หากได้ยินเสียงแต่ไม่เห็นภาพวิดีโอ หรือหากวิดีโอเป็นสีดำขณะดู โดยทั่วไปจะหมายความว่า มีปัญหากับอุปกรณ์ หรือเคเบิลวิดีโอทำให้ Netflix แสดงภาพวิดีโอไม่ได้ Show โปรดทำตามขั้นตอนสำหรับอุปกรณ์ที่ใช้งาน เพื่อแก้ไขปัญหา ทีวีหรืออุปกรณ์ที่เชื่อมต่อกับทีวีทำตามขั้นตอนต่อไปนี้ หากใช้ทีวีหรืออุปกรณ์ที่เชื่อมต่อกับทีวี เช่น Streaming Stick, เครื่องเล่นมีเดีย, Apple TV, กล่องรับสัญญาณ หรือเครื่องเล่น Blu-ray การรีสตาร์ทอุปกรณ์
การแก้ไขปัญหาการเชื่อมต่อฮาร์ดแวร์อาจมีปัญหาการเชื่อมต่อระหว่างอุปกรณ์ที่ใช้กับทีวี วิธีแก้ไขปัญหา
ถ้ามี ให้ลองพอร์ต HDMI ของทีวีเครื่องอื่น หากสามารถสตรีมได้ในทีวีเครื่องอื่น แสดงว่าอาจมีปัญหาเกี่ยวกับพอร์ต HDMI ของทีวีเครื่องเดิม โปรดติดต่อผู้ผลิตทีวีเพื่อขอความช่วยเหลือ โดยในช่วงปีที่ผ่านมานี้ ทางบริษัทก็ได้รายงานว่ามีคนหันมาใช้ Google และ YouTube เพิ่มขึ้น รวมถึงบริการคลาวด์ก็เป็นส่วนสำคัญสำหรับการเติบโตในไตรมาสนี้ ทันทีที่ Alphabet ได้ประกาศผลประกอบการ มูลค่าบริษัทก็ได้ปรับตัวเพิ่มขึ้นทันที 9% หรือคิดเป็นมูลค่าที่เพิ่มขึ้นมากถึง 5.5 ล้านล้านบาท ภายในวันเดียว แล้วผลประกอบการ Google และ YouTube ดีขนาดไหน ? มาดูกัน บริษัท Alphabet ในไตรมาสที่ 4 ปี 2021 รายได้ 2.5 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้น 32% กำไร 6.9 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้น 36% ถ้าเรามาดูผลประกอบการทั้งปี รายได้ 8.6 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้น 41% กำไร 2.5 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้น 89% โดยสัดส่วนรายได้ของบริษัทในไตรมาสล่าสุดแบ่งออกเป็น - รายได้จากค่าโฆษณา เช่น โฆษณาบนแพลตฟอร์ม Google และ YouTube 81.3% - รายได้ที่ไม่ใช่ค่าโฆษณา เช่น YouTube Premium และอุปกรณ์ฮาร์ดแวร์ Google Nest 10.8% - รายได้จากธุรกิจคลาวด์ เช่น Google Drive และ Google Suite 7.4% - อื่น ๆ 0.5% เราลองมาดู การเติบโตรายได้จากค่าโฆษณา ซึ่งเป็นส่วนที่มากที่สุดจากรายได้ทั้งหมดกันก่อน แบ่งได้เป็น - Google Search และอื่น ๆ 1.4 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้น 36% - YouTube ads 2.9 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้น 25% - Google Network เช่น บริการ AdMob, Google Ad Manager 3.1 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้น 26% จะเห็นได้ว่าในไตรมาสนี้ “Google Search” มีอัตราการเติบโตสูงที่สุด แซงหน้ากลุ่ม YouTube ads ที่ก่อนหน้านี้มีอัตราการเติบโต ไม่ต่ำกว่า 40% ต่อเนื่องมาตั้งแต่ปลายปี 2020 อีกเรื่องที่ใครหลายคนอาจจะยังไม่ทันสังเกต ก็คือ YouTube ads หรือเฉพาะโฆษณาคั่นระหว่างคลิป ยังไม่รวมรายได้สมาชิก YouTube Premium มีรายได้แซง Netflix ไปแล้ว หากเราลองมาดูรายได้ไตรมาสที่ผ่านมาของทั้ง 2 บริษัท - YouTube ads มีรายได้ 2.9 แสนล้านบาท - Netflix มีรายได้ 2.6 แสนล้านบาท ตรงนี้ก็น่าคิดเหมือนกันว่าทั้ง 2 แพลตฟอร์มเป็นแอปพลิเคชันแย่งเวลาเหมือนกัน แต่ที่ต่างกันคือ YouTube เป็นเพียงตัวกลางให้ผู้ใช้งานเข้ามาอัปโหลดวิดีโอและมีรายได้หลัก ๆ มาจากการโฆษณา ซึ่งก็น่าติดตามว่าในไตรมาสต่อ ๆ ไป สถานการณ์จะเป็นอย่างไร ลือหึ่ง YouTube เตรียมลงสู้ศึกสตรีมมิ่ง แต่มาแบบเหนือกว่าชาวบ้าน เพราะ เตรียมเสนอให้แพลตฟอร์มต่าง ๆ อย่าง Netflix , Disney+ มาฉายตัวอย่างหนังบนยูทูปแล้วให้คนกดเข้าไปเสียเงินดูแบบเต็ม ๆทำไมเราต้องมาลงทุนสร้างซีรีส์นั่นนี่แข่งกับคนที่เขาเก่งอยู่แล้ว ในเมื่อเราสามารถเปิดเป็นพ่อค้าคนกลางให้ทุกคนมาขายของได้หละ ? กลายเป็นกระแสข่าวที่สะเทือนวงการสตรีมมิ่งต่างชาติ เมื่อ YouTube แพลตฟอร์มวิดีโอที่ใหญ่ที่สุดในโลก กำลังวางแผนที่จะเปิดให้แพลตฟอร์สตรีมมิ่งหนัง-ซีรีส์ อย่าง Netflix , Disney+ และเจ้าอื่น ๆ มาขายของ โชว์ตัวอย่างหนังและซีรีส์บนแพลตฟอร์มแล้วดึงให้คนกดเสียเงินเข้าไปดูเรื่องเต็ม แต่ประเด็นคือ Youtube เป็นผู้เล่นระดับโลก นั่นแปลว่า ผู้ประกอบการไทย โอกาสที่จะดึงทุกเจ้ามาเป็นพัฯธมิตรแบบ YouTube ถือว่าเป็นเรื่องที่ต้องใช้เงินมหาศาล ดังนั้นก็ต้องติดตามต่อไปว่าถ้า Youtube เปิดฟีเจอร์นี้จริง ๆ ในระดับนานาชาติ ไทยจะแข่งขันเรื่องนี้กันอย่างไร ? |