บทความนี้ร่วมเขียนโดยเหล่าบรรณาธิการและนักวิจัยที่ผ่านการฝึกฝนมาเพื่อความถูกต้องและครอบคลุมของเนื้อหา Show ทีมผู้จัดการด้านเนื้อหาของวิกิฮาว จะตรวจตราผลงานจากทีมงานด้านเนื้อหาของเราเพื่อความมั่นใจว่าบทความทุกชิ้นได้มาตรฐานตามที่เราตั้งไว้ บทความนี้ถูกเข้าชม 45,880 ครั้ง บทความวิกิฮาวนี้จะแนะนำวิธีการใส่เงาให้รูปด้วยโปรแกรม Adobe Photoshop โดยดับเบิลคลิกไอคอนสีฟ้า ที่มีตัว "Ps" จากนั้นคลิก File ในแถบเมนูทางด้านบนของหน้าจอ คลิก Open... แล้วเลือกรูปที่ต้องการ สระ หมายถึง เครื่องหมายใช้แทนเสียงที่เปล่งออกมา ตามหลักภาษา ถือว่าพยัญชนะจำเป็นต้องอาศัยสระจึงจะออกเสียงได้ รูปสระ[แก้ไข | แก้ไขต้นฉบับ]รูปสระในภาษาไทยมี 21 รูป ซึ่งรูปสระเหล่านี้จะนำไปประกอบเป็นรูปสระที่ใช้แทนเสียงสระ
เสียงสระ[แก้ไข | แก้ไขต้นฉบับ]สระ 21 รูปสามารถเข้ามาประกอบกันเป็นเสียงสระได้ 32 เสียง โดยสะกดด้วยรูปสระพื้นฐานหนึ่งตัวหรือหลายตัวร่วมกัน ดังนี้ อะ อา อิ อี อึ อื อุ อู เอะ เอ เเอะ เเอ เอียะ เอีย เอือะ เอือ อัวะ อัว โอะ โอ เอาะ ออ เออะ เออ อำ ใอ ไอ เอา ฤ ฤๅ ฦ ฦๅ เมื่อเวลาออกเสียงสระ เช่น อะ อา เอะ เอ เอียะ เอีย จะออกเสียงแตกต่างกัน บางตัวออกเสียงสั้น บางตัวออกเสียงยาว จึงแบ่งสระตามอัตราเสียงเป็น 2 จำพวก ได้แก่
เสียงสระในภาษาไทยแบ่งตามฐานการออกเสียงออกเป็น 3 ชนิด คือ สระเดี่ยว สระประสม และสระเกิน ดังนี้
บางตำราถือว่าภาษาไทยมี 21 เสียง ทั้งนี้ คือไม่รวมสระเกินทั้ง 8 เสียง เนื่องจากถือว่าเป็นพยางค์ ซึ่งมีหน่วยเสียงในตัวเองโดยสมบูรณ์อยู่แล้ว และไม่รวมสระประสมเสียงสั้นทั้ง 3 เสียง คือ เอียะ เอือะ อัวะ เนื่องจากมีที่ใช้ในภาษาไทยน้อยมาก และสระ หมายถึง เครื่องหมายใช้แทนเสียงที่เปล่งออกมา ตามหลักภาษา ถือว่าพยัญชนะจำเป็นต้องอาศัยสระจึงจะออกเสียงได้ใหญ่จะเป็นคำเลียนเสียงซึ่งไม่ได้ใช้สื่อความหมายอื่น เช่น เพียะ เปรี๊ยะ ผัวะ เป็นต้น การใช้สระ[แก้ไข | แก้ไขต้นฉบับ]ตำแหน่งของสระ[แก้ไข | แก้ไขต้นฉบับ]สระเสียงสั้น สระเสียงยาว สระเกิน ไม่มีตัวสะกด มีตัวสะกด ไม่มีตัวสะกด มีตัวสะกด ไม่มีตัวสะกด มีตัวสะกด –ะ –ั–1, ———2, -รร, -รร-, โ——5 –า –า– –ำ (ไม่มี) –ิ –ิ– –ี –ี– ใ– (ไม่มี) –ึ –ึ– –ือ –ื– ไ– (ไม่มี) –ุ –ุ– –ู –ู– เ–า (ไม่มี) เ–ะ เ–็–, เ––2 เ– เ–– ฤ, –ฤ ฤ–, –ฤ– แ–ะ แ–็–, แ––2 แ– แ––, เ—็—2 ฤๅ, –ฤๅ (ไม่มี) โ–ะ –– โ– โ–– ฦ, –ฦ ฦ–, –ฦ– เ–าะ –็อ–, -อ-2 –อ –อ–, ––3 ฦๅ, –ฦๅ (ไม่มี) –ัวะ1, —ววะ2 (ไม่มี) –ัว1, —วว2 –ว– เ–ียะ (ไม่มี) เ–ีย เ–ีย– เ–ือะ (ไม่มี) เ–ือ เ–ือ– เ–อะ เ–ิ–4, เ—็— เ––4 เ–อ เ–ิ–, เ––5, เ–อ–6 หมายเหตุ
สระต่าง ๆ เมื่อประสมกับพยัญชนะต้น จะอยู่ในตำแหน่งที่แตกต่างกัน ได้แก่
การเปลี่ยนแปลงรูปสระ[แก้ไข | แก้ไขต้นฉบับ]สระเป็นส่วนประกอบส่วนหนึ่งของการประสมอักษร ซึ่งมีวิธีการใช้แตกต่างกัน ดังนี้
สระบางรูปเมื่อมีพยัญชนะสะกดจะมีการเปลี่ยนแปลงรูปสระ สามารถสรุปได้ตามตารางด้านขวา การใช้ไม้ม้วน และไม้มลาย[แก้ไข | แก้ไขต้นฉบับ]สระใอไม้ม้วน (ใ-) ที่ใช้ในภาษาไทยมีทั้งหมด 20 คำ ได้แก่ ใกล้ ใคร ใคร่ ใจ ใช่ ใช้ ใด ใต้ ใน ใบ้ ใฝ่ ใย สะใภ้ ใส ใส่ ให้ ใหม่ ใหล ใหญ่ หลงใหล ใหญ่ นอกนั้นใช้สระไอไม้มลาย (ไ-) เช่น ไป ไซ ไส ใช้กับคำที่มาจากภาษาอังกฤษ เช่น ไกด์ ไมล์ สไลด์ ใช้กับคำที่มาจากภาษาบาลีสันสกฤตที่แผลงสระอิเป็นสระไอ เช่น ตรี - ไตร ใช้กับคำที่มาจากภาษาเขมร เช่น สไบ การใช้ ร หัน[แก้ไข | แก้ไขต้นฉบับ]ร หัน คือสระอะที่มีตัว ร สะกด ในภาษาไทยการเขียนโดยใช้ รร (ร หัน) แทนเสียงสระ อะ และเปลี่ยนรูปเป็นไม้หันอากาศ ออกเสียงเป็นเสียง (อัน) เช่นเดียวกับคำที่อยู่ในมาตราแม่กน ปัจจุบัน การใช้ รร (ร หัน) ก็เพื่อรักษาประวัติของคำหรือเพื่อความไพเราะ เมื่อผู้เรียนเรียนในระดับสูงขึ้นจะเข้าใจหลักเกณฑ์เพื่อช่วยจำได้ดีขึ้นในมาตราแม่กน รร (ร หัน) มักใช้แทนเสียง อัน ดังตัวอย่างต่อไปนี้ |