หลังสิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่2

We’ve updated our privacy policy so that we are compliant with changing global privacy regulations and to provide you with insight into the limited ways in which we use your data.

You can read the details below. By accepting, you agree to the updated privacy policy.

Thank you!

View updated privacy policy

We've encountered a problem, please try again.

เสรี พงศ์พิศ

 Fb Seri Phongphit

หลังสงครามโลกครั้งที่ 1 เยอรมันถูก “ลงโทษ” หนัก เศรษฐกิจตกต่ำ เงินเฟ้อ หนี้สินสูงมาก ต่อมาถูกกระหน่ำซ้ำเติมจากปัญหาเศรษฐกิจถดถอยทั่วโลกในปี 1929 ต่อเนื่องไปหลายปี สถานการณ์เลวร้ายกลายเป็นโอกาสในวิกฤติที่ช่วยให้ฮิตเลอร์และนาซี (พรรคสังคมนิยมแห่งชาติ) ผงาดขึ้นมากอบกู้บ้านเมือง

ความจริง ฮิตเลอร์เริ่มก่อตัวมาตั้งแต่หลังสงครามโลกครั้งที่ 1 แล้ว แต่ขึ้นมานำประเทศจริงๆ ในปี 1933 จนกลายเป็นเผด็จการเบ็ดเสร็จ มีพรรคเดียว โดย “ท่านผู้นำ” และเริ่มขยายอำนาจและอาณาเขต ทำการ “รีเซ็ต” พื้นฟูประเทศ และ “แหก” สนธิสัญญาแวร์ซาย โดยเสริมกองทัพ กำลังพลและอาวุธ ส่งเสริมเศรษฐกิจ ทำให้คนมีงานทำ มีอาหารกิน พร้อมกับยุทธวิธีทางการเมืองที่ครบเครื่อง ทำทุกอย่างเพื่อให้ได้อำนาจเบ็ดเสร็จ ประเทศที่ชนะสงครามโลกครั้งที่ 1 ทำอะไรไม่ได้เพราะต่างก็เกิดวิกฤติเศรษฐกิจการเมืองกันถ้วนหน้า

ในเวลาเดียวกัน อิตาลีก็ได้ผู้นำอย่างมุสโสลินี และพรรคฟาสซิสต์ แนวเดียวกับนาซี ทั้งสองกลายเป็นพันธมิตร เช่นเดียวกับญี่ปุ่นในเอเชีย ที่ขยายอำนาจและอาณาเขตในจีน อินโดจีน และมหาสมุทรแปซิฟิก

สงครามโลกเกิดขึ้นเมื่อเยอรมันไปผนวกออสเตรีย เชโกสโลวาเกียตะวันตก ส่วนหนึ่งของลิทัวเนีย แล้วรุกเข้าไปในโปแลนด์ “ฟางเส้นสุดท้าย” ที่ทำให้อังกฤษและฝรั่งเศสประกาศสงครามกับเยอรมัน

เยอรมันรุกไปทางตะวันตกด้วยยุทธการ “สายฟ้าแลบ” เข้าเบลเยียม ลักแซมเบิร์ก ไปฝรั่งเศส และครอบครองได้เกือบหมด รวมทั้งรุกลงไปทางใต้ เข้ายูโกสลาเวียและกรีก

ประเทศต่างๆ ที่ถูกเยอรมันเข้าไปรุกรานครอบครองต่างก็มีขบวนการกู้ชาติแบบ “เสรีไทย” ที่เรียกว่าขบวนการต่อต้านมากมายหลายรูปแบบ ใต้ดินบนดิน  อย่างฝรั่งเศสมีนายพลเดอโกล เป็นผู้นำขบวนการฝรั่งเศสเสรี ไปปักหลักอยู่อังกฤษ และแทรกอยู่ภายในประเทศ

เยอรมันรุกไปทางตะวันออก เข้าไปในสหภาพโซเวียต ผ่านเลนินกราด (เซนต์ปิเตอร์สเบอร์ก) ไปถึงมอสโก ไม่ต่างจากที่นโปเลียนเคยทำ แต่ก็พบกับความหนาวเหน็บเช่นเดียวกัน และที่สุดก็พ่ายแพ้ถอยกลับมา การรบที่คนรัสเซียตายกว่าล้านคน

สหรัฐอเมริกาเข้าสู่สงครามเมื่อญี่ปุ่นถล่มเพิร์ลฮาร์เบอร์ ที่ฮาวายปลายปี 1941 ญี่ปุ่นรุกแปซิฟิก เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ไทย จะไปพม่า ระดมเชลยศึกสร้างทางรถไฟสายมรณะ ข้ามแม่น้ำแคว ที่กลายเป็นตำนาน ทั้งคนไทย คนเอเชียและเชลยพันธมิตรตายไปนับแสน

ที่ยุโรป เยอรมันตั้งค่ายกักกันชาวยิว นักการเมืองฝ่ายตรงข้าม คนพิการ คนพหุเพศ คนที่พวกเขาเห็นว่า “ไม่มีประโยชน์” และ “เป็นภัยคุกคาม” ซึ่งถูกสังหารไป 5-6 ล้านคน คนตายจากสงครามโลกครั้งที่สองนี้ 60 ล้านคน  บ้านเมืองถูกทำลายไปย่อยยับ เมืองใหญ่ๆ ในเยอรมันถูกระเบิดพันธมิตรเสียหายกว่าร้อยละ 80 บางเมืองแทบราบเป็นหน้ากลอง โดยเฉพาะเมืองศูนย์กลางอุตสาหกรรม แหล่งผลิตอาวุธยุทโธปกรณ์

ที่ยุโรป สงครามยุติหลายเดือนก่อนที่ญี่ปุ่นจะยอมแพ้ สิ้นสุดสงคราม เมื่อวันที่ 14 สิงหาคม 2488 หลังจากที่ระเบิดปรมาณูลงที่ฮิโรชิมาและนางาซากิในต้นเดือนสิงหาคม 1945

ฮิตเลอร์ยิงตัวตายในบังเกอร์ มุสโสลินีถูกฆ่าที่หมู่บ้านริมทะเลสาบโคโม ศพถูกนำไปแขวนที่ปั๊มน้ำมันใกล้จตุรัสแห่งหนึ่งที่มิลานในเวลาไล่เลี่ยกัน เยอรมันถูกแบ่งออกเป็นสี่ส่วน เยอรมันตะวันออกใต้การควบคุมของสหภาพโซเวียต เยอรมันตะวันตกใต้อเมริกา อังกฤษ และฝรั่งเศส

หลังสงครามโลกครั้งที่สอง ความขัดแย้งระลอกใหม่ รูปแบบใหม่ก็ตามมา เป็นสงครามเย็น ที่นำโดยสหรัฐอเมริกาและสภาพโซเวียต  เมื่อสหภาพโซเวียตล่มในปี 1991 แยกไปเป็นสาธารณรัฐเอกเทศ 12 ประเทศ สองในนั้น คือ ยูเครน และเบลารุส ซึ่งเป็นประเด็นในความขัดแย้งกับรัสเซียวันนี้

ในเวลาเดียวกัน การปกครองด้วยระบอบสังคมนิยมคอมมิวนิสต์ก็ล่มไปด้วย พร้อมกับการแยกตัวของประเทศยุโรปตะวันออกจากสนธิสัญญาวอร์ซอ หลายประเทศเข้าร่วมเป็นสมาชิกของนาโต ซึ่งเป็นอีกขั้วของกลุ่มพันธมิตรที่รวมตัวกันเพื่อปกป้องตนเอง และนำไปสู่ความตึงเครียดกับรัสเซียที่อ้างว่าถูกรุกราน

การปฏิรูปตนเองด้วย “สี่ทันสมัย” ทำให้จีนผงาดขึ้นมาเป็นมหาอำนาจใหม่ในเวลาไม่กี่ทศวรรษ พร้อมกับความพยายามฟื้นคืนชีพของรัสเซีย ภายใต้การนำของวลาดิเมียร์ ปูติน ที่จับมือกับจีนและอีก 3 ประเทศในนาม BRICS (บราซิล รัสเซีย อินเดีย จีน แอฟริกาใต้) คานอำนาจอเมริกาและยุโรป

อาณานิคมยุคใหม่เริ่มเมื่อ 500 กว่าปีก่อน ฝรั่งไปล่าหาทองคำ เงิน แร่ธาตุ เพชรนิลจินดา เครื่องเทศ ผ้าไหม สมุนไพร ไม้มีค่า ไปจนถึงล่าแรงงาน กวาดต้อนคนมาเป็นทาสเยี่ยงสัตว์ ฆ่าคนพื้นเมืองในอเมริกาเหนือ ใต้ แอฟริกา ออสเตรเลีย ทั่วโลก มาถึงลัทธิอาณานิคมยุคใหม่ที่ต้องการน้ำมัน ก๊าสธรรมชาติ จนถึงอำนาจทางธุรกิจการค้าบรรษัทข้ามชาติในโลกที่ไร้พรมแดน

การเข้าไปรุกรานประเทศต่างๆ ของบรรดามหาอำนาจหลังสงครามโลกครั้งที่สอง ไม่มีคำอธิบายอื่นนอกจากผลประโยชน์ ทรัพยากร แม้ทุกครั้งจะอ้างสารพัดเหตุผลก็ไม่ต่างจากหมาป่ากับลูกแกะ ไม่ว่าจะเป็นที่อัฟกานิสถาน อิรัก ลิเบีย ซีเรีย จอร์เจีย ยูเครน ประเทศในลาตินอเมริกา แอฟริกา เอเชีย

ทุกอย่างเกิดต่อเนื่องเหมือนไม่ได้สรุปบทเรียน ที่อาณาจักรยิ่งใหญ่ทั้งหลายในอดีตล้วนล่มสลายไปหมดแล้ว และที่แย่งกันเป็นเจ้าโลกปัจจุบันก็คงไม่อยู่ชั่วฟ้าดินสลาย หรือเป็นเพราะคนรุ่นใหม่ไม่เคยรับรู้ความทุกข์ทรมานและหายนะของสงคราม ประเทศแพ้สงครามอย่างเยอรมนีและญี่ปุ่นก็ฟื้นฟูและพัฒนาจนไม่เห็นร่องรอยของความเสียหายจากสงครามแม้แต่น้อย 

คนรุ่นลูกหลานฟังเรื่องสงครามโลกเหมือนดูหนังฟังนิยาย ไม่ได้รู้สึกสำนึกอะไร ความขัดแย้งที่ยุโรปหรือทะเลจีนใต้หลายคนก็เฉยๆ ทั้งๆ ที่ปัญหาทางการเมืองเป็นสาเหตุสำคัญของปัญหาเศรษฐกิจสังคมทั่วโลก

แน่ใจหรือว่า ถ้าเกิดสงครามนิวเคลียร์ โลกจะกลับมายิ่งใหญ่กว่าเดิมดังหลังสงครามโลกสองครั้ง เหมือนนกฟีนิกซ์ที่ฟื้นคืนชีพจากที่ถูกเผาเป็นเถ้าถ่าน