8 9 ถ.ร ชตภมอนท ราแขวงนวลจ นทร เขตบ งก ม

พรรคทั้งหมด

เบอร์

ส.ส. เขต 387 คน ส.ส. บัญชีรายชื่อ 98 คน

• 
• ทุกนโยบายพรรคภูมิใจไทย มุ่งเน้นการเพิ่มรายได้ ลดรายจ่าย เช่น พักหนี้ 3 ปี หยุดต้น ปลอดดอกเบี้ยคนละไม่เกิน 1 ล้านบาท
• นโยบายเกษตรร่ำรวย รู้ราคาก่อนปลูก รับเงินก่อนขาย เสียหายมีประกัน ช่วยให้เกษตรกรมีสัญญาซื้อขายผลผลิตล่วงหน้า
• นโยบายฟรีหลังคาโซล่าร์เซลล์ ช่วยลดค่าไฟฟ้าของประชาชนหลังคาเรือนละ 450 บาทต่อเดือน และได้ผ่อนมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าเดือนละ 100 บาท เป็นเวลา 60 งวด
• นโยบาย ฟรี กองทุนประกันชีวิต 60 ปี ตายได้1 แสนบาท กู้ได้ 2 หมื่นบาทและรักษาฟรีเครื่องฉายรังสีมะเร็งทุกจังหวัดฟอกไตฟรีทุกอำเภอ
• ฟรีน้ำดื่มสะอาดตั้งเครื่องกรองทุกหมู่บ้าน

พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รอง ผบ.ตร. พร้อมด้วย พล.ต.ท.ชาญเวช เสสะเวช ผบช.น. พล.ต.ต.ฤชากร จรเจวุฒิ รอง ผบช.น. และ พล.ต.ต.สัมฤทธิ์ ตงเต๊า ผบก.น.8 แถลงข่าวกรณีจับกุมแก๊งค้ายาเสพติดรายสำคัญในพื้นที่ กทม. โดยสามารถยึดของกลางยาบ้า 370,400 เม็ด ยาไอซ์ 13 กิโลกรัม ยาอีสีฟ้า 4,690 เม็ด ยาอีสีน้ำตาล 33,090 เม็ด และเฮโรอีน 240 กรัม

พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ กล่าวว่า สืบเนื่องมาจากเจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนขยายผลจับกุมคดียาเสพติดรายใหญ่ในพื้นที่ กทม. ได้รับเบาะแสว่ามีกลุ่มผู้ต้องหาอีกกลุ่ม มีพฤติกรรมลักลอบจำหน่ายยาเสพติดรายใหญ่ให้แก่ลูกค้าในพื้นที่ เขตบางขุนเทียนและใกล้เคียง จนทราบว่ากลุ่มผู้ต้องหาดังกล่าว แบ่งหน้าที่การทำงานอย่างเป็นระบบ โดยเช่าคอนโดอาคาร A ถนนสาธร-ตากสิน แขวงบางค้อ เขตจอมทอง กรุงเทพฯ ไว้เป็นที่เก็บยาเสพติด และใช้รถยนต์ฮอนด้าบริโอ้ สีขาว ทะเบียน 2 กฌ-1714 กทม. ในการขนยาเสพติด กระทั่งวานนี้ ( 29 ม.ค. ) กลุ่มผู้ต้องหาได้นำรถยนต์คันดังกล่าว มาจอดบริเวณหน้าคอนโด เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงแสดงตัวขอตรวจค้นเข้าจับกุมผู้ต้องหาทั้ง 4 ราย พร้อมยึดของกลาง จากนั้นเข้าตรวจค้นห้องพักหมายเลข 342 ชั้น 18 อาคารเอ Aspire Condo ถ.สาธร-ตากสิน โดยสามารถยึดของกลางได้อีกจำนวนหนึ่ง เบื้องต้นแจ้งข้อหาร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย จากนี้จะนำตัวส่ง บช.ปส.ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

คนร้ายอุกอาจ! จ่อยิงแกนนำช่วยชาวบ้านในการเคหะฯ ดับคาที่

เผยแพร่: 17 ต.ค. 2549 07:02 โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม

คนร้ายยิงแกนนำตระเวนช่วยชาวบ้านที่อาศัยอยู่ในการเคหะฯ 18 แห่งทั่วกรุงดับ หลังเดินทางกลับจากศาลมีนบุรี คาดสาเหตุมาจากช่วยชาวบ้านที่เดือดร้อนและถูกเอาเปรียบ

เมื่อเวลา 22.30 น. วันที่ 16 ต.ค. พ.ต.ท. ชูชัย จับเทียน สารวัตรเวร สน.มีนบุรี รับแจ้งเหตุมีคนถูกยิงเสียชีวิต ภายในบ้านเลขที่ 68/1231 รามคำแหง ซอย 192 แยก 8 แขวงและเขตมีนบุรี จึงพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญู แพทย์เวรรุดไปตรวจสอบ

ที่เกิดเหตุเป็นบ้านทาวน์เฮาส์ชั้นเดียว บริเวณรั้วด้านในของบ้าน พบศพนายณัฐวิทย์ หรือเอ๋ สุทธิโรจน์ อายุ 50 ปี หัวหน้าชมรมรักเพื่อนแท้ และยังเป็นแกนนำช่วยเหลือชาวบ้านตามเคหะต่างๆ กว่า 18 แห่ง เช่น เคหะร่มเกล้า เคหะออเงิน เคหะดินแดง และเคหะบางชัน เป็นต้น สภาพศพนอนหันหลังให้รั่วบ้าน สวมเสื้อยืดสีขาว กางเกงยีนส์ขายาว ถูกยิงด้วยอาวุธปืน 5 นัด เข้าที่บริเวณกกหูด้านซ้าย หัวใจ ซี่โครงขวา แขนขวา และคอด้านขวาเสียชีวิตคาที่

สอบปากคำนางพิมพร มีสวัสดิ์ อายุ 60 ปี ภรรยาผู้ตายให้การว่า เมื่อช่วงเวลา 4 ทุ่ม สามีได้กลับมาจากศาลจังหวัดมีนบุรีเนื่องจากพาชาวบ้านในการเคหะรายหนึ่งไปขึ้นศาลในคดีที่ถูกนายจักรกฤษ จิรฐิติ ซึ่งเป็นหัวหน้าฝ่ายบุคคล ของการเคหะออเงินทำร้ายร่างกาย เมื่อกลับมาถึงสามีได้เปิดประตูรั้วเข้าบ้านตามปกติ ขณะนั้นได้มีคนร้ายเดินมาประชิดตัวแล้วชักปืนออกมาจ่อยิง 5 นัดจนสามีล้มลงไปกับพื้น

“จากนั้นดิฉันได้วิ่งตามคนร้ายไป แต่เมื่อถึงหน้าปากซอยพบว่าคนร้ายได้ซ้อนมอเตอร์ไซค์ที่จอดรออยู่หลบหนีไป ด้วยความตกใจ ดิฉันไม่ได้สังเกตรูปพรรณ รู้เพียงว่าเป็นชายวัยรุ่น แต่สอบถามเพื่อนบ้านทราบว่าคนร้ายขี่มอเตอร์ไซค์มาดักรอสามีตั้งแต่ช่วงเย็น กระทั่งสามีนั่งรถแท็กซี่เข้าบ้านมา คนร้าย 1 คนก็เดินตามมาประกบยิงทันที ซึ่งก่อนหน้านี้เคยมีรถจักรยานยนต์และรถยนต์มาขับวนเวียนอยู่ในซอยหน้าบ้านหลายครั้ง” นางพิมพา กล่าว

ภรรยาผู้ตายกล่าวต่อว่า รู้สึกเสียใจมากเนื่องจากสามีเป็นคนดี และที่ผ่านมาได้ช่วยเรื่องต่อสู้เพื่อชาวเคหะมาตลอด ใครมีปัญหาโดนการเคหะหรือนิติบุคลโกง สามีก็จะเข้าไปช่วยเดินเรื่องให้ พาไปขึ้นศาลฟ้องร้องกันจนถึงที่สุด จนมีคนปองร้ายมากมายเนื่องจากไปขัดผลประโยชน์ของบุคคลในกรณีดังกล่าว

นายณรงค์ เกริกสกุล อายุ 43 ปี อยู่บ้านเลขที่ 201/85 เคหะออเงิน แขวงและเขตสายไหม เปิดเผยว่า ผู้ตายเป็นคนจิตใจดี ช่วยเหลือคนที่ถูกการเคหะโกงมาหลายปีแล้ว ช่วยดำเนินเรื่องให้ตลอด โดยวันนี้ได้พาตนไปขึ้นศาลจังหวัดมีนบุรี เนื่องจากเมื่อวันที่ 28 มีนาคม 47 ขณะที่ตนกำลังเดินไปซื้อของที่ตลาดการเคหะออเงิน ก็พบว่านายจักรกฤษพร้อมพวกได้พากันเข้ารื้อตลาดและชกต่อยกับคนที่เข้าขัดขวาง โดยตนได้เป็นหนึ่งในคนที่ถูกชกต่อย

“หลังจากขึ้นศาลเสร็จเรียบร้อย คู่กรณีได้เข้ามาพูดข่มขวัญพี่เอ๋ (ผู้ตาย) จากนั้นได้ทำเสียง ปัง 3 ที เหมือนจะบอกอะไรบางอย่าง มาทราบข่าวอีกทีว่าเสียชีวิตแล้ว” นายณรงค์กล่าว เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำตัวภรรยา นายณรงค์ และผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมดไปสอบปากคำที่ สน.มีนบุรี เพื่อติดตามคนร้ายมาดำเนินคดีต่อไป