การแต งเคร องแบบ น กเร ยนช างฝ ม อทหารใหม ภาคสมทบ

ี ำ ั ี “...ทหารและตารวจนั้น มีหน้าท่เก่ยวข้องกับความม่นคงปลอดภัย และความผาสุกของบ้านเมือง และประชาชน. หน้าท่ของทหารและตารวจจึงมีความสาคัญ ต้องปฏิบัติด้วยความท่มเทเสียสละ ด้วยทัศนคติท่ดี ี ำ ุ ำ ี ู ั ั ี ึ ้ ิ ้ ึ ็ ิ ่ ื ่ ่ และด้วยความซอตรงจรงใจและรับผิดชอบอยางสูง. ทานท้งหลายได้รบยศสงขน กย่งต้องมความรับผิดชอบมากขน ที่จะปฏิบัติหน้าที่ให้สำาเร็จผล ให้สำาเร็จสมบูรณ์ เพื่อประโยชน์สุขของประเทศชาติและประชาชน. ถ้าทุกคน ตระหนักถึงหน้าที่และความรับผิดชอบดังกล่าว แล้วตั้งใจปฏิบัติให้ดี ให้ถูกต้องเป็นธรรม แต่ละคนก็จะได้รับ ความเชื่อถือยกย่อง สมกับที่เป็นผู้ใหญ่ ผู้ได้ให้คำาสัตย์ปฏิญาณไว้ แล้วปฏิบัติตามได้จริง. ...” พระบรมราโชวาท ในพิธีถวายสัตย์ปฏิญาณของนายทหารและนายตำารวจชั้นนายพล ณ ศาลาดุสิดาลัย สวนจิตรลดา พระราชวังดุสิต วันพฤหัสบดี ที่ ๑๘ มีนาคม ๒๕๖๔

นายกกรรมการราชนาวิกสภา พลเรือโท ชลธิศ นาวานุเคราะห์ รองนายกกรรมการราชนาวิกสภา พลเรือตรี จิรพล ว่องวิทย์ กรรมการราชนาวิกสภา พลเรือตรี ชยุต นาเวศภูติกร พลเรือตรี ดนัย สุวรรณหงษ์ พลเรือตรี โสภณ รัชตาภิรักษ์ พลเรือตรี อัตตะวีร์ ทักษรานุพงศ์ พลเรือตรี คมสัน กลิ่นสุคนธ์ พลเรือตรี อนุพงษ์ ทะประสพ พลเรือตรี สนทยา แสงบางมุด ปกหน้า พลเรือตรีหญิง วรารัตน์ สิงห์ขวา พลเรือตรี ชัยวัฒน์ คุ้มทิม พลเรือตรี พงษ์สันต์ สมัยคมสัน พลเรือตรี ทรงฤทธิ์ ฉัตรเงิน พลเรือตรี อรรณพ แจ่มศรีใส กรรมการและเลขานุการราชนาวิกสภา นาวาเอก จิระวัฒน์ อภิภัทรชัยวงศ์ เหรัญญิกราชนาวิกสภา เรือเอกหญิง ปาริชาติ เชื้อจิตรนุกูล ที่ปรึกษาราชนาวิกสภา พลเรือเอก วันชัย แหวนทอง พลเรือโท คณาชาติ พลายเพ็ชร์ พลเรือโท สาธิต นาคสังข์ ปกหลัง พลเรือตรี จักรชัย น้อยหัวหาด ข้อคิดเห็นในบทความท่นาลงนิตยสารนาวิกศาสตร์เป็นของผู้เขียน ี � พลเรือตรี สมชาย ศิพะโย มิใช่ข้อคิดเห็นหรือนโยบายของหน่วยงานใดของรัฐและมิได้ผูกพัน ี � บรรณาธิการ ต่อทางราชการแต่อย่างใด ได้นาเสนอไปตามท่ผู้เขียนให้ความคิดเห็น ั ั ื � นาวาเอก จิระวัฒน์ อภิภัทรชัยวงศ์ เท่าน้น การกล่าวถึงคาส่ง กฎ ระเบียบ เป็นเพียงข่าวสารเบ้องต้น ผู้ช่วยบรรณาธิการ เพื่อประโยชน์แก่การค้นคว้า นาวาเอกหญิง วรนันท์ สุริยกุล ณ อยุธยา ปกหน้า พระอนุสาวรีย์ พลเรือเอก พระเจ้าบรมวงศ์เธอ ประจ�ากองบรรณาธิการ พระองค์เจ้าอาภากรเกียรติวงศ์ กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ ที่ต้นหูกวาง นาวาเอก สุวิทย์ จันทร์เพ็ญศรี ณ หาดทรายรี จังหวัดชุมพร นาวาเอก นิพนธ์ พลอยประไพ ปกหลัง การแสดงอาวุธประกอบดนตรีแฟนซีดริล (Fancy Drill) จาก รร.ชุมพลทหารเรือ บริเวณอนุสรณ์สถานเรือหลวงชุมพร และศาลกรมหลวง นาวาเอก ธาตรี ฟักศรีเมือง ชุมพรเขตอุดมศักดิ์ (ศาลล่าง) หาดทรายรี จังหวัดชุมพร นาวาเอกหญิง แจ่มใส พันทวี ออกแบบปก กองบรรณาธิการ นาวาโทหญิง ศรัญญา ศาสโนปถัมภ์ พิมพ์ที่ กองโรงพิมพ์ กรมสารบรรณทหารเรือ นาวาโทหญิง สรารัตน์ จันกลิ่น เจ้าของ ราชนาวิกสภา นาวาตรี ปัญญา ประเสริฐจินดา ส�านักงานราชนาวิกสภา เรือเอกหญิง สุธิญา พูนเอียด ถนนอรุณอมรินทร์ แขวงศิริราช เขตบางกอกน้อย เรือเอก วิทยา ภู่ประดิษฐ์ กรุงเทพฯ ๑๐๗๐๐ เรือตรี ชัยพันธ์ ไกรศิริ โทร. ๐ ๒๔๗๕ ๓๐๗๒ และ ๐ ๒๔๗๕ ๔๙๙๘ นาวิกศาสตร์ 2 ปีที่ ๑๐๓ เล่มที่ ๙ กันยายน ๒๕๖๓ ส่งข้อมูล/ต้นฉบับได้ที่ [email protected] เว็บไซต์ราชนาวิกสภา WWW.RTNI.NAVY.MI.TH

สารบัญ

คลังความรู้ คู่ราชนาวี

ปีที่ ๑๐๕ เล่มที่ ๕ ประจ�ำเดือน พฤษภำคม ๒๕๖๕ ลำ ดับเรื่อง ลำ ดับหน้า บรรณาธิการแถลง .............................................................................๖ เรื่องเล่าจากปก ..................................................................................๗ ค�าคมของเสด็จเตี่ย ............................................................................๘ พลเรือตรี กรีฑา พรรธนะแพทย์ ๒๙ มิถุนายน ๒๕๖๕ ครบรอบ ๑๔๑ ปีประสูติ จอมพลเรือ สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้าบริพัตรสุขุมพันธุ์ กรมพระนครสวรรค์วรพินิต ............................................................๑๘ นาวาเอก พิพัทธ์ พุกงาม

การใช้ก�าลังทางเรือยามสงบยุคโควิด ...............................................๒๕ พลเรือโท พัน รักษ์แก้ว

สร้างเหล็กในคน ..............................................................................๒๘ นาวาเอก ถุงเงิน จงรักชอบ ผู้บังคับการเรือมือใหม่ ....................................................................๗๖ นาวาเอก วีรุตม์ ฉายะจินดา บทเรียนการกลับมาของ USS .John S. McCain

(THE BIG BAD JOHN IS BACK!!) ...............................................๑๐๒ นาวาเอก ภานุพันธ์ รักษ์แก้ว

บทเรียนจากเหตุการณ์อุบัติเหตุเรือด�าน�้า KRI Nanggala ของอินโดนีเซีย .............................................................................๑๑๙ นาวาโท สุระ บรรจงจิตร พัฒนาการของสงครามทุ่นระเบิด แบบย่อยง่ายตามไทม์ไลน์ของ ประวัติศาสตร์จากอดีตสู่ปัจจุบัน และมุ่งไปยังอนาคต ..................๑๒๙ นาวาโท ธารไชยยันต์ ตันติอ�านวย � สานวนชาวเรือ ..............................................................................๑๔๖ เรื่องเล่าชาวเรือ ............................................................................๑๔๘ ข้อคิดปลูกจิตสานึกจริยธรรม .......................................................๑๔๙ � ข่าวนาวีรอบโลก ...........................................................................๑๕๑ ภาพกิจกรรมกองทัพเรือ ...............................................................๑๕๕ การฌาปนกิจสงเคราะห์แห่งราชนาวี ...........................................๑๖๔ ้ มาตรานำ เดือน กรกฎาคม ๒๕๖๕ ............................................๑๖๖ เวลาดวงอาทิตย์ และ ดวงจันทร์ ขึ้น-ตก เดือน กรกฎาคม-สิงหาคม ๒๕๖๕ ...............................................๑๗๐

นาวิกศาสตร์ นิตยสารของกองทัพเรือ มีวัตถุประสงค์เพ่อเผยแพร่ ื ื ั วิชาการและข่าวสารทหารเรือท้งในและนอกประเทศ ตลอดจนวิทยาการอ่น ๆ นาวิกศาสตร์ ทั่วไป และเป็นสื่อในการประชาสัมพันธ์ของกองทัพเรือ 3 ปีที่ ๑๐๓ เล่มที่ ๙ กันยายน ๒๕๖๓

ุ ั � ื ั ี ี ั ั ่ ิ � ี ั ุ ื ี ้ ี ี ่ ื สวสดครบสมาชกทรกทกท่าน สาหรบเดอนพฤษภาคมน เป็นอกเดอนทมความสาคญต่อทหารเรอทกคน ี ิ � คือในวันท่ ๑๙ พฤษภาคมของทุกปี กาหนดให้เป็น “วันอาภากร” ซ่งเป็นวันคล้ายวันส้นพระชนม์ของ พลเรือเอก ึ พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอาภากรเกียรติวงศ์ กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักด์ องค์บิดาของทหารเรือไทย ิ โดยในปีนี้ครบรอบ ๙๙ ปี ที่พระองค์สิ้นพระชนม์ ณ บริเวณหาดทรายรี จ.ชุมพร และ ในโอกาสนี้กองบรรณาธิการ � � ื � ี นาวิกศาสตร์มีความภาคภูมิใจท่จะนาเสนอบทความเพ่อน้อมราลึกถึงพระองค์ท่านคือบทความ เร่อง “คาคมของเสด็จเต่ย” ื ี เขียนโดย พลเรือตรี กรีฑา พรรธนะแพทย์ นักเขียนอาวุโสท่านหนึ่งของนาวิกศาสตร์ ที่ฝากผลงานที่มีประโยชน์ และ มีคุณค่าไว้มากมาย ต่อด้วยบทความเร่อง “๒๙ มิถุนายน ๒๕๖๕ ครบรอบ ๑๔๑ ปีประสูติ จอมพลเรือ สมเด็จพระเจ้า ื บรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้าบริพัตรสุขุมพันธุ์ กรมพระนครสวรรค์วรพินิต” เขียนโดย นาวาเอก พิพัทธ์ พุกงาม โดยเน้อเร่องน้ได้สรุปย่อมาจากหนังสือ ชีวิตและงาน ทูลกระหม่อมบริพัตร และอีกบทความเร่อง “การใช้กาลังทางเรือ ี ื � ื ื ยามสงบยุคโควิด” เขียนโดย พลเรือโท พัน รักษ์แก้ว นักเขียนอาวุโสอีกท่านหน่งเช่นกัน นอกจากน้ กองบรรณาธิการฯ ี ึ มีความยินดีที่จะน�าเสนอบทความอีก ๕ เรื่องที่ได้รับรางวัลบทความดีเด่น “พลเรือเอก กวี สิงหะ” ประจ�าปี ๒๕๖๔ ซึ่งมีพิธีมอบรางวัลฯ โดยพลเรือเอก สมประสงค์ นิลสมัย ผู้บัญชาการทหารเรือ เมื่อวันที่ ๑๑ เมษายน พ.ศ. ๒๕๖๕ ณ ห้องวุฒิไชยเฉลิมลาภ อาคารราชนาวิกสภา ที่ผ่านมา จะเห็นว่าฉบับนี้ มีความหนาเป็นพิเศษ เนื่องจากได้รวบรวม บทความที่ได้รับรางวัลดังกล่าวเข้าด้วยกันในฉบับนี้ โดยมีบทความดังนี้ “สร้างเหล็กในคน” เขียนโดย นาวาเอก ถุงเงิน จงรักชอบ ได้รับ “รางวัลบทความดีเด่น พลเรือเอก กวี สิงหะ” “ผู้บังคับการเรือมือใหม่” เขียนโดย นาวาเอก วีรุตม์ ฉายะจินดา ได้รับ “รางวัลชมเชยอันดับที่ ๑” “บทเรียนการกลับมาของ USS. John S. McCain (THE BIG BAD JOHN IS BACK!!)” เขียนโดย นาวาเอก ภาณุพันธ์ รักษ์แก้ว ได้รับ “รางวัลชมเชยอันดับที่ ๒” � ุ ิ ี � ้ “บทเรียนจากเหตุการณ์อุบัติเหตุเรือดานา KRI Nanggala ของอินโดนีเซีย” เขยนโดย นาวาโท สระ บรรจงจตร ได้รับ “รางวัลชมเชยอันดับที่ ๓” “พัฒนาการของสงครามทุ่นระเบิด แบบย่อยง่าย ตามไทม์ไลน์ของประวัติศาสตร์จากอดีตสู่ปัจจุบันและ มุ่งไปยังอนาคต” เขียนโดย นาวาโท ธารไชยยันต์ ตันติอ�านวย ได้รับ “รางวัลนักเขียนหน้าใหม่” ครับ

กองบรรณาธิการนิตยสารนาวิกศาสตร์หวังเป็นอย่างย่งว่า ท่านสมาชิก และผู้อ่านทุกท่านจะได้รับความรู้ ิ ความเพลิดเพลิน จากการอ่านเหมือนเช่นเคย และเพ่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา ขอเชิญสมาชิกทุกท่านอ่านบทความ ื ในเล่มกันได้เลยครับ � “กยิรา เจ กยิราเถน” “จะท�าสิ่งไร ควรท�าจริง”

กองบรรณาธิการ

ปกหน้า: พระอนุสาวรีย์ พลเรือเอก พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอาภากรเกียรติวงศ์

กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ ที่ต้นหูกวาง ณ หาดทรายรี จังหวัดชุมพร ี ื เม่อวันท่ ๑๙ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๔๖๖ กรมหลวงชุมพรฯ ส้นพระชนม์ ิ � ี ั ณ ตาหนักช่วคราว ท่หาดทรายรี จังหวัดชุมพร และได้อัญเชิญพระศพมาพักไว้ ้ ั ึ ู ้ ี ั ณ ใต้ต้นหกวางต้นน จากนนจงอญเชญพระศพขนเรอหลวงเจนทะเลแล้ว ื ึ ิ ้ ถ่ายพระศพสู่เรือหลวงพระร่วง เดินทางเข้ากรุงเทพฯ พ่น้องชาวจังหวัดชุมพร ี ี ตลอดจนผู้ท่เคารพรักและศรัทธาในกรมหลวงชุมพรฯ ได้พร้อมใจกันสร้าง ึ พระอนุสาวรีย์แห่งน้ข้นมา โดยลักษณะพระอนุสาวรีย์ฯ เป็นพระรูปปั้นหล่อ ี ิ กรมหลวงชุมพรฯ ตอนทรงเป็นกรมหม่นชุมพรเขตรอุดมศักด์ ขนาดเท่าพระองค์จริง ื เป็นโลหะบรอนซ์ ประทบบนแคร่ยาวแบบชาวบ้านตามธรรมชาต ใต้ต้นหกวาง ั ิ ู ที่ปัจจุบันเหลือแต่ตอ ซึ่งเป็นต้นหูกวางที่มีความผูกพันกับพระองค์มาเป็นเวลานาน จนกระท่งส้นพระชนม์ ทรงเคร่องแบบนายพลเรือตรี เป็นเคร่องแบบสนามตามพระราชกาหนดเคร่องแต่งตัวทหารเรือ � ื ิ ื ื ั พ.ศ. ๒๔๕๙ โดยมีพิธีประดิษฐาน ไปเมื่อวันที่ ๑๙ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๖๓ และในวันที่ ๑๙ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๖๕ ท่ผ่านมาน้ เป็นวันครบรอบ ๙๙ ปี วันอาภากร หรือวันส้นพระชนม์ และในภาพปกน้ จะเห็นชายหาดทอดตัวโค้ง ิ ี ี ี อย่างสวยงาม นั่นคือ หาดทรายรี เป็นหาดทรายที่มีความส�าคัญและมีชื่อเสียงที่สุดของเมืองชุมพร ปกหลัง: การแสดงอาวุธประกอบดนตรีแฟนซีดริล (Fancy Drill) จาก รร.ชุมพล ทหารเรือ บริเวณอนุสรณ์สถานเรือหลวงชุมพร และศาลกรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักด ์ ิ (ศาลล่าง) หาดทรายรี จังหวัดชุมพร เน่องใน “วันอาภากร” ๑๙ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๖๕ ณ บริเวณศาลกรมหลวงชุมพรฯ ื ี � ี ึ ึ (ศาลล่าง) ซ่งเป็นศาลที่สร้างข้น ณ สถานท่ท่กรมหลวงชุมพรฯ ได้สร้างตาหนัก ั ี ั ี ช่วคราวเรือนไม้ช้นเดียวไว้เป็นท่ประทับ ท่หาดทรายรี และวันท่ ๑๙ พฤษภาคม ี ิ ี พ.ศ. ๒๔๖๖ กรมหลวงชุมพรฯ ส้นพระชนม์ ณ ตาหนักช่วคราวน้ และในวันอาภากรปีน ้ ี � ั กองทัพเรือร่วมกับประชาชนจังหวัดชุมพร และมูลนิธิกรมหลวงชุมพรหาดทรายร ี ได้มีการจัดกิจกรรม “น้อมร�าลึก เสด็จเตี่ย ณ หาดทรายรี ๑๐๐ ปีไม่มีลืม” ซึ่งปีนี้ ครบรอบวันสิ้นพระชนม์ปีที่ ๙๙ ประชาชนทั้งภาครัฐและภาคเอกชนร่วมน้อมร�าลึก และเทิดพระเกียรติพระองค์ท่าน ในโครงการและกิจกรรมเทิดพระเกียรติกรมหลวงชุมพรฯ โดย พลเรือเอก สมประสงค์ นิลสมัย ผู้บัญชาการทหารเรือ นายโชตินรินทร์ เกิดสม ผู้ว่าราชการจังหวัดชุมพร และ นาวาตรี ภากร ศุภชลาศัย (คุณหลานตาราชสกุลอาภากร) ที่ตั้งใจมาร่วมเป็นประธานในพิธีเทิดพระเกียรติ ดังนี้ - พิธีบวงสรวงอัญเชิญดวงพระวิญญาณ ถวายพวงมาลาชูชีพ และพิธีทักษิณานุปทาน ท�าบุญถวายพระกุศล - พิธีเปิดพระอนุสาวรีย์กรมหลวงชุมพรฯ ณ ใต้ต้นหูกวาง หาดทรายรี - พิธีวางศิลาฤกษ์กระโจมไฟกรมหลวงชุมพร และเรือนหมอพร - การยิงสลุตถวายโดยเรือหลวงเจ้าพระยาจากกองทัพเรือ - การร�าถวายสักการะศาลกรมหลวงชุมพรฯ โดยนักเรียน และประชาชนในจังหวัดชุมพร - การแสดงอาวุธประกอบดนตรีแฟนซีดริล จาก รร.ชุมพลทหารเรือ บริเวณอนุสรณ์สถานเรือหลวงชุมพร นาวิกศาสตร์ 7 ปีที่ ๑๐๕ เล่มที่ ๕ พฤษภาคม ๒๕๖๕

พลเรือตรี กรีฑา พรรธนะแพทย์

ยุคนี้สมัยนี้เรามักจะได้พบวิสัยทัศน์ คติพจน์ คติเตือนใจ ค�ำขวัญ ข้อคิด ฯลฯ ของหน่วยต่าง ๆ ของบิ๊กบิ๊ก � ั อยู่มากมายจนจาไม่ไหว บ้างอ่านแล้วอ่านอีกก็ยังไม่รู้ว่าหมายความว่าอะไร บ้างก็เป็นอย่างฝร่งปนไทย บ้างก็เป็น ึ ็ ั � � ฝร่งแท้ จนทาให้เผลอไปว่า เรากาลังอยู่เมืองนอก ไม่ได้อยู่เมืองไทย บ้างเกิดข้นมาแล้วกตำยไปในเวลาอันรวดเร็ว หมดยุคบิ๊กนี้แล้วบิ๊กใหม่ก็คิดขึ้นมาใหม่ ได้พบได้เห็นแล้วก็อ่อนใจ สมัย จอมพล ป.พิบูลสงคราม เป็นสมัยท่ปลูกฝังความรักชาติให้กับคนไทยเป็นอย่างดี มระเบียบทหำร ที่ ๒/๑๐๕๕๒ ี ี ๒๔๘๕ ี ว่ำด้วยกำรฝึกก�ำลังใจ วันท่ ๒๘ มีนาคม พ.ศ. ๒๔๘๕ จอมพล ป.พิบูลสงคราม เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้สั่งให้ทหารกล่าว “ค�ำกล่ำวว่ำด้วยกำรฝึกก�ำลังใจ” ซึ่งไม่ใช่ค�ำปฏิญำณ ไม่ใช่ค�ำสำบำน เพื่อให้ทหารเป็นนักรบ � ี ท่ดี มีกาลังใจ เข้มแข็ง ทรหด อดทน กล้าหาญ เด็ดเด่ยว ยอมตายกับหน้าท่ รักเกียรติ รักประเทศชาติ เคร่งครัดวินัย ี ี ี ้ ่ ี ั ่ ี � นับว่าเป็นคากล่าวของทหารท่อยู่ย้งยืนยง เป็นผลงานของท่านทเขำทำ เป็นของเก่าแก่ท่ยอมรับกันต่อมาจนถึงปัจจุบัน ค�ำกล่ำวว่ำด้วยกำรฝึกก�ำลังใจ มีดังนี้ *ตำยในสนำมรบเป็นเกียรติของทหำร *พวกเรำต้องระลึกถึง และยึดให้มั่นในสิ่งเหล่ำนี้คือ ชำติ เกียรติ วินัย กล้ำหำญ *ตำยเสียดีกว่ำที่จะทิ้งหน้ำที่ นอกจากค�ากล่าวของ จอมพล ป. แล้ว ยังมีค�ากล่าวของ พลตรี หลวงวิจิตรวาทการ อีกด้วย ดังนี้ *ชำติของเรำ เป็นไทยอยู่ได้ จนถึงตัวเรำคนหนึ่งนี้ เพรำะบรรพบุรุษของเรำ เอำเลือด เอำเนื้อ เอำชีวิต และควำมล�ำบำกยำกเข็ญเข้ำแลกไว้ เรำต้องรักษำชำติ เรำต้องบ�ำรุงชำติ เรำต้องสละชีพเพ่อชำต ิ ื � คากล่าวท้งหลายน้ พวกเราชำยชำติทหำรและหญิงชำติทหำร ต้องกล่าวกันเป็นประจามาโดยตลอดตราบจน � ั ี ทุกวันนี้ นอกจากนี้ บรรดาเรือหลวง (เรือรบ) ของราชนาวีไทยยังได้น�าเอาส่วนหนึ่งของค�ากล่าวคือ ชำติ เกียรติ วินัย กล้ำหำญ จารึกไว้ในแผ่นทองเหลืองติดไว้ที่ป้อมปืนบ้าง ที่สะพานเดินเรือบ้าง ี ี � � ื เม่อเกิดคากล่าวข้นมาต้งแต่ พ.ศ. ๒๔๘๕ ก็มีคนบางพวกได้แปลงคากล่าวเหล่าน้ เท่าท่ผมจาได้ ั � ึ ขอน�ามาเล่าสู่กันฟัง ดังนี้ 8 นาวิกศาสตร์ ปีที่ ๑๐๕ เล่มที่ ๕ พฤษภาคม ๒๕๖๕

*ตำยในสนำมรบเป็นเกียรติของทหำร

มันก็แปลงไปว่า ตำยในสนำมรบเป็นศพของทหำร

ค�ากล่าวที่ว่า

*ไทยเป็นชำติสะสมมรดกไว้ให้ลูกหลำน มันก็แปลงไปว่า

ไทยเป็นชำติสะสมหนี้สินไว้ให้ลูกหลำน

ื สมัยก่อนโน้นเมืองไทยมี ยุวชน ยุวชนทหำร ยุวชนนำยทหำร เพ่อปลูกฝังเยาวชนไทย ให้เป็นนักรบ มีเลือดนักส ู้ ื ่ ิ � ี � ่ � ี หน้าหมวกของยุวชนจะมีคาขวัญ รกชำต ยงชพ ถ้าเป็นหน้าหมวกทหารจะมีคาว่า สละชพ เพอชำต ก็มีคาขวัญ ิ ิ ั เกิดขึ้น คือ *ไทยเป็นนักรบชั้นเยี่ยม *ยุวชนช่วยฉันส้ำงชำติ � ี ี คาว่า ส้ำง เป็นภาษาไทยยุค จอมพล ป. ท่ตัดพยัญชนะและสระออกหลายตัว และเปล่ยนแปลงการใช้ภาษาเขียน ึ ข้นใหม่ มันก็ดันแปลงไปจนได้ว่า *ยุวชนช่วยฉันล้ำงชาติ ทั้งนี้ ก็เพราะว่าค�าว่า ส้ำง ถ้า ส.เสือหำงด้วนไป ก็กลายเป็น ล.ลิง ส้ำงชำติ ก็เป็น ล้ำงชำติ ด้วยประการฉะนี้ วันหนึ่งผมก�าลังท�าหนังสืองานศพของนายทหารผู้ใหญ่ ใหญ่มาก ๆ คนหนึ่ง เพื่อเป็นการให้เกียรติผู้ตาย ผมจึงใช้ คาว่า ตำยแต่ตัวช่อยังฟุ้ง เอาไว้ในหน้าปกหนังสือ ไอ้ตัวแสบตัวหน่งมาเห็นเข้า มันบอกว่า ไม่ถูก ท่ถูกต้อง คือ � ึ ื ี ่ ตำยแตตัว ชื่อเหม็นฟุ้ง เอากะมันซิ ิ ั ุ ผมฝอยออกนอกเรองมาค่อนข้างยาว แต่คดว่าเป็นเรองทคนร่นใหม่ (THE NEW) น่าจะรบร้ไว้บ้าง เรองน่าร้ ู ่ ื ู ่ ื ่ ื ่ ี ี ี ท่อยากจะเล่ามีอีกมาก แต่ขอกลับเข้าสู่เร่อง ค�ำคมของเสด็จเต่ย กรมหลวงชุมพรฯ เสียที คือ มีลูกศิษย์ลูกหา ื ่ ู � ี ิ ั ี ลกน้องหลายคนมาถามผมเกยวกบพระด�ำรัสของเสด็จเต่ย ทมความหมายกนใจ มความสาคญเป็นอมตะวำจำ ่ ี ี ั ี ี สมควรท่จะนาไปอ้างอิงตามกาลเทศะ เป็นเช่นน้บ่อยเข้า ผมจึงมีความคิดว่า น่าจะรวบรวมพระด�ำรัสหรือวำทะ ี � ่ ้ ึ ของพระองค์ท่านเอาไว้ในทเดียวกน แล้วพิมพ์เผยแพร่ให้เป็นเรองเป็นราวไว้เป็นหลกฐาน พร้อมทจะหยบยกขนมาอ้าง ี ิ ั ี ่ ื ั ่ ได้ทันทีอย่างถูกต้อง โดยไม่ต้องมาถามผมอีก ผมขอเรียกง่าย ๆ ว่า ค�ำคมของเสด็จเตี่ย ก็แล้วกัน แล้วใครจะเอาไปใช้ � ท้งหมด หรือเอาไปเฉพาะบางส่วน บางตอนก็สุดแล้วแต่จะพิจารณาเห็นสมควร เพ่อให้สั้นและกะทัดรัด ข้อสาคัญ ื ั อย่าลืมบอกว่าเป็นค�ำคมของเสด็จเตี่ย นะจะบอกให้ ค�ำคมของเสด็จเตี่ย นั้น ง่ำย ชัดเจน คม เฉียบขำด กินใจ เข้ำใจง่ำย โดยไม่ต้องแปลไทยเป็นไทย ไม่ต้องแปล ฝรั่งเป็นไทย ไม่ต้องมาอธิบายกันอีก นึกไม่ถึงว่าจะหาค�าคมของเสด็จเตี่ยได้ถึง ๑๙ ค�ำคมพอดี ซึ่งพ้องกับ เลข ๑๙ ของพระองค์ท่าน ประสูติวันที่ ิ ี ี ๑๙ ธันวาคม พ.ศ. ๒๔๒๓ ส้นพระชนม์วันท่ ๑๙ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๔๖๖ วันท่ ๑๙ พฤษภาคม ของทุกปี เป็นวันอำภำกร นาวิกศาสตร์ 9 ปีที่ ๑๐๕ เล่มที่ ๕ พฤษภาคม ๒๕๖๕

ค�ำคมที่ ๑ ี ื ื ี “เร่องท่แต่งน้ก็เป็นเร่องสูงสุดของทหาร ข้าพระพุทธเจ้าเกรงด้วยเกล้าฯ อยู่เหมือนกันว่า ความรู้ของ ข้าพระพุทธเจ้าน้น้อยนัก ไม่พอสาหรับเร่องใหญ่เช่นน้ ท้งโวหารภาษาไทยของข้าพระพุทธเจ้าก็เคยทราบ ั ี ี � ื ี ใต้ฝ่าลอองธุลีพระบาทอยู่แล้วว่าเลวอย่างท่สุด ถ้าแม้ข้าพระพุทธเจ้าจะพลาดพล้งในความเห็นและโวหาร ั ประการใดพระราชอาญาไม่พ้นเกล้าฯ ขอเดชะพระมหากรุณาธิคุณโปรดเกล้าฯ พระราชทานอภัยแก่ข้าพระพุทธเจ้า ผู้มีสติปัญญาน้อย” ควรมิควรแล้วแต่จะทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมขอเดชะ

(พระนิพนธ์ ยุทธศำสตร์ทะเล ในกรมหม่นชุมพรเขตรอุดมศักด์ ทูลเกล้าฯ ถวายพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ื ิ รัชกาลที่ ๖ ในวันขึ้นปีใหม่ ๑ เมษายน พ.ศ. ๒๔๕๖)

ค�ำคมที่ ๒ พระนิพนธ์เรื่อง “ยุทธศาสตร์ทะเล” ตอนที่ ๔ สงครามทะเล � ี ื “ตามธรรมดา เม่อประจัญบานในทะเลแล้ว มักจะเข้าใจกันเสียว่า ฝ่ายชนะได้อานาจอันสิทธิขาดในทันที แต่ท่จริง ไม่ว่าทัพเรือจะโตใหญ่เท่าใด จะยึดเอาอานาจอันสิทธิขาดทีเดียวไม่ได้เป็นอันขาด จะได้แต่เฉภาะเปนแห่งๆ � เท่านั้น ไม่มีใครจะยึดเปนเจ้าของทะเลได้ตลอด”

10 นาวิกศาสตร์ ปีที่ ๑๐๕ เล่มที่ ๕ พฤษภาคม ๒๕๖๕

ค�ำคมที่ ๓ พระนิพนธ์เรื่อง “ยุทธศาสตร์ทะเล” ตอนที่ ๘ พิชัยสงครามด้วยทัพเรือน้อย

� ี � ั “การท่มีกองทัพเรือกาลังน้อยน้น จะน้อยสักเท่าใดก็ดี ถ้าดาเนินทัพให้ถูกยุทธศาสตรแล้ว ข้าศึกคงจะต้องเปนห่วง ลังเลอยู่เสมอ”

ค�ำคมที่ ๔ พระนิพนธ์เรื่อง “ยุทธศาสตร์ทะเล” ตอนที่ ๑๐ รวมความ � ั ิ “การสร้างกองทัพเรือก็มิใช่ง่าย ล้วนแต่แพงท้งส้น เพราะฉน้นจาต้องเปนการนานยืดยาวกว่าจะพร้อม แต่การ ั ี � ฝึกหัดควรจะให้ดาเนินให้ถูกตามความต้องการในท่สุดเสมอ โดยไม่เสียดาย เช่น การยิงเป้า แลซ้อมตอร์ปิโด ั ื � เปนต้น ถึงปืนจะสึกหรอก็ได้ความชานาญ ปืนซ้อใหม่ได้ แต่ความชานาญซ้อขายกันไม่ได้ ท้งการตอปิโด ก็เหมือนกัน” � ื

นาวิกศาสตร์ 11 ปีที่ ๑๐๕ เล่มที่ ๕ พฤษภาคม ๒๕๖๕

ค�ำคมที่ ๕ พระนิพนธ์เรื่อง “ยุทธศาสตร์ทะเล” ตอนที่ ๑๐ รวมความ

“ขอเตือนว่า จะเตรียมหรือฝึกหัดการรบก็มีอยู่แต่เวลานี้ ซึ่งเปนเวลาอยู่ในระหว่างไม่มีศึก ถ้าผัดการไปวันหนึ่ง ้ ี ี ิ ่ � ั ิ ก็เท่ากับยกวันน้น ให้เปนกาไรของข้าศึก การเสยเวลาให้โทษแก่ชาตของเราอย่างยง เวลานและเปนเวลาของ ยุทธศาสตรแท้ การบกพร่องส่งใด จะไปเพ่มเติมในท่รบไม่ได้เลยเปนอันขาด การเดินทางผิดก่อนศึก เม่อต้งต้น ิ ิ ั ื ี เข้ารบแล้วจะถอนกลับเข้ารอยไม่ได้ เพราะฉนั้นจะท�าสิ่งไร ควรท�าจริง” กยิรา เจ กยิราเถน �

หมำยเหตุ ค�ำคมที่ ๒ – ๕ พลเรือตรี กรีฑา พรรธนะแพทย์ คัดลอกจากต้นฉบับลายมือ เร่อง “ยทธศำสตร์ทะเล” พระนิพนธ์ใน ื ุ กรมหม่นชุมพรเขตรอุดมศักด์ ไม่ทราบว่าเป็นลายมือใคร แต่ไม่ใช่ลายพระหัตถ์กรมหลวงชุมพรฯ แน่นอน ื ิ ื มีคนเขียนเร่องเก่ยวกับพระนิพนธ์ “ยุทธศาสตร์ทะเล” แล้วบอกว่าเป็นลำยพระหัตถ์ ของพระองค์ท่าน ี ่ ้ ั ี ่ ั ู ์ ็ ั ั ี ลองเอาไปเปรยบเทยบกบลายพระหตถภาษาไทยของพระองคดกได ตามตวอยางลายพระหตถ จากพระรปทประทานแก ่ ี ์ ์ ู หม่อมเจ้าหญิง จารุพัตรา อาภากร (ท่านหญิงใหญ่) พระธิดาองค์โต คราวที่เสด็จไปน�าเรือพระร่วงจากประเทศอังกฤษ

กลับสู่กรุงสยาม ดังนี้ ี ยุทธศำสตร์ทะเล เป็นพระนิพนธ์ในกรมหม่นชุมพรเขตรอุดมศักด์ทูลเกล้าฯ ถวายหนังสือฉบับน้แด่พระบาทสมเด็จ ื ิ พระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๖ ในวันที่ ๑ เมษายน พ.ศ. ๒๔๕๖ ซึ่งตรงกับวันขึ้นปีใหม่ในสมัยนั้น 12 นาวิกศาสตร์ ปีที่ ๑๐๕ เล่มที่ ๕ พฤษภาคม ๒๕๖๕

ค�ำคมที่ ๖ ี � � � ้ ุ “ปืนหรือตอรปิโด ไม่ได้ทาการรบได้โดยลาพังตัวเอง คนต่างหากเป็นผู้ท่ทาการรบ... นายทหารทกคนตองควร จ�าฝังไว้ในใจเสมอว่าหลักของยุทธวิธีต้องอยู่ที่คน หาได้ตกอยู่ที่เรือหรืออาวุธที่ดีเท่านั้นไม่” ื ื (คาบรรยายเร่อง ยุทธวิธี โดย นายพลเรือตรี พระเจ้าพ่ยาเธอ กรมหม่นชุมพรเขตรอุดมศักด์ จเรทหารเรือ ณ ิ � ี ี ราชนาวิกสภา วันพฤหัสบดีท่ ๖ กันยายน พ.ศ. ๒๔๖๐ นายนาวาตรี หลวงเริงกลางสมร (ทองดี สุวรรณพฤกษ์/ นาวาเอก พระยาวิชิตชลธี จดบันทึก) ค�ำคมที่ ๗ “ในส่วนป้องกันอ่าวหรือท้องทะเล เครื่องที่จะท�าให้กองทัพใหญ่หวาดเสียวอย่างดีที่สุดก็คือ เรือด�าน�้า” ค�ำคมที่ ๘ � � ้ ื ี ื � “ถ้ากรุงสยามมีเรือดานา จะเป็นเคร่องป้องกันสาคัญมาก หรือจะนับว่าเป็นเคร่องป้องกันอย่างดีท่สุดก็ว่าได้” � (พระดาริเก่ยวกับยุทธศาสตร์ ยุทธวิธี และกาลังทางเรือ ในลายพระหัตถ์ นายพลเรือโท กรมหม่นชุมพร ี � ื เขตรอุดมศักดิ์ เสนาธิการทหารเรือ กราบบังคมทูล พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๖ เพื่อชี้แจง เหตุผลที่ขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตไปดูกิจการทหารเรือ ในยุโรป พ.ศ. ๒๔๖๒) ค�ำคมที่ ๙ “หวังด้วยเกล้าฯ ทุกคนว่า เร่องเรือพระร่วงคงเปนการสาเหร็จเรียบร้อย และคลังคงจะไม่ด้อดันไม่เข้าเร่อง ื ื � ื ื ให้ทหารเรือจาเปนต้องงอมืองอเท้าเปลืองพระราชทรัพย์หาผลไม่ได้ ถ้าจะไม่ซ้อเรืออีกต่อไป ก็ควรจะยกเลิก � ทหารเรือเสียเลย การไม่ให้เรือ แต่มีกระทรวงทหารเรือ เปนการเปลืองอย่างที่สุด และไม่เข้าเรื่องด้วย ถ้าจะให้เปน เชนนี้แลว เกลาฯ เห็นวา ทหารเรือทั้งหมดไมควรจะดานหนาอยูรับราชการโดยไมมีหวังผลส�าเหร็จอยางใดอยาง ๑ ่ ่ ้ ้ ่ ่ ่ ้ ่ ่ ้ เลยเช่นนี้” (ลายพระหัตถ์ นายพลเรือโท กรมหมื่นชุมพรเขตรอุดมศักดิ์ เสนาธิการทหารเรือ ระหว่างประทับในเรือโซบรำล ี เดินทางระหว่าง สิงคโปร์-โคลัมโบ ลงวันท่ ๓ เมษายน พ.ศ. ๒๔๖๒ กราบทูลจอมพลเรือ สมเด็จฯ เจ้าฟ้า กรมพระนครสวรรค์วรพินิต เสนาบดีกระทรวงทหารเรือ) ค�ำคมที่ ๑๐ � ้ � “ในทางดาริห์ ข้าพระพุทธเจ้ากราบบังคมทูลพระกรุณาได้ว่าไม่เคยรู้จักเรือใต้นาเลย เพราะท่มีใช้ได้จริง ๆ ี ึ ก็เกิดข้นภายหลังการเล่าเรียนของข้าพระพุทธเจ้า กับท้งไม่มีโอกาศท่จะได้เห็นตัวจริง นอกจากรูปภาพ.........มีผู้บอกขาย ี ั เรือใต้น�้า ๒ ล�า ต่อข้าพระพุทธเจ้าว่า ลงน�้าอยู่เสร็จแล้ว........แต่ข้าพระพุทธเจ้าไม่กล้าน�าเสนอ และแนะน�าอย่างไร เพราะไม่เข้าใจเลยประดุจคนป่า” (ลายพระหัตถ์ นายพลเรือโท กรมหม่นชุมพรเขตรอุดมศักด์ เสนาธิการทหารเรือ ลงวันท่ ๒ มีนาคม พ.ศ. ๒๔๖๒ ื ิ ี กราบบังคมทูล พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลท่ ๖ ช้แจงเหตุผลท่ขอพระราชทาน พระบรมราชานุญาต ี ี ี ไปดูกิจการทหารเรือในต่างประเทศ)

นาวิกศาสตร์ 13 ปีที่ ๑๐๕ เล่มที่ ๕ พฤษภาคม ๒๕๖๕

ค�ำคมที่ ๑๑ ี ิ ิ ี ุ ั ั ิ ั ี ึ ุ ิ ึ ่ ่ ิ “…..การป้องกนตนเปนอปนสยของส่งมชวตทวไป ตลอดจนถงธรรมชาตต้นไม้ซงไม่มความคดเลย ถ้าแม้มนษย์ ี ี ท่เปนสัตว์ประเสริฐท่สุดจะหมดหวังความพยายาม ก็เปรียบได้ว่า เลวกว่าตะไคร่นาท่เกาะอยู่ในท่อุลามกท่สุดน้น ี ี � ี ั ้ เสียอีก ความหวังในส่วนป้องกันตัว ถึงแม้ว่าจะเปนว่าป้องกันไม่ได้แล้ว แต่ก็ยังหวังต่อไปถึงการป้องกันพืชพันธุ์ ถ้าจะสละเสียส้น ปล่อยให้เปนไปเอง ก็นับว่าผู้น้นหมดอายุอย่างท่เรียกว่า หมดยาง.....เกล้ากระหม่อมเคยได้ยินอยู่มาก ี ิ ั ื ี ถึงคาว่า มีทาไมทหารบก ? มีทาไมทหารเรือ ซ้อทาไมเรือ ? น่าพิศวงจริงหนอท่มีบุคคลเช่นน้อยู่มาก ซามากข้นด้วย � ี � ึ � � ้ � จะเปนการแสดงว่าเลือดไทยจืดลงกระมัง การท�ามาหากิน การค้าขาย ก็ตกอยู่ในมือชาวต่างประเทศเกือบหมด หรือ ทั้งหมดก็ว่าได้ ยังเหลือแต่การป้องกัน การท�ามาหากิน ในที่สุดหากินก็จะไม่หากิน ป้องกันก็จะไม่ป้องกัน เลือดไทย จะสูญหรือ บางทีก็จะเปนไปได้ ถึงสยามคงเปนสยาม แต่สยามไม่ใช่ของคนไทย สูญพืชสูญพันธ์เพราะหมดยาง หมดทุน หมดมานะ หมดอุตสาหะ แม้แต่อุปสรรคนิดหน่อยก็แบมือแบเท้าหมดความพยายาม.....ถ้าบุคคลฝูงใด เปนเช่นนี้ ฝูงนั้นจ�าเปนต้องสูญหมด หมดทางไชยชนะ หมดชาติ....” ื ิ (ลายพระหัตถ์ นายพลเรือโท กรมหม่นชุมพรเขตรอุดมศักด์ เสนาบดีกระทรวงทหารเรือ ลงวันท่ ๒๒ มีนาคม ี พ.ศ. ๒๔๖๒ กราบทูลจอมพลเรือ สมเด็จฯ เจ้าฟ้ากรมพระนครสวรรค์วรพินิต เสนาบดีกระทรวงทหารเรือ) ค�ำคมที่ ๑๒ � ึ “อน่งเกล้าฯ ได้นึก ๆ อยู่เหมือนกันในเร่องเรือดานา เพราะได้เห็นแล่นผ่านไปทางสิงคโปร์ ๓ ลา เกล้าฯ ื � � ้ � � อยากจะทราบว่า ถ้าเรือพระร่วงไม่สาเร็จ เรือดานาจะเอาหรือไม่เอา ราคาลาละ ๖๐๐,๐๐๐ บาท เกล้าฯ รับอาสา � � ้ จะเอาเข้ามาให้ได้” (ลายพระหัตถ์ นายพลเรือโท กรมหมื่นชุมพรเขตรอุดมศักดิ์ เสนาธิการทหารเรือ ลงวันที่ ๓ เมษายน พ.ศ. ๒๔๖๓ ทรงพระด�าริเรื่อง เรือด�าน�้า ในระหว่างการเดินทางไปยุโรป กราบทูล จอมพลเรือ สมเด็จฯ เจ้าฟ้ากรมพระนครสวรรค์ วรพินิต เสนาบดีกระทรวงทหารเรือ) 14 นาวิกศาสตร์ ปีที่ ๑๐๕ เล่มที่ ๕ พฤษภาคม ๒๕๖๕

ค�ำคมที่ ๑๓ ี “การถูกแพง ถ้าแม้เราจะสร้างเรือ หรือถ้าแม้เราจะป้องกันชาติแล้ว เกล้ากระหม่อมเห็นว่าเปนปัณหาท่ ๒ ี เพราะปัณหาท่ ๑ ต้องตกลงอยู่ว่าจะใช้อย่างไรในทางยุทธศาสตร์ ยุทธวิธีให้เหมาะกับกาละเทศะ ถ้ายังไม่มีเงินพอ ี ิ ี ิ � ็ ุ ื ุ ั กงดการทาไว้ก่อนจนกว่าจะมเงนพอ ดกว่าไปซอของทไม่เหมาะกบกาละเทศะ แลไม่เข้ากบยทธศาสตร์ ยทธวธ ี ั ี ้ ่ ี � ั ิ ี � จานวนเงินเท่าน้นเท่าน้จากัดลงไป การท่เดินทางผิดให้โทษย่งกว่าไม่เดินเลย เพราะฉน้นต่อไปข้างน่า การสร้าง, ั ซื้อทุกอย่าง จ�าเปนต้องวินิจฉัยโดยยุทธศาสตร์ ยุทธวิธีให้แน่นอน ถ้าไม่มีเงินรอไว้ ถ้ามี ท�าให้ตรงทาง ที่จะเอาอื่น มาแทนเพื่อให้ถูกอัฐนั้น ไม่ควรเป็นอันขาด...” (พระด�าริเกี่ยวกับการซื้อเรือและอาวุธในลายพระหัตถ์ นายพลเรือเอก กรมหมื่นชุมพรเขตรอุดมศักดิ์ เสนาธิการ ทหารเรือ จาก โฮเต็ล รูเบนส์ ลอนดอน (Hotel Rubens, London) ลงวันที่ ๑๒ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๔๖๓ กราบทูล จอมพลเรือ สมเด็จฯ เจ้าฟ้ากรมพระยาภาณุพันธุวงศ์วรเดช ผู้ก�ากับราชการกระทรวงทหารเรือ) หมำยเหตุ โฮเต็ล รูเบนส์ ลอนดอน (Hotel Rubens, London) เป็นโรงแรมเก่าแก่ของประเทศอังกฤษ เปิดกิจการมา ั ั ต้งแต่ ค.ศ. ๑๗๐๓ (พ.ศ. ๒๒๔๖) ปัจจุบันอายุได้ ๓๑๘ ปี ต้งอยู่ท่ถนนบัคกิงแฮม (Buckingham) ใกล้สถานีรถไฟใต้ดิน ี Victoria กรุงลอนดอน (London) เจ้าของกิจการคนแรกคือ John Sheffield ต่อมาเป็น Earl of Mulgrave และ ได้รับต�าแหน่งสุดท้ายเป็น Duke of Buckingham ปัจจุบันยังคงตั้งอยู่ที่เดิม และได้ปรับปรุงกิจการใหม่ โรงแรมรูเบนส์ เป็นโรงแรมสาหรับรับรองเจ้านายเสด็จมาประทับท่น่ เสด็จเต่ย (กรมหม่นชุมพรเขตรอุดมศักด์) ิ ื ี � ี ี ี ประทับ ณ โรงแรมแห่งน้เม่อเดือนกรกฎาคม ๒๔๖๓ แสดงว่าโรงแรมรูเบนส์ ถวายพระเกียรติยศพระองค์ท่าน ื ในฐานะทรงเป็นเจ้านายแห่งสยาม นาวิกศาสตร์ 15 ปีที่ ๑๐๕ เล่มที่ ๕ พฤษภาคม ๒๕๖๕

ค�ำคมที่ ๑๔ ิ ี ั “มาบัดน้เป็นเสนาธิการทหารเรือเหมือนงมมืดแปดด้าน เพราะสรรพาวุธยุทธวิธีทางเรือ ต้งแต่เร่มการมหาสงคราม ี มาจนบัดน้ ได้เปล่ยนแปลงมากมายเหลือท่จะพรรณา ได้แต่สังเกตถามข่าวการต่อเรือและวางเรือประจาสถาน ี ี ี � เดาทางตามหลังว่า การรบทางทะเลเปล่ยนแปลงมาเปนดังน้นดังน้ แต่กเหมือนคนตาบอด จึงทาประโยชน์ ั ็ � ี ี สนองพระเดชพระคุณได้โดยล�าบากใจอย่างที่สุด” ื ิ (ลายพระหัตถ์ นายพลเรือเอก กรมหม่นชุมพรเขตรอุดมศักด์ เสนาธิการทหารเรือ ลงวันท่ ๑๓ มกราคม พ.ศ. ๒๔๖๓ ี กราบทูลเสนาบดีกระทรวงทหารเรือ) ค�ำคมที่ ๑๕ ี ื ื “เร่องแต่งหนังสือจัดลักษณะปรุงกองทัพเรือเพ่อป้องกันพระราชอาณาจักร์สยามเป็นเร่องท่แต่งยากมาก ื ่ ั ี ้ ิ ุ ื ึ ั ่ ั เคยต้องแต่งมาคร้งหนงแล้วเมอต้นรชกาลน (สมเด็จฯ เจ้าฟ้ากรมขนนครสวรรค์วรพินต ทูลเกล้าฯ ถวายพร้อมกบ รายงานกิจการกระทรวงทหารเรือ เมื่อวันที่ ๑๘ มกราคม ร.ศ. ๑๒๙) คราวนั้นมีกรรมการล้วนแต่นายทหารที่เคยไป ั เล่าเรียนมาจากประเทศยุโรปท้งน้น หลวงอาจ (หลวงอาจณรงค์/กรุด ธันวานนท์/นาวาเอก พระยาพัศดุการบดี) ั � เป็นเลขานุการ แต่การประชุมในเมืองไทยก็ตามเคย ไม่สาเร็จ ข้าพเจ้าจึงได้รับไปร่างเสียเอง ได้วานหลวงจักร์ � (หลวงจักรยานานุพิจารณ์, มหาคอน, คอน บุนนาค, พลเรือโท พระยาดารงค์ราชพลขันธ์) เป็นผู้เรียบเรียงให้ เป็นภาษาไทยให้ถูกอักขระวิธีวะจีอักษรต่าง ๆ เพราะในทางหนังสือข้าพเจ้าไม่เป็นเสียเลย เมื่อเสร็จแล้วได้น�าไปอ่าน ในท่ประชุม ก็มีแก้ไขบ้างเล็ก ๆ น้อย ๆ เพียงคาพูด ไม่ต้องแก้ไขทางดาริห์เลย การแตงหนงสือเช่นน้ ถาใครไมเคยแต่ง � � ่ ั ้ ี ่ ี ก็ไม่เห็นอกว่าเป็นการยากล�าบากเพียงไร...” (ลายพระหัตถ์ นายพลเรือเอก กรมหม่นชุมพรเขตรอุดมศักด์ เสนาบดีกระทรวงทหารเรือ ทรงเรียบเรียง ิ ื “กำรจัดท�ำโครงกำรป้องกันทำงเรือ” ร.ศ. ๑๒๙ ทูลเกล้าฯ ถวายพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๖ เมื่อวันที่ ๓ มีนาคม พ.ศ. ๒๔๖๓) ค�ำคมที่ ๑๖ “ธรรมดามีเรือแล้ว ต้องซ่อมได้เอง เป็นหลักของยุทธศาสตร์ ถ้าซ่อมไม่ได้เองก็ไม่ควรมี เพราะจะแจ้งให้ผู้อื่น � ั ั � เขาทาให้เราในเวลาสงครามน้นไม่ได้ ถ้าคิดว่าทหารเรือสาหรบการรบแล้ว ต้องคิดถึงเวลาสงครามท่จะเอาความสะดวก ี ั � � ั ในเวลาสันติภาพมาเป็นหลักสาหรับเวลาสงครามน้นไม่ได้เป็นอันขาด ทาเองได้แค่ไหนก็ควรต้องทาแค่น้น ถ้าม ี � ี เกินกว่ากาลังท่ควรจะซ่อมได้แล้วต้องคิดถึง SCRAP การท่ต้องการให้แล้วเร็วน้น ทาได้ ๒ อย่าง ซ่อมให้แล้ว � � ั ี อย่างหนึ่ง แลจมเสียก็เป็นการเร็วอีกอย่างหนึ่งเหมือนกัน....” (พระดารัสของนายพลเรือเอก กรมหม่นชุมพรเขตรอุดมศักด์ เสนาธิการทหารเรือ ทรงแถลงในท่ประชุม ี ิ � ื สภาบัญชาการกระทรวงทหารเรือ ครั้งที่ ๔ เมื่อวันที่ ๗ ธันวาคม พ.ศ. ๒๔๖๔) 16 นาวิกศาสตร์ ปีที่ ๑๐๕ เล่มที่ ๕ พฤษภาคม ๒๕๖๕

ค�ำคมที่ ๑๗ ั ้ ่ ื ี “ไม่ใช่สักแต่ว่าเป็นกระทรวงแล้ว ก็ให้มีหน้าทมากมายให้สมกับช่อกระทรวง หมายความว่าคือ ต้องตงกองทพเรือ ั เป็นหลักแล้วจัดกระทรวงเข้าหา และจักต้องราลึกไว้ในหัวใจให้เสมอทีเดียวว่า กองทัพเรือเป็นหลักไม่ใช่กระทรวง � คือมีกระทรวงเพราะมีเรือ หาใช่มีเรือเพราะมีกระทรวง” ิ ์ ั ิ ื ี (นายพลเรอเอก กรมหม่นชมพรเขตรอดมศกด เสนาธการทหารเรอ ทรงเสนอ “สกมของกระทรวงทหารเรือ” ุ ุ ื ื ๑๑ /๕ ี ื ี ั ี (นโยบายกองทัพเรือ) ต่อท่ประชุมสภาบัญชาการกระทรวงทหารเรือ คร้งท่ เม่อวันท่ ๒๐ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๔๖๕) ๒๔๖๕ ค�ำคมท่ ๑๘ ี ี � “ส่งท่ควรต้องมอง และดูเป็นท่น่าอดสูท่สุดน้น-คือ จานวนเรือรบกับจานวนนายพลท่มีอยู่ ถ้าแม้เทียบกัน ี ี ิ � ั ี เขาแล้ว จะเป็นสิ่งขายหน้าอย่างที่สุด เป็นการควรละหรือที่จะมีนายพลเรือเอกเช่นข้าพเจ้าในกองทัพเรืออย่างนี้” ้ ิ ื ี � (พระดารัสของนายพลเรือเอก กรมหม่นชุมพรเขตรอุดมศักด์ เสนาธิการทหารเรือ ท่ได้ทรงแถลงให้สภาบัญชาการ กระทรวงทหารเรือ ทราบในที่ประชุมเมื่อวันที่ ๒๐ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๔๖๕) ค�ำคมที่ ๑๙ “ยุทธศาสตร์ในทางฝ่ายทหารเรือท่คิดป้องกันน้น-คือ เราต้องเตรียมกองทัพเรือ มีเรือมากเท่าไรย่งดี แต่ท่จะบอก ั ี ิ ี ว่าต้องการกี่ล�านั้น ก็คงอยู่ในฐานที่อยากได้มากเสมอไป” ื ิ ี � (พระดารัส ของนายพลเรือเอก กรมหม่นชุมพรเขตรอุดมศักด์ เสนาธิการทหารเรือ ท่ได้ทรงแถลงให้สภาบัญชาการ กระทรวงทหารเรือ ทราบในที่ประชุม เมื่อวันที่ ๒๐ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๔๖๕) ึ ี ค�ำคมของเสด็จเต่ย ยังมีอีกมากในเพลงพระนิพนธ์ และบทกวีพระนิพนธ์ แต่จะขอกล่าวถึงเป็นอีกเร่องหน่ง ื ต่างหาก” เอกสำรประกอบกำรเขียน ๑. พระนิพนธ์ เรื่อง ยุทธศาสตร์ทะเล ของ กรมหมื่นชุมพรเขตรอุดมศักดิ์ วันที่ ๑ เมษายน พ.ศ. ๒๔๕๖ ๒. หนังสือ “อนุสรณ์ในงานพระราชทานเพลิงศพ” นาวาโท พระฤทธิ์ศักดิ์ชลเขตต์ (ค�า ปุณทริกาภา) เรื่อง “พระด�าริของเสด็จในกรมฯ” โดย นาวาเอก ประพัฒน์ จันทวิรัช ๓. นิตยสารนาวิกศาสตร์ กุมภาพันธ์ ๒๕๑๑ เรื่อง “การสร้างก�าลังทางเรือในสมัยราชาธิปไตย” โดย นาวาเอก ประพัฒน์ จันทวิรัช ๔. นิตยสารนาวิกศาสตร์ เมษายน ๒๕๑๑ เรื่อง พระด�าริของเสด็จในกรมฯ โดย นาวาเอก ประพัฒน์ จันทวิรัช ๕. นิตยสารนาวิกศาสตร์ พฤศจิกายน ๒๕๒๕ เรื่อง “ค�านึงวันนาวี” โดย พลเรือเอก ประพัฒน์ จันทวิรัช ๖. นิตยสารนาวิกศาสตร์ พฤศจิกายน ๒๕๒๖ เรื่อง “เรือด�าน�้า กับกองทัพเรือไทย” โดย พลเรือเอก ประพัฒน์ จันทวิรัช ๗. หนังสือ พระประวัติและพระกรณียกิจในสมัยรัชกาลท่ ๕ ของ พลเรือเอก พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงชุมพร ี ิ เขตอุดมศักด์ รวบรวมจากเอกสารราชการ โดย พลเรือเอก ประพัฒน์ จันทวิรัช ผู้บัญชาการทหารเรือ ๘ สิงหาคม ๒๕๒๗ นาวิกศาสตร์ 17 ปีที่ ๑๐๕ เล่มที่ ๕ พฤษภาคม ๒๕๖๕

ื ี ึ เม่อ ๑๔๑ ปีท่ผ่านมา ซ่งตรงกับวันท ่ ี ๒๙ มิถุนายน พ.ศ. ๒๔๒๔ เป็นวันประสูติของ ื ็ จอมพลเรอ สมเดจพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้า บริพัตรสุขุมพันธุ์ กรมพระนครสวรรค์วรพินิต ี ทรงเป็นพระราชโอรสองค์ท่ ๓๓ ในพระบาท ี ่ ู ั ็ สมเดจพระจลจอมเกล้าเจ้าอย่หว และองค์ท ๒ ุ ในสมเด็จพระปิตุจฉาเจ้า สุขุมาลมารศรี พระอัครราชเทว ี พระต�าหนัก สวนกุหลาบ ใช้เป็นโรงเรียน นายทหารมหาดเล็ก และโรงเรียน พระต�าหนัก สวนกุหลาบ

ึ ั � ี ื ่ เมอพระชนษา ๘ ป ทรงเขาศกษาในโรงเรยนพระตาหนก ้ ี ั สวนกุหลาบ และโรงเรียนราชกุมารในพระบรมมหาราชวัง พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว

สมเด็จพระปิตุจฉาเจ้า สุขุมมาลมารศรี พระอัครราชเทวี ทรงรับพระสุพรรณบัตร เป็นกรมขุนมไหสูริยสงขลา

นาวิกศาสตร์ 18 ปีที่ ๑๐๕ เล่มที่ ๕ พฤษภาคม ๒๕๖๕

ึ ๒ มกราคม ๒๔๓๔ ได้รับการสถาปนาข้นเป็น หลังจากพิธีโสกันต์ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้า สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าบริพัตรสุขุมพันธุ์ เจ้าอยู่หัว ก็โปรดเกล้าฯ ให้สมเด็จฯ เจ้าฟ้ากรมขุนมไหสู

ดิลกจันทรนิภาพงษ์ มหามกุฏวงษ์นราธิราช จุฬาลงกรณ์นาถ ริยสงขลาเสด็จไปทรงศึกษาต่อในยุโรป ดังเช่น พระเจ้า ั ี ราชวโรรส อดุลยยศอุภโตพงษพิสุทธิ นรุตมรัตน ขัตติย ลูกยาเธออีกหลายพระองค์ ท้งน้ ด้วยทรงเห็นว่า ราชกุมาร กรมขุนมไหสูริยสงขลา กรณีพิพาทกับประเทศฝรั่งเศส ในปี ๒๔๓๖ ก่อนที่จะมี พิธีโสกันต์ของพระองค์เพียงปีเดียวนั้น สยามไม่สามารถ ป้องกันประเทศได้ ท�าให้ต้องสูญเสียดินแดนฝั่งซ้ายของ � ั ั ้ แม่นาโขงท้งหมด รวมท้งเสียค่าปรับให้ประเทศฝร่งเศส ั ึ เพ่อรักษาไว้ซ่งเอกราชของประเทศ พระบาทสมเด็จ ื � พระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวจึงต้องหันมาดาเนินพระบรม ราโชบายทางการทูตมากกว่าการทหาร ขณะเดียวกัน � ก็ปรับยุทธวิธีการรบตามแบบสมัยใหม่ พร้อมกับบารุง � ั ี กาลังทหารของประเทศให้ม่นคงด้วยเหตุน้ ใน ๓๑ ั ึ มีนาคม ๒๔๓๗ ในชนแรก จงโปรดฯ ให้สมเด็จฯ ้ ิ ี เจ้าฟ้ามหาวชิราวุธ เร่มศึกษาวิชาทหารบกท่ประเทศอังกฤษ ส่วนสมเด็จฯ เจ้าฟ้ากรมขุนมไหสูริยสงขลาได้ย้าย ี จากประเทศอังกฤษไปเรียนวิชาทหารบกท่ประเทศ เยอรมันนี และสมเด็จฯ เจ้าฟ้าจักรพงษ์ภูวนารถ กรมหลวงพิศณุโลกประชานารถ ศึกษาวิชาทหารบกท ี ่ ประเทศรัสเซีย ก่อนโสกันต์ นอกจากการท่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้บรรดา ี ู พระเจ้าลกยาเธอ เจ้าฟ้าหลายพระองค์ไปทรงศกษา ึ ุ ในโรงเรยนนายร้อยของประเทศต่าง ๆ ในยโรป ซง ่ ึ ี เสมือนหน่งว่าบรรดาพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าเหล่าน้น ั ึ ื ื � ทรงเป็นผู้แทนจากราชสานักสยามแล้ว เพ่อเช่อม ความสัมพันธ์ท่มีน้ให้กระชับแน่นมากข้น พระบาทสมเด็จ ึ ี ี พระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวจึงตัดสินพระทัยเดินทางไป สร้างสัมพันธไมตรีด้วยพระองค์เอง โดยเสด็จประพาส ั ยุโรปคร้งแรกในเดือนเมษายน ๒๔๔๐ นับว่าเป็นพระเจ้า แผ่นดินไทยพระองค์แรกที่เสด็จไปไกลถึงยุโรป ในเดือนเมษายน ๒๔๓๙ สมเด็จฯ เจ้าฟ้ากรม ขุนมไหสูริยสงขลาได้เข้าศึกษาในโรงเรียนนายร้อย ชั้นประถมที่เมืองปอร์ตสดัม ประเทศเยอรมันนี ประทับ ั ี อยู่ปีเดียวก็ย้ายไปศึกษาต่อท่โรงเรียนช้นมัธยมท ี ่ กรุงเบอร์ลิน และในเดือนมีนาคม ๒๔๔๒ ก็ทรงสอบไล่ได้ พิธีโสกันต์ ตามหลักสูตรชั้นแฟนริช ทหารราบชั้นสัญญาบัตร

นาวิกศาสตร์ 19 ปีที่ ๑๐๕ เล่มที่ ๕ พฤษภาคม ๒๕๖๕

ี มีประเพณีในกองทัพบกเยอรมันนีท่อนุญาตให้ ุ ้ ์ ้ ื ้ ั ู ี ี นายทหารเชอพระวงค และบตรผูดมตระกล ไดรบโอกาส ให้ได้ศึกษาวิชาการราชสานักไปด้วยระหว่างรับราชการ � ประจ�า ดังนั้น พระองค์จึงได้ทรงรับโอกาสนี้เช่นเดียวกัน � ี คอ ได้ไปประจาอยู่ในกองร้อยท่ ๑๑ กรมทหารรกษา ั ื พระองค์ท่ ๔ ในสมเด็จพระนางเจ้าเอากุสตา พระบรม ี ราชชนนี ได้รับพระราชทานยศนายร้อยตรี เหล่าทหารราบ แห่งกองทัพบกเยอรมันนี

นายร้อยชั้นประถม นายร้อยชั้นมัธยม

นาวิกศาสตร์ 20 ปีที่ ๑๐๕ เล่มที่ ๕ พฤษภาคม ๒๕๖๕

ในเดือนมีนาคม ๒๔๔๕ ได้เสด็จกลับไปศึกษาต่อ ี ี � ท่เยอรมันนี เพ่อเร่งรัดให้ทรงเรียนวิชาการท่สาคัญ ๆ ื ให้จบภายใน ๑ ปี ถึงแม้ว่าทางฝ่ายเยอรมันนีเห็นว่า ควรจะได้ฝึกหัดและทรงศึกษาต่ออีก ๒-๓ ปี ก็จะเป็น ่ ี ุ ็ ื ็ ประโยชน์มากกตาม ในทสดกทรงเลอกเข้าศกษาใน ึ หลักสูตรต่าง ๆ ได้แก่ - โรงเรียนแม่นปืน เมืองสะบันดา หลักสูตรส�าหรับ ทหารชั้นนายพัน - โรงเรียนปืนใหญ่ เมืองยีเตอร์บอร์ด หลักสูตร ส�าหรับนายทหารชั้นนายพล - วิทยาลัยการสงคราม (KRIEGS AKADEMIE) หลักสูตรการยุทธศาสตร์และยุทธวิธี ตลอดจนร่วมสมทบการฝึกหัดนาทัพในสนามรบ � ื ี ิ สมเด็จพระจักรพรรดิไกเซอร์ ก็เพ่อเป็นการเพ่มเติมความรู้เก่ยวกับรัฐศาสตร์การปกครอง วิลเฮล์มที่ ๒ การเศรษฐกิจ ทรงเข้าฟังการบรรยายเกี่ยวกับเศรษฐกิจ ต่อมาในเดือนตุลาคม ๒๔๔๓ สมเด็จฯ เจ้าฟ้า กฎหมายธรรมเนียมระหว่างประเทศ วิธีการปกครอง กรมขุนมไหสูริยสงขลาเข้ารับการศึกษาในโรงเรียน อาณานิคมท่มหาวิทยาลัยเบอร์ลิน ๑ ภาคการศึกษา ี เสนาธิการ KRIEGS SCHULE เมือง KASSEL จนถึงเดือน ในระหว่างน้นก็ยังทรงรับราชการทหารในกรมทหาร ั พฤษภาคม ๒๔๔๔ ก็ทรงสอบไล่ได้ตามหลักสูตร และ รักษาพระองค์สมเด็จพระนางเจ้าเอากุสตาท่ ๔ และ ี ี ได้รับคะแนนยอดเย่ยม จนได้รับประกาศนียบัตร ในเดือนมีนาคม ๒๔๔๖ พระองค์ก็ได้รับพระราชทาน ชมเชยพิเศษของสมเด็จพระจักรพรรดิไกเซอร์ เล่อนยศเป็นนายร้อยเอกในกรมทหารรักษาพระองค์แห่งน ี ้ ื � ั ึ ็ ่ ่ ี ื วลเฮล์มท ๒ และเมอทรงสาเรจการศกษาทรงได้รบ เมื่อทรงมีเวลาว่างส่วนพระองค์ ทูลกระหม่อมโปรดที่จะ ิ ั ิ พระราชทานพระบรมราชานญาตให้เสดจนวตประเทศ ทรงศกษาวิชาการดนตรีด้านประสานเสียง (HARMONY) ิ ็ ุ ึ ั สยามเป็นการช่วคราว ถึงกรุงเทพฯ เดือนตุลาคม ๒๔๔๔ และการประพนธ์เพลง (COMPOSITION) จนทรงเป็น ั เมื่อเสด็จถึงกรุงเทพฯ สมเด็จฯ เจ้าฟ้ากรมขุนมไห วาทยกร (CONDUCTOR) สูริยสงขลาได้เสด็จไปเฝ้าพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้า ในการเสด็จไปศึกษาคร้งหลังน้ แม้ว่าจะทรงตัดทอน ั ี เจ้าอยู่หัว ซ่งขณะน้นอยู่ระหว่างแปรพระราชฐานไปประทับ และเลือกเอาแต่วิชาท่จาเป็นจะต้องใช้เม่อเสด็จกลับมา ั ึ ี � ื ณ เมืองนครสวรรค์ ในเวลาต่อมาจึงทรงโปรดเกล้าฯ รับราชการก็ตาม แต่ก็ยังใช้เวลานานถึง ๑ ปี เม่อรวมเวลา ื ุ ี ่ ู ให้เปลยนพระนามทรงกรมจากเดม “กรมขนมไหสริย ท่ทรงศึกษาอยู่ในต่างประเทศ รวมประมาณ ๘ ปี ิ ี สงขลา” มาเป็น “กรมขุนนครสวรรค์วรพินิต” แทน ในขณะน้นพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ั ี � เม่อวันท่ ๒๒ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๔๔๔ ด้วยทรงมีพระดาริว่า ทรงมีพระราชประสงค์ท่จะปรับปรุงกองทัพบกให้เป็น ื ี ื � ่ ี “...เพราะการทใช้คาอนขนนาชอ มแต่เจ้าคนเดยว กาลังหลักของประเทศ ดังจะเห็นได้จากตอนหน่ง ี ่ ี ่ ้ ื � ึ � ึ ไม่เข้าที คิดจะเปล่ยนเป็นนครสวรรค์ซ่งเป็นเมือง ในลายพระหัตถ์ของพระนางเจ้าสุขุมาลมารศร ี ึ ี ี ลูกหลวงเก่า ท่แท้ได้เปนเมืองหลวงคู่ผลัดกันกับเมือง พระอัครราชเทวี ท่มีประทานไปถึงสมเด็จฯ เจ้าฟ้า ี สุโขทัยนี้ด้วย...” กรมขุนนครสวรรค์วรพินิต ในขณะท่ทรงกาลังศึกษาอยู่ ี � นาวิกศาสตร์ 21 ปีที่ ๑๐๕ เล่มที่ ๕ พฤษภาคม ๒๕๖๕

ี ื เม่อวันท่ ๒ กันยายน ร.ศ. ๑๒๙ (พ.ศ. ๒๔๔๓) ว่า � � “...ทูลหม่อมท่าน กาลังต้องการให้ลูกท่านกลับมาทาการ เปนอันมาก แลราชการตามกระทรวงทุกวันนี้ก็มีเฉพาะ กระทรวงพระกลาโหม เปนด้อยมากกว่ากระทรวงอ่น ื ี ี � กรมทหารเรือจวนจะล่มอยู่เตมท่แล้ว เด๋ยวน้กาลังทรง ี เปนองค์อาภากรอยู่ การในกรมยุทธนาก็เดินไปด้วย ั พระองค์จิระโดยมาก เพราะฉะน้นจงเปนท่ต้องการ ี ึ ผู้มีความรู้ทางทหารอยู่เปนอันมาก...” ด้วยเหตุดังกล่าว ื ั การศึกษาของพระองค์จึงต้องตัดให้ส้นลง และเม่อได้รับ ั พระราชทานยศร้อยเอกแห่งกองทัพบกเยอรมนนแล้ว ี � พระองค์ก็ลาออกจากตาแหน่งนายทหารกองทัพบก เยอรมัน และเข้าเฝ้าสมเด็จพระจักรพรรดิไกเซอร์ วิลเฮล์มท่ ๒ ทูลลากลับสยาม โดยเสด็จออกจาก ี กรุงเบอร์ลิน ในวันที่ ๒๙ มีนาคม พ.ศ. ๒๔๔๕ ึ ั ็ ุ เสดจกลบถงกรงเทพฯ ๒๒ พฤษภาคม ๒๔๔๖ ประทับ ณ ต�าหนักไม้วังบางขุนพรหม หลังจากนั้นทรง หม่อมเจ้าประสงค์สม ไชยันต์ พักผ่อนพระอิริยาบถได้ประมาณ ๔-๕ วัน พระบาท หลังจากน้นไม่นาน ทูลกระหม่อมก็ทรงเข้าอภิเษก ั สมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงโปรดเกล้าฯ สมรสกับหม่อมเจ้าประสงค์สม ไชยันต์ เม่อ ๑๗ สิงหาคม ื ให้พระองค์ไปด�ารงต�าแหน่งเสนาธิการทหารบก พ.ศ. ๒๔๔๖ สมเด็จฯ เจ้าฟ้ากรมขุนนครสวรรค์วรพินิต ทรงรับราชการทหารบกได้ไม่ทันครบปี ระหว่างท่ทรงนา ี � ทหารซ้อมรบที่เมืองราชบุรี สมเด็จฯ เจ้าฟ้ากรมพระยา ภาณุพันธุวงศ์วรเดช ผู้บัญชาการกรมทหารเรือ ื ทรงกราบถวายบังคมลาออกจากราชการ เน่องจากทรง พระประชวร พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว

จึงโปรดเกล้าฯ ให้ร้อยตรี สมเด็จฯ เจ้าฟ้ากรมขุน � � นครสวรรค์วรพินิต เสนาธิการทหารบก มาดารงตาแหน่ง ื ั ี ผ้บัญชาการกรมทหารเรอ ท้ง ๆ ท่ทรงทราบดีว่า งานทาง ู กองทัพบกยังต้องแก้ไขปรับปรุงขนานใหญ่เช่นกัน � ื จากบันทึกความทรงจาบางเร่องของหม่อมเจ้า ประสงค์สม บริพัตร ว่า “...งานทางทหารเรือกาลังยุ่ง � เป็นลูกหนี้ห้างอีสท์เอเชียติ๊ก ถึง ๒๐๐,๐๐๐ บาท และ � ข้าราชการทหารเรือกาลังแตกแยกกัน เป็นพวกหัวใหม่ ้ ั ึ ึ พวกหน่ง พวกหัวเก่าพวกหนง... เวลานนกรมหลวง ่ � � สวมเครื่องแบบยศร้อยตรี ชุมพรทรงเป็นรองผู้บัญชาการก็ทรงดารงตาแหน่ง นาวิกศาสตร์ 22 ปีที่ ๑๐๕ เล่มที่ ๕ พฤษภาคม ๒๕๖๕

เดิมต่อไป โดยพระยาเทพอรชุนเป็นปลัดบัญชาการ ทรงวางรากฐานการเรียนการสอนในโรงเรียน ี ื เม่อเสด็จไปถึงกรมทหารเรือแล้วก็ไม่ทรงทราบว่า นายเรือใหม่ เพ่อให้นายทหารเรือท่จบออกมาสามารถ ื � การจัดการอย่างไร เพราะหาหลักฐาน ข้อบังคับ คาส่ง เดินเรือสมุทรได้ พร้อมกับระบายนายทหารเรือ ั แบบแผนท่จะปฏิบัติราชการไม่ได้แม้แต่อย่างเดียว...” ต่างประเทศออกจากราชการ เมื่อครบก�าหนดสัญญา ี ี ึ ั � � การบริหารงานในกองทัพเรือจึงอยู่ในภาวะท่แทบจะ ทรงทาโครงการสร้างกาลังนาวีข้นเป็นคร้งแรก ึ ี ึ ี ึ � ึ ไม่มหลักฐานใด ๆ พระองค์จงต้องทรงศกษาวิธการ ซ่งปรากฏว่าโครงการสร้างกองทัพเรือท่นาข้นทูลเกล้าฯ ี � ิ ปฏิบัติราชการจริงนามาประมวลแล้วเร่มออกเป็นคาส่ง ใน พ.ศ. ๒๔๔๘ น้น ใช้งบประมาณท้งส้น ๑๖๐ ล้านบาท ิ ั ั ั � ี ข้อบังคับต่าง ๆ เป็นลายลักษณ์อักษรรวมไว้ท่กรม มีระยะด�าเนินการรวม ๑๖ ปี เฉลี่ยใช้เงินงบประมาณ ปลัดทัพเรือ และให้กรมกองต่าง ๆ ของกองทัพเรือมาคัดลอก จัดหาเรือรบชนิดต่าง ๆ ปีละ ๑๐ ล้านบาท โครงการนี้ ิ ่ ื ็ สาเนาไปเกบไว้เพอเป็นหลักฐาน และไว้เป็นแนวทาง สัมฤทธ์ผลในสมัยท่พระองค์ดารงตาแหน่งเสนาบด ี � � � ี ี การปฏิบัติราชการ เมื่อมีค�าสั่งมากขึ้นก็ให้รวบรวมค�าสั่ง กระทรวงทหารเรือ โดยมีการต่อเรือจากประเทศญ่ปุ่น � ื ข้อบังคับต่าง ๆ ประมวลขึ้นเป็นเล่ม ๗ ลา จัดซ้อเรือหลวงพระร่วง เรือหลวงรัตนโกสินทร์ ี การดาเนินงานน้ใช้เวลากว่า ๑ ปี การปฏิบัติงาน เรือยามฝั่ง � ภายในกรมทหารเรือก็สาเร็จตามพระประสงค์ มีระเบียบ เม่อสยามประกาศสงครามกับประเทศเยอรมันน ี � ื กฎเกณฑ์ในการปฏิบัติงานท่แน่นอน การท่มีคาส่งระบ ุ และออสเตรีย-ฮังการี เมื่อ ๒๒ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๖๐ ี ี ั � � ี ชัดเจนว่าเป็นงานในหน้าท่ของผู้ใด ทาให้เกิดความรับผิดชอบ ได้จัดส่งกองทหารอาสาไปร่วมรบในยุโรป และจัดกาลัง � ั ื ิ ในหน้าท่ ส่งผลต่อการติดต่อการประสานงานท่ดีข้น ทหารจากกองทพเรอเข้ายึดเรอสนค้าของชนชาตศตร ู ี ิ ึ ั ี ื ี ึ เป็นผลให้วินัยทหารเรือดีข้นตามมา นอกจากน้ยังม ี และรักษาความสงบของประเทศ ผลงานอื่นๆ อาทิ นาวิกศาสตร์ 23 ปีที่ ๑๐๕ เล่มที่ ๕ พฤษภาคม ๒๕๖๕

่ ู ี ี ั ใน พ.ศ. ๒๔๖๓ สมเด็จฯ เจ้าฟ้าจักรพงษ์ภูวนารถ ไม่เพยงผู้ทร้แต่วิชาการทหารเท่าน้น แต่ “...พระองค์ กรมหลวงพิศณุโลกประชานารถ เสนาธิการทหารบก ทรงเป็น ADMINISTRATOR (นักบริหาร) ท่ยอดเย่ยม ี ี ี เสด็จทิวงคต พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ท่สุดท่ทหารเรือเคยมี เพราะพระองค์ต้องทรง ี โปรดเกล้าฯ ให้จอมพลเรอ สมเดจฯ เจ้าฟ้าบรพตร เร่มงานบริหารทุกสาขา ต้งแต่วางรากฐานข้นไปจนถึง ิ ็ ื ิ ั ั ึ สุขุมพันธุ์กรมหลวงนครสวรรค์วรพินิต เสนาบด ี การปรบปรงแก้ไขให้เหมาะสมกบกาลเวลา และ ั ุ ั � กระทรวงทหารเรือ ย้ายมาดารงตาแหน่งเสนาธิการ วิวัฒนาการของทหารเรือตลอดเวลา และเป็นการ � ั ทหารบก ในวันที่ ๑๖ มิถุนายน พ.ศ. ๒๔๖๓ ภารกิจที่ เร่มจากเกือบศูนย์เลยทีเดียว และถ้าจะกล่าวว่าต้งแต่ ิ ื ั ทรงปฏิบัติราชการในกองทัพเรือเป็นเวลานานถึง พระองค์เสดจจากทหารเรอไปแล้ว กองทพเรอไทย ็ ื ุ ั ั ๑๗ ปีกสนสดลง เมอพจารณางานต่าง ๆ ททรง ยงไม่เคยมประมขท่มีคณสมบติเป็น ADMINISTRATOR ุ ุ ิ ี ื ิ ่ ่ ็ ี ี ้ � ปฏิบัติสาเร็จไปด้วยดีตลอดเวลาท่ทรงดารงตาแหน่ง ต่าง ๆ ทัดเทียมพระองค์อีกเลย ก็เห็นจะไม่ผิดความจริงนัก ี � � ุ ื ั ึ ื ในกรมทหารเรอและกระทรวงทหารเรอพระองค์จง เพราะประมขของทหารเรอในสมยต่อมามีงานทจะต้อง ่ ื ี วางรากฐานเองเป็นส่วนน้อย ส่วนมากได้อาศัยรากฐาน ี ท่วางไว้ในสมัยของพระองค์มาปรับปรุงให้เหมาะสมแก่ กาลสมัยเท่านั้น...” ี การเปล่ยนแปลงการปกครองในวันท่ ๒๔ มิถุนายน ี ี ึ พ.ศ. ๒๔๗๕ ยังมาซ่งความเปล่ยนแปลงไม่เฉพาะกับ ั ประชาชนท้งปวง แต่ได้ส่งผลกระทบรุนแรงต่อสมเด็จฯ เจ้าฟ้ากรมพระนครสวรรค์วรพินิต สมาชิกในราชสกุล บริพัตร โดยพระองค์ต้องเสด็จไปประทับท่เมืองบันดุง ี ี ั เกาะชวา ประเทศอินโดนีเซีย และได้ส้นพระชนม์ท่น่น ิ เมื่อ ๑๘ มกราคม พ.ศ. ๒๔๘๗ แม้ว่าพระองค์จะจากไปแต่พระกรณียกิจ นานับปการอันทรงคุณประโยชน์แก่ประเทศท้งในด้าน ั ื การเมอง การปกครอง การสาธารณสุข การทหาร และ ั ้ ดานวฒนธรรมท่ทรงได้กระทามา ย่อมทาให้พระนามของ � � ี พระองค์เป็นที่กล่าวถึงอยู่ตลอดไป บทความโดย น.อ.พิพัทธ์ พุกงาม รอง ผอ.กปศ.ยศ.ทร. ที่มาจากหนังสือ “ชีวิตและงาน ทูลกระหม่อมบริพัตร” นาวิกศาสตร์ 24 ปีที่ ๑๐๕ เล่มที่ ๕ พฤษภาคม ๒๕๖๕

ื ต้นเดือน พฤษภาคม ๒๕๖๓ อันเน่องมาจากไวรัสเกือบ ๑,๖๐๐ คน (บลูมเบอร์ก, ั ้ ื � เรือของกองทัพเรืออินเดียประดับไฟแต่งเรือได้ไป ๖ พฤษภาคม ๒๕๖๓) ภารกิจของเรอลานน ปลุกใจ จอดทอดสมอนอกฝั่งชายหาดเมืองเชนไน เพ่อปลุกใจ ชาวอินเดียในการต่อสู้กับไวรัสโคโรนา ื � ชาวอินเดียในการต่อสู้กับไวรัสโคโรนา (เอเอฟพี, การใช้กาลังทางเรือยามสงบ คืออะไร มีคาจากัด � � ี ๖ พฤษภาคม ๒๕๖๓) อันเป็นภาพข่าวท่รูปเรือ ความหลากหลาย ๕-๖ ความของกูรูทางเรือ แต่ที่ง่าย ๆ ี ิ ั � ู ู ี � น่าจะเป็นเรือพฆาตท่ทนสมัยรปร่างน่าดชม และมีภาพ อย่างกาปั้นทุบดิน ก็คือ ไม่ใช่ยามสงครามท่ใช้กาลังต่อ ี ั คนท่ชายฝั่งมองไปทางเรือด้วย ตามภาพมีธงท้งท่เสา ประเทศอื่นหรือประเทศเป้าหมาย และหรือต่อประเทศ ี หัวเรือ และท้ายเรือแสดงสถานภาพเรือจอดในเวลาคา ของตนเอง � ่ � � ี ท่ท้องทะเลยังมีแสงสว่างอยู่บ้าง ตาบลท่จอดเรือดูใกล้ฝั่งมาก การใช้กาลังทางเรือยามสงบต่อประเทศเป้าหมาย ี ระยะทางห่างฝั่งอาจสัก ๒๐๐ เมตร ซึ่งทะเลบริเวณนั้น หรือประเทศอื่น เป็นต้นว่า ในรัชสมัยรัชกาลที่ ๕ เรือรบ � � ้ ี � ้ ั ี น่าจะมีนาลึกพอสมควรท่เรือจอดได้ไม่ไกลฝั่งมากนัก ฝร่งเศส ๓ ลา ฝ่าการต้านทานของฝ่ายไทย ท่ปากนา ่ เมืองเชนไนมีพลเมืองราว ๑๕ ล้านคน เจ้าพระยาในวันท ๑๓ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๔๓๖ (ร.ศ. ๑๑๒) ี ้ การปรากฏตัวของเรือรบตามภาพข่าวดังกล่าว เข้ามาจอดเรือในแม่นาปลายถนนสาทร หน้าสถานทูต � ื ื ั ข้างต้น เป็นการเคล่อนไหวของกองทัพเรืออินเดีย ฝรั่งเศส เพ่อสนับสนุนคาขาดของฝร่งเศสต่อไทย � ้ ิ � อันถือได้ว่า เป็นการใช้ก�าลังทางเรือยามสงบ ที่กระท�า ให้ไทยสละสิทธ์ดินแดนบนฝั่งซ้ายแม่นาโขง และ ในดินแดนของตนเอง ในช่วงเวลาท่คนอินเดียติดเช้อไวรัส เกาะต่าง ๆ ในลาแม่นาน รวมทงจ่ายค่าปรบทฝ่าย ี ่ ั � ้ ี ื ี � ั ้ ้ ั มากกว่า ๔๖,๐๐๐ คน และตายไปแล้วด้วยโรคโควิด-๑๙ ฝร่งเศสเสียหายจากเหตุการณ์ปะทะกับทางการไทย นาวิกศาสตร์ 25 ปีที่ ๑๐๕ เล่มที่ ๕ พฤษภาคม ๒๕๖๕

ื ่ ี ื ่ ้ ้ ้ ั � ทางภาคเหนอกอนหนานี เมอจอดเรอเรยบรอย กอนหนา คล่นยักษ์ ทาให้มีผู้เสียชีวิต รวมท้งผู้บาดเจ็บและสูญหาย ื ้ ่ ื ี นาวาโท โบร ผู้บังคับการเรือแองคองสตังต์ (เรือสลุป) อีกเป็นจ�านวนมาก ั ึ ั ี � � ผู้ทาหน้าท่ผู้บังคับการหมู่เรือฝร่งเศสจะข้นจากเรือ น่นก็เป็นตัวอย่างของการใช้กาลังทางเรือยามสงบท ี ่ ี ุ ไปรายงานตัวต่อนาย ปาว อัครราชทูตฝร่งเศส ณ กรงเทพฯ ทหารเรือทั้งไทยและเทศกระท�ากันมา แต่การใช้เรือของ ั ี นาวาโท โบร ได้ประชุมกับ ผู้บังคับการเรือลูแตง ทหารเรืออินเดียไปปลุกใจชาวอินเดียในการต่อสู้กับไวรัส � ื (เรือปืน) และเรือโคแมต (เรือปืน) “เพ่อพิจารณา โคโรนาเป็นความแปลกและใหม่ท่ไม่เคยมีใครทามาก่อน ี ั ี แนวปฏบตการในอนทจะแก้แค้นทฝ่ายไทยได้ทาการ ทหารเรืออินเดียคิดข้นเองหรือหน่วยเหนือข้างบนส่งการ ิ ี ่ ั ิ ่ ึ � ั ี คุกคามโดยไม่สมควร ได้ตกลงกันว่า วันพรุ่งน้เวลาเช้าตร ู่ ลงมา? ื � � เรือของเราท้ง ๓ ลา จะออกเรือเพ่อทาการจมเรือ ผู้บริหารสูงสุดของอินเดีย ได้แก่ นายกรัฐมนตร ี ั ึ ี ลาดตระเวนมหาจักรี ซ่งทอดสมออยู่ท่หน้าอู่หลวง (Prime Minister) ท่ม Secretary of State for ี ี ่ แล้วเราก็จะตรึงเรือเป็นแนวอยู่ตรงหน้าพระราชวังของ Defence ก็คือ รัฐมนตรีวาการกระทรวงกลาโหมนั่นเอง ี ั ี พระเจ้าแผ่นดิน หากไม่ได้รับความตกลงท่พึงพอใจ ช่วยดูแลการทหารท่มักเป็นพลเรือน จากน้นก็ลงมา The เราก็จะได้ระดมยิงพระราชวังต่อไปอีก” (กรณีพิพาท Chief of Defence Staff เทียบได้เป็น ผู้บัญชาการทหาร ้ � ระหว่างไทยกับฝร่งเศสและการรบท่ปากนาเจ้าพระยา สูงสุด แล้วลงไปอีกเป็น The Chief of Naval Staff คือ ั ี สมัย ร.ศ. ๑๑๒ โดย พลเรือตรี แชน ปัจจุสานนท์ และ ผู้บัญชาการทหารเรือถ้าเทียบกับไทย � ื ู ื ี ั ึ นาวาเอก สวัสด์ จนทนี) ซ่งกรณน้ถอเป็น “การทตเรอปืน” กาลังกองทัพเรืออินเดียแบ่งเป็น ๓ กองเรือตาม ี ิ ื (Gunboat Diplomacy) ท่ใช้ก�าลังทางเรือยามสงบขู่เข็ญ ภาคพ้นที คือ กองเรือภาคตะวันตก อยู่ท่มุมไบ (บอมเบย์เดิม) ี ่ ี ี ี ึ ให้ประเทศเป้าหมายกระท�าการยอมตามที่ตนต้องการ ภาคใต้ท่โคชินและภาคตะวันออกท่วิสาขาปัตนัมซ่งเป็น ี นอกจากการทูตเรือปืนท่ออกแรงประสงค์ร้าย ฐานทัพเรือดาน้าด้วย เรือท่ไปสู้กับไวรัสโคโรนาตามภาพ ี � � ในการใช้กาลังทางเรือยามสงบมีปฏิบัติการ “ประสงค์ดี” ก็ไปจากกองเรือใดกองหนึ่งใน ๓ กอง แต่เดาเอาว่าเป็น � ื ต่อคนอ่น เช่น การส่งเรือไปช่วยบรรเทาภัยพิบัติของ เรือจากโคชิน ที่ใกล้กับเมืองเชนไนในอ่าวเบงกอล � ี ื เพ่อนบ้าน การจัดกาลังไปสมทบนานาชาติปราบโจรสลัด ผู้ท่คิดส่งเรือไปท่เชนไนก็คงจะเป็นใครในกองเรือ ี อย่างการเตรียมการส่ง เรือหลวงอ่างทองในงาน HADR หรือในสานักผู้บัญชาการทหารเรือ และหรือในกระทรวง � ไปฟิลิปปินส์ท่ประสบภัยจากซุปเปอร์ไต้ฝุ่นไห่เย่ยนกลาง กลาโหม โดยข้างล่างเป็นฝ่ายเสนอนาย หรือนายส่งลงมา ี ี ั พ.ศ. ๒๕๕๗ (แต่หน่วยเหนือว่าค่าใช้จ่ายสูงไปเลยไม่ได้ไป) ก็เป็นไปได้ทั้งสองอย่าง การส่งหมู่เรือไปยังอ่าวเอเดนช่วยการปราบโจรสลัด ถ้าเป็นความคิดจากกระทรวงกลาโหม ผู้คิด ี โซมาเลย ระหว่าง พ.ศ. ๒๕๕๑-๒๕๕๓ และ “ประสงค์ดี” อาจเป็นพลเรือนหรือนายทหารเหล่าทัพใดก็ได้ท่คิดว่า ี ต่อคนไทยอย่างการช่วยเหลือผู้ประสบภัยจากพาย ุ เม่อบ้านเมืองและชาวบ้านประสบภัยโควิด ทางกระทรวง ื ไต้ฝุ่นเกย์ (Gay) ที่ก่อตัวในอ่าวไทยตอนล่าง กระแสลม จะแสดงออกอย่างไรดว่า กระทรวงกเดอดร้อน และ ี ื ็ แรงถึง ๒๖๐ กิโลเมตรต่อชั่วโมง เข้าสู่ฝั่งบริเวณจังหวัด เป็นห่วงประชาชนแล้วยุติว่าน่าจะใช้เรือรบแสดงออก ี ชุมพร ไปลงทางฝั่งอันดามันท่คนไทยเสียชีวิตไปมากกว่า และส่งการลงไปยังกองทัพเรือ ดีกว่าให้กองทัพอ่น ื ั ึ ๕๐๐ คน ต้นเดือนพฤศจิกายน ๒๕๓๒ ซ่งเป็นผลให้ ด�าเนินการ “เบ้องบน” ปรารภว่า “กองทัพเรือควรมีเรือใหญ่ท ี ่ ถ้าเป็นความคิดจากฝ่ายอ�านวยการของกองเรือก็ด ี ื ี � ท�างานเช่นนี้” อันเป็นที่มาของเรือบรรทุกเฮลิคอปเตอร์ ของสานักผู้บัญชาการทหารเรือก็ด ก็เป็นวิธีข้างล่างเสนอ ในเวลาต่อมา และอย่างเม่อสึนาม (Tsunami) นายจนถึงนายผู้มีอ�านาจสั่งเรือออกทะเลกระท�าการ ิ ื แผ่นดินไหวใต้มหาสมุทรอินเดีย วันท ๒๖ ธันวาคม อย่างไรก็ตาม ไม่ว่ากระบวนการจะเป็นข้างล่าง ่ ี พ.ศ. ๒๕๔๗ ที่ผู้คนจังหวัดกระบี่โดนหนักกว่าเพื่อนจาก ข้นข้างบนหรือข้างบนลงข้างล่าง เม่ออนุมัติเร่องออกมาแล้ว ึ ื ื นาวิกศาสตร์ 26 ปีที่ ๑๐๕ เล่มที่ ๕ พฤษภาคม ๒๕๖๕

� ี ื ก็เป็นเร่องของฝ่ายอานวยการอย่างแน่นอนท่พิจารณาถึง ตามข่าวไม่มีบอกว่าคนอินเดียเห็นเรือรบ แต่งไฟ � รายละเอียดในการส่งเรือรบไปปลุกชาวอินเดีย ในการ ประดับเรือ ยามบ้านเมืองกาลังเผชิญภัยโรคโควิดแล้วฮึดส ู้ ต่อสู้กับไวรัสโคโรนา โควิดย่งข้นหรือเฉย ๆ หรือหงุดหงิดท่เอาเรือรบออก ี ึ ิ � ท�าไม ถึงส่งเรือไปปฏิบัติการนี้ ทะเลมาทาอะไรก็ไม่ร เสียงบประมาณเปล่า ๆ แต่สาหรับ � ู้ ั ี ิ ื อย่างไร เรือท่ไปจะปฏิบัติอย่างไรเพ่อสนองภารกิจ ทหารเรืออินเดียก็เป็นการเพ่มช่วโมงปฏิบัติการในทะเล อะไร จะใช้เรือขนาดใด ประเภทใด ที่จะส�าเร็จ ของเรือตน และอาจเป็นทหารเรือชาติแรกท่ใช้กาลังทางเรือ � ี งานมากที่สุด จะเป็นเรือล�าเดียวหรือหลายล�า ยามสงบเชิงจิตวิทยาในการต่อสู้กับโรคภัยไข้เจ็บของ ทไหน ตาบลท ๆ เรือจะไปปรากฏตัวต่อชาวบ้าน บ้านเมือง และไม่มีข่าวว่าทหารเรือชาตใดกระทาการเช่นน ้ ี ่ � ี � ี ่ ิ หนึ่งต�าบลที่หรือหลายต�าบลที่ มาก่อนหรือในปัจจุบัน กี่วัน ราชการครั้งนี้ประมาณกี่วัน และทหารเรือไทยก็คงไม่คิดกระทาการเช่นน ้ ี � ี ึ กี่ล�า เรือมากกว่า ๑ ล�า? เพราะดูจะคิดนอกกรอบท่ไม่ค่อยถนัด ซ่งหนทางอ่นท ี ่ ื ผลออกมาตามภาพข่าว กองทัพเรือจะแสดงออกถึงทรรศนะต่อสภาวการณ์ของ ์ ู ั ี ่ ื ิ ื ิ - เป็นเรอฟรเกตหรือเรอพฆาตท่รปลกษณมสงาราศ ี บ้านเมืองที่ค่าใช้จ่ายน้อยและยั่งยืน เช่น ที่เครนสามขา ี ึ ั ี � น่าประทับตาประทับใจต่อผู้พบเห็น เป็นเรือขนาดกลางท ่ ี ต้งแต่สมัยก่อสร้างอู่ธนบุร ซ่งเรือและคนจานวนมากผ่าน � พอดีกับภารกิจ หากเป็นเรือขนาดเล็กกว่าจะไม่น่าดูนัก ไปมาในแม่นา หากมีไฟอักษรตัวน่งหรือตัวว่งท่เครนบอก ิ ้ ิ ี ื หรือขนาดใหญ่กว่าอย่างเรือบรรทุกเคร่องบินก็ค่าใช้จ่าย ข้อความตามสถานการณ์ เช่น ต้านโควิด วันกองทัพเรือ สูงและรูปร่างเรือเหมือนตู้กลางทะเล ดูไม่งาม วันอาภากร ทรงพระเจริญ ฯลฯ เป็นต้น เป็นการใช้กาลัง � - ประดับไฟเรือให้เรือดูด และแสดงออกถึงวาระ ทางเรือยามสงบโดยวิธีอื่น ี ิ พิเศษอย่างช่วงเวลานี้ สาหรับสภาวการณ์ตานโควดโดยนิมต “แพนกเรือ” ิ ้ � ี � ิ � � - ตาบลท่จอดเรือต้องเป็นแหล่งชุมชนและนาลึก และ “แพนกท้องเรือ” ตามกาเนิดของราชนาวกสภา ้ � � จอดเรือได้ใกล้ฝั่งพอสมควร นาผ้าหน้ากากผืนโต ๆ ไปคาด “ปากเรือ“ทุกลาก็แสดงว่า � ี - งานน้อาจแสดงตน ตาบลท่ละหน่งวันหรือหลายวัน เราได้ท�าแล้ว และท�าตรงประเด็นด้วย ี ึ ตามความเหมาะสม - หากต้องการผลงานเป็นกอบเป็นกา อาจใช้เรือ � มากกว่า ๑ ล�าในหลายต�าบลที่ นาวิกศาสตร์ 27 ปีที่ ๑๐๕ เล่มที่ ๕ พฤษภาคม ๒๕๖๕

นาวิกศาสตร์ 28 ปีที่ ๑๐๕ เล่มที่ ๕ พฤษภาคม ๒๕๖๕

ประวัติผู้เขียน

ชื่อ-สกุล: นาวาเอก ถุงเงิน จงรักชอบ ต�ำแหน่งปัจจุบัน: รองเสนาธิการ กรมยุทธศึกษาทหารเรือ ประวัติกำรศึกษำ - ระดับมัธยมศึกษา โรงเรียนโคกส�าโรงวิทยา จังหวัดลพบุรี - โรงเรียนเตรียมทหาร รุ่นที่ ๒๗ - โรงเรียนนายเรือ รุ่นที่ ๘๔ - หลักสูตรเสนาธิการทหารเรือ โรงเรียนเสนาธิการทหารเรือ รุ่นที่ ๖๒ - หลักสูตรวิทยาลัยการทัพเรือ วิทยาลัยการทัพเรือ รุ่นที่ ๔๘ - หลักสูตร International Mine Warfare Officer, เครือรัฐออสเตรเลีย - หลักสูตร Naval Command and Staff College, อินโดนีเซีย - หลักสูตร Defence and Strategic Studies, NDU, สาธารณรัฐประชาชนจีน ประวัติกำรรับรำชกำรที่ส�ำคัญ - ผู้บังคับการเรือหลวงดอนเจดีย์ - ผู้บังคับการเรือหลวงถลาง - ผู้บังคับหน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามล�าแม่น�้าโขง เขตนครพนม - ผู้บังคับการโรงเรียนนายทหารเรือชั้นต้น กรมยุทธศึกษาทหารเรือ - ผู้อ�านวยการกองวิชายุทธศาสตร์ ฝ่ายวิชาการ กรมยุทธศึกษาทหารเรือ - นายทหารฝ่ายเสนาธิการ ประจ�าเสนาธิการทหารเรือ � � � ี - ผู้บังคับหมวดเรือท่ ๑ กองเรือลานา กองเรือยุทธการ ช่วยปฏิบัติราชการสานักงานรองปลัดกระทรวงกลาโหม ้ ตัวอย่ำงผลงำนกำรเขียนบทควำม - การก�าหนดยุทธศาสตร์กับการแก้ปัญหาความไม่สงบในสามจังหวัดชายแดนใต้ - Sun Wu: The Art to War - กรณีศึกษาเปรียบเทียบ The Art of War and On War - มังกรจีนก�าลังจะตื่นจริงหรือ - มหาอ�านาจทางทะเลในศตวรรษที่ ๒๑ - เรือด�าน�้ากับภูมิภาคอาเซียน

นาวิกศาสตร์ 29 ปีที่ ๑๐๕ เล่มที่ ๕ พฤษภาคม ๒๕๖๕

เหล็กในเรือ ลอยลำ� ยังชำ�รุด เหล็กในคน แข็งสุด ถ้�สร้�งได้

เรียนให้ลึก ฝึกให้แม่น แก่นศ�สตร์ชัย เร�นี้ไซร้ กล้�แกร่งได้ กว่�เหล็กเรือ

พลเรือเอก ส�ม�รถ จำ�ปีรัตน์

กล่ำวน�ำ

ื ุ คน หรอทรพยากรมนษย์ (Human resource) อะไรให้นักเรียนจ่า (นรจ.) และข้าราชการรวมทั้งบุคคล ั ื � นับเป็นทรัพยากรสาคัญท่สุดของทุกประเทศและ ท่ผ่านเข้ามาใน รร.ชุมพลฯ ยศ.ทร. เห็นได้ง่าย เพ่อจะได้ ี ี � � ทุกองค์กรในยุทธศาสตร์ชาติ ๒๐ ปี (พ.ศ. ๒๕๖๑-๒๕๘๐) พึงระลึกไว้ตลอดเวลา สามารถจดจานาไปปรับ หรือ � ี ี กาหนดยุทธศาสตร์ไว้ ๖ ด้าน มีด้านท่เก่ยวกับคนโดยตรง ประยุกต์ใช้ในการรับราชการได้ ผู้เขียนจึงได้ค้นคว้า ี คือ ยุทธศาสตร์ด้านการพัฒนาและเสริมสร้างศักยภาพ ส่งท่เป็นสัญลักษณ์ของโรงเรียนทหารต่าง ๆ หลายแห่ง ิ ทรัพยากรมนุษย์ และในแผนพัฒนาเศรษฐกิจและ ท่ดูแล้วมีความสะดุดตา เป็นสัญลักษณ์ท่สร้างไว้ของ ี ี ้ ิ ์ ื ั ี สงคมแห่งชาต ฉบบท่ ๑๒ (พ.ศ. ๒๕๖๐-๒๕๖๔) โรงเรียนนายร้อยเวสพอยท สหรฐอเมริกา คอ ปายระบบ ั ั ุ ี ยทธศาสตร์ท่ ๑ การเสริมสร้างและพัฒนาศักยภาพ เกียรติศักดิ์ (ดูภาพที่ ๑ THE CADET HONOR CODE) ทุนมนุษย์ ให้ความส�าคัญกับการวางรากฐานการพัฒนา เขียนข้อความไว้ว่า “A CADET WILL NOT LIE, CHEAT, � ี ึ ิ คนให้มีความสมบูรณ์ เร่มต้งแต่กลุ่มเด็กปฐมวัยท่ต้อง STEAL, OR TOLERATE THOSE WHO DO.” ซ่งคาว่า ั ั ่ ่ ึ ี ู ี ี ี ั � พัฒนาให้มีสุขภาพกายและใจท่ดี มีทักษะทางสมอง “Honor” เป็นหน่งในคากล่าวทเป็นทร้จกกนดของ ทักษะการเรียนรู้ และทักษะชีวิตเพ่อให้เติบโตอย่างม ี พลเอก ดักลาส แมกอาเธอร์ ท่ได้กล่าวไว้ท่โรงเรียน ื ี ี คุณภาพ เก่ยวกับเร่องคน หรือทรัพยากรมนุษย์น้ เม่อ นายร้อยเวสพอยท์ เม่อวันท่ ๑๒ พฤษภาคม ค.ศ. ๑๙๖๒ ื ี ี ื ี ื ี คร้งท่ผู้เขียนรับราชการอยู่ท่ โรงเรียนชุมพลทหารเรือ ดังนี้ “Duty, Honor, Country. Those three ั ี กรมยุทธศึกษาทหารเรือ (รร.ชุมพลฯ ยศ.ทร.) นาวาเอก hallowed words reverently dictate what กาจร เจริญเกียรติ ผู้บังคับการ รร.ชุมพลฯ ยศ.ทร. you ought to be, what you can be, � ในขณะน้น ได้มีดาริอย่างหน่งว่าจะสร้างสัญลักษณ์ what you will be.” ึ ั � นาวิกศาสตร์ 30 ปีที่ ๑๐๕ เล่มที่ ๕ พฤษภาคม ๒๕๖๕

ภาพที่ ๑ THE CADET HONOR CODE ั ื จากน้นได้อ่านบทความเร่อง “สร้ำงคน” ของคุณคร ู growth stronger” ส�าหรับสถานที่ตั้งเป็นบริเวณลาน ี � พลเรือเอก สามารถ จาปีรัตน์ ในหนังสือนาวิกศาสตร์ สวนสนามด้านหน้าเสาธงก็เหมาะสมดี เพราะเป็นท่ท ่ ี ฉบับเดือนสิงหาคม-กันยายน ๒๕๕๕ รู้สึกมีความ นรจ. ข้าราชการ และประชาชนท่ผ่านไปผ่านมาเห็น ี ี ่ ี ่ ั ประทับใจอยางยิ่ง โดยมีบทกวีที่กลาวไว้ท้ายบทความวา ได้ง่าย รวมท้งลานสวนสนามเป็นสถานท่ท่ นรจ. ่ � “เหล็กในเรือ ลอยล�ำ ยังช�ำรุด ใช้บ่อยท่สุด เช่น ช่วงแถวตอนเช้า ออกกาลังกาย ี เหล็กในคน แข็งสุด ถ้ำสร้ำงได้ แถวรับธงข้นเวลา ๐๘๐๐ ฝึกวิชาทหารราบ ฝึกสวนสนาม ึ เรียนให้ลึก ฝึกให้แม่น แก่นศำสตร์ชัย ซ้อมแฟนซีดริล แถวรับธงลงของทุกวัน และแถวเวลา เรำนี้ไซร้ กล้ำแกร่งได้ กว่ำเหล็กเรือ” ๑๙๐๐ เป็นต้น (ดูภาพที่ ๒ เหล็กในคนส�าคัญกว่าเหล็ก ส�าหรับค�าว่า “เหล็กในคน ดีกว่ำ เหล็กในเรือ” คุณครู ในเรือ และแถวรับธงลงของ นรจ. ในวันงานเล้ยงประจาปี) ี � ่ ี � ื ิ ได้อธบายไว้ว่าเป็นคาทบรรพบุรุษทหารเรือได้กล่าวเป็น เม่อสร้างเสร็จแล้วก็ได้อธิบายให้ นรจ. และข้าราชการ � ี � � ้ � ปริศนาคาคม เพ่อกาชับยาเตือนสติลูกหลานทหารเรือ ให้ทราบความหมายของคาน้มาโดยตลอด เพราะเหล็ก ื ของท่านด้วยความห่วงใย และมองการณ์ไกล (Visions) ในคนไม่ได้ใช้เวลาสร้างแค่วันหรือสองวัน แต่ท่ รร.ชุมพลฯ ี ในอนาคตว่า ความเจริญก้าวหน้าทางเทคโนโลยี และ ยศ.ทร. ใช้เวลาสร้าง นรจ. ประมาณ ๒ ปี นักเรียนหลักสูตร สภาพสังคมในยุคโลกาภิวัฒน์ อาจท�าให้ “เหล็ก” ในตัว ข้าราชการกลาโหมพลเรือนตากว่าช้นสัญญาบัตรประมาณ ่ ั � ลูกหลานของท่านเกิดสึกกร่อนลงได้ แต่ตอนหลัง ๆ ๔๕ วัน หากเราสร้างเหล็กในคนให้ นรจ. และข้าราชการ � คาว่า “เหล็กในคน ดีกว่ำ เหล็กในเรือ” กลายเป็น กลาโหมพลเรือนตากว่าช้นสัญญาบัตร ให้เป็นเหล็กเน้อด ี � ั ่ ื “เหล็กในคน ส�ำคัญกว่ำ เหล็กในเรือ” แม้คาวา “ดีกว่ำ” ได้แล้ว อีกประมาณ ๔๐ ปี ของชีวิตรับราชการ เหล็กในคน � ่ ี � ี จะเปล่ยนเป็นคาว่า “ส�ำคัญกว่ำ” แต่ก็ยังแสดงให้เข้าใจ เหล่าน้ก็จะไม่เป็นสนิม หรือผุกร่อนไปก่อนเวลาอันควร ี ได้ว่า เหล็กในคนดีกว่า (ส�าคัญกว่า) วัตถุหรือเครื่องมือ และเหล็กในคนเหล่าน้จะเป็นรากฐานท่สาคัญของ � ี ิ ี ั รวมท้งเทคโนโลยีต่าง ๆ ดังน้นจึงตกลงใจว่าถ้าสร้าง กองทัพเรือ ในการปฏบัติภารกิจท่ได้รบมอบหมายให้ ั ั ั ั ั ี ็ สัญลักษณ์เป็นประโยคน้ก็น่าจะเหมาะสม รวมท้งคิดว่า ประสบความสาเรจอย่างวัฒนาถาวรตลอดไป ดงน้น จึงจะขอ � ควรจะใส่ภาษาอังกฤษไว้ด้วย เพราะขณะน้นประเทศไทย ใช้บทความน้ถ่ายทอดประสบการณ์ในการสร้างเหล็ก ั ี � กาลังเข้าสู่ประชาคมอาเซียน จึงให้ครูแผนกภาษาของ ในคนที่เกิดขึ้นที่ รร.ชุมพลฯ ยศ.ทร. และประสบการณ์ � ้ รร.ชุมพลฯ ยศ.ทร. ช่วยเขยนคาแปลภาษาอังกฤษไว้ดวย จากการฝึกภาคทะเลของผู้เขียนในสมุดจดหมายเหต ุ ี คือ “As time passes, A ship’s steel grow weaker, ประจาตัวนักเรียนนายเรือเพ่อให้เกิดประโยชน์กับคน ื � but with time and training, a sailor’s steel รุ่นหลังต่อไป นาวิกศาสตร์ 31 ปีที่ ๑๐๕ เล่มที่ ๕ พฤษภาคม ๒๕๖๕

ภาพที่ ๒ เหล็กในคนส�าคัญกว่าเหล็กในเรือและแถวรับธงลงของนักเรียนจ่าในวันงานเลี้ยงประจ�าปี

เหล็กในคน สิ่งแรกที่ผู้เขียนนึกถึงก็คือ คุณสมบัตินำยทหำรเรือไทย � � ี ั “เหล็ก” เป็นแร่ธาตุท่นามาใช้งานในชีวิตประจาวัน ๕ ประกำร ตามท่ได้รับการส่งสอนมาโดยตลอดและ ี ี ั ี มากท่สุด และเป็นท่รู้จักกันอย่างแพร่หลาย โดยท่วไป มักจะพบเห็นตามหนังสือ นิตยสาร วารสารต่าง ๆ ของ ี ี � แล้วเหล็กจะแบ่งออกเป็น ๒ ประเภท คือ เหล็ก (Iron) ทหารเรือ รวมท้งมักติดไว้ตามสถานท่สาคัญท่พบเห็นได้ง่าย ั และเหล็กกล้า (Steel) ซึ่งทั้งสองประเภทนี้มีคุณสมบัติ ทั้งนี้ค�าว่า “นำยทหำรเรือ” นั้น บางท่านอาจเข้าใจว่า ็ ี ท่ต่างกัน แต่ส่วนใหญ่มักจะเรียกเหมารวมกันว่า “เหลก” หมายถึงเฉพาะนายทหารสัญญาบัตร แต่ในความจริงแล้ว ั ี ึ น่นเอง โดยเหล็กท่พบได้มากในธรรมชาติซ่งต้องใช้วิธ ี รวมถึงนายทหารประทวนด้วย โดยคุณสมบัตินายทหารเรือ ิ ื ถลุงออกมาก่อน เพ่อให้ได้เป็นแร่เหล็กบริสุทธ์ และ ไทย ๕ ประการ ได้แก่ � สามารถนามาใช้ประโยชน์ต่อไปได้ ส่วนเหล็กกล้ำ ๑. มีควำมรู้ เป็นโลหะผสมท่มีส่วนผสมระหว่าง เหล็ก ซิลิคอน ๑.๑ จะต้องขวนขวายหาความรู้ และฝึกฝนตนเอง ี แมงกานีส คาร์บอน และธาตุอื่น ๆ อีกเล็กน้อย ท�าให้มี อยู่เสมอ ั คุณสมบัติในการยืดหยุ่นสูง ท้งมีความทนทาน แข็งแรง และ ๑.๒ รู้จักถ่ายทอดความรู้ให้แก่ผู้อื่น สามารถต้านทานต่อแรงกระแทก และภาวะทางธรรมชาต ิ ๑.๓ รู้จักใช้ความรู้ให้เป็นประโยชน์ ได้อย่างดีเยี่ยม ที่ส�าคัญคือ เหล็กกล้าไม่สามารถค้นพบ ๒. เป็นผู้น�ำทำงทหำร ื ได้ตามธรรมชาติเหมือนกับเหล็ก เน่องจากเป็นเหล็กท ่ ี ๒.๑ มีลักษณะท่าทางองอาจสมเป็นทหาร และ ั สร้างข้นมาโดยการประยุกต์ของมนุษย์ ดังน้น การสร้าง มีความเข้มแข็งทั้งร่างกายและจิตใจ ึ เหล็กในคนจึงมีวัตถุประสงค์ หรือเจตนาเพ่อสร้างคน ๒.๒ มีระเบียบวินัย ื (หล่อหลอมคน) ให้มีคุณสมบัติเช่นเดียวกับเหล็กกล้า ๒.๓ มีความส�านึกในหน้าที่ กล้าตัดสินใจ และ คือ ความแข็งแรง อดทน ยืดหยุ่นสูง สามารถรับมือ รับผิดชอบ ี ได้กับสภาวะแวดล้อมท่จะเกิดข้นหลังจากจบออกไป ๒.๔ มีมนุษย์สัมพันธ์ดี ึ ็ รบราชการแล้วได้เป็นอย่างดี การสร้างเหลกในคนท ี ่ ๒.๕ มีจิตใจแน่วแน่ ไม่ท้อถอย ั ี เข้าใจได้ง่ายท่สุดสาหรับนักเรียนทหารก็คือ สร้างเหล็ก ๒.๖ มีความอดทนพากเพียร และกระตือรือร้น � ในคนให้ร่างกาย และท่ยากท่สุดก็คือ การสร้างเหล็กในคน ๒.๗ มีความริเริ่ม ี ี ท่ใจ หรือจิตวิญญาณ แล้วเราจะสร้างเหล็กในคนได้อย่างไร ๒.๘ มีความเป็นธรรม ี นาวิกศาสตร์ 32 ปีที่ ๑๐๕ เล่มที่ ๕ พฤษภาคม ๒๕๖๕

๒.๙ มีไหวพริบ ทุกที่ ทุกเวลา เพราะผู้บังคับบัญชาทุกคนมีอ�านาจ และ ั ี ่ ๓. มีควำมซื่อสัตย์ และควำมจงรักภักดี หน้าทปกครองดูแลทุกข์สขของทหาร ท้งรับผดชอบใน ิ ุ ์ ั ิ ๔. เป็นสุภำพบุรุษ ความประพฤต การฝกสอน อบรม การลงทณฑ ตลอดจน ึ ๔.๑ มีความเมตตา กรุณา เสียสละ ไม่อิจฉาริษยา ส่งการแก่ผู้ใต้บังคับบัญชา นอกจากน้แล้วการประพฤต ิ ั ี ี ๔.๒ มีคุณธรรม และจริยธรรม ปฏิบัติตัวเป็นแบบอย่างท่ดีให้แก่ผู้ใต้บังคับบัญชาก ็ ๔.๓ มีความสุภาพอ่อนโยน เป็นส่วนส�าคัญในการสร้างเหล็กในคนได้ อย่างไรก็ตาม ๔.๔ รู้จักกาลเทศะ แหล่งท่เหมำะสมท่สุดในสร้ำงเหล็กในคนก็คือสถำน ี ี ๕. มีควำมละเอียดรอบคอบไม่ประมำท ศึกษำ เพราะเป็นที่มีพร้อมที่สุด ได้แก่ สถานที่ บุคลากร ซึ่งคุณสมบัตินายทหารเรือทั้ง ๕ ประการนี้ (๓ มี ๒ เป็น) (ผู้บังคับบัญชาและครู) แนวทาง (หลักสูตร) เคร่องมือ และ ื ื เม่อผู้เขียนเข้ารับราชการก็ได้เห็นว่ามีอยู่แล้ว ไม่ทราบว่า มีเวลาในการสร้างอย่างต่อเน่อง ท้งน้สถานศึกษาหลัก ื ั ี ่ ั ่ ่ ื ้ ี ้ ็ ้ � ประกาศใชเมอใด และไดพยายามคนควากยงไมพบแหลง ท่เป็นแหล่งผลิตกาลังพลหลักของกองทัพเรือ ได้แก่ ้ ท่อ้างอิงได้ อีกอย่างหน่งท่นึกถึงในการสร้างเหล็กในคน โรงเรียนนำยเรือ (รร.นร.) และโรงเรียนจ่ำทหำรเรือ ถ้า ี ึ ี ี ก็คือ ค่ำนิยมหลักของกองทัพเรือ (Royal Thai Navy โรงเรียนเหล่าน้สามารถผลิตนักเรียนทหาร ได้แก่ นักเรียน ื ี ี Core Values) ท่ประกาศใช้เม่อวันท่ ๒๒ กันยายน นายเรือ (นนร.) และนักเรียนจ่าทหารเรือ (นรจ.) รวมทั้ง พ.ศ. ๒๕๕๓ สมัยคุณครู พลเรือเอก ก�าธร พุ่มหิรัญ เป็น ข้าราชการกลาโหมพลเรือนช้นสัญญาบัตร (ฝึกอบรม ั � ่ ี ั ผู้บัญชาการทหารเรือ ได้กาหนดค่านิยมให้เป็นเอกลักษณ์ ท่ รร.นร.) และข้าราชการกลาโหมพลเรือนตากว่าช้น � ี เฉพาะของกองทัพเรือไว้ ๔ ประการ โดยใช้คาย่อว่า สัญญาบัตร (ฝึกอบรมท่ รร.ชุมพลฯ ยศ.ทร.) ให้เป็น � ี “SAIL” ซึ่งหมายถึง เหล็กกล้าท่ดีในระหว่างท่เข้ารับการศึกษา หรือฝึกอบรม ี ื ี ๑. ควำมเป็นชำวเรือ (Seamanship) ท่โรงเรียนได้แล้ว เม่อคนเหล่าน้สาเร็จการศึกษา หรือ ี � ื � ๒. ควำมซ่อสัตย์ และควำมจงรักภักดี (Allegiance) สาเร็จการฝึกอบรมออกมารับราชการแล้ว เขาก็จะเป็น ิ ี ้ ื ็ ี ๓. ควำมเป็นผู้มีคุณธรรม จริยธรรม และควำมเป็น เหลกกลาทดไปอกหลายสบป ถาเปนนกเรยนนายเรอกอก ็ ั ี ็ ี ี ้ ี ่ สุภำพบุรุษทหำรเรือ (Integrity and Gentleman) ๓๓-๓๗ ปี และนักเรียนจ่าทหารเรือก็ประมาณ ๓๙-๔๐ ปี ๔. ควำมเป็นผู้น�ำ (Leadership) เข้าทานอง “ไม้อ่อนดัดง่ำย ไม้แก่ดัดยำก” ก็ได้ ทั้งนี้ � ดังนั้น หากทุกโรงเรียน และครูทุกคนสามารถสร้าง “กำรสร้ำงเหล็กในคนให้กับนักเรียนทหำรเปรียบเหมือน เหล็กในคนให้นักเรียนทหารในทุกหลักสูตร โดยเฉพาะ กำรปลูกต้นไม้ หำกต้องกำรต้นไม้มีล�ำต้น และกิ่งก้ำน หลักสูตรในโรงเรียนจ่าทหารเรือ และหลักสูตรในโรงเรียน ท่แข็งแรง มีใบดกหนำให้ร่มเงำท่ดี มีดอกท่สวยงำม ี ี ี � นายเรือ จะทาให้กองทัพเรือมีทรัพยากรบุคคลเป็น ออกผลดกให้รสชำติอร่อย ก็ต้องเร่มท่กำรบ�ำรุงดิน ี ิ ี ื เหล็กกล้าท่มคุณสมบัตินายทหารเรือ ๕ ข้อ และค่านิยม เม่อปลูกแล้วก็ต้องรดน�้ำ ใส่ปุ๋ย พรวนดิน บ�ำรุงรำก ี หลักของกองทัพเรือ ๔ ข้อ อย่างที่ตั้งไว้ได้อย่างแน่นอน ต้น ใบ และดูแลไม่ให้มีแมลง หรือศัตรูพืชมำท�ำลำย ตั้งแต่ตอนเริ่มปลูก ไม่ใช่ปลูกไปแล้วปล่อยปละละเลย ี กำรสร้ำงเหล็กในคนในหลักสูตรนักเรียนจ่ำทหำรเรือ ไม่สนใจ จนผ่ำนไปหลำยปี ต้นไม้ก็ไม่โตเท่ำท่ควร มีใบ ั กำรสร้ำงเหล็กในคน? จะสร้างเหล็กในคนที่ไหน? และให้ผลบ้ำงเล็กน้อย ไม่เป็นอย่ำงท่ใจหวังน่นเอง” ี � สร้างอย่างไร? สร้างเมื่อใด? และใครเป็นคนสร้าง? จาก สาหรบการสร้างเหลกในคนในหลกสูตรนกเรยนจ่ำของ ็ ั ั ี ั ี ี ั ประสบการณ์การรับราชการท่ผ่านมา ผู้บังคับบัญชาทุกคน โรงเรียนชุมพลทหำรเรือ เม่อคร้ง นาวาเอก อะดุง พันธุ์เอ่ยม ื ทุกระดับ สามารถสร้างเหล็กในคนให้กับกาลังพลได้ มาด�ารงต�าแหน่ง ผู้บังคับการ รร.ชุมพลฯ ยศ.ทร. (เดือน � นาวิกศาสตร์ 33 ปีที่ ๑๐๕ เล่มที่ ๕ พฤษภาคม ๒๕๖๕

ั ื ตุลาคม ๒๕๕๔) ได้ด�าริให้มีการจัดท�าแผนพัฒนา นรจ. มีความรู้ความเข้าใจในวิชาการทหารเรือเบ้องต้น ท้งวิชาท ่ ี ั ๔ ข้นตอน (ระยะเวลาการศึกษาประมาณ ๒ ปี) เพ่อ ปฏิบัติเฉพาะตัว เช่น วิชานกหวีดเรือ เชือกเล็ก เชือกใหญ่ ื � ี ความมุ่งหวังท่จะสร้าง นรจ. ให้มีจิตสานึกในความเป็น ดิ่งน�้าตื้น ดิ่งทราย การถือท้ายเรือ เป็นต้น และวิชาที่ต้อง ั ี ี ี ทหารอาชพ เป็นคนด มอดมการณ์ มวนย มคณธรรม ปฏิบัติเป็นหมู่คณะ เช่น เรือกระเชียง ชักหย่อนเรือเล็ก ิ ุ ุ ี ี ี ่ � ั ู จริยธรรม มภาวะผ้นา มีความจงรักภักดี ยึดมนในชาต ิ และเมื่อเข้าสู่ภาคปกติแล้ว รร.ชุมพลฯ ยศ.ทร. จัดให้มี � ศาสนา พระมหากษัตริย์ ปฏิบัติตนตามคุณสมบัต ิ การแข่งขันวิชาการเรือปฏิบัติประจาปีว่าใครมีความสามารถ นายทหารเรือไทย และตามค่านิยมที่กองทัพเรือก�าหนด ในวิชาการเรือปฏิบัติดีที่สุด ผู้ชนะเลิศก็ได้รับรางวัล ซึ่ง ั ิ ี � ี ้ ี ่ ี ่ ื ิ รวมทงมแนวทางในการดาเนนชวตในยคทมการสอสาร ผู้เขียนเคยคิดว่านอกจากจะมีการให้รางวัลแล้ว ควรจะม ี ุ ของข้อมูลต่าง ๆ อย่างกว้างขวาง ด้วยการน�าข้อดีจาก การติดเคร่องหมายแสดงให้เห็นถึงความสามารถในแต่ละ ื ื การดูงานโรงเรียนทหารต่าง ๆ มาวิเคราะห์ผสมผสานกัน วิชาชีพไว้ท่ข้างเส้อนอต (ข้างในเคร่องแบบชุดกะลาสี) ื ี ็ ่ ั � ้ ั ิ ี ั ี มกองนกเรยนเปนหนวยรบผดชอบในการจดทา ดวยความ ด้วยเหมือนกับลูกเสือ (ดูภาพท่ ๓ การแข่งขันการเรือ ี ื ื ร่วมมือร่วมแรงร่วมใจของผู้บังคับบัญชา และครูในกอง ปฏิบัติ และเคร่องหมายวิชาพิเศษของลูกเสือ) เพ่อให้ ี � ั นกเรยนทาให้สามารถจดท�าแผนพฒนา นรจ. ๔ ขนตอน นรจ. และเป็นแบบอย่างให้ นรจ. คนอื่น ๆ ได้ปฏิบัติตาม ั ้ ั ั พร้อมทั้งตัวชี้วัดได้ส�าเร็จ ประกอบด้วย โดยควรออกเป็นระเบียบของโรงเรียนก็น่าจะปฏิบัติได้ ข้นท่ ๑ “ปรับพฤติกรรม” เป็นการสร้างบุคลิกภาพ ี ั ใหม่จากบุคคลพลเรือนมาเป็นนักเรียนทหาร ภายใต้ กฎ ระเบียบต่าง ๆ โดยเคร่งครัด ดาเนินการในห้วงการฝึก � ภาคสาธารณศึกษา ใช้เวลาประมาณ ๓๐ วัน เป็นการฝึก ั ี การเป็นผู้ตำมท่สมบูรณ์แบบท้งการรับฟัง และปฏิบัต ิ ตามคาส่งของผู้บังคับบัญชา (ท่ถูกต้อง มีเหตุผล) โดย ั ี � เคร่งครัด และไม่มีข้อโต้แย้ง ฝึกความอดทนอดกล้นให้ ั สามารถบังคับจิตใจตนเองได้ นรจ.ใหม่ต้องใส่ใจกับคน รอบข้างเพื่อให้เกิดความสามัคคีของหมู่คณะ รวมทั้งฝึก ร่างกายให้มีความสมบูรณ์เพ่มข้น เพ่มลักษณะท่าทาง ึ ิ ิ ให้เป็นนักเรียนทหาร ตัวอย่างการด�าเนินการหลัก ได้แก่ ภาพที่ ๓ การแข่งขันการเรือปฏิบัติ และเครื่องหมายวิชาพิเศษ กำรฝึกทหำรรำบบุคคลท่ำมือเปล่ำ/ท่ำอำวุธ เพื่อสร้าง ของลูกเสือ ึ บุคลิกภาพ ลักษณะท่าทางองอาจผ่งผาย กำรฝึกกำร ั ั สวนสนำมในรูปแบบกองพัน โดยแต่งต้งให้ นรจ. ช้นปีท ่ ี กำรปลูกฝังขนบธรรมเนียมประเพณีทหำรเรือ กำรปกครอง ๒ เป็นผู้ช่วยครูฝึก เพื่อสร้างให้ นรจ. ชั้นปีที่ ๒ มีภาวะ บังคับบัญชำ กฎ ระเบียบ ข้อบังคับต่ำง ๆ และกำรทดสอบ � ี ิ ผ้นา มีความภาคภูมใจ ได้มโอกาสแสดงออก และเป็น สมรรถภำพร่ำงกำย โดยให้มีการจัดทาสมุดบันทึก � ู แบบอย่างท่ดีแก่รุ่นน้อง รวมท้งได้ให้ นรจ. ได้ดูวิดีโอการ สมรรถภาพร่างกาย และการเรือปฏิบัติให้กับ นรจ. (ดูภาพ ี ั สวนสนามของประเทศต่าง ๆ ท่สวนสนามได้อย่าง ที่ ๔ สมุดบันทึกสมรรถภาพร่างกาย และการเรือปฏิบัติ) ี ี ็ ่ พร้อมเพรยง เข้มแขง สวยงาม เพอสร้างความฮกเหม ซ่ง นรจ. สามารถเก็บสมุดน้ไว้กับตัว และบันทึกเก็บข้อมูล ี ิ ึ ื ึ และแรงบันดาลใจ กำรฝึกวิชำกำรเรือ เพื่อให้ นรจ.ใหม่ ไปทุกปีจนถึงวันเกษียณได้ก็จะเป็นเรื่องดี เพราะจะได้มี นาวิกศาสตร์ 34 ปีที่ ๑๐๕ เล่มที่ ๕ พฤษภาคม ๒๕๖๕

ั ื ื เร่องราวของตนเอง รวมท้งเป็นเคร่องเตือนใจให้ระลึกถึง แถวหยุด เมื่อแถวหยุดการเคลื่อนที่แล้ว ห้าม นรจ.ใหม่ ิ � ั ิ ิ ต้งแต่เร่มเข้ารับราชการในกองทัพเรือ ไว้ให้ลูกหลานดูได้ กระทาส่งใด ๆ (อยู่ในท่าตรงและน่ง) การเดินให้แกว่งมือ ิ และในช่วงเวลาเช้าระหว่างเวลา ๐๕๔๕-๐๖๔๕ ของทุกวัน ไปข้างหน้าประมาณ ๖ น้ว แกว่งไปข้างหลังประมาณ ๓ น้ว ิ ิ จัดให้มีระบบ “พ่สอนน้อง” โดยให้ นรจ. ช้นปีท่ ๒ สอน ยืดอก ยกไหล่ ระหว่างการเคล่อนท่ (เดินหรือว่งเป็นแถว) ี ี ื ั ี ี ั และทบทวนวิชาการเรือปฏิบัติให้กับ นรจ. ช้นปีท่ ๑ ให้มีการนับ หรือร้องเพลงเป็นการให้จังหวะตลอดเวลา � ื ทุกพรรคเหล่า เพ่อให้มีความชานาญในวิชาชีพทหารเรือ การรับประทานอาหารให้เน้นมารยาทในโต๊ะอาหาร การจัด เพิ่มมากขึ้น ส�าหรับตัวชี้วัดที่ได้ก�าหนดในขั้นที่ ๑ ได้แก่ วางภาชนะให้ถูกต้องตามหลักปฏิบัติ ต้องกวดขันการ � ๑. นรจ.ใหม่ ต้องผ่านเกณฑ์การทดสอบสมรรถภาพ ทาความเคารพของ นรจ.ใหม่ ให้ถูกต้อง แข็งแรงอยู่เสมอ � ร่างกาย ได้แก่ ๑) วิ่ง ๒.๗ กิโลเมตร ใช้เวลาไม่เกิน ๑๖ เป็นต้น สาหรับพิธีสวนสนามวันปิดภาคสาธารณศึกษา นาที ๒) ดึงข้อ ไม่น้อยกว่า ๕ ครั้ง ๓) ลุก-นั่ง ไม่น้อยกว่า (ดูภาพท่ ๕ การสวนสนามของนักเรียนจ่าใหม่) ได้เชิญ ี ๓๕ ครั้ง และ ๔) ดันพื้น ไม่น้อยกว่า ๓๐ ครั้ง ผู้บังคับบัญชาระดับสูง และผู้ปกครองมาร่วมในพิธี ซ่ง ึ ิ ๒. นรจ.ใหม่ รู้จก/ทราบข้อปฏบติ และข้อห้าม กิจกรรมนี้จะเป็นการสร้างความภาคภูมิใจ และแรง ั ั ตามที่ก�าหนด บันดาลใจให้กับ นรจ.ใหม่ ได้อีกทางหนึ่งด้วย ๓. นรจ.ใหม่ สามารถสวนสนามประกอบอาวุธในรูป แบบกองพันและกองร้อยได้ในวันปิดภาคสาธารณศึกษา

ภาพที่ ๕ การสวนสนามของนักเรียนจ่าใหม่

ึ อีกกิจกรรมหน่ง คือ กำรสวนสนำมเรือกระเชียง ี (ดูภาพท่ ๖ สวนสนามเรือกระเชียง) ซ่งมีท่มาจากพิธ ี ึ ี สวนสนามวันปิดฝึกภาคสาธารณศึกษาของ นรจ.ใหม่ โดย มีแนวความคิดว่าเม่อ นรจ.ใหม่ ได้สวนสนามแสดงความ ื ั ี สามารถแล้ว นรจ.ช้นปีท่ ๒ นอกจากจะแสดงแฟนซีดริล ื ื ภาพที่ ๔ สมุดบันทึกสมรรถภาพร่างกายและการเรือปฏิบัติ จะแสดงออกอย่างอ่นได้อย่างไรอีกบ้าง? เพ่อแสดงให้เห็น ี ถึงอัตลักษณ์ของโรงเรียนชุมพลทหารเรือท่ว่า “เคร่งครัด ั ั ตัวอย่างของผู้เข้าหน้าท่นายทหารเวรปกครองใน ระเบียบวินัย มุ่งม่นในวิชำชีพทหำรเรือ” สาหรับอตลักษณ์น ี ้ � ี ื ี ี ึ � � ภาคสาธารณศึกษา ท่ต้องกากับดูแลการปฏิบัติของ นรจ. เกิดข้นขณะกาลังขับรถตรวจพ้นท่ว่า รร.ชุมพลฯ ิ ใหม (มีหลักสูตรการฝึกเพ่มประสิทธิภาพก่อนเปิดภาค) ยศ.ทร. ควรมีอัตลักษณ์อะไรดี เพ่อให้เป็นไปตามการ ื ่ � ่ เช่น การจัดแถวต้องเรียงลาดับความสูงตา ระยะต่อ ระยะ ประเมินคุณภาพการศึกษาของสานักงานรับรองมาตรฐาน � � ื เคียง และมีความกระตือรือร้นเสมอ การนาแถวเคล่อนที ่ และประเมินคุณภาพการศึกษา (องค์การมหาชน) หรือ � ึ ของ นรจ. (ทั้งเดินและวิ่ง) ให้เท้าพร้อมตั้งแต่ก้าวแรกจน สมศ. ซ่ง รร.ชุมพลฯ ยศ.ทร. ถือเป็นโรงเรียนทหาร นาวิกศาสตร์ 35 ปีที่ ๑๐๕ เล่มที่ ๕ พฤษภาคม ๒๕๖๕

ช้นปีท่ ๒ พรรคกลิน การฝึกวิชาการอาวุธ ใช้ นรจ. ั ี ช้นปีท่ ๒ เหล่าปืน ส่วนพรรคเหล่าอ่น เช่น พลาธิการ ี ื ั เหล่าขนส่ง ก็ให้แสดงความสามารถในสถานีเชือกเล็ก เชือกใหญ่ นกหวีดเรือ ชักหย่อนเรือเล็ก และ นรจ. ท่เหลือทุกพรรคเหล่าให้เป็นพลกระเชียง นอกจากน ี ้ ี ยังมีเรือใบอีกหลายล�าร่วมในพิธีสวนสนามด้วย ซึ่งต่อมา ในหลักสูตรนักเรียนข้าราชการกลาโหมพลเรือน � ่ ั ตากว่าช้นสัญญาบัตร ก็ได้บรรจุการฝึกกระเชียงทน ั ลงในหลักสูตรด้วย รวมท้งได้เผยแพร่ไปยังทหารกอง ภาพที่ ๖ สวนสนามเรือกระเชียง � ประจาการท่ศูนย์ฝึกทหารใหม่ ก็ให้มีการฝึกกระเชียงทน ี โรงเรียนแรกของกระทรวงกลาโหม (กห.) ท่เข้าสู่ระบบ ในทะเลเพ่อสร้างเหล็กในคนให้กับทหารกองประจาการด้วย ี ื � ิ ั การประเมนของ สมศ. และได้รบผลการประเมนอย่ใน ู ิ ระดับดีมากมาโดยตลอด จากการพิจารณา และทบทวน ข้นท่ ๒ “กำรสร้ำงจิตส�ำนึกควำมเป็นทหำร” เพ่อ ื ี ั ่ ี ี ั ั ี หน่วยงานหลกทจดการฝึกการเรียนการสอนในโรงเรยน ปลูกฝังให้มีอุปนิสัยจิตใจท่มีวินัย มีความเสียสละ มีระบบ ื ิ ื � ้ แล้วพบว่ามีอยู่สองหน่วย ได้แก่ กองนักเรียน และกอง เกียรติศักด์ ค่านิยมทหารเรือ เน้นยาในเร่องความซ่อสัตย์ ั ี การศึกษา โดยกองนักเรียนมีหน้าท่ในการปกครองบังคับ มีความอดทนในแบบทหารท้งร่างกายและจิตใจ ซ่งอยู่ ึ บัญชา ปลูกฝังระเบียบวินัย ส่วนกองการศึกษารับผิดชอบ ในกฎเกณฑ์และระเบียบต่าง ๆ และต้องยอมรับในกฎเกณฑ์ � ื เร่องการเรียนการสอนท้งหมด ดังน้น จึงเห็นว่าถ้านาหน้าท ี ่ และระเบียบน้นแม้จะไม่เต็มใจ มีบุคลิกลักษณะท่าทาง ั ั ั ึ ของท้ง ๒ กองน้มาเป็นอัตลักษณ์ก็จะมีความเหมาะสม องอาจผ่งผาย ให้ฝึกปฏิบัติจนเกิดความเคยชิน โดยใช้เวลา ั ี � ี จากน้นก็นาเข้าท่ประชุม และเห็นพ้องต้องกันให้ใช้ ประมาณ ๖ เดือน (มิถุนายน-พฤศจิกายน) ตัวอย่างการ ั ี ี อัตลักษณ์น้ กลับมาท่การแสดงของ นรจ.ช้นปีท่ ๒ ดาเนินการ เช่น กำรอบรมและปลูกฝังให้รู้จัก และเข้าใจ ั ี � ได้เสนอให้มีการแสดงวิชาชีพทหารเรือให้ผู้บังคับบัญชา สามารถปฏบัตตามกฎ ระเบียบ ข้อบงคับ แบบธรรมเนียม ิ ั ิ ี และผู้ปกครองดูก็น่าจะดี จึงได้จัดสถานกำรแสดง ทหาร มารยาททหาร และค่านิยมกองทัพเรือได้อย่างถูกต้อง ิ ิ ั ี ์ ึ ้ ิ ิ วิชำชีพทหำรเรือ ได้แก่ การฝึกวชาอาวุธ การฝึกวชา สรำงระบบเกยรตศกด (Honor System) ให้เกิดข้นกับ ั ิ ิ ็ ื ้ เชอกเลก การฝึกวชาเชอกใหญ่ การฝึกวชานกหวดเรอ นรจ. และต้องปฏิบตเสมอต้นเสมอปลายทงตอหนาและ ่ ั ้ ื ื ิ ี การฝึกถือท้ายเรือใหญ่ การฝึกชักหย่อนเรือกระเชียง ลับหลัง ได้แก่ “ไม่คดโกง ไม่ลักขโมย ไม่โกหก ไม่ก่อ ื การฝึกซ่อมเคร่องจักรกล (การกล) และการสวนสนามเรือ ให้เกิดกำรแตกควำมสำมัคคี และต้องรำยงำนเม่อพบ ื � ้ กระเชียง โดยได้นาเรือกระเชียง ท้งเรือกระเชียงหูและ ผกระทำผด” กำรฝกสวนสนำมเพ่อดารงความมีระเบียบ ื � ู ึ ิ � ั เรือกระเชียงช่อง จานวน ๑๖ ลา มาร่วมสวนสนาม วินัยให้ได้อย่างต่อเน่อง รวมท้งยังเป็นการฝึกความอดทน � ื � ั � ประกอบกับเรือท้องกระจก อีก ๑ ลา มาใช้เป็นเรือธง โดย แบบทหาร กำรตรวจระเบียบตอน เพ่อปลูกฝังนิสัยให้เป็น ื � บนหลังคาเรือท้องกระจก ให้ นรจ.ชั้นปีที่ ๒ แสดงตีธง ผู้มีความละเอียดรอบคอบ มีความประณีตในการทา � สองมือ สาหรับเรือกระเชียงได้ติดธงประมวลอักษรภาษา ความสะอาดในที่ต่าง ๆ ที่ตนเองรับผิดชอบ (ภาพที่ ๗ ื อังกฤษ ค�าว่า “W E L C O M E” โดยให้ นรจ.ชั้นปีที่ ๒ การจัดระเบียบในตู้และการจัดเคร่องนอน) กำรมอบหมำย ี � เหล่าสามัญ ทาหน้าท่ถือท้าย การแสดงฝึกทหารราบ งำนให้กับ นรจ. ปฏิบัติงำน เพื่อให้มีความรับผิดชอบ ี ก็ใช้ นรจ.ชั้นปีที่ ๒ เหล่า สอ.รฝ. การฝึกช่างกลใช้ นรจ. ต่องานท่ได้รับมอบหมายเป็นหมู่คณะ ได้รู้จักคิดและ นาวิกศาสตร์ 36 ปีที่ ๑๐๕ เล่มที่ ๕ พฤษภาคม ๒๕๖๕

ื � วางแผนในการทางานต่าง ๆ ฝึกความเสียสละ เม่อมีงาน ราชการทหารเรือ และให้ได้มีโอกาสแสดงความคิดเห็น ทต้องรบผดชอบ ให้ได้ร้จกกาหนดวธการในการทางาน ร่วมกันเกี่ยวกับภาพยนตร์นั้น ๆ ตัวชี้วัดขั้นที่ ๒ ได้แก่ ี � ิ ั ิ ี ่ ู � ั ื ั เพ่อให้บรรลุเป้าหมาย รวมท้งกระบวนการในการแก้ ๑. ผ่านเกณฑ์การทดสอบสมรรถภาพร่างกาย ได้แก่ ปัญหาต่าง ๆ ท่เกิดข้นจากการทางาน เช่น เม่อมอบหมาย ๑) วิ่ง ๒,๗๐๐ เมตร ใช้เวลาไม่เกิน ๑๕.๑๐ นาที (เวลา ี � ื ึ ให้ นรจ.ชั้นปีที่ ๒ ตัดหญ้าหน้าภาค ไม่ใช่ว่า นรจ.ชั้นปี ลดลง) ๒) ดึงข้อ ไม่น้อยกว่า ๖ ครั้ง (จ�านวนครั้งมากขึ้น) ั � ั ั ที่ ๒ รับค�าสั่งแล้วก็ไปสั่งต่อ นรจ.ชั้นปีที่ ๑ ให้ตัดหญ้า ๓) ลุก-น่ง ไม่น้อยกว่า ๓๙ คร้ง (จานวนคร้งมากข้น) และ ึ หน้าภาคเท่านั้น แต่ นรจ.ชั้นปีที่ ๒ ต้องคิดว่าสนามหญ้า ๔) ดันพื้น ไม่น้อยกว่า ๓๗ ครั้ง (จ�านวนครั้งมากขึ้น) ี หน้าภาคมีขนาดใหญ่เท่าใด ควรใช้คนตัดหญ้าก่คน คนกวาด ๒. มีผลประเมินลักษณะทางทหาร และระเบียบวินัย ี ิ ก่คน ตัดแล้วเอาหญ้าไปท้งท่ไหน ใช้เวลาประมาณเท่าใด ตามแบบประเมิน ในระยะเวลา ๑ เดือน อยู่ในเกณฑ์ ี ั ึ ื เป็นต้น กำรตรวจเคร่องแต่งกำยและอำวุธ เพื่อให้ นรจ. ดีมาก หรือร้อยละ ๙๐ ข้นไป (ดาเนินการตลอดท้งปี � แต่งกายได้อย่างเป็นระเบียบเรียบร้อย มีความประณีตในการ การศึกษา) ั ื ื ื ทาความสะอาดเคร่องแต่งกายของตนในทุกเคร่องแบบ ๓. ถูกลงทณฑ์เน่องจากฝ่าฝืนข้อปฏิบัติ และข้อห้าม � ื รักษาความสะอาดของเคร่องแต่งกายของตน กำรทดสอบ ต่าง ๆ ตามที่ก�าหนด ในแต่ละสัปดาห์ ไม่เกินร้อยละ ๑๐ ื สมรรถภำพร่ำงกำยของ นรจ. กำรฝึกข้ำมเคร่องกีดขวำง ในแต่ละภาค ื ั เพ่อให้มีความกระฉบกระเฉง คล่องแคล่วว่องไว และ ๔. ได้รับชมภาพยนตร์เกี่ยวกับทหาร และสามารถ ื ื ั ื เป็นการสร้างความเช่อม่นในตนเอง และฝึกการตัดสินใจ วิเคราะห์เน้อหาของภาพยนตร์ได้เดือนละ ๒ เร่อง ั � โดยดาเนินการเดือนละ ๑ คร้ง กำรแข่งขันกีฬำระหว่ำง (ด�าเนินการตลอดทั้งปีการศึกษา) ภำค ประกอบด้วย การแข่งขันตีกระเชียง การว่ายนา � ้ ทะเลเป็นภาค กีฬาทหารเรือ และมอบรางวัลให้กับ ื ี ื ภาคท่ชนะเลิศ หรือให้สลักรายช่อลงโล่ไว้เพ่อเป็นการ สร้างความภาคภูมิใจ สร้างความสามัคคี กระชับความ ี สัมพันธ์ของ นรจ. ในระหว่างภาค และระหว่างรุ่นพ่กับรุ่น ิ น้องให้แน่นแฟ้นย่งข้น กำรฝึกทบทวนบุคคลท่ำมือเปล่ำ ึ ั และลักษณะท่ำทำงทหำร เพ่อให้มลกษณะท่าทางท ี ่ ื ี ึ เป็นทหาร องอาจผ่งผาย สามารถปฏิบัติท่าต่างๆ ได้อย่าง ถูกต้อง แม่นย�า และพร้อมเพรียงกัน กำรฝึกภำวะผู้น�ำ และฝึกกำรปกครองกันเอง เพ่อฝึกให้มีความเป็นผู้นา � ื ื ทหารในเบ้องต้น โดยการให้ได้ควบคุมแถวทหาร พูด ื อบรมตักเตือนเพ่อนด้วยกัน และรายงานต่าง ๆ หน้าแถว ื กำรฝึกมำรยำทในโต๊ะอำหำร เพ่อให้ได้รู้มารยาทในโต๊ะ ภาพที่ ๗ การจัดระเบียบในตู้และการจัดเครื่องนอน อาหาร รู้จักมารยาทในการรับประทานอาหารร่วมกับผู้ม ี อาวุโสสูงกว่า โดยการให้ นรจ.ชั้นปีที่ ๑ และชั้นปีที่ ๒ ข้นท่ ๓ “กำรสร้ำงควำมภำคภูมิใจในควำมเป็น ั ี รับประทานอาหารร่วมโต๊ะอาหารเดียวกันทุกมื้อ ทุกวัน ทหำร” เป็นการกระตุ้นความรู้สึกและสร้างแรงบันดาลใจ ี ี ให้ได้ชมภำพยนตร์เก่ยวกับทหำรเรือ ประวัติศำสตร์ ให้มีทัศนคติท่ดี มีความพึงพอใจในความเป็นทหาร มีความ ั ี ู ั กำรส้รบในอดต เพ่อให้มีความรู้ ภาคภูมิใจในการรับ ม่นใจในตนเอง มีความเช่อม่นในความสามารถของตนเอง ื ื นาวิกศาสตร์ 37 ปีที่ ๑๐๕ เล่มที่ ๕ พฤษภาคม ๒๕๖๕

� ั ั ื ี ่ ี ั ้ ทาตนเป็นทไว้วางใจกบผ้บงคบบญชา รวมทงเป็นผ้ทม ี เคร่องมือสะพานเดินเรือท่อาคาร บก.รร.ชุมพลฯ ยศ.ทร. ู ั ี ั ู ่ คุณค่าต่อคนอื่น ๆ รอบข้าง โดยใช้เวลาประมาณ ๑๑ ให้ นรจ. เลือกเข้ำร่วมกิจกรรม/ชมรมต่ำงๆ ที่เป็นกำร ั ื ั ิ เดอน (ธนวาคม-กนยายน) ตัวอย่างการดาเนนการ ได้แก ่ แสดงออกควำมสำมำรถพิเศษ เช่น แฟนซีดริล การฝึก � ื � ี กำรอบรมและปลูกฝังเก่ยวกับประวัติศำสตร์ชำติไทย ดานาพ้นฐาน การฝึกต่อสู้ป้องกันตัว กลองยาว ดนตรีไทย � ้ ั ุ ี ี ุ ้ ุ ั ี ่ ิ ั ้ ้ ่ ี เชน การเสยกรงศรอยธยาครงท ๑ และครงท ๒ การกอบก ู ้ และดรยางค์ รวมทงให้ นรจ. ไปแสดงความสามารถ ่ ื ี เอกราชของสมเด็จพระนเรศวรมหาราช และของสมเด็จ พิเศษตามหน่วยงาน หรือสถานท่ต่าง ๆ เม่อมีโอกาส ี พระเจ้าตากสินมหาราช วีรกรรมของชาวบ้านบางระจัน สาหรับกิจกรรมแฟนซีดริล มีผู้ท่ประทับใจแล้วนาไป � � และเหตุการณ์ของทหารเรือไทยในการรบสมรภูมิต่าง ๆ เผยแพร่ในสื่อต่าง ๆ จนดังไปทั่วโลก (ดูภาพที่ ๘ การ ิ ื เช่น เหตุการณ์ยุทธนาวีที่เกาะช้าง เหตุการณ์ รศ. ๑๑๒ แสดงแฟนซีดรลของนกเรียนจ่า โรงเรียนชุมพลทหารเรอ) ั เหตการณ์วรกรรมบ้านดอนแตง ของหน่วยเรอรกษา กำรจัดงำนรำตรีสองสมอ โดยให้ นรจ. ได้มีส่วนร่วม ุ ั ื ี � ความสงบเรียบร้อยตามลาแม่น�าโขง เป็นต้น อบรม ในการจัดงานมากที่สุด โดยเสนอความคิด แนวทางการ ้ � เก่ยวกับกฎหมำยทหำร กำรปรับปรุงและพัฒนำ ดาเนินงาน และเป็นผู้จัดงานเอง (ไม่จ้างบุคคลภายนอก) ี คุณภำพชีวิตสภำพแวดล้อมต่ำง ๆ ให้กับ นรจ. ให้ม ี และ นรจ. มีโอกาสศึกษาดูงานหน่วยงานรัฐ เอกชน ท้งใน ั ความแปลกใหม่อยู่เสมอ เพอสร้างสภาพทางจตใจให้ม ี และนอกกองทัพเรือ ตัวชี้วัด ในขั้นที่ ๓ ได้แก่ ิ ่ ื ความรู้สึกท่ดี มีความพึงพอใจต่อสถาบัน และการเป็น ๑. ผ่านเกณฑ์การทดสอบสมรรถภาพร่างกาย ได้แก่ ี นักเรียนจ่าทหารเรือ เช่น ปรับปรุงกราบพักทั้งตู้ เตียง ๑) วิ่ง ๒,๗๐๐ เมตร ใช้เวลาไม่เกิน ๑๓.๕๙ นาที (เวลา � พัดลม การปรับปรุงห้องพักผ่อน การปรับปรุงห้องนา น้อยลง) ๒) ดึงข้อ ไม่น้อยกว่า ๘ คร้ง (จานวนคร้งมากข้น) ั ึ ั � ้ ั ั � ึ ให้มีแบบน่งได้ ปรับปรุงห้องเรียนให้มีคอมพิวเตอร์และ ๓) ลุก-น่ง ไม่น้อยกว่า ๔๔ คร้ง (จานวนคร้งมากข้น) และ ั ั เคร่องฉายโพรเจกเตอร์ทุกห้อง พัฒนาห้องสมุดให้ม ี ๔) ดันพื้น ไม่น้อยกว่า ๔๔ ครั้ง (จ�านวนครั้งมากขึ้น) ื คอมพิวเตอร์อานวยความสะดวกในการค้นหา และฝึก ๒. มีการมอบหมายงานให้ทาให้สาเร็จลุล่วง เพ่อ � � � ื ั ื การใช้งาน ปรับปรุงอาคารเรียนรวม (ท่น่ง พ้น ผนัง ระบบ แสดงออกถึงความภาคภูมิใจอย่างน้อย ๑ งาน/เดือน ี โสตทัศนศึกษา และติดเครื่องปรับอากาศ) ปรับปรุงห้อง เช่น งานพัฒนา รร.ชุมพลฯ ยศ.ทร. การเข้าร่วมกิจกรรม ี ประกอบอาหารและโรงอาหาร โต๊ะอาหาร ผ้าปูโต๊ะ และ และกีฬาต่าง ๆ การให้ นรจ. ท่มีความสามารถพิเศษ เช่น จัดหาเก้าอ้ใหม่ การสร้างสถานท่พบญาติ การสร้างหอ แฟนซีดริล กลองยาว ไปแสดงในงานต่าง ๆ ี ี ั เกียรติยศ การน�าอาวุธยุทโธปกรณ์มาต้งแสดงในพ้นท ี ่ ๓. มีการปรับปรุงพัฒนาคุณภาพชีวิตให้กับ นรจ. ื ท้งเรือ และเคร่องบิน (ตามแนวคิดคือ ให้มีท้ง เรือ เคร่องบิน อย่างน้อย ๑ อย่าง/เดือน เช่น การจัดหาส่งอานวย ั ื ื ั ิ � ึ และรถถัง เพ่อให้ครบสาขาการปฏิบัติการท้งในนา ความสะดวกภายในอาคารกราบพักซ่งเป็นการร่วมคิด ื ั � ้ อากาศ และพื้นดิน หรือน�้า ฟ้า ฝั่ง) อาวุธยุทโธปกรณ์ ของผู้บังคับบัญชา และ นรจ. หรือตามที่ นรจ. เสนอ ั ั ้ ื ่ ็ ั ้ ตาง ๆ ได้ถูกเกบไวในคลงหรอหองเกบของ ไดนามาจดตง ๔. จัดให้ นรจ.ช้นปีท่ ๒ ได้ปกครองดูแล นรจ.ช้นปีท ี ่ ี ้ ั ็ ้ ั � ไว้เป็นสัญลักษณ์พรรค-เหล่าของ นรจ. ท่บริเวณข้าง ๑ ในการแนะน�าเรื่องต่าง ๆ เช่น การปฏิบัติตัว ระเบียบ ี ลานสวนสนามคือ พังงาแทนพรรคนาวินเหล่าสามัญ วินัย/การถ่ายทอดความรู้/การให้คาปรึกษา อย่างน้อย � ปืนขนาดต่าง ๆ แทนพรรคนาวินเหล่าปืนและเหล่า ในอัตราส่วน ๑ : ๒ และให้ นรจ.ชั้นปีที่ ๒ บันทึกเรื่องที่ ั ่ ี สอ.รฝ. ตอร์ปิโดแทนพรรคนาวินเหล่าตอร์ปิโด ทุ่นระเบิด ตนเองได้ปกครองดูแล นรจ.ช้นปีท ๑ อย่างน้อยเดือนละ แทนพรรคนาวินเหล่าทุ่นระเบิด และใบจักรแทนพรรค- ๑ เรื่อง/คน ั ี � � เหล่ากลิน ปรับปรุงห้องออกกาลังกาย และการจัดทา ๕. ให้รางวัล นรจ.ช้นปีท่ ๒ ท่มีความใส่ใจการปกครอง ี นาวิกศาสตร์ 38 ปีที่ ๑๐๕ เล่มที่ ๕ พฤษภาคม ๒๕๖๕

ภาพที่ ๘ การแสดงแฟนซีดริลของนักเรียนจ่า โรงเรียนชุมพลทหารเรือ

ี � ั ี ดูแล นรจ.ช้นปีท่ ๑ มากท่สุด (ตรวจสอบได้จากการบันทึก ความสาเร็จในชีวิตมาถ่ายทอดประสบการณ์ให้ได้ฟัง ในข้อ ๔) อย่างน้อย ๑ ครั้ง/เดือน อันจะส่งผลให้เกิดความรู้สึกต้องการเอาเป็นแบบอย่าง ั � ๖. ถูกลงทัณฑ์เน่องจากฝ่าฝืนข้อปฏิบัติ และข้อห้าม และเป็นบทเรียน นอกจากน้นยังจะทาให้มีอุดมการณ์ ื ต่าง ๆ ตามที่ก�าหนด ไม่เกินร้อยละ ๕ ในแต่ละภาค มีเป้าหมายชีวิตในการรับราชการ รู้จักคิดวางแผนชีวิต ั ี ๗. นรจ.ชั้นปีที่ ๒ ได้รับสิทธิในการปกครองกันเอง ในอนาคตตนเองได้ ในข้นท่ ๔ น้ ใช้เวลาประมาณ ๖ เดือน ี ั � โดยมีครูปกครองท�าหน้าที่คอยชี้แนะ ในช่วงช้นปีท่ ๒ ภาคการศึกษาท่ ๒ ไปจนสาเร็จการศึกษา ี ี ๘. นรจ.ช้นปีท่ ๒ สามารถจัดงานราตรีสองสมอได้เอง โดยมีการดาเนินการ เช่น เชิญเสมียนทูต ผู้พิพากษา ี � ั ี ึ ี � ็ � จนสาเรจลล่วง โดยมครปกครองคอยให้คาปรกษาและ นักธุรกิจ และรุ่นพ่ท่ไปอยู่หน่วยต่าง ๆ มาบรรยาย ุ ู ี แนะน�า การบรรยายในหัวข้ออุดมการณ์ของทหาร เพ่อให้เกิดความ ื เข้าใจและซาบซ้งในอุดมการณ์ทหาร ได้แก่ ๑) มีความ ึ ข้นท่ ๔ “กำรสร้ำงอุดมกำรณ์ในกำรรับรำชกำร จงรักภักดีต่อสถาบันชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ ี ั ในกองทัพเรือ” เพื่อให้ได้รับรู้ รับทราบการด�าเนินชีวิต ๒) มีความเสียสละ ๓) มีความรับผิดชอบต่อหน้าท่ ๔) ี รับราชการในกองทัพเรือจากชีวิตจริงและประสบการณ์ มีความพอเพียงในตนเอง ๕) มีความสามัคคีในหมู่ทหาร ื ี จริงโดยตรง โดยหาตัวอย่างของบุคคลที่ชีวิตรับราชการ และให้ชมภาพยนตร์ท่เก่ยวกับทหารท่เสียสละเพ่อ ี ี ก้าวหน้าและที่รับราชการไม่ก้าวหน้า รวมทั้งผู้ที่ประสบ ประเทศชาติและประชาชน ตัวชี้วัด ในขั้นที่ ๔ ได้แก่ นาวิกศาสตร์ 39 ปีที่ ๑๐๕ เล่มที่ ๕ พฤษภาคม ๒๕๖๕

๑. ผ่านเกณฑ์การทดสอบสมรรถภาพร่างกาย ได้แก่ เฉพาะที่ รร.ชุมพลฯ ยศ.ทร. (บนบก) นอกจากนี้ ยังได้ ิ ๑) ว่ง ๒,๗๐๐ เมตร ใช้เวลาไม่เกิน ๑๓.๕๙ นาที ๒) ดึงข้อ สร้างเหล็กในคนอีกแนวทางหนึ่ง คือ การฝึกภาคปฏิบัติ ี � ไม่น้อยกว่า ๘ ครั้ง ๓) ลุก-นั่ง ไม่น้อยกว่า ๔๔ ครั้ง และ ใช้การในทะเลของ นรจ. ประจาปี (ดูภาพท่ ๙ คู่มือบันทึก ๔) ดันพื้น ไม่น้อยกว่า ๔๔ ครั้ง การฝึกภาคปฏิบัติใช้การในทะเลของ นรจ.) ซ่งมีระยะเวลา ึ ี ๒. มีการอบรมหัวข้อเก่ยวกับ “อุดมการณ์ทหาร” ประมาณ ๓๐ วัน เป็นการสร้างเหล็กในคนตามวิถีทาง ื � อย่างน้อย ๔ ครั้ง ของทหารเรอที่ประเทศมหาอานาจทางทะเลในอดีต ี ่ ี ั ั ั ๓. มการอบรมหวข้อเกยวกบ “เป้าหมายชวต” อย่าง สเปน โปรตุเกส ฝร่งเศส และอังกฤษ ก็ได้ปฏิบัติมา ี ิ อย่างน้อย ๔ ครั้ง เช่นเดียวกัน โดยเฉพาะผู้ท่ทหารเรือรู้จักกันดี ก็คือ ี ั ี ๔. มีการอบรมหัวข้อเก่ยวกับ “ประวัติศาสตร์ชาติไทย ลอร์ด เนลสน แห่งราชนาวีอังกฤษ ผู้ท่เป็นต้นกาเนิด ี � ประวัติบุคคลส�าคัญ หรือประวัติการรบต่าง ๆ ของ หลักนิยมการรบทางเรือ “Crossing the T” ได้สมัคร ทหารเรือ” อย่างน้อย ๔ ครั้ง เข้าเป็นทหารเรือตั้งแต่อายุ ๑๒ ปี ได้ท�าสงครามทางเรือ ี ั ี ๕. มีผลสอบของ นรจ.ช้นปีท่ ๒ เก่ยวกับบทบาท เกือบตลอดชีวิตการรับราชการ แม้จะสูญเสียแขนและ หน้าท่ของทหาร อยู่ในเกณฑ์ดี-ดีมาก ไม่ตากว่าร้อยละ ดวงตาแต่ก็ยังรักอาชีพน้จนเสียชีวิตจากการรบทางเรือ ี ่ � ี ๘๐ ของ นรจ.ชั้นปีที่ ๒ ทั้งหมด ในวาระสุดท้าย หรือถ้าได้ดูภาพยนต์เร่อง “Master and ื ี ๖. ผลการสอบ (แบบอัตนัย) เก่ยวกับอุดมการณ์ Commander: The Far Side of the World” และเป้าหมายชีวิตในการรับราชการ ของ นรจ.ชั้นปีที่ ๒ เป็นเร่องราวของสงครามเรือใบระหว่างราชนาวีอังกฤษ ื อยู่ในเกณฑ์ดี-ดีมาก ไม่ตากว่าร้อยละ ๘๐ ของ นรจ. กับฝรั่งเศส (ราว ค.ศ. ๑๘๐๕) จะได้เห็นนักเรียนนายเรือ � ่ � ื ชั้นปีที่ ๒ ทั้งหมด ฮอลลอม, ลอร์ด เบล็คเนย์ และเพ่อน ฝึกทาการใน ๗. มีผลการประเมินความพึงพอใจของผู้บังคับ เรือใบต้งแต่เด็กเพ่อสร้างให้เป็นลูกเรือ นายเรือ และ ั ื บัญชาที่มีต่อ นรจ. ทั้งหมด อยู่ในเกณฑ์ดี-ดีมาก ผู้บังคับการเรือท่ดีในอนาคต จึงนับเป็นตัวอย่างการสร้าง ี ิ ิ ั ู ๘. ถกลงทณฑ์เน่องจากฝ่าฝืนข้อปฏบัต และข้อห้าม เหล็กในคนที่ควรศึกษาได้อีกแนวทางหนึ่ง ในภาพยนตร์ ื ต่าง ๆ ตามที่ก�าหนด ไม่เกินร้อยละ ๕ ในแต่ละภาค ยังกล่าวถึง “โจ เพลส” หรือ “เฒ่ำทะเลหรือทหำรเรือ ั ี ึ ๙. มีผลประเมินความพึงพอใจของหน่วยงานท่มีต่อ ช้นลำยครำม” อยู่ในเร่องด้วย ซ่งจะได้กล่าวเก่ยวกับ ื ี จ่าตรีจบใหม่ อยู่ในเกณฑ์ดี-ดีมาก ทหารเรือลายครามต่อไปในการฝึกภาคทะเลของ นนร. ี ๑๐. นรจ.ช้นปีท่ ๒ ทุกนาย ได้รับการแนะนาแนวทาง การฝึกภาคปฏิบัติทางใช้การในทะเลของ นรจ. � ั � ั การดาเนินชีวิตเป็นรายบุคคลจากผู้บังคับบัญชาของ รร.ชุมพลฯ ยศ.ทร. หรือเรียกส้น ๆ ว่า “กำรฝึกภำคทะเล” ได้ ึ รร.ชุมพลฯ ยศ.ทร. คนใดคนหน่ง คนละ ๑ คร้ง ซ่งผู้เขียน จัดตั้งเป็นหมู่เรือฝึกนักเรียนจ่า (มฝ.นรจ.) ประกอบด้วย ึ ั ี � ื ได้บรรยายในหัวข้อ “ชีวิต (น่ำจะ) ออกแบบได้ (บ้ำง)” เรือฝึกประมาณ ๔-๕ ลา พ้นท่ฝึกใช้พ้นท่อ่าวไทย มีเส้นทาง ื ี โดยมีสาระส�าคัญคือ ตั้งจุดมั่งหมำย (Objective) ให้ เดินเรือ ปกติจะออกจากฐานทัพเรือสัตหีบไปภาค ี โอกำส (Opportunity) สร้ำงทัศนคติท่ดี (Attitude) ตะวันออก เช่น เกาะช้าง จังหวัดตราด ประจวบคีรีขันธ์ และมีวินัย (Discipline) หรือ “OOAD” เพื่อให้รู้จัก หรือชุมพร เกาะสมุย ฐานทัพเรือสงขลา และย้อนกลับ ั � ี ั การดาเนินชีวิตต้งแต่การเข้ามาเป็น นรจ. จนกระท่งเกษียณ มาท่ฐานทัพเรอสัตหบ หัวข้อวิชาในการฝึก เป็นการนา ื � ี ี ี อายุราชการ ซ่งได้เขียนเป็นบทความลงในนาวิกศาสตร์ ความรู้ท่ได้เรียนในภาคทฤษฎี และภาคปฏิบัติท่โรงเรียน ึ แล้ว ไปใช้ฝึกปฏิบัติในเรือ เช่น วิชาการอาวุธ วิชาการเรือ จากที่กล่าวมาเป็นการสร้างเหล็กในคนให้กับ นรจ. วิชาการเดินเรือ วิชาการกล และวิชาการสื่อสาร รวมทั้ง นาวิกศาสตร์ 40 ปีที่ ๑๐๕ เล่มที่ ๕ พฤษภาคม ๒๕๖๕

ี วิชาเดินเรือ และการเรือปฏิบัติท่ได้ศึกษาใน รร.ชุมพลฯ � � ยศ.ทร. ได้ให้เรือแต่ละลากาหนดให้ นรจ.ทุกคนได้ ปฏิบัติด้วยตนเอง เช่น การถือท้ายเรือใหญ่ การเข้า ั ี ี ิ ้ � ิ หน้าท่ยามตรวจการณ์ ด่งทราย ด่งนาตื้น ท้งน้ก็เคยม ี ผู้ทักท้วงว่านาวิกโยธิน หรือขนส่ง หรือต่อสู้อากาศยาน และรักษาฝั่ง ไม่ได้ทางานในเรือ จะฝึกถือท้ายเรือใหญ่ � เข้ายามตรวจการณ์ ไปทาไม? ผู้เขียนได้ให้ความเห็นว่า � เม่อแต่งเคร่องแบบทหารเรือแล้ว จะต้องมีประสบการณ์ตรง ื ื เก่ยวกับทหารเรือ เป็นการสร้างความภาคภูมิใจให้กับตัว ี ื เขาเอง เช่น เม่อมีคนถามว่า “ทหารเรือถือท้ายเรือรบ � เป็นอย่างไร เหมือนกับการขับรถหรือไม่? ทาอย่างไร? ั � จึงจะถือท้ายเรือได้ตรงกับเข็มเรือท่ผู้นาเรือได้ส่งการ ี ื ี � (โดยเฉพาะขณะท่คล่นลมแรง)” หรือคาถามว่า “เห็น เรือเล็ก ๑ ล�า ทางหัวเรือขวา ประมาณ ๔ ปอยท์” แสดงว่า เรือเล็กอยู่ด้านไหนของเรือ การตอบว่าผมเป็นนาวิกโยธิน ไม่เคยถือท้ายเรือใหญ่เลย หรือถือท้ายเรือใหญ่ไม่เป็น หรือไม่เข้าใจว่า ๔ ปอยท์ คืออะไร ทิศไหน เคยแต่ได้ยิน กับการตอบว่าเคยถือท้ายเรือใหญ่มาแล้ว รู้สึกดีมาก เวลา จะให้เรือเลี้ยวซ้ายหรือเลี้ยวขวา ต้องท�าอย่างไร อาการ เรือเป็นอย่างไร? หรือ ๔ ปอยท์ คือ ทิศประมาณ ๔๕ ี ภาพที่ ๙ คู่มือบันทึกการฝึกภาคปฏิบัติใช้การในทะเลของ องศาจากหัวเรือ ตามความรู้ท่ถ่ายทอดกันมาทหารเรือ ี ั นักเรียนจ่า จะแบ่งเข็มทิศท่มี ๓๖๐ องศา ออกเป็น ๓๒ ปอยท์ ดังน้น ี ๑ ปอยท์ ก็จะประมาณ ๑๑.๒๕ องศา (ดูภาพท่ ๑๐ ี การฝึกท่ต้องปฏิบัติเม่ออยู่ในเรือ (การฝึกสถานีต่าง ๆ) การแบ่งทิศของทหารเรือ) การเข้ายามเครื่องสั่งจักรเพื่อ ื ้ ั � เช่น การฝึกรับ-ส่งสิ่งของในทะเล การฝึกพ่วงจูง การฝึก บงคับใหเรือเดนหนาหรือถอยหลังทาอย่างไร ไดเห็นภาพ ้ ิ ้ ็ ื ั เกบคนตกนาด้วยเรอใหญ่ ทงนสาหรบ นรจ. ว่าบนสะพานเดินเรือมีเคร่องมือเคร่องใช้อะไรบ้าง? ได้ม ี ้ � ี ื ั ื ้ � ้ ั ช้นปีท่ ๑ พรรค-เหล่าท่เม่อจบการศึกษาแล้วไม่ได้ โอกาสเรียนรู้ขนบธรรมเนียมประเพณีของทหารเรือด้วย ี ี ื ปฏิบัติงานในเรือ เช่น พรรคนาวิกโยธิน พรรคนาวิน ตนเองจากประสบการณ์จริง เช่น การเป่านกหวีดเรือใน เหล่าทหารสารวัตร เหล่าทหารขนส่ง และเหล่าต่อสู้ สถานีต่าง ๆ การแสดงความเคารพระหว่างเรือ การขานตอบ อากาศยานและรักษาฝั่ง ก็จะมีโอกาสได้ฝึกภาคทะเลด้วย ระหว่างเรือเล็กเรือใหญ่ รวมท้งได้มีโอกาสสัมผัสคล่นลม ื ั � ื ี ซ่งเป็นเร่องท่สาคัญอย่างย่ง เพราะพวกเขาเหล่าน้เม่อได้ ในทะเล (อาการเมาคล่น) และได้ไปทัศนศึกษาท่าเรือ ื ี ิ ึ ื ื ึ ั ช่อว่าเป็นทหารเรือแล้ว จะต้องได้ฝึกในเรือสักคร้งหน่ง และเกาะต่าง ๆ ในอ่าวไทย ได้เห็นเรือประมง เรือสินค้า ื ในชีวิต เพ่อให้รู้ว่าการใช้ชีวิตในเรือเป็นอย่างไรบ้าง จะได้ ว่งในทะเล ได้เห็นแท่นขุดเจาะท่มีเป็นร้อย ๆ แท่นใน ิ ี � เป็นประสบการณ์ตรง และสามารถถ่ายทอดหรือไปเล่าให้ อ่าวไทย จะเป็นประสบการณ์ท่ดีสาหรับพวกเขาต่อไป ี รุ่นน้อง หรือครอบครัว หรือประชาชนฟังได้ โดยเฉพาะ ในอนาคต นาวิกศาสตร์ 41 ปีที่ ๑๐๕ เล่มที่ ๕ พฤษภาคม ๒๕๖๕

ภาพที่ ๑๐ การแบ่งทิศของทหารเรือ

ั ื ี ี การฝึกระหว่างท่เรือจอดอยู่ท่ฐานทัพเรือสัตหีบ ก ็ รู้สึกรักทะเล รักอาชีพทหารเรือ คร้นเม่อได้แนวทางแล้ว ื ี จะมกำรฝึกควำมอดทนเพ่อสร้างเหล็กในคนให้ นรจ. จึงได้เชิญผู้บังคับการเรือ ต้นเรือ ต้นกล และนายทหาร � ื ได้แก่ การฝึกวิ่งทน การตีกระเชียงทน การว่ายน�้าทะเล ประจาเรือ มาร่วมประชุมกับ มฝ.นรจ. เพ่อปรับปรุง ี ิ ี ข้ามเกาะ และก่อนท่เรือจะออกทะเลก็จะมกำรว่ง จุดมุ่งหมาย และแนวทางฝึกภาคทะเลใหม่ โดยก�าหนด ข้นเขำไปท่กระโจมไฟแหลมปู่เจ้ำ และเม่อว่งถึงครบ จุดมุ่งหมายว่า “เม่อเสร็จส้นกำรฝึกภำคทะเล นักเรียนจ่ำ ิ ิ ี ื ึ ื ทุกคนแล้ว ก็จะมีการสักการะ พลเรือเอก พระเจ้าบรมวงศ์เธอ จะต้องเกิดควำมรู้สึกรักอำชีพทหำรเรือ อยำกจะปฏิบัต ิ � กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักด์ องค์บิดาทหารเรือไทย งำนในเรือ” และกาหนดแนวการฝึกใหม่ เช่น ให้เรือ ิ � � พร้อมกับร้องเพลงท่ทรงนิพนธ์ไว้ โดยในสมัยก่อนน้น แต่ละลาคัดเลือก และแต่งต้งกาลังพลประจาเรือเป็น ั ั � ี ึ � จะร้อง ๒ เพลง ได้แก่ เพลงเดินหน้ากับเพลงดอกประดู่ ครูปกครอง นรจ. จานวนหน่ง โดยครูปกครองมีสิทธ ิ � ี � � ื ิ ตอนหลังน้ร้องเพลงดาบของชาติ เพ่มอีก ๑ เพลง ทาโทษ นรจ. ได้ สาหรับกาลังพลประจาเรือคนอ่น ๆ � ผู้เขียนมีเร่องท่จะเล่าเก่ยวกับการฝึกภาคทะเลให้ฟัง ไม่มีสิทธิในการลงโทษ ยกเว้น นรจ. ท�าความผิดซึ่งหน้า ี ื ี ี อีกเรื่องหนึ่งคือ ได้อ่านคู่มือบันทึกฯ ฝึกภาคทะเลของ และการลงโทษต้องลงโทษเม่อมีการกระทาผิดท่ชัดเจน ื � นรจ.บางคนแล้ว ทราบว่ามีส่วนหน่งไม่อยากจะฝึก เช่น สมัยก่อนการแถวเวลา ๐๖๐๐ ผู้ที่มาแถวก่อนจะถูก ึ ภาคทะเล โดยบันทึกว่า “ฝึกแล้วไม่ได้อะไรมำก ได้แต่ ก�าลังพลประจ�าเรือสั่งให้กอดคอลุกนั่ง หรือยึดพื้น หรือ ถูกลงโทษเป็นหลัก” ท�าให้ นาวาเอก อะดุง พันธุ์เอี่ยม อื่น ๆ เพื่อรอเพื่อน ๆ มาแถวจนครบ การปฏิบัติอย่างนี้ � � ิ ่ ุ ผบ.รร.ชมพลฯ ยศ.ทร. (ขณะน้น) ดารวาทาอยางไรจะให ้ ถือว่าเป็นเรื่องไม่ถูกต้อง เพราะ นรจ. ที่มาแถวก่อนคือ ั ่ นรจ. ไดประโยชนจากการฝกภาคทะเล ฝึกจบแลวเกดความ ผู้ท่ปฏิบัติตามเวลาไม่ได้ทาผิด ส่วนผู้ท่ยังไม่มาก็ยังไม่ม ี ้ ี ์ ้ ี ิ � ึ รู้สึกรักชีวิตการอยู่เรือ หรืออยากปฏิบัติงานในเรือรบ ความผิดเพราะยังไม่ถึงเวลา ๐๖๐๐ ผู้ท่ทาผิดและต้อง ี � นาวิกศาสตร์ 42 ปีที่ ๑๐๕ เล่มที่ ๕ พฤษภาคม ๒๕๖๕

ี ถูกลงโทษคือ ผู้ท่มาแถวเวลา ๐๖๐๐ ไม่ทัน เป็นต้น นรจ. มีคะแนนสอบภาษาอังกฤษสูงขึ้น คือ ให้มีการสอน หรือการรับประทานอาหารเวลา ๑๒๐๐ ก็ให้เป็นเวลา พิเศษในช่วงเวลา ๑๖๐๐ – ๑๗๐๐ ของทุกวัน ก�าหนด ิ ี � ่ ี ้ ่ ่ รบประทานอาหารอยางเดยว ไมใชเวลามาชแจงความผด ให้มีการท่องศัพท์ ๕ คา และประโยคภาษาอังกฤษ ๒ ั แล้วทาโทษจนถึงเวลา ๑๒๓๐ หรือ ๑๒๔๕ แล้วจึงปล่อย ประโยคทุกวัน ให้มีการจัดแข่งขัน “English Contest” � � ี ี � ให้รับประทานอาหารเท่ยงอย่างเร่งรีบ สาหรับการลงโทษ โดยให้ นรจ. แต่ละภาคได้มีโอกาสนาภาษาอังกฤษท่ท่อง เป็นส่วนรวม ถ้าจะลงโทษก็คือเวลา ๑๙๐๐ ที่แถวอบรม ทุกวันมาใช้แสดงออก การแข่งขันเปิดดิกชันนารี การ ี และช้แจงข้อบกพร่องในการปฏิบัติประจาวัน หรือการ แข่งขันต่อศัพท์ (Scrabble) การแสดงออกบนเวที เช่น � � ปลุกนักเรียนลุกข้นมาทาโทษในเวลาดึกด่น ท้งท่เป็น การสนทนาในสถานการณ์ที่เกิดขึ้นตามสถานที่ต่าง ๆ ที่ ึ ี ั ื เวลานอนของนักเรียน โดยอ้างว่าเป็นการฝึกกาลังใจ ควรรู้ และใช้ในชีวิตประจ�าวัน การร้องเพลงภาษาอังกฤษ � ้ ื � � � ี ก็ไม่จ�าเป็นต้องท�า ทั้งนี้นายทหารประจ�าเรือจะต้องสอน และการจัด นรจ. ท่อยู่ชมรมดานาเบ้องต้น ทาหน้าท ี ่ ู ี ้ ู ่ ั ี ้ ี ี ให้ นรจ. มความรเกยวกบทหารเรือ และความรตามสาขา เป็นผู้ช่วยเหลือนักท่องเท่ยวชาวต่างชาติท่มาเท่ยวท ี ่ ี วิชาชีพท่ต้องปฏิบัติงานในเรือให้ได้มากท่สุด สอนให้รู้จัก รร.ชุมพลฯ ยศ.ทร. (พูดภาษาอังกฤษได้จริง) นอกจากน ้ ี ี ี ว่าเวลาไหน ควรท�าอะไร ส�าหรับก�าลังพลเรือประจ�าเรือ ยังมีการจัดกิจกรรมปฏิบัติจิตภาวนาเป็นประจ�า การจัด ั � ื ของแต่ละลาน้น มฝ.นรจ. ได้แจ้งว่าได้ให้ นรจ. ในเรือ บรรพชาสามเณรก่อนสาเร็จการศึกษา เพ่อให้ นรจ. มีความร ู้ � ี ี ั ลาน้นคัดเลือกก�ำลังพลประจ�ำเรือท่เป็นมืออาชีพ มีความ เก่ยวกับพุทธศาสนา สามารถนาหลักธรรม คาส่งสอน ั � � � � ี ี � เป็นครู สามารถถ่ายทอดความรู้ และการใช้ชีวิตในเรือท่ด ี ไปใช้ในชีวิตประจาวัน อันจะนาไปสู่ความเป็นคนท่ม ี ท่สุดจานวน ๒ คนต่อลา เข้ารับรางวัลเป็น “ครูดีเด่นของ คุณธรรม จริยธรรมในตัวเองได้ � � ี ื ิ นรจ.” ในตอนเสร็จส้นการฝึกภาคทะเล เพ่อเป็นการ ็ สร้างขวัญกาลังใจ และสร้างความสัมพันธ์ท่ดีระหว่าง กำรสร้ำงเหลกในคนในกำรฝึกภำคทะเลหลกสตร ี ั ู � � ี กาลังพลประจาเรือและ นรจ. ผลจากการเปล่ยนแปลง นักเรียนนำยเรือ � ั ั แนวทางในการฝึกภาคทะเลคร้งน้น เม่อได้อ่านคู่มือ สาหรับการฝึกภาคทะเล (สร้างเหล็กในคน) ื � บันทึกฯ ฝึกภาคทะเลของ นรจ. หลังจากเสร็จสิ้นการฝึก นอกจากจะมีหลักสูตร นรจ. แล้ว ยังมีการฝึกภาคทะเล ภาคทะเลแล้ว พบว่า นรจ. มีความพึงพอใจ ภาคภูมิใจ ของหลักสูตร นนร. ด้วย โดยในหลักสูตร นนร. และเกิดความรู้สึกรักอาชีพทหารเรือ รวมท้งอยากปฏิบัต ิ จะมีการฝึกภาคทะเลในช่วงกลางปีการศึกษา ระยะเวลา ั งานในเรือเพิ่มมากขึ้น ส�าหรับที่ รร.ชุมพลฯ ยศ.ทร. ก็มี การฝึกประมาณ ๓๐ วัน และภาคปลายปีการศึกษา ระยะ ื � การคัดเลือกครูดีเด่นประจาปี โดยมีการมอบโล่เกียรติยศ เวลาการฝึกประมาณ ๔๕-๕๕ วัน เพ่อให้เห็นภาพการฝึก ึ ื ั ึ ี ่ ั และเงินรางวัลจาก “สมำคมศิษย์เก่ำชุมพลทหำรเรือ” ภาคทะเลทชัดเจนข้นจงได้ย้อนกลบไปอ่านหนงสอเก่า ี ที่มีคุณครู พลเรือเอก เทียนชัย มังกร นายกสมาคมฯ เล่มหน่งเม่อ ๓๐ กว่าปีท่แล้ว ก็คือ สมุดจดหมำยเหต ุ ื ึ ั ั ี ให้ความกรุณาสนับสนุนมาตั้งแต่ครั้งแรก ประจำตวนกเรยนนำยเรอ ท่ได้เขียนไว้ระหว่าง พ.ศ. ี ื � การสร้างเหล็กในคนอีกด้านหน่ง คือ การเรียนการสอน ๒๕๓๐ -๒๕๓๓ (ดูภาพท่ ๑๑ สมุดจดหมายเหตุประจาตัว ี � ึ วิชาภาษาอังกฤษให้กับ นรจ. โดยก�าหนดจุดมุ่งหมาย ๒ นักเรียนนายเรือ) จึงจะถ่ายทอดประสบการณ์จากในสมุด ี ึ อย่างคือ ท�าให้ นรจ. เมื่อจบการศึกษาหลักสูตร ๒ ปีแล้ว จดหมายเหตุเล่มน้เป็นหลัก ซ่งสมุดจดหมายเหตุน้ ข้อ ๑ ี ื ึ มีคะแนนสอบภาษาอังกฤษ (PT) สูงข้นกว่าตอนเข้ามา ควำมมุ่งหมำยส�ำคัญ เพ่อเป็นการปลูกฝัง ๑) ความสามารถ ื � � เป็น นรจ. และทาให้ นรจ. สามารถพูดหรือส่อสารภาษา ในการสังเกตและความจา ๒) ความสามารถในการแสดง อังกฤษเบ้องต้นได้ โดยกาหนดวิธีการสาหรับการทาให้ ความคิดเห็นและความรู้สึกลงเป็นลายลักษณ์อักษร ื � � � นาวิกศาสตร์ 43 ปีที่ ๑๐๕ เล่มที่ ๕ พฤษภาคม ๒๕๖๕

๓) นิสัยในความละเอียดและความเรียบร้อย ข้อ ๖ ข้อควำม กำรฝึกภำคสำธำรณะและกำรฝึกภำคทะเลนักเรียนนำย ี ี ี ท่จะกล่ำวต่อไปน้ เป็นปทัสถำนท่จะให้นักเรียนจดลง เรือชั้นปีที่ ๑ (ชั้นใหม่) ี ี � ่ ้ ี ี ื ้ ั สมุด คอ (ก) นักเรยนตองเขยนดวยตนเอง ใช้สานวนโวหาร ในสมุดหน้าแรกบันทึกไว้ว่า “วนท ๓๑ มนำคม ี ของตนเอง ตามเหตุการณ์เท่าท่ได้รู้เห็น หรือจากการ พ.ศ.๒๕๓๐ เป็นวันแรกของกำรฝึกภำคสำธำรณะและ ี ้ ี ิ พิเคราะห์วิจารณ์ในส่งท่เป็นประโยชน์ และน่าใฝ่ใจ รวมท้ง ฝกภำคทะเลของ นนร.ชนปท ๑ หรอชนใหมของ นนร. ั ื ้ ี ั ่ ึ ั ่ กิจการที่ส�าคัญ ๆ เท่าที่ได้ปฏิบัติในโรงเรียน,...บรรยาย รุ่นที่ ๘๔ (นักเรียนเตรียมทหำรรุ่นที่ ๒๗) โดยมีที่ตั้งที่ ี ถึงลักษณะภูมิประเทศท่ไป ตลอดจนอุปนิสัยใจคอ รร.นร. จว.สมุทรปรำกำร ก่อนหน้ำนั้น นนร.รุ่นที่ ๘๔ ของพลเมืองท่ตนได้พบเห็น อ่าว ท่าเรือ ท่จอดเรือ ป้อม... ได้เข้ำเรียนท่โรงเรียนเตรียมทหำร ถ.พระรำม ๔ ี ี ี ั ั ั (ข) พฤติการณ์อันน่าใฝ่ใจท้งมวล ข้อ ๗ กำรจัดน้น (สมัยน้นมักเรียกนักเรียนเตรียมทหำรว่ำ “สุภำพบุรุษ ี นักเรียนควรเขยนภำพประกอบไปด้วย... เป็นต้นว่า พระรำม ๔”) เป็นเวลำประมำณ ๑ ปี ได้ถูกส่งตัว (ก) แผนที่เส้นทางเดินเรือ (ข) แผนผังการจอดทอดสมอ (ขึ้นเหล่ำ) ที่ รร.นร. ตั้งแต่เมื่อวันที่ ๒๗ มีนำคม พ.ศ. ั ั (ค) รูปสเกตช์ของต�าบลที่ไป ของฝั่งทะเล ของหัวแหลม ๒๕๓๐ แล้ว” ท้งน้ภาพบางภาพของ รร.นร. สมัยก่อนน้น ี ี ี ี ของส่งหมายสาคัญในการเข้าอ่าว ..(ง) รูปการ์ตูนท่สุภาพ ไม่เหมือนกับ รร.นร. สมัยน้ท่มีการเปล่ยนแปลงไปมาก ี � ิ (มีรถไฟฟ้าว่งผ่านหน้าโรงเรียน) จึงขอเล่าสักนิดหน่อย ิ ้ ั ื ่ ี รร.นร. สมยกอนเหมอนกับตงอยทต่างจงหวัด (บ้านนอก) ู่ ่ ั ั แม้จะมีถนน ๔ เลน มีรถเมล์ปรับอากาศและรถเมล์ร้อน (จาได้ว่ามีสาย ๒๕ ปากน�า-ท่าช้าง) และรถสองแถว � ้ ิ ั สแดงวงผ่าน วธสงเกตถ้านงรถจากบางนาผ่านสาโรง ั � ี ่ ่ ี ิ ่ ี � ื ื ี ่ ่ เมอมาใกล้ รร.นร. มสถานทจะต้องจาเพอเตรยมตัว ี ลงรถเมล์คือ วัดบางนางเกรงอยู่ทางขวามือ พอสังเกต เห็นรั้วที่เป็นก�าแพงสีขาวขนาดใหญ่ (ก�าแพงป้อม) และ หลังคาตึกสีแดง นั่นก็คือที่หมาย รร.นร. ให้ลงรถเมล์ได้ สาหรับประตูเข้า-ออกด้านหน้าท่ติดกับถนนใหญ่มีเพียง � ี ื ประตูเดียว (ปัจจุบันมี ๒ ประตู) เม่อเข้าประตูแล้ว ก็ไปสักการะพระบรมราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จ ั พระจุลจอมเกล้าเจ้าอย่หว รัชกาลท ๕ พร้อมกับปฏิญาณ ี ่ ู ว่า “ข้ำพระพุทธเจ้ำ จะรักษำมรดกของพระองค์ท่ำน ี ไว้ด้วยชีวิต” ซ่งคาปฏิญาณน้ได้ปฏิญาณต้งแต่เป็นนักเรียน ึ � ั ี ี ์ ่ ี เตรยมทหารตอหนาพระบรมราชานสาวรย รัชกาลท่ ๕ (หน้า ้ ุ ภาพที่ ๑๑ สมุดจดหมายเหตุประจ�าตัวนักเรียนนายเรือ ตึก Y) ส่วนท่ด้านหลังของพระบรมราชานุสาวรีย์ รัชกาล ี ี ี ี โรงเรียนนายเรือ (รร.นร.) ได้แจกจ่ายสมุดจดหมายเหต ุ ท่ ๕ ท่ รร.นร.จะมีพระราชหตถเลขาท่อยู่ในสมุดเย่ยม ั ี ั ั ประจาตัว นนร. ให้กับ นนร. ทุกนายต้งแต่ช้นปีท่ ๑ โรงเรียนนายเรือ ความว่า “เมื่อวันที่ ๒๐ พฤศจิกำยน � ี และให้ใช้จนถึงชั้นปีที่ ๕ ส�าหรับผู้เขียนได้เริ่มเขียนสมุด รศ. ๑๒๕ เรำจุฬำลงกรณ์ ปร. ได้มำเปิดโรงเรียนนี้ มีควำม จดหมายเหตุตั้งแต่การฝึกภาคทะเลของ นนร.ชั้นปีที่ ๑ ปล้มใจ ซ่งได้เหนกำรทหำรเรือมีรำกหย่งลงแล้ว จะเป็น ั ื ึ ื � จนถึงชั้นปีที่ ๕ รวมทั้งหมด ๘ ภาค ที่มั่นสืบไปในภำยน่ำ” สาหรับป้ายช่อโรงเรียนปัจจุบันก ็ นาวิกศาสตร์ 44 ปีที่ ๑๐๕ เล่มที่ ๕ พฤษภาคม ๒๕๖๕

ั � ปรับปรุงใหม่แล้ว อาคารเรียน อาคารนอน สนามรักบ ้ ี ท้งปืน ๗๖/๕๐ มิลลิเมตร แบบ ๙๓ ใช้พลประจาปืน ๘ นาย � ฟุตบอล สนามฟุตบอล โรงพลศึกษา สระว่ายนายังคงอย ู่ ปืน ๔๐/๖๐ มิลลิเมตร ใช้พลประจาปืน ๕ นาย และ � ้ ี � แต่ก็มีการเปล่ยนแปลงไปตามยุคสมัย หอดาราศาสตร์ ปืนกล ๒๐ มิลลิเมตร เออริคอนแท่นเด่ยว ใช้พลประจาปืน ี ยังโดดเด่นเป็นสง่าอยู่เหมือนเดิม อนุสรณ์สถาน ๒ นาย โดยจะต้องท่องหน้าที่ประจ�าปืนต�าแหน่งต่าง ๆ � ี � เรือหลวงธนบุรี เม่อก่อนอยู่หน้าอาคารนอนตรง และหมุนเวียนทาหน้าท่ประจาปืนสลับกันไป วิชำกำรเรือ ื ่ ่ ่ ้ ิ ื ็ ั ู ู สนามรักบ้ด้านโรงอาหารได้ถูกย้ายมาอยู่ใกล้กับหอ ไดแก วชาเชือกเลกและเชอกใหญ เชน การผกกะ ผกหกคอ ี ั ดาราศาสตร์ สมัยก่อนในเวลากลางคืน นนร.ช้นปีท่ ๑ ผูกเจ็ก ผูกถังตั้ง ผูกตระกรุดเบ็ด เป็นต้น (ดูภาพที่ ๑๒ ี ื และ ๒ มักจะถูกรุ่นพ่ส่งให้เข้าไปในเรือแล้วไปหา ตัวอย่างเง่อนผูกเชือกของทหารเรือ) วิชาชักหย่อนเรือเล็ก ี ั ิ ี ่ ื ิ ู ี ั ้ ี ู ี ื ชอผ้เสยชวตทมรปภาพตดตงอยู่ในเรอ โดยบอกว่า ซึ่งมีค�าแปลกๆ เป็นศัพท์เฉพาะทหารเรือ เช่น หลักเดวิส ่ � ้ เป็นการฝึกขวัญกาลังใจ ที่หน้าโรงอาหารจะมีบ่อนาอยู่ บาระตูรอกตน บาระตูคอรอก และเฉาะ เป็นต้น แรก ๆ � ี � ๑ บ่อ สมัยน้น นนร.จะเรียกบ่อนาน้ว่า “บ่อเห้ย” ก็ไม่เข้าใจว่าคืออะไร แต่พอเรียนไปฝึกไปสักพัก ก็จะเข้าใจ ั ้ ี อาจจะเพราะมีตัวเงินตัวทองอาศัยอยู่ในบ่อด้วย นักกีฬา และปฏิบัติได้ถูกต้อง ี ั โดยเฉพาะนักรักบ้ถูกรุ่นพ่ส่งให้โดดลงบ่อเพ่อล้างตัวก่อน ื ี ้ � ี เข้าโรงอาหารเป็นประจา ปัจจุบันบ่อนาน้ก็ไม่มีแล้ว ใกล้กับ � อนุสรณ์สถานเรือหลวงธนบุรีจะมีสโมสรสัญญาบัตรเก่า ที่ นนร.ชั้นปีที่ ๒ ต้องไปเข้ายาม ตลอดเวลา ๒ ชั่วโมง ื � ่ ในเวลาคาคนจาได้ว่ามีแต่ความเงียบสงัด และมียุง ผูกเจ็ก � เยอะมาก (จะแอบหลับก็ไม่ได้) และจะมีช่วงเวลา ื รู้สึกดีใจมากเม่อได้ยินเสียงจักรยานของจ่ายาม ั ั ้ ี ี ี ่ (นนร.ช้นปีท่ ๓) หรือผู้ช่วยนายทหารยาม (นนร.ชนปท ๔) ี ั หรือนายทหารยาม (นนร.ช้นปีท่ ๕) มาตรวจท่สโมสร ี ิ มีส่งหน่งท่ผู้เขียนยังจาได้ไม่ลืมก็คือ มีรูปภาพขนาด ึ � ี ู ใหญ่ของเจ้าสมทร (โพไซดอน) อย่ในสโมสรด้วย ผูกถังตั้ง ุ ต่อมาเมื่อรื้อสโมสรแล้วก็หายไป เมื่อครั้งอยู่ รร.ชุมพลฯ ยศ.ทร. จึงได้เสนอให้ นาวาเอก วิฉนุ ถูปาอ่าง รองผู้บังคับการ รร.ชุมพลฯ ยศ.ทร. ขณะนั้นรับผิดชอบในการปรับปรุง สโมสรสัญญาบัตร (สโมสรเพชรเกล็ดแก้ว) ให้วาดภาพ เจ้าสมุทรไว้ที่ด้านในสโมสรด้วย ซึ่งเรื่องเจ้าสมุทรนี้จะได้ เล่าต่อไปในการฝึกภาคทะเลของ นนร. ในพิธีข้ามเส้น หักคอชั้นเดียว อิเควเตอร์หรือเส้นศูนย์สูตร การฝึกภาคทะเลตลอดระยะเวลา ๒๑ วัน มีการฝึก ี ต่าง ๆ (สร้างเหล็กในคน) ท่ให้ทั้งความรู้วิทยาการทหารเรือ ความเป็นชาวเรือ ความเป็นผู้ตาม และความเป็นผู้นา ผูกตระกรุดเบ็ดสองชั้น � ึ ซ่งจากสมุดจดหมายเหตุแทบไม่น่าเช่อว่าจะมีมากมาย ื ี � หลายอย่าง สามารถนามาเรียบเรียงใหม่ ดังน้ วิชำกำรอำวุธ ภาพที่ ๑๒ ตัวอย่างเงื่อนผูกเชือกของทหารเรือ นาวิกศาสตร์ 45 ปีที่ ๑๐๕ เล่มที่ ๕ พฤษภาคม ๒๕๖๕

ภาพที่ ๑๓ ดิ่งทรายและดิ่งน�้าตื้น

วิชำนกหวีดเรือ วิชำกำรถือท้ำยเรือใหญ่ วิชำกำร วิชำขนบธรรมเนียมประเพณีทหำรเรือ เช่น กำรท�ำ ั ปฏิบัติตัวในเรือใหญ่ วิชำธงสองมือ (ท้งไทยและสำกล) ควำมเคำรพท้ำยเรือ เป็นประเพณีสืบมาจากสมัยโรมัน ื ึ ้ ั ั ี วิชำร้อยรอก (ใช้เชือกร้อยรอก) ซ่งรอกในเรือมีทั้งหมด ในสมยนนดาดฟ้าท้ายเรอมักจะสร้างห้องอย่างประณต � ๕ ชนิด ได้แก่ รอกธรรมดา รอกตีน (ช่อแปลกอีกละ) สวยงาม สาหรับประดิษฐานรูปปั้นจาลองของเทวรูป � ื ิ รอกกล รอกบุเลย์ และรอกแม่เหล็ก วิชำดิ่งทรำย ใช้ดิ่ง ศักด์สิทธ์ จัดเป็นห้องผู้บังคับการเรือ และท่อยู่ของ ิ ี ี � ึ ผูกติดกับปลายเชือกแล้วเหว่ยงข้นจากเรือไปบนฝั่งขณะท ่ ี นายทหารประจาเรือ จึงถือว่าเป็นตอนท่สาคัญ และได้รับ � ี ี ึ � ิ ื ้ � ิ เรือจะเทียบท่า วิชำดงนำต้น (ดูภาพท่ ๑๓ ด่งทรายและ เกียรติสูงสุดของเรือ เม่อผู้ใดข้นมาบนเรือจะต้องทาความ ่ ื � ้ ดิ่งน�้าตื้น) ใช้สาหรับวัดความลึกนาสาหรับนาเรือเข้า เคารพท้ายเรือก่อนเสมอ ปัจจุบันนี้ขณะเรือจอดให้ชักธง � � � ่ ี ึ ทอดสมอ แม้ว่าปัจจุบันจะมีเคร่องหย่งนาอิเล็กทรอนิกส์ ราชนาวขนทเสาทายเรอ (เวลาเรอเดนชกธงราชนาวทกาฟ ้ ิ ื ื ั � ๊ ้ ื ั ่ ี ้ ี ี แต่ด่งนาต้นก็ยังใช้อยู่ในเรือรบ วิชำกำรสมอเรือ ท้งแบบ ของเสากลางลา) ส่วนส่งศักด์สิทธ์น้นทหารเรือไทยได้ใช้ ิ ั ิ ้ � � ิ ื ั ิ มีกะสมอ และไม่มีกะสมอ และเครื่องประกอบในการ พระพุทธรูปแทน การทาความเคารพท้ายเรือจึงถือว่าให้ � ื ิ ี ท้งสมอ เช่น โซ่สมอ สเกล กุญแจกล ปากจับ เคร่องห้าม ความเคารพแก่สถานท่ และธงราชนาวีด้วย กำรถำมตอบใน ่ โซกว้าน และทุ่นสมอ เป็นต้น เวลำกลำงคืน ใช้การตะโกนถามด้วยคาว่า “โบ๊ต...อะฮอย” � นาวิกศาสตร์ 46 ปีที่ ๑๐๕ เล่มที่ ๕ พฤษภาคม ๒๕๖๕

� � ส่วนการขานตอบมีหลายคาตอบ เช่น “อำย อำย หมายถึง เตรียมเอาไว้ให้ตอนสร้างเรือสาหรับชาวเรือทุกคน กำรแต่ง ื มีนำยทหำรสัญญำบัตรมำกับเรือเล็ก” “โน โน หมายถึง เคร่องแบบทหำรเรือ ผ้าผูกคอดาชุดกะลาสี ในสมัย � ไม่มีนำยทหำรสัญญำบัตรมำกับเรือเล็ก” ถ้าตอบว่า โบราณกะลาสีเรือนิยมใช้ผ้าเช็ดหน้าผูกคอสาหรับเช็ด � “อ่ำงทอง หมายถึง ผู้บังคับกำรเรือหลวงอ่ำงทองมำกับ เหงื่อไคล ต่อมาจึงดัดแปลงเป็นผ้าผูกคอด�าผูกเป็นเงื่อน เรือเล็ก” เป็นต้น กำรใช้นกหวีดเรือ ส�าหรับนายทหาร ให้เรียบร้อย และเมื่อ ลอร์ด เนลสัน แม่ทัพเรืออังกฤษ สัญญาบัตรข้นเรือและลงเรือ หรือกำรตระฆงบอกเวลำ ผู้มีชื่อเสียงถึงแก่กรรม ในยุทธนาวีที่ทราฟัลกา เมื่อ ค.ศ. ั ี ึ ั � เป็นคู่ (ไม่เกิน ๔ คู่ หรือ ๘ ครั้ง) ถ้าเกิน ๘ ครั้ง สมัยนั้น ๑๘๐๕ ราชนาวีอังกฤษได้รับคาส่งให้ใช้ผ้าผูกคอสีดา � ได้เล่าต่อกันมาว่าจะถูกผีเส้อสมุทรจับเอาไปกินหรือ เป็นเคร่องหมายแสดงการไว้ทุกข์ และใช้เร่อยมาจนกลาย ื ื ื ทาสามี หรือเล่าว่าทุกปีจะต้องส่งมนุษย์ไปสังเวยแก่ เป็นประเพณีของทหารเรือท่วโลก และปรับเป็นการใช้ � ั ั ึ มังกรไฟซ่งเป็นเจ้าทะเลอยู่ในขณะน้น โดยมังกรไฟจะ ผ้าพันคอ (Scarf) หรือเนคไท (Tie) ด�าไปด้วย และยังมี ึ ื � ี ื ข้นมาเลือกคนเอาเอง เม่อถึงกาหนดเจ้าเมืองจะจัดเรือส่ง เร่องเก่ยวกับขนบธรรมเนียมประเพณีทหารเรือท่น่า ี ื ไปหนึ่งล�า เมื่อเรือไปถึงบริเวณถ�้ามังกรไฟ ได้ท�าพิธีเชิญ สนใจอีกหลายเร่องสามารถหาอ่านได้ท่วไป วิชำกำร ั มังกรไฟข้นมา มังกรไฟได้เลือกเอาตัวนายเรือลาน้น ปฐมพยำบำลและกำรช่วยชีวิต ในสมุดจดหมายเหต ุ ึ � ั ื ่ ั ุ ั ่ ื ั ี ี ิ ี ื นายเรือจึงขอผลัดไว้ว่าจะยอมให้กินเม่อตีระฆัง ๙ คร้ง บนทกไว้ว่า ห่นทใช้ฝึกปั๊มหวใจเพอช่วยชวตมชอว่า ึ ่ มังกรไฟก็ยอม และลงไปคอยอยู่ในถ�้าใต้บาดาล นายเรือ “Anny” ปัจจุบันไม่รู้ว่า Anny จะยังอยู่หรือเปล่าหรือ ผ้น้นจึงคิดเปลยนการตระฆังเรอมาตอย่างมาก ๘ ครง ว่าเกษียณไปแล้ว? กำรชักสลุตธง เป็นการแสดงความ ั ู ื ี ี ี ั ่ ้ ้ ั ่ ี ้ ้ ึ ั ั ตงแต่นันมามงกรไฟจงต้องนอนคอยจนกระทงบัดน แต่ เคารพของเรือสินค้าต่อเรือรบ กำรท�ำควำมเคำรพ ั ปัจจุบันถ้าตีเกิน ๔ คู่ ๘ คร้งก็จะถูกลงโทษแทนถูก ระหว่ำงเรือรบกับเรือรบ โดยเรือช้น ๑ จะใช้แตรเป่า ั ิ ื ื มงกรไฟกน พิธีบูชำแม่ย่ำนำงเรือ กระทาเมอเรอจะออก แสดงความเคารพ ส่วนเรือช้น ๒ และช้น ๓ จะใช้ ่ ั ั ั � ี ั ื ึ ทะเลวันแรก ซ่งปกติจะต้งเคร่องเซ่นไหว้ท่สะพาน นกหวีดเรือเป่าแสดงความเคารพ กำรทดสอบสมรรถภำพ เดินเรือ หัวเรือ ท้ายเรือ และห้องเคร่องจักรใหญ่ วิธีซ่อน ร่ำงกำย ได้แก่ การวัดส่วนสูงและนาหนัก การว่ง ิ ้ � ื ั ี ทรัพย์ในเรือ สมยกรกโบราณมประเพณชาวเรอเล่าต่อ ทดสอบในระยะ ๑๐๐ เมตร และ ๔๐๐ เมตร ในสมุด ี ื ี � ึ กันมาว่า เวลาสร้างเรือใหม่ข้นมาจะฝังเงินเหรียญไว้ใต้ จดหมายเหตุบันทึกไว้ว่า “ระยะ ๑๐๐ เมตร ทาเวลา เสากระโดงเรือโดยเอาทาง “หัว” ขึ้น ถ้าไม่เช่นนั้นแล้ว ได้ ๑๓.๖ วินาที และระยะ ๔๐๐ เมตร ท�าเวลาได้ ๖๔ � จะประสบความลาบากในภายหลัง เน่องจากในสมัยน้น วินาที การวิ่งทน ๑๐ กิโลเมตร การวิ่งขึ้นเขากระโจมไฟ ื ั ื ี ื ื ั เช่อกันว่าคนเราเม่อตายไปแล้วจะต้องน่งเรือจ้างข้าม แหลมปู่เจ้าเพ่อสักการะเสด็จเต่ยและร้องเพลงถวายการ ี ่ ื ้ ู � ิ แม่นา Styx ไปส่ดนแดนแห่งความตาย มคนแจวเรอ วายนาขามเกาะ (จากทาเรือแหลมเทียนไปเกาะพระ) การไต ่ ่ ้ � ้ ี ชื่อ “Charon” ใครข้ามก็ต้องเสียค่าโดยสาร ถ้าใคร เกาะรอบเกาะพระ การฝึกกระเชียงทนท่ รร.ชุมพลฯ ยศ.ทร. ี ั ไม่มีค่าโดยสารก็คงจะอดข้าม ท้งน้หากเป็นการตายบนบก กำรดูงำนหน่วยงำนในกองทัพเรือ ได้แก่ อู่ทหำรเรือ ี ึ ่ ้ ั ่ ั ่ ั คงไม่ยุ่งยากอะไรมากนัก เพราะมีเวลาและญาติพ่น้อง พระจุลจอมเกล้ำ ซงไดบนทกวา “วนองคารท ๗ เมษายน ึ ี ท่สามารถจะออกให้แทนด้วยวิธีใดวิธีหน่ง เช่น เอาเงิน พ.ศ. ๒๕๓๐...เดิมอู่ซ่อมเรือแห่งแรกของกองทัพเรือ ึ ี ึ ใส่ปาก แต่สาหรับชาวเรือหากต้องตายในทะเล ได้ก่อสร้างข้นในกรุงเทพฯ ณ บริเวณวัดระฆังกับปาก � � ี ื มีความลาบากเพราะญาติพ่น้องอาจไม่รู้ เม่อไม่มีเงิน คลองมอญ มีพื้นที่ ๔๐ ไร่ จนถึงปัจจุบันเกือบร้อยปีแล้ว ใส่ปากอาจต้องน่งคอยเรือจ้างเป็นเวลานานหลายวัน และได้พัฒนาเรอยมาจนมาต้งท ตาบลแหลมฟ้าผ่าน ี ้ ่ ี ั ื ่ � ั ้ ื ่ ี ี หลายเดือนหรือหลายปี จึงมีประเพณีฝังเงินเหรียญ มเนอทประมาณ ๔๐๐ ไร่ ห่างจาก กรงเทพมหานคร ุ นาวิกศาสตร์ 47 ปีที่ ๑๐๕ เล่มที่ ๕ พฤษภาคม ๒๕๖๕

� ้ ื ๓๐ กิโลเมตร เริ่มก่อสร้างเมื่อ พ.ศ. ๒๕๑๗ แล้วเสร็จ ต่อเป้าพ้นนา (หินฉลาม) และเป้าอากาศยาน (ร่มชูชีพ ื ื เม่อ พ.ศ. ๒๕๒๔ งบประมาณค่าก่อสร้างประมาณ ปัจจุบันเป็นเป้าเคร่องบินบังคับ) การฝึกยิงปืน ๒๐ ๕,๐๐๐ ล้านบาท พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและ มิลลิเมตร เออริคอน และปืน ๔๐/๗๐ มิลลิเมตร เป็นต้น สมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ รวมท้งสมเด็จ ส�าหรับต�ำแหน่งของทหำรเรือที่ปฏิบัติงำนในเรือ เช่น ั เจ้าฟ้าจุฬาภรณ์วลัยลักษณ์ ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ผู้บังคับการเรือ (ผบ.เรือ) ต้นเรือ (ตร.) ต้นกลเรือ (ตก.เรือ) � ี เสด็จพระราชดาเนินเปิดอู่แห่งใหม่น้ ในวันพฤหัสบดีท ่ ี ต้นปืน (ตป.) ต้นหน (ตห.) สรั่งกล (สก.) สรั่งเรือ (สร.) ๗ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๒๔ และทรงพระราชทานนาม ต้นเด่น และจุมโพ่ เป็นต้น การเรียนวิชำเดินเรือเบื้องต้น ี อู่แห่งนี้ว่า “อู่ทหารเรือพระจุลจอมเกล้า” และได้ยึดถือ เช่น การใช้แผนท่เดินเรือ การขีดเข็ม การเรียนและการฝึก ี วันน้เป็นวันสถาปนาอู่ทหารเรือพระจุลจอมเกล้าจนถึง เกี่ยวกับกำรช่ำงกล (พรรคกลิน) เช่น เครื่องจักรในเรือ � ี ปัจจุบัน” จากนั้นไปรับประทานอาหารที่กรมพลำธิกำร การป้องกันความเสียหาย (ปคส.) ท่ทาให้รู้จักไฟประเภท ทหำรเรือ ซึ่งมีภารกิจ อ�านวยการ ประสานงาน แนะน�า ต่าง ๆ ได้แก่ ไฟประเภท ก. (วัตถุของแข็ง เช่น ไม้ กระดาษ กากับการ และดาเนินการในเร่องการส่งกาลังบารุง เป็นต้น) ประเภท ข. (ของเหลวที่มีไอระเหย เช่น น�้ามัน � � � � ื ั สายพลาธิการ รวมท้งการวิจัยและพัฒนาการพัสดุสาย จาระบี) และประเภท ค. (เคร่องมือ อุปกรณ์ไฟฟ้า) วิธีการดับ ื ั ั พลาธิการ การบริการและการจัดเลี้ยง ตลอดจนการฝึก โดยใช้ CO2 (ฟองดบไฟทางกล) ดบไฟประเภท ก. ี � และศึกษาของทหารเหล่าพลาธิการ การดูงานแห่งท่สาม ได้รู้จัก OBA (ใช้สาหรับสวมท่ใบหน้าป้องกันก๊าซพิษ ี ี คือ กรมอุทกศำสตร์ทหำรเรือ ทาให้ได้รับความรู้เก่ยวกับ เมื่อเข้าดับไฟ) เป็นครั้งแรก การปิด-เปิดประตูในเรือที่มี � การเขียนแผนที่ (แผนที่เดินเรือ) หนังสือการเดินเรือ เช่น เครื่องหมายก�ากับ (X Y Z) ให้เป็นไปตามสถานการณ์ ประกาศชาวเรือ เก่ยวกับนาฬิกา โดยเฉพาะการเทียบเวลา การเข้ายามเครองสงจกรหรอเทเลกร๊าฟ เป็นเครอง ี ั ่ ื ั ื ่ ่ ื � ั ่ ี ๐๘๐๐ เป็นประจาทุกวันของประเทศไทยให้ได้มาตรฐาน กาหนดให้เรือเดินหน้าหรือถอยหลัง ติดตงไว้ทสะพาน ้ � ื ็ � เหมือนกับการเทียบเวลาท่เมืองกรีนิช ประเทศอังกฤษ เดนเรอ และกาหนดความเรวเรอ (รอบเครองจกรใหญ่) ิ ื ่ ี ื ั ้ � ื และเครื่องจักรท�านายน�้า ที่ใช้ท�านายน�้าขึ้น น�้าลง สูงสุด มีการวัดส่วนสูงและนาหนัก เพ่อบันทึกไว้เป็นข้อมูลว่า ตาสุด เป็นต้น กำรฝึกในเรือ โดย นนร. จะแบ่งเป็น จาก นนร.ชั้นปีที่ ๑ ถึงชั้นปีที่ ๕ จะมีการเปลี่ยนแปลง � ่ ๒ กราบ (กราบขวาและกราบซ้าย) ๓ ภาค (ภาคหัว อย่างไรบ้าง มีการวิ่งทดสอบในระยะ ๑๐๐ เมตร ในสมุด ภาคกลาง และภาคท้าย) และ ๘ ตอน (กราบขวา แบ่งเป็น บันไว้ว่าท�าเวลาได้ ๑๓.๖ วินาที วิ่ง ๔๐๐ เมตร ท�าเวลา ั ตอน ๑ ตอน ๓ ตอน ๕ และตอน ๗ และกราบซ้าย ได้ ๖๔ วินาที จากน้นก็เรียนวิชำชีพทหำรเรือ ได้แก่ วิชา ั ้ ่ ี ึ แบ่งเป็น ตอน ๒ ตอน ๔ ตอน ๖ และตอน ๘) ซึ่งผู้เขียน ธงประมวล ทงประมวลสากลและประมวลราชนาว ซงทง ั ้ � ได้อยู่ตอน ๓ กราบขวา สาหรับกำรฝึกประจ�ำสถำน ี สองธงประมวลจะมีความหมายต่างกัน เช่น ในประมวล ต่าง ๆ เช่น การฝึกประจ�าสถานีออกเรือ (เทียบ ออกจาก ราชนาวี ธงอักษร ก หรือ G หมายถึง เรือลาน้เป็นเรือหลัก ี � เทียบ (เรือเทียบท่า) และออกจากจอด (เรือทอดสมอ) ในประมวลสากล ธงอักษร G หมายถึง ข้าพเจ้าต้องการ � � ้ � การฝึกประจาสถานีเดินเรือในร่องนา การฝึกประจา นาร่อง วิชาธงสองมือสากล และธงสองมือไทย วิชาโคมไฟ � สถานีเรือเดิน (ในทะเล) การฝึกประจ�าสถานีรบ การฝึก ไทย และโคมไฟสากล ้ � � ประจาสถานีช่วยคนตกนา การฝึกประจาสถานีรับ-ส่ง “วันท่ ๗ เมษายน พ.ศ. ๒๕๓๐ พิเศษกว่าทุกวัน เพราะ � ี ิ ส่งของในทะเล การฝึกประจาสถานีพ่วงจูง เป็นต้น กำรฝึก มีเรือหลวงอ่างทอง (การฝึกคร้งน้มีลาเดียว) ได้มาเทียบท่า � ั ี � ี ยิงอำวุธ ได้แก่ การยิงปืนพก ๐.๔๕ น้ว (ยิงทุกคน) การฝึก ท่ รร.นร. และวันท่ ๘ เมษายน พ.ศ. ๒๕๓๐ เวลาประมาณ ี ิ ยงปืนหลอด ๘ มลลเมตร การฝึกยงปืนประจาเรอ ๐๗๐๐ พวกเรา นนร.ชั้นปีที่ ๑ จ�านวน ๑๔๘ นาย ก็เริ่ม ื � ิ ิ ิ ิ นาวิกศาสตร์ 48 ปีที่ ๑๐๕ เล่มที่ ๕ พฤษภาคม ๒๕๖๕