เรื่องราวการต่อสู้และมิตรภาพในยุทธภพ ในสมัยราชวงศ์ซ่งเหนือ ไฟสงครามและความแค้นการแก่งแย่งในยุทธภพยังไม่หมดสิ้น ‘เฉียวฟง’ จอมยุทธอันดับหนึ่ง ประมุขพรรคกระยาจก ถูกเปิดเผยเรื่องราวชาติกำเนิดและถูกใส่ร้ายอย่างไม่เป็นธรรม เฉียวฟงไม่เพียงแต่ถูกขับไล่แต่ยังถูกไล่ล่าจากคนในยุทธภพ ระหว่างทางค้นหาความจริง เขาได้พบกับยอดฝีมือ ‘ต้วนอวี้’ ท่านอ๋องแห่งแคว้นต้าหลี่ และ ‘ชวีจู๋’ เณรน้อยบุตรของเจ้าอาวาสวัดเส้าหลิน และได้กลายเป็นพี่น้องร่วมสาบานช่วยเหลือกัน ทั้งสามต่างก็เข้าไปพัวพันกับเรื่องราวของชาวยุทธในอดีต พบเจอความรัก การสูญเสีย การทรยศ ฝึกฝนวิชาเป็นยอดฝีมือ ท่ามกลางความขัดแย้งในยุทธภพและสงครามระหว่างแคว้นเหลียวและซ่งที่ค่อย ๆ ปะทุขึ้น เฉียวฟงและสหายผู้มีคุณธรรมต่างอยู่ระหว่างสองฝั่งของสงครามจะปกป้องผู้คนไปได้อย่างไร ต้องติดตามชม คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น จัดการความเป็นส่วนตัว
ประเภท คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์ รายละเอียด This cookie is set by Google Analytics. It stores and update a unique value for each page visited and is used to count and track pageviews. ประเภท คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย รายละเอียด This cookie is associated with the DoubleClick for Publishers service from Google. Its purpose is to do with the showing of adverts on the site, for which the owner may earn some revenue. ประเภท คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย รายละเอียด Used by Meta to deliver a series of advertisement products such as real time bidding from third party advertisers "แปดเทพอสูรมังกรฟ้า" เป็นผลงานลำดับที่ 11 ของกิมย้ง นับตั้งแต่ชื่อเรื่อง และที่มาของแรงบันดาลใจ แสดงความใฝ่ใจในพุทธศาสนาของเขา ชื่อภาษาจีน "เทียนหลงปาปู้" หมายถึง เทพและอมนุษย์ 8 จำพวก ในตำนานของพุทธศาสนานิกายมหายาน ซึ่งมีอิทธิฤทธิ์เฉพาะตนแตกต่างกันไป ประกอบด้วย
เทพอสูร 8 เหล่าในความเปรียบทางธรรม ยังหมายถึง ความเปิดกว้างโดยเมตตาของพระพุทธศาสนา ซึ่งไม่ว่าเผ่าพันธุ์วรรณะใด ล้วนมีสิทธิที่จะสดับฟังธรรมะของพระพุทธเจ้า สามารถแสวงหาความเข้าใจ ความหลุดพ้นจากทุกข์ และบรรลุธรรมได้โดยเสมอภาคกัน กิมย้งเขียนเรื่องแปดเทพอสูรมังกรฟ้าในปี พ.ศ. 2506-2510 และปรับปรุงพิมพ์เป็นเล่มในปี พ.ศ. 2521 ฉบับภาษาไทย จำลอง พิศนาคะ แปลสำนวนแรกในปี พ.ศ. 2522 ใช้ชื่อว่า "มังกรหยกภาคพิเศษ" แต่เนื้อหาและเหตุการณ์ตามท้องเรื่องไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับมังกรหยกทั้ง 3 ภาคเลย ฉากหลังเป็นประวัติศาสตร์ช่วงก่อนมังกรหยกภาคแรกประมาณ 100 ปี ก่อนหน้านั้น ราชวงศ์ซ้อง (ซ่ง) ดำเนินนโยบายลิดรอนอำนาจขุนศึก และนิยมลัทธิขงจื๊อใหม่ กำลังของส่วนกลางจึงไม่เข้มแข็งนัก ช่วงเวลาตามท้องเรื่องแปดเทพอสูรมังกรฟ้า แผ่นดินจีนแบ่งออกเป็น 5 อาณาจักร ของหลายชนเผ่า ตรงกลางคือต้าซ้องของชาวฮั่น ด้านเหนือคือต้าเหลียวของชาวชี่ตัน ด้านใต้คือต้าหลี่ ด้านตะวันตกเฉียงเหนือคือซีเซี่ย และด้านตะวันตกเฉียงใต้คือถู่ฝาน ต่างฝ่ายต่างอยากกลืนอาณาจักรอื่น และอาณาจักรที่ล่มสลายไปแล้วอย่างเยี่ยน ก็มีคนคิดฟื้นฟูขึ้นมาใหม่ ศึกสงครามจึงไม่สงบโดยง่าย ที่มาของตัวละคร[แก้]ตัวละครมีมาก เรื่องราวก็ซับซ้อน กิมย้งใช้วิธีเล่าถึงทีละคน ทีละเหตุการณ์ ไล่เรียงกันไป หากอุปมาเทพอสูร 8 เหล่า เป็นตัวละครต่าง ๆ อาจเปรียบได้ว่า (เป็นความคิดเห็นส่วนตัวของผู้เรียบเรียง ไม่ใช่ข้อเท็จจริง)
ตัวละครแต่ละจำพวก คล้ายต่างคนต่างอยู่ และมีปัญหาต่างกัน แต่กลับเชื่อมโยงเกี่ยวข้องและประหวัดเป็นปมเดียวกัน จากการมองพ้นคุณธรรมน้ำมิตรของชาวยุทธ์ ลดขนาดความสำคัญของประธานและกรรมในเรื่องเล่าให้เล็กลง แล้วหันมามองว่าแต่ละคน แต่ละเหตุการณ์ มีส่วนประกอบของปัจจัยอะไรบ้าง สืบเนื่องกันมาอย่างไร และแสดงธรรมชาติของมนุษย์ในสภาวการณ์หนึ่งอย่างไร แปดเทพอสูรมังกรฟ้าจึงไม่ใช่นิยายกำลังภายในที่ว่าด้วยการต่อสู้ระหว่างธรรมะกับอธรรม หากเป็นการต่อสู้ระหว่างคนกับชีวิตที่เป็นทุกข์จากกิเลสที่แตกต่างกัน และแปรเปลี่ยนไปสุดจะหยั่ง ฝีมือและพลังยุทธ์[แก้]มีการถกเถียงกันถึงนิยายเรื่องนี้เป็นวงกว้างในเรื่องของฝีมือและพลังยุทธ จึงแสดงยอดวิชาของแต่ละตัวละครดังนี้เพื่อให้ผู้อ่านพิจารณาตามวิจารณญาณ
* หลวงจีนเฝ้าหอคัมภีร์ไม่สามารถจัดอันดับได้เนื่องจากไม่ข้องเกี่ยวกับยุทธภพ เรื่องย่อ[แก้]8 เทพอสูรมังกรฟ้า เป็นเรื่องราวในช่วงสงครามระหว่างแคว้นต้าซ่งและแคว้นเหลียว ทั้งสองแคว้นทำสงครามต่อเนื่องยาวนานจนปลูกฝังเป็นความแค้นลึกล้ำระหว่างเมืองทั้งสอง ในยุทธจักรมีคำกล่าว"เฉียวฟงเหนือ มู่หยงใต้" เค้าลางแห่งความวุ่นวายเริ่มปรากฏขึ้นเมื่อเฉียวฟงประมุขพรรคกระยาจกถูกกล่าวหาว่าเป็นฆาตกรสังหารรองประมุขพรรคกระยาจกหม่าต้าหยวนและยังถูกเปิดโปงว่าเป็นชาวซิตัน ด้วยกระแสชาตินิยมจึงทำให้เฉียวฟงต้องออกจากพรรคกระยาจก เฉียวฟงออกสืบหาความเป็นมาของตนเองเพื่อจะหาผู้ที่ชาวยุทธ์เรียกขานว่า"ผู้นำผู้ยิ่งใหญ่"ผู้ที่สังหารบิดามารดาที่แท้จริงของตนเองจนกระทั่งพบว่าตนเองนั้นเป็นชาวซิตันแซ่เซียว เฉียวฟงจึงได้เปลี่ยนชื่อเป็นเซียวฟง แต่เหตุการณ์กลับตาลปัตรจนเซียวฟงถูกเข้าใจผิดว่าเป็นผู้สังหารบิดามารดาบุญธรรมและอาจารย์ของตน แต่ยังมีผู้หนึ่งที่อยู่เคียงข้างเซียวฟงตลอดนั่นคืออาจูผู้เป็นสาวใช้ของจอมยุทธ์ใต้มู่หยงฟู่ แต่โศกนาฏกรรมก็เกิดขึ้นจากความแค้นของเซียวฟงจนทำให้เกิดเรื่องราวอันน่าสลด สุดท้ายเซียวฟงได้ช่วยเหลือเยลู่กีฮ่องเต้ซิตันจึงได้รับการแต่งตั้งให้เป็นไต้อ๋องแห่งแคว้นเหลียว ณ เมืองต้าหลี่ ต้วนอี้บุตรชายอ๋องเจิ้นหนานต้วนเจิ้นฉุนแห่งต้าหลี่ได้หนีออกจากบ้านเนื่องจากถูกบิดาบังคับให้ฝึกวิทยายุทธ์ แต่ต้วนอี้ฝักใฝ่ทางธรรมมากกว่า แต่สุดท้ายก็ตกกระไดพลอยโจนได้ฝึกสุดยอดวิชาพรรคสราญรมย์และวิชาดรรชนีกระบี่หกชีพจรจนกลายเป็นยอดฝีมือ แต่ด้วยการที่ต้วนอี้ไม่มีพื้นฐานวรยุทธ์ จึงทำให้ยอดวิชาใช้ออกได้เป็นบางครั้งบางคราว ภายหลังต้วนอี้ถูกจิวม่อจื้อราชครูแคว้นถู่ฟานจับตัวไป จนเป็นสาเหตุให้ต้วนอี้ต้องเข้ามาพัวพันกับความวุ่นวายในยุทธจักร จนกระทั่งได้สาบานเป็นพี่น้องกับเซียวฟงและได้พบรักกับหวังอวี่เยี่ยน แต่ในใจหวังอวี่เยี่ยนนั้นรักเพียงญาติผู้พี่นามมู่หยงฟู่แห่งกูซูผู้ได้รับการขนานนามเป็นจอมยุทธ์ใต้เทียบเคียงกับเซียวฟง แม้ต้วนอี้จะไม่ได้รับรักตอบแต่ก็มีความพยายามติดตามมู่หยงฟู่และหวังอวี่เยี่ยนต่อไป มู่หยงฟู่เป็นทายาทเชื้อพระวงศ์แคว้นต้าเยี่ยนที่ถูกกลืนโดยแคว้นต้าซ่ง ด้วยเหตุนี้มู่หยงฟู่จึงได้รับการปลูกฝังจนมีปณิธานที่จะกู้ชาติ มู่หยงฟู่ศึกษาวิชาดาวเคลื่อนดาราคล้อยและรอบรู้วิทยายุทธ์หลายสำนัก เขามักจะคบหากับชาวยุทธ์เพื่อจะหากำลังมากอบกู้เมืองเยี่ยนของตน ในอีกด้านหนึ่ง อิ้วถานจื่อผู้เป็นบุตรชายของเจ้าบ้านทั้งสองแห่งหมู่บ้านผู้กล้าต้องออกเร่ร่อนตามล้างแค้นเซียวฟงไปถึงแคว้นเหลียว เหตุเนื่องจากเซียวฟงพาอาจูไปหาหมอเทวดาที่หมู่บ้านผู้กล้าและได้ปะทะกับชาวยุทธ์จนเป็นสาเหตุให้เจ้าบ้านผู้กล้าทั้งสองต้องจบชีวิตลง แต่อิ้วถานจื่อถูกทหารซิตันจับมาได้และได้มาพบกับเซียวฟง อิ้วถานจื่อบังเอิญเก็บคัมภีร์เปลี่ยนเส้นเอ็นที่เซียวฟงทำตกไว้ได้และได้หลงรักอาจื่อผู้เป็นน้องสาวอาจูโดยบังเอิญ แต่อาจื่อผู้มีจิตใจโหดเหี้ยมอำมหิตได้นำหน้ากากเหล็กที่เพิ่งหลอมเสร็จมานาบหน้าของอิ้วถานจื่อจนเชื่อมติดเป็นเนื้อเดียวกัน แต่กระนั้นอิ้วถานจื่อก็ได้ติดตามรับใช้อาจื่อด้วยความภักดี อาจื่อมักจะให้สัตว์พิษกัดอิ้วถานจื่อเพื่อฝึกวิชา อิ้วถานจื่อจึงฝึกคัมภีร์เปลี่ยนเส้นเอ็นเพื่อขับพิษจนกลายเป็นยอดฝีมือ อิ้วถานจื่อได้รับการสนับสนุนจากฉวนกวนชิงแห่งพรรคกระยาจกจนได้เป็นประมุขพรรคกระยาจกคนใหม่ อิ้วถานจื่อถูกยุยงให้ท้าประลองกับวัดเส้าหลินเพื่อชิงความเป็นหนึ่ง ด้วยเหตุนี้จึงทำให้เกิดงานชุมนุมชาวยุทธ์ในวัดเส้าหลินขึ้น ฝ่ายหลวงจีนน้อยวัดเส้าหลินนามซีจุ๊นำเทียบเชิญไปส่งให้เหล่าชาวยุทธ์และได้บังเอิญเข้าร่วมงานหมากล้อมและได้พบกับยอดฝีมือหลายคนรวมทั้งต้วนอี้ ซีจุ๊บังเอิญแก้กลหมากล้อมของอู๋หยาจื่อได้ เขาจึงได้รับการถ่ายทอดพลังเจ็ดสิบปีจากอู๋หยาจื่อและได้รับตำแหน่งเจ้าสำนักสราญรมย์ต่อจากอู๋หยาจื่อ ซีจุ๊ทำตามคำสั่งเสียของอู๋หยาจื่อจนได้เข้าไปพัวพันกับความแค้นของนางเฒ่าทาริกาเทียนซานและหลี่ชิวสุ่ย ทั้งสองได้ต่อสู้กันจนตกตายตามกัน ก่อนตายนางเฒ่าทาริกาได้มอบตำแหน่งเจ้าสำนักเทียนซานให้ซีจุ๊ ซีจุ๊ได้ฝึกวิชาสำนักสราญรมย์และเทียนซานจนแตกฉานกลายเป็นยอดฝีมือ ภายหลัง เซียวฟง ซีจุ๊ และต้วนอี้ได้ร่วมสาบานเป็นพี่น้องกัน ซีจุ๊ได้อภิเษกกับองค์หญิงแห่งซีเซี่ย ต้วนอี้ได้เป็นฮ่องเต้แห่งต้าหลี่และอภิเษกกับหวังอวี่เยี่ยน แต่สำหรับเซียวฟง มู่หยงฟู่ และอิ้วถานจื่อนั้นจบลงด้วยโศกนาฏกรรม มู่หยงฟู่ทำการกู้ชาติไม่สำเร็จจนสติฟั่นเฟือน อิ้วถานจื่อต้องพิการและเสียชีวิตเพื่อสังเวยความรักอันบริสุทธิ์ที่มีต่ออาจื่อ ส่วนเซียวฟงนั้นต้องเสียสละตนเองเพื่อให้แคว้นซ่งและเหลียวทั้งสองแคว้นยุติสงครามไม่รุกรานต่อกัน |