ประเด็นผลกระทบต่อสุขภาพจากการใช้โทรศัพท์มือถือ และการแผ่คลื่นจากเสาอากาศแพร่สัญญาณโทรคมนาคมต่างๆ รวมทั้งจากเครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้านทั่วไป ยังไม่ได้รับความสนใจอย่างจริงจังในสังคมไทย แม้ผลจากการศึกษาวิจัยโดยนักวิทยาศาสตร์ในหลายประเทศพบว่า คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าสามารถส่งผลกระทบต่อสุขภาพมนุษย์ได้ หนังสือเล่มนี้เป็นผลการศึกษาและรวบรวมข้อมูลโดย ดร.สุเมธ วงศ์พานิชเลิศ นักวิชาการอิสระและกรรมการ สบท. เพื่อให้ข้อมูลเกี่ยวกับผลกระทบจากคลื่นสัญญาณที่อาจะส่งผลต่อสุขภาพ อันเป็นประโยชน์ต่อผู้สนใจได้นำไปศึกษา ค้นคว้า อ้างอิง เพื่อเกิดความตระหนักถึงความเสี่ยงที่อยู่ใกล้ตัวเราอย่างคาดไม่ถึง จากกรณีร.ต.ท.ทวีวิทย์ แก้วโรย รอง สว.(สอบสวน) สภ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช ได้รับแจ้งเหตุนักเรียนชายปีนเสาสัญญาณโทรศัพท์ กระโดดลงมาฆ่าตัวตายที่บริเวณในปั๊มน้ำมันไม่มีชื่อ ซอยถนนยุทธศาสตร์ ต.ปากแพรก อ.ทุ่งสง ที่เกิดเหตุภายในปั๊มน้ำมัน ข้างคาร์แคร์ล้างรถ พบร่างผู้เสียชีวิต ทราบชื่อ ด.ช.เอ (นามสมมุติ) อายุ 14 ปี เป็นนักเรียนชั้น ม.3 โรงเรียนแห่งหนึ่ง ใน อ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช สภาพศพนอนหงายเสียชีวิตในชุดพละของโรงเรียนเสื้อสีฟ้า นุ่งกางเกงวอร์มสีดำ สภาพศพแขนขาและคอหักเสียชีวิตคาที่ ข้างเสาสัญญาณโทรศัพท์มือถือ บริเวณที่เกิดเหตุพบหลังคากระเบื้องแตกทะลุ และพบรองเท้านักเรียน และปากกาหล่นเกลื่อนกระจาย เสียชีวิตมาแล้วประมาณ 6-8 ชม.ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น ความคืบหน้าเมื่อวันที่ 7 มิ.ย. ผอ.รร.ดังกล่าว กล่าวว่า ขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวของน้องด้วย ไม่มีใครอยากให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ ซึ่งปกติน้องๆ เป็นคนนิ่งเงียบอยู่แล้ว และจากการพูดคุยกับครูประจำชั้นและครูปกครอง ที่เกี่ยวข้องและลูกๆที่เป็นเพื่อนๆของน้อง ได้บอกว่าน้องคนนี้เวลาที่อยู่กับเพื่อนๆก็จะพูดคุยปกติ น้องจะไม่เอาเรื่องที่เครียดๆมาคุยกับเพื่อนเลย และเมื่อวาน( 6 มิ.ย.)ตรวจสอบแล้วน้องก็มาโรงเรียนปกติ เรื่องการเรียนของน้องก็มีผลการเรียนปกติ ไม่มีปัญหาอะไรเรื่องการเรียน ส่วนประเด็นเรื่องทรงผมของโรงเรียนนั้น ก็เป็นระเบียบของทางโรงเรียน และใช้กระบวนการมีส่วนร่วมของทั้งผู้ปกครองเครือข่ายผู้ปกครองตัวแทนนักเรียน และตัวแทนสภานักเรียนซึ่งทำเป็นข้อตกลงร่วมกัน ทำให้เด็กๆมามีส่วนร่วมด้วย ซึ่งเราไม่อยากให้เป็นประเด็นสร้างความคิดที่มันแตกต่างๆ ระหว่างผู้ใหญ่กับเด็ก สำหรับประเด็นเรื่องทรงผมของทางโรงเรียนนั้นจะสั้นหรือยาวก็ได้ แต่ต้องไม่ทำสีผม โรงเรียนไม่ได้ไปเข้มงวดหรือกดดันอะไรนักเรียน เพราะเข้าใจตัวนักเรียนดี จึงเชื่อว่าปัญหาที่เกิดขึ้นไม่น่าจะเกิดมาจากปัญหาเรื่องระเบียบทรงผ มของทางโรงเรียนแต่เชื่อว่าน่าจะเกิดจากสาเหตุอื่น ม.3ปีนเสาสัญญาณโทรศัพท์โดดฆ่าตัวตาย ครูที่ปรึกษาเผยนิสัยดี-เพื่อนๆรักใคร่… ด้านพ่อของด.ช.เอ กล่าวว่า ลูกตัดผมไป 2 หนแล้ว พอหน 3 ก็ให้ตัดผมอีก และรับปากครูว่าจะไปตัดหนที่ 3 และตนคิดว่าเมื่อวาน( 6 มิ.ย.)ลูกไปตัดผมหนที่ 3 พอค่ำตนทำงานเหนื่อยๆก็นอนพัก พอค่ำลูกไม่กลับเข้าบ้าน ตนก็ออกไปตามและสงสัยว่าไปนอนบ้านเพื่อนที่ ต.นาหลวงเสน เพราะลูกไปนอนบ้านเพื่อนเป็นประจำ ก็ออกตามหาอีกครั้ง ขณะที่เพื่อนของลูกบอกว่าลูกชายไม่ได้ไปนอนด้วย ตนได้โทรฯไปลาป่วยกับครูประจำชั้น ซึ่งทางครูถามว่าทำไมไม่กลับบ้าน จึงบอกว่าลูกอาจจะเครียดเรื่องทรงผม เนื่องจากทราบจากเพื่อนๆว่า ครูบอกว่าหากไม่เปลี่ยนทรงผมก็ให้ย้ายโรงเรียน ดังนั้นอาจจะเป็นสาเหตุที่ทำให้ลูกชายตนเองเครียดและคิดสั้นดังกล่าว แต่เข้าใจครูอาจจะพูดให้ลูกชายตนไปตัดทรงผมใหม่ ซึ่งความจริงลูกชายตนไปตัดผมมาแล้ว 2 ครั้งก็ถือว่าตัดแล้ว แต่ถ้าไม่ตัดเลยก็ว่าไปอย่าง แต่เรื่องทั้งหมดก็ผ่านมาแล้ว ไม่อยากจะติดใจเอาความอะไรกับใคร ซึ่งตนกำลังเตรียมจัดงานศพของลูกชายที่วัดชัยชุมพล อ.ทุ่งสง ซึ่งจะรดน้ำศพในวันพรุ่งนี้(8มิ.ย.) วันนี้ (12 พ.ค.2566) พล.ต.ต.อนุรุท อิ่มอาบ ผบก.ภ.จว.นราธิวาส ได้รับรายงานเกิดเหตุลอบเผาเสาส่งสัญญาณโทรศัพมือถือ เมื่อคืนที่ผ่านมา ในพื้นที่ 8 อำเภอ จ.นราธิวาส จากการตรวจสอบพบว่าเสาส่งสัญญาณที่ถูกเผาครั้งนี้มีทุกเครือข่ายและเสาได้รับความเสียหาย จำนวน 20 ต้น เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเกิดช่วงเวลาประมาณ 20.00 - 22.00 น. ผู้ก่อเหตุลงมือปฏิบัติการในเวลาไล่เลี่ยกัน พฤติกรรมของผู้ก่อเหตุใช้ยางรถยนต์และรถจักรยานยนต์เป็นเชื้อเพลิงนำไปไว้ที่โคนเสาและแขวนไว้จากนั้นก็ใช้น้ำมันเชื้อเพลิงราดจุดไฟเผา ผบก.ภ.จว.นราธิวาส กล่าวว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้สั่งการไปยังเจ้าหน้าที่ทุกหน่วยให้ระงับการเข้าไปตรวจสอบที่จุดเกิดเหตุทุกจุดเพราะเกรงอาจจะแผนลวงผู้ก่อเหตุลวงให้เจ้าหน้าที่ไปตรวจสอบและลอบวางระเบิดดักทำร้ายเจ้าหน้าที่ ส่วนที่ จ.ปัตตานี เกิดเหตุลอบเผาเสาส่งสัญญาณโทรศัพท์ในเวลาไล่เลี่ยกัน ในพื้นที่ 4 อำเภอ ทำให้เสาส่งสัญญาณได้รับความเสียหายจำนวน 6 จุด เจ้าหน้าที่คาดว่าการก่อเหตุครั้งนี้อาจเป็นการก่อกวน เพื่อลวงให้เจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุและลอบวางระเบิดดักทำร้ายเจ้าหน้าที่ จุดเกิดเหตุลอบวางเพลิง ในพื้นที่ 8 อำเภอ ดังนี้
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเจ้าหน้าที่เชื่อว่าเป็นการก่อกวนของสมาชิกกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงที่ได้มีการประชุมนัดหมายของแกนนำระดับปฏิบัติการณ์ ด้วยการก่อเหตุเวลาไล่เลี่ยกันในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ |