ้านครบ 3 ปีแล้วคงเกิดคำถามที่ว่า รีไฟแนนซ์บ้าน ดีไหม? เพื่อดอกเบี้ยที่ถูกกว่า ผ่อนหมดไว หรือเราจะลองขอลดดอกเบี้ยจากธนาคารเดิมดี? คำถามเหล่านี้ บทความนี้มีคำตอบ
ก่อนอื่นเลยเรามาทำความรู้จักกับคำว่า รีไฟแนนซ์กันก่อน แล้วเราจะรีไฟแนนซ์บ้านอย่างไร?หลัก ๆ แล้ววิธีรีไฟแนนซ์บ้าน แบ่งออกเป็น 7 ขั้นตอน 1. ตรวจสอบสัญญากู้หากเรามั่นใจแล้วว่าต้องการรีไฟแนนซ์บ้าน สิ่งต่อมาที่ต้องทำ คือ เราต้องตรวจสอบสัญญาว่า กำหนดการที่สามารถให้รีไฟแนนซ์ได้เมื่อไร ซึ่งส่วนใหญ่แล้วธนาคารจะอนุญาตให้รีไฟแนนซ์ได้หลังผ่อนชำระครบ 3 ปี แต่หากต้องการรีไฟแนนซ์ก่อน เราก็จะต้องชำระค่าปรับให้กับทางธนาคาร 2. ตรวจสอบข้อมูลยอดหนี้คงเหลือเราต้องมาตรวจสอบข้อมูลยอดหนี้คงเหลือ โดยเราสามารถทำได้ผ่านการติดต่อกับธนาคารเดิมเพื่อสรุปยอดหนี้สินที่ต้องการผ่อนชำระ โดยข้อมูลยอดคงเหลือ และข้อมูลการผ่อนชำระของเราจะเป็นหนึ่งในปัจจัยที่ช่วยเราในการเลือกธนาคารใหม่ เพื่อทำการรีไฟแนนซ์บ้านผ่านการนำยอดหนี้ที่คงเหลือไปคำนวณกับข้อเสนอที่ธนาคารมอบให้ 3. มองหาธนาคารที่เหมาะสมและหลังจากที่เรามีข้อมูลอยู่ในมือแล้ว อีกหนึ่งขั้นตอนของวิธีรีไฟแนนซ์บ้านที่สำคัญต่อมาเลย คือ การมองหาธนาคารใหม่ที่เหมาะสมในการรีไฟแนนซ์บ้าน โดยเราอาจจะลองพิจารณาจากข้อเสนอดอกเบี้ยและระยะเวลาการผ่อน รวมไปถึงระยะเวลาในการชำระหนี้ ซึ่งแต่ละธนาคารจะมีโปรโมชั่นให้เลือกมากมาย และถ้าหากใครที่สนใจการรีไฟแนนซ์บ้าน เราขอแนะนำ สินเชื่อรีไฟแนนซ์จากธนาคารกรุงศรี เพื่อเป็นหนึ่งในตัวเลือกดี ๆ สำหรับคุณ 4. เตรียมเอกสารในการรีไฟแนนซ์บ้านให้พร้อมโดยการรีไฟแนนซ์เราต้องมีการเตรียมเอกสารหลายส่วนเพื่อใช้ในการทำสัญญา เพราะการรีไฟแนนซ์จะคล้าย ๆ กับการยื่นกู้เพื่อซื้อบ้านใหม่อีกรอบ โดยเอกสารที่ต้องเตรียมแบ่งออกเป็น 3 ประเภท ยกตัวอย่างเอกสารที่ธนาคารกรุงศรีให้เตรียมมีดังนี้
5. ยื่นขอสินเชื่อสำหรับการรีไฟแนนซ์บ้านเอกสารพร้อมแล้ว เราก็ลุยขอสินเชื่อได้เลย โดยเราสามารถเข้าไปขอสินเชื่อกับทางธนาคารได้โดยตรง และเมื่อธนาคารรับเรื่องแล้ว ก็จะส่งเจ้าหน้าที่เข้าไปประเมินราคาหลักประกันเพื่อประกอบการอนุมัติ โดยต่อมาเมื่อได้รับการอนุมัติแล้วทางธนาคารใหม่ที่เรายื่นรีไฟแนนซ์บ้านไว้จะติดต่อกับธนาคารเดิมเพื่อสอบถามหนี้คงเหลือ และนัดวันไถ่ถอนต่อไป 6. เตรียมค่าใช้จ่ายในการดำเนินการต่อมาเมื่อธนาคารใหม่อนุมัติสินเชื่อแล้ว สิ่งที่เราต้องเตรียม คือ การเตรียมค่าใช้จ่ายในการดำเนินการ ซึ่งส่วนใหญ่แล้วค่าใช้จ่ายในการรีไฟแนนซ์จะน้อยกว่าการซื้อบ้านแบบปกติ 7. ทำสัญญาและจดจำนองที่กรมที่ดินเราก็มาถึงวิธีรีไฟแนนซ์บ้านขั้นตอนสุดท้ายกันแล้ว โดยทางธนาคารจะมีเจ้าหน้าที่ถือสัญญาไปให้เซ็นที่กรมที่ดิน พร้อมกับการทำสัญญาจดจำนองในวันเดียวกัน หลังทำสัญญาและจดจำนองเรียบร้อยแล้ว ก็ถือเป็นอันเสร็จสิ้นการรีไฟแนนซ์บ้าน สำหรับใครที่ยังลังเลว่า รีไฟแนนซ์บ้าน ดีไหม? เราขอตอบเลยว่านอกจากการรีไฟแนนซ์แล้ว ยังมีอีกวิธีที่น่าสนใจไม่แพ้กันเลย คือ รีเทนชั่นบ้าน หรือที่เรียกว่า Retention ดังนั้นเรามาเริ่มทำความรู้จักกับการรีเทนชั่นบ้านกันก่อน รีเทนชั่น VS รีไฟแนนซ์ แตกต่างกันอย่างไร?รีเทนชั่นเป็นการติดต่อขอลดอัตราดอกเบี้ยกับธนาคารเดิม ในขณะที่รีไฟแนนซ์เป็นการนำที่อยู่อาศัยที่ผู้กู้ผ่อนชำระอยู่มาเป็นหลักทรัพย์ค้ำประกัน เพื่อขอสินเชื่อใหม่มาปิดหนี้ยอดเงินกู้เดิมที่ยังเหลืออยู่ โดย วิธีรีไฟแนนซ์บ้าน มีหลายขั้นตอนกว่าการรีเทนชั่น แต่การรีไฟแนนซ์บ้านนั้นจะทำให้หนี้ของเรากับธนาคารเดิมนั้นสิ้นสุดลงพร้อม ๆ กับการเกิดขึ้นของหนี้ใหม่กับธนาคารใหม่ที่เราเลือกรีไฟแนนซ์ หรือถ้าหากเปรียบเทียบให้เข้าใจง่ายมากขึ้นคือ รีเทนชั่นเองมีความสะดวกในการขอลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้มากกว่า ส่วนการรีไฟแนนซ์จะทำให้เรามีโอกาสในการเลือกอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ได้หลากหลายกว่า โดยเราควรเลือกอัตราดอกเบี้ยต่ำที่สุดในเงื่อนไขที่ดีที่สุด อ่านมาถึงตรงนี้เราคงได้รู้กันแล้วว่า การรีไฟแนนซ์อย่างเดียวไม่ใช่คำตอบ และถ้าหากคุณต้องการทำความเข้าใจเกี่ยวกับการรีไฟแนนซ์มากขึ้น เราขอแนะนำ Krungsri The COACH “ดอกถูก ผ่อนบ้านหมดไว ๆ รีไฟแนนซ์คือคำตอบสุดท้ายจริงหรือ?” คลิกเลย ท้ายที่สุดในความเป็นจริงแล้ว ใคร ๆ ก็ฝันอยากมีบ้านเป็นของตัวเอง แต่การผ่อนบ้านนั้นกลับเป็นหนี้สินก้อนใหญ่ในระยะยาว และแผนการเงินระยะยาวของเราต่อจากนี้ต้องมีความหมาย รวมถึงความสบายในการผ่อนที่ทำให้ไม่เกิดผลกระทบกับการเงินของเราอีกด้วย เราเชื่อว่าไม่ว่าคุณจะเลือกจัดการกับสินเชื่อบ้านอย่างไร แต่ทุกการตัดสินใจของคุณมีค่าเสมอ เลือกทางเดินที่จะทำให้แผนการเงินระยะยาวของคุณมีความหมาย ขอลดดอกเบี้ยบ้าน ทำยังไง5 เทคนิคประหยัดดอกเบี้ยบ้าน ตัวช่วยหมดหนี้บ้านเร็ว. เพิ่มเงินดาวน์. เลือกดอกเบี้ยต่ำ ด้วยการทำประกัน MRTA.. โปะหนี้. โปะเงินต้นด้วยเงินก้อน. รีไฟแนนซ์ (Refinance). ขอลดดอกเบี้ยบ้านใช้เอกสารอะไรบ้างเอกสารที่ต้องใช้รีไฟแนนซ์บ้าน. 1. เอกสารประจำตัวบุคคล สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน สำเนาทะเบียนบ้าน ... . 2. เอกสารทางการเงิน สำหรับบุคคลที่มีรายได้ประจำ (มีเงินเดือน) สลิปเงินเดือนย้อนหลัง 3-6 เดือน ... . 3. เอกสารหลักประกันการรีไฟแนนซ์บ้าน สำเนาโฉนดที่ดิน หนังสือกรรมสิทธิ์ หรือเอกสารที่เกี่ยวข้องที่บ่งชี้ถึงหลักประกัน. ขอลดดอกเบี้ยบ้านเรียกว่าอะไรรีเทนชั่นบ้าน คือ การที่เราไปต่อลองขอลดดอกเบี้ยกับธนาคารเดิม โดยหลัก ๆ แล้วรีเทนชั่นมีข้อดีอยู่ที่ความสะดวกสบาย เพราะเป็นการดำเนินธุรกรรมกับธนาคารเดิมที่มีเอกสารและข้อมูลของเราอยู่แล้ว จึงทำให้ไม่ต้องเสียเวลาเตรียมเอกสารต่าง ๆ มาก โดยเราจะเตรียมแค่เอกสาร สัญญาเงินกู้ ทะเบียนบ้านและสำเนาบัตรประชาชนของเราเท่านั้น ส่วน ...
Retention ธอส เสียค่าอะไรบ้างRetention. มีค่าธรรมเนียมประมาณ 1-2% ของยอดวงเงินกู้เดิม หรือวงเงินที่เหลือแล้วแต่กำหนด Refinance. ค่าธรรมเนียมมากกว่า (มีค่าธรรมเนียมการจัดการสินเชื่อตามสัญญาใหม่ 0-3% ค่าธรรมเนียมในการจำนอง 1% ค่าประเมินราคาหลักประกัน 0.25-2% ค่าประกันอัคคีภัยประมาณ 2,000 บาทต่อมูลค่าบ้าน 1 ล้านบาท และค่าอากรแสตมป์ 0.05% ของวงเงินกู้ ...
|