ระเบ ยบ ก.ตร ว าด วยผ ม อ านาจส งบรรจ

เผยแพร่: 29 มิ.ย. 2560 19:21 ปรับปรุง: 29 มิ.ย. 2560 19:58 โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม

MGR Online - ที่ประชุม ก.ตร. นัดถกเก้าอี้ บช.ภ.9 และตั้ง บช.ทท. พรุ่งนี้ ควบรวมสิ้นปีงบประมาณ 2560 จะมีข้าราชการตำรวจระดับชั้นยศ พล.ต.อ. ในตำแหน่งรอง ผบ.ตร. และเทียบเท่า เกษียณอายุ 4 ราย

วันนี้ (29 มิ.ย.) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) มีรายงานว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะประธานคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) นัดประชุม ก.ตร. ครั้งที่ 6/2560 เวลา 10.00 น. วันที่ 30 มิ.ย. โดยมีวาระน่าสนใจ อาทิ การจัดสรรอัตราว่างจากผลการเกษียณอายุราชการของข้าราชการตำรวจ สิ้นปีงบประมาณ 2560 กำหนดตำแหน่งข้าราชการตำรวจเพื่อรองรับโครงสร้างการแบ่งส่วนราชการ กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 (บช.ภ.9) ใหม่ การกำหนดตำแหน่งเพื่อรองรับการจัดตั้งกองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยว (บช.ทท.) ภายหลังสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เสนอคณะรัฐมนตรี อนุมัติหลักการร่าง พ.ร.ฎ. แบ่งส่วนราชการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ฉบับที่…) พ.ศ. … และร่างกฎกระทรวงแบ่งส่วนราชการเป็นกองบังคับการ หรือส่วนราชการอย่างอื่นในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ฉบับที่…) พ.ศ. ... มีการเสนอยุบศูนย์ปฏิบัติการตำรวจจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศชต.) ควบรวมกับ บช.ภ.9 และตั้ง บช.ทท. และหารือประเด็นปัญหาข้อกฎหมายเกี่ยวกับการสั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อน

สำหรับการกำหนดตำแหน่งใน บช.ภ.9 และ บช.ทท. นั้น สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ใช้วิธีการวิเคราะห์ตำแหน่งโดยใช้วิธีตัดโอนตำแหน่งจากหน่วยที่ยุบเลิกไป โดยในตำแหน่งระดับสารวัตรขึ้นไปไม่มีการเพิ่มอัตราใหม่ ในส่วนของตำแหน่ง ผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยว ตัดโอนมาจากตำแหน่ง ผู้บัญชาการศูนย์ปฏิบัติการตำรวจจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ผบช.ศชต.) ที่ยุบหน่วย โดยใน บช.ทท. จะมีตำแหน่ง ผู้บังคับการ 4 ตำแหน่ง คือ ผบก.อก.ทท. และ ผบก.ทท.1 - 3 ซึ่งเป็นตำแหน่งที่ตัดโอนมาทั้งสิ้น ซึ่งในที่ประชุม ก.ตร. จะพิจารณา ว่า การกำหนดตำแหน่งใหม่ ชั้นนายพล โดยใช้วิธีการตัดโอนนั้นจะต้องให้คณะกรรมการนโยบายตำรวจแห่งชาติ (ก.ต.ช.) เห็นชอบด้วยหรือไม่ โดยใน ก.ตร. ครั้งนี้ยังไม่มีวาระการพิจารณาตัวบุคคลเพื่อดำรงตำแหน่ง

ขณะที่มีรายงานว่า ในสิ้นปีงบประมาณ 2560 มีข้าราชการตำรวจระดับชั้นยศ พล.ต.ต. เกษียณอายุราชการ 76 ราย โดยชั้นยศ พล.ต.อ. ในตำแหน่ง รอง ผบ.ตร. และเทียบเท่า เกษียณอายุ 4 ราย ประกอบด้วย พล.ต.อ.เดชา ชวยบุญชุม ที่ปรึกษา (สบ10) พล.ต.อ.ปัญญา มาเม่น จเรตำรวจแห่งชาติ พล.ต.อ.วินัย ทองสอง รอง ผบ.ตร. และ พล.ต.อ.สุเทพ เดชรักษา รอง ผบ.ตร. ชั้นยศ พล.ต.ท. ตำแหน่งระดับผู้ช่วย ผบ.ตร. 2 ราย ประกอบด้วย พล.ต.ท.ธีระศักดิ์ กลิ่นพงษา พล.ต.ท.ไพศาล เชื้่อรอด ผู้ช่วย ผบ.ตร. ตำแหน่งระดับผู้บัญชาการ (ผบช.) เกษียณ 5 ราย ประกอบด้วย พล.ต.ท.จตุพล ปานรักษา ผบช.ภ.4 พล.ต.ท.เทพ อมรโสภิต ผบช.ตชด. พล.ต.ท.เทศา ศิริวาโท ผบช.ภ.8 พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร ผบช.น. พล.ต.ท.สัญชัย ไชยอำพร จเรตำรวจ (สบ8)

มีรายงานว่า ในช่วงต้นเดือนกรกฎาคม พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. จะเสนอ ก.ตร. แต่งตั้งข้าราชการตำรวจชั้นนายพล ตามการปรับเปลี่ยนโครงสร้างตำแหน่งชั้นนายพลของสำนักงานตำรวจแห่งชาติใหม่ ให้มีผลในวันที่ 31 ก.ค. โดยเป็นตามกฎ ก.ตร. ว่าด้วยการแต่งตั้งข้าราชการตำรวจ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2560 โดยจะแต่งตั้งจากผู้มีคุณสมบัติครบถ้วน และผู้ที่จะเกษียณอายุราชการในสิ้นปีงบประมาณ 2560 ซึ่งในตำแหน่ง ที่ปรึกษาพิเศษ ตร. ชั้นยศ พล.ต.อ. 10 ตำแหน่งนั้น คาดว่า จะแต่งตั้งผู้ช่วย ผบ.ตร. ที่จะเกษียณขึ้นติดยศ พล.ต.อ. ก่อนเกษียณ 2 ราย คือ พล.ต.ท.ธีระศักดิ์ และพล.ต.ท.ไพศาล

ขณะที่ตำแหน่งผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษ ตร. ชั้นยศ พล.ต.ท. เทียบเท่าผู้บัญชาการ จำนวน 20 ตำแหน่ง คาดว่า จะแต่งตั้งจาก รอง ผบช. ที่จะเกษียณ ในสิ้นปี 2560 ขึ้นติดยศ พล.ต.ท.ก่อน เกษียณ เบื้องต้นประมาณ 15 ราย อาทิ พล.ต.ต. ศุภกิจ ศรีจันทรนนท์ รอง ผบช.ปส. พล.ต.ต.อดุลย์ ณรงค์ศักดิ์ รองผบช.น. พล.ต.ต.พิชัย เจียมบุรเศรษฐ์ รอง ผบช.ภ.6 พล.ต.ต.ชนาภัทร เชยสมบัติ รอง ผบช.ภ.7 พล.ต.ต.ชวลิต ชาญเวชช์ รอง ผบช.ภ.6 พล.ต.ต.รณพงษ์ ทรายแก้ว รอง ผบช.กมค. พล.ต.ต.รัษฎากร ยิ่งยง รอง ผบช.สพฐ.ตร. พล.ต.ต.สุวรรณ เอกโพธิ์ รอง จตร. พล.ต.ต.ชาติชาย แตงเอี่ยม รอง ผบช.ภ.3 พล.ต.ต.ชลิต ปรีชาหาญ รอง ผบช.ก. พล.ต.ต.มณฑล เงินวัฒนะ รอง ผบช.ศชต. พล.ต.ต.บุญยศ บุญไพศาล รอง ผบช.สทส. พล.ต.ต.วัลลภ ประทุมเมือง รอง ผบช.สกพ. พล.ต.ต.วราวุธ ทวีชัยการ รอง ผบช.ภ.1 และ พล.ต.ต.ลือชัย สุดยอด รอง ผบช.ภ.3

ส่วนตำแหน่งผู้ทรงคุณวุฒิ ตร. ชั้นยศ พล.ต.ต. เทียบเท่าผู้บังคับการ 30 ตำแหน่ง เบื้องต้นคาดว่า จะมีการแต่งตั้งรอง ผบก. จะเกษียณ ได้ติดยศ พล.ต.ต. ก่อนเกษียณ ประมาณ 25 ราย อาทิ พ.ต.อ.อนุสรณ์ งามชื่น รอง ผบก.ภ.จว.ชุมพร พ.ต.อ.ชัยธวัช ศิริ รอง ผบก.ภ.จว.กำแพงเพชร พ.ต.อ.กิตติคุณ พูลสมบัติ รอง ผบก.น.2 เป็นต้น

ผบ.ตร.ปัดแก้ร่าง ก.ตร.เอื้อ “โจ๊ก หวานเจี๊ยบ” ขึ้น ผบก.

เผยแพร่: 4 ม.ค. 2559 14:47 ปรับปรุง: 4 ม.ค. 2559 22:05 โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม

MGR Online - ผบ.ตร.ชี้แจงแก้ร่างกฎ ก.ตร.ว่าด้วยการแต่งตั้งฯ เพื่อแก้ปัญหาแต่งตั้งโยกย้ายรอง ผบก.-สารวัตร ปัดเอื้อ “โจ๊ก หวานเจี๊ยบ” จ่อเปิดตำแหน่ง ผบช.ประจำ- ผบก.ประจำ เลียนแบบทหาร ไม่เห็นด้วยแนวคิดแยกพนักงานสอบสวนออกจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ

วันนี้ (4 ม.ค.) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) กล่าวถึงความคืบหน้าการแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการตำรวจระดับรองผู้บังคับการ (รอง ผบก.) ถึงวสารวัตร (สว.) วาระประจำปี 2558 ว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการดำเนินการร่างกฎ ก.ตร.ว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการตำรวจฉบับใหม่ รองรับตามคำสั่ง คสช.ที่ 44/2558 ซึ่งตนได้่สั่งการให้ พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ รอง ผบ.ตร. เป็นประะธานคณะทำงานเรื่องนี้ ยืนยันว่าตำรวจพร้อมดำเนินการตามนโยบายของ คสช.อย่างเต็มที่ สำหรับเหตุผลที่ต้องมีการแก้ไขกฎ ก.ตร.เพื่อแก้ปัญหาการขึ้นในหน่วย และการขึ้นข้ามหน่วย เนื่องจากที่ผ่านมาต้องมีการเยียวยาแก้ปัญหากันโดยตลอด เพราะมีการฟ้องร้องกัน ทั้งนี้ ยืนยันว่าการแก้ไขกฎ ก.ตร.เพื่อแก้ปัญหา ไม่ใช่สร้างปัญหา แต่ยอมรับว่ากติกาบางครั้งก็มีบวกมีลบ

พล.ต.อ.จักรทิพย์กล่าวต่อไปว่า จากปัญหาที่กำลังพลของตำรวจมีจำนวนมาก โดยเฉพาะระดับรอง ผบก.และรอง ผบช. ตรงนี้ตนได้นำเสนอในหลักการต่อ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ว่า อยากจะใช้แบบหน่วยทหารที่มีตำแหน่ง พล.ต., พล.อ.ประจำ มีที่ปรึกษาพิเศษ เพื่อระบายคนไปทางนั้น อาจจะกำหนดชื่อตำแหน่ง อย่างไรก็แล้วแต่คณะทำงานของ พล.ต.อ.พงศพัศจะกำหนดขึ้นมา เพราะบางคนรับราชการมานานแต่กลับเกษียณแค่รอง ผบก. ทั้งที่ควรจะเกษียณที่ ผบก.ประจำ ขณะที่ระดับรอง ผบช.ควรเกษียณที่ ผบช.ประจำ ตรงนี้เป็นการดำเนินการเพื่อแก้ปัญหาให้กำลังพลกลุ่มนี้ได้รับพระราชทานยศก่อนเกษียณ ไม่มีอะไรแอบแฝงอย่างที่มีการวิพากษ์วิจารณ์กัน

“ที่ผมสดับรับฟังมามีการอ้างว่าร่างกฎ ก.ตร.นี้เขียนเอื้อคนรอบข้างผู้มีอำนาจ ซึ่งผมเอ่ยชื่อเลยก็ได้ คือ พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้บังคับการตำรวจท่องเที่ยว (ผบก.ทท.) อยากถามว่าอีก 10 ปีข้างหน้าเขาอาจจะไม่ได้เป็นใหญ่เป็นโตก็ได้ ของแบบนี้ขึ้นอยู่กับวาสนา คนเป็น พล.ต.ต.ก่อนใช่ว่าจะได้เป็น พล.ต.อ.ก่อน มันต้องมีองค์ประกอบหลายๆ อย่าง มีอีกตั้งหลายคน อย่าง พล.ต.ต.อาทิชา เปาอิน นายเวร พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว อดีต ผบ.ตร. อายุเท่าไหร่ นายพลหนุ่มๆ มีอีกตั้งหลายคนทำไมไม่พูดถึงกัน ไปเจาะจงเฉพาะบุคคล ตัวคนซึ่งอยู่ใกล้ชิดผู้มีอำนาจ ของแบบนี้แล้วต่อบุญวาสนา พล.ต.ต.สุรเชษฐ์อาจจะถูกตั้งกรรมการสอบสวนก่อนก็ได้ ตัวอย่างก็มีให้เห็นมากมายในยุคที่ผ่านมา” ผบ.ตร.ระบุ

พล.ต.อ.จักรทิพยย์กล่าวว่า ยืนยันการแก้กฎ ก.ตร.เป็นการแก้ปัญหาการแต่งตั้งโยกย้าย อย่าง บช.ภ.1 มีคนรอขึ้น เมื่อครบขึ้นไม่ได้ขึ้นก็ไปฟ้องศาล เพราะกฎระบุว่าห้ามขึ้นข้ามหน่วย ตรงนี้ก็ต้องมีการเยียวยาอีก อย่าง บช.น.มีตำแหน่งว่าง 10 ตำแหน่ง มีคนรอขึ้น 30-40 นาย แต่ บช.ภ.3 และ บช.ภ.4 พื้นที่ใหญ่มีตำแหน่งว่าง 80-90 ตำแหน่ง แต่มีคนครบขึ้นเพียงแค่ 20 ตำแหน่ง อย่างนี้จะทำอย่างไร เพราะกฎระบุว่าห้ามขึ้นข้ามหน่วย จึงต้องมีการแก้ไขกฎ.กตร.ในส่วนนี้ ส่วนกรณีจำนวนปีที่มีการบวกเพิ่มอีก 1 ปี นึ้น ตนเห็นว่าที่ผ่านมาก็มีการบวกลบทุกปีอยู่แล้ว ยุคนี้รัฐบาลนี้อาจจะบวก 1 ปี คราวหน้ารัฐบาลใหม่เข้ามาอาจจะลบก็ได้ แต่ครั้งนี้มีทั้งบวกทั้งลบ อย่างระดับบนลดจำนวนปีลงซึ่งอาจจะไปเร็วในช่วงหลัง คนรุ่นหลังอาจจะได้เปรียบด้วยซ้ำ แต่ไปมองว่าวันนี้ตนเองถึงคิวแล้ว แต่ไปบวกหนึ่งจึงไม่อยู่ในตะกร้า ทั้งนี้ตนมองว่าคนที่ถึงคิวแล้ว แม้หากไม่มีการบวกจำนวนปี ก็อาจไม่ได้รับการแต่งตั้งก็ได้

พล.ต.อ.จักรทิพย์กล่าวถึงแนวคิดแยกพนักงานสอบสวนออกจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ว่าโดยส่วนตัวไม่เห็นด้วยต่อแนวคิดดังกล่าว มองว่างานสอบสวนและงานสืบสวนไม่ควรแยกออกจากกันเพราะจะทำให้เกิดปัญหาในการทำงาน รวมทั้งการทำสำนวนการสอบสวน เพราะพนักงานสอบสวนจะไม่กล้ารับพยานหลักฐานจากฝ่ายสืบสวนที่อยู่คนละหน่วย ขณะเดียวกัน การนำพยานหลักฐานเข้าสู่สำนวนไม่ใช่เรื่องง่าย ขนาดตำรวจด้วยกันเองบางครั้งยังต้องพูดคุยกันนาน