อยากขายฝาก แต่ไม่มีความรู้เรื่องข้อกำหนด เงื่อนไข และเรื่องสัญญาขายฝาก แนะนำให้รีบศึกษาด่วน! เพื่อประโยชน์ของผู้ที่กำลังทำนิติกรรมเกี่ยวกับการขายฝาก โดยสามารถสรุปความสำคัญของข้อกำหนดต่างๆ ได้ดังนี้ Show
ข้อกำหนดและเงื่อนไข เกี่ยวกับการขายฝากการขายฝากที่ดิน เพื่อเกษตรกรรม หรือการขายฝากที่อยู่อาศัย จะอยู่ภายใต้บังคับของกฎหมายขายฝากฉบับใหม่ คือ พระราชบัญญัติคุ้มครองประชาชนในการทำสัญญาขายฝากที่ดินเพื่อเกษตรกรรมหรือที่อยู่อาศัย พ.ศ. 2562 ซึ่งได้มีการประกาศบังคับใช้เมื่อเดือนเมษายน ปี 2562 เพื่อคุ้มครองผู้ขายฝากที่เป็นบุคคลธรรมดาให้ได้รับความเป็นธรรมจากการทำสัญญาขายฝาก โดยมีสาระสำคัญดังนี้
ตัวอย่าง : ในวันจดทะเบียนขายฝาก ณ กรมที่ดิน ที่ดินที่นายแสนต้องการขายฝากนั้นยังคงดำเนินการให้เช่า และปัจจุบันยังมีผู้เช่าอยู่ ซึ่งนายแสนสามารถดำเนินกิจการและรับค่าเช่าต่อไปได้ แต่ในขณะเดียวกันนายแสนได้จดทะเบียนขายฝากแล้ว ที่ดินผืนนั้นที่ดำเนินการให้เช่าอยู่ ค่าเช่า รายได้ หรือผลกำไรนั้นจะเป็นสิทธิของใครขึ้นอยู่กับข้อตกลงระหว่างนายแสนและผู้รับซื้อฝาก ว่าด้วยเรื่อง “สัญญาขายฝากที่ดิน”สิ่งสำคัญในกระบวนการขายฝากที่ดินก็คือเรื่องของการทำสัญญาขายฝาก ซึ่งกฎหมายกำหนดให้ต้องทำเป็นหนังสือและจดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ ณ สำนักงานที่ดิน และพนักงานเจ้าหน้าที่จะระบุไว้ในสารบัญสำหรับจดทะเบียนว่า เป็นการขายฝากที่ดินเพื่อเกษตรกรรม หรือการขายฝากที่อยู่อาศัย และสัญญาขายฝากที่ดินอย่างน้อยต้องมีสาระสำคัญ 5 ข้อดังนี้
อยากไถ่ถอนที่ดิน ต้องทำอย่างไร?เมื่อรู้เงื่อนไข ข้อกำหนด และสัญญาการขายฝากแล้ว เชื่อว่าใครที่กำลังคิดขายฝากช่วงนี้คงอยากรู้เรื่องการไถ่ถอนที่ดิน ว่าทำอย่างไร และต้องเสียค่าธรรมเนียมเท่าไหร่ ซึ่งมีข้อกำหนดดังนี้
ที่มา: dol.go.th รู้เรื่องสัญญาขายฝาก และข้อกำหนดเงื่อนไขไปแล้ว ถึงเวลาเปลี่ยนที่ดินของคุณให้เป็นเงินก้อน ด้วยบริการขายฝากที่ดิน Xspring ได้เงินไว ดอกเบี้ยถูก วงเงินสูง ข้อกำหนดของค่าธรรมเนียมโอนที่ดินมีอะไรบ้าง ประเภทของภาษีการโอนที่ดินแต่ละกรณีแตกต่างกันยังไง ราคาค่าโอนที่ดินต้องเสียค่าใช้จ่ายเท่าไหร่ ? สำหรับผู้ที่กำลังมีแพลนจะซื้อบ้านพร้อมที่ดิน หรือ ซื้อที่ดินเปล่าเพื่อสร้างบ้านในฝันของคุณให้เป็นจริง รู้หรือไม่คะ ว่านอกจากการที่คุณตกลงกับผู้ขายหรือเจ้าของเดิมแล้ว ยังมีค่าโอนที่ดินซื้อขายที่คุณต้องจ่ายในระหว่างกระบวนการซื้อ-ขายด้วย บทความนี้ได้รวบรวมเรื่องค่าธรรมเนียมโอนที่ดินที่คนซื้อบ้านซื้อที่ดินจำเป็นต้องรู้เอาไว้ ไม่ว่าจะเป็น ค่าธรรมเนียมในการโอนที่ดินคืออะไร หลังจากที่มีปรับเปลี่ยนกฎหมายเพิ่มเติมในปี 2566 มีข้อกำหนดค่าธรรมเนียมโอนที่ดินอะไรเพิ่มเติม รวมไปถึงเอกสารที่จำเป็นต้องเตรียมและขั้นตอนการยื่นเรื่องค่าธรรมเนียมโอนที่ดิน เพื่อไม่ให้คุณเสียเวลาและสามารถทำเรื่องโอนที่ดินได้ครบ จบภายในหนึ่งวัน! ค่าโอนที่ดิน ค่าธรรมเนียมโอนที่ดิน มีค่าใช้จ่ายอะไรบ้างมาลองดูกันดีกว่าค่ะ ว่าค่าใช้จ่ายในขั้นตอนการโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินมีอะไรบ้าง เพื่อที่จะได้เตรียมเงินค่าธรรมเนียมโอนที่ดินไปให้พอ ไม่ต้องเสียเวลาออกไปกดเงินหรือต้องมาทำเรื่องโอนบ้าน-โอนที่ดินในวันถัดไป
วิธีการคำนวณค่าธรรมเนียมโอนที่ดิน โดย 1,500,000 x 2% = 30,000 บาท
บุคคลธรรมดา จะคิด 1% - 2.5% ของราคาประเมินกรมที่ดิน และ คิดตามปีที่ถือครอง แต่ในกรณีที่ราคาประเมินเกิน 6 ล้านบาท จะมีเงื่อนไขการคำนณคิดอีกแบบนึงซึ่งจะสูงกว่า 2.5% โดยจะใช้อัตราก้าวหน้าในการคำนวณ นิติบุคคล จะคิดที่ 1% ของราคาขายจริง
ค่าอากรแสตมป์ จะคิดที่ 0.5% ของราคาซื้อขายที่ดินที่ได้ตกลงกันไว้ ในกรณีราคาซื้อขายต่ำกว่าราคาประเมิน ต้องใช้ราคาประเมินในการคำนวณค่าธรรมเนียมโอนที่ดิน วิธีการคำนวณค่าอากรแสตมป์ ราคาซื้อขาย 2,000,000 บาท แต่ราคาประเมินอยู่ที่ 1,500,000 บาท ให้คำนวณค่าอากรแสตมป์ที่ 2,000,000 x 0.5% = 10,000 บาท ค่าภาษีธุรกิจเฉพาะ จะคิดที่ 3.3% ของราคาซื้อขายที่ดินที่ได้ตกลงกันไว้ ในกรณีราคาซื้อขายต่ำกว่าราคาประเมิน ต้องใช้ราคาประเมินในการคำนวณราคาค่าธรรมเนียมโอนที่ดิน วิธีการคำนวณภาษีธุรกิจเฉพาะ ราคาซื้อขาย 2,000,000 บาท แต่ราคาประเมินอยู่ที่ 1,500,000 บาท ให้คำนวณค่าภาษีธุรกิจเฉพาะที่ 2,000,000 x 3.3% = 66,000 บาท
วิธีการคำนวณค่าจดจำนอง โดย 2,000,000 x 1% = 20,000 บาท
ในส่วนค่าใช้จ่ายหรือค่าธรรมเนียมโอนที่ดิน ส่วนใหญ่ผู้ซื้อและผู้ขายมักจะตกลงกันออกคนละครึ่ง หรือ ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งออกค่าใช้จ่ายเองทั้งหมด ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับการตกลงระหว่างผู้ซื้อและผู้ขาย ค่าธรรมเนียมโอนที่ดิน 2566 มีข้อกำหนดเพิ่มเติมดังนี้ตามที่ราชกิจจานุเบกษาได้ประกาศให้มีการลดค่าธรรมเนียมโอนที่ดินจาก 2% เหลือ 1% และค่าจดจำนองจาก 1% เหลือ 0.01% เพื่อกระตุ้นและฟื้นฟูเศรษฐกิจในปี 2566 และเพื่อช่วยเหลือให้ลูกหนี้มีสภาพคล่องและผู้ประกอบการกลับมาประกอบธุรกิจได้เร็วขึ้น ซึ่งมาตรการดังกล่าวจะมีผลแค่กับที่ดินที่มีสิ่งปลูกสร้างเท่านั้น ในกรณีที่ดินทั่วไป จะยังคงคิดค่าภาษีโอนที่ดินตามเดิม และมาตรฐานลดค่าธรรมเนียมโอนที่ดินจะมีผลตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2566 ถึง 31 ธันวาคม 2566 ทั้งนี้มาตรฐานลดค่าธรรมเนียมค่าโอนที่ดินมีข้อจำกัดอยู่บ้าง ได้แก่ ราคาซื้อขายและราคาประเมินต้องไม่เกิน 3 ล้านบาท และผู้ซื้อต้องเป็นบุคคลธรรมดาที่มีสัญชาติไทยเท่านั้น ค่าธรรมเนียมโอนที่ดินแต่ละกรณีแตกต่างกันอย่างไรในปัจจุบันการโอนที่ดิน-โอนบ้าน ค่าใช้จ่ายหรือค่าธรรมเนียมโอนที่ดินจะขึ้นอยู่กับลักษณะความสัมพันธ์ของผู้โอนและผู้รับโอน พร้อมทั้งมีค่าใช้จ่ายอื่นๆ นอกจากค่าธรรมเนียมโอนที่ดิน ไม่ว่าจะเป็น ค่าภาษีเงินได้ ค่าอากรแสตมป์ และค่าภาษีธุรกิจเฉพาะ โดยสามารถแบ่งค่าธรรมเนียมโอนที่ดินออกเป็น 6 กรณี ซึ่งมีรายละเอียดดังต่อไปนี้ ค่าธรรมเนียมโอนที่ดินให้บุตรที่ชอบด้วยกฎหมายบุตรที่ชอบด้วยกฎหมาย ได้แก่ ลูกที่เกิดระหว่างพ่อแม่ที่มีการจดทะเบียนสมรสถูกต้องตามกฎหมาย ซึ่งจะมีค่าธรรมเนียมโอนที่ดินให้ลูก ดังนี้
ค่าธรรมเนียมโอนที่ดินให้บุตรที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายในกรณีที่พ่อแม่ไม่ได้จดทะเบียนสมรส หรือ ผู้เป็นพ่อไม่ได้จดทะเบียนรับรองบุตร ตามที่กฎหมายกำหนดไว้ จะต้องเสียภาษีเงินได้เพิ่มเติม ตามกำหนดภาษีค่าโอนที่ดิน ปี 2565 ด้วย
ค่าธรรมเนียมโอนที่ดินให้คู่สมรสในกรณีสามี-ภรรยาจดทะเบียนสมรสกันและต้องการโอนที่ดินให้กัน จะมีค่าธรรมเนียมโอนที่ดิน ดังนี้
ค่าธรรมเนียมโอนที่ดินให้ญาติในกรณีโอนที่ดินให้ญาติตามสายเลือด ไม่ว่าจะเป็น พี่ น้อง ลุง ป้า น้า อา ซึ่งในกรณีนี้รวมไปถึงลูกบุญธรรม ลูกสะใภ้ และลูกเขยจะมีค่าธรรมเนียมโอนที่ดินให้กับญาติ ดังนี้
ค่าธรรมเนียมโอนที่ดินมรดกในกรณีที่โอนที่ดินมรดกจะคิดค่าธรรมเนียมโอนที่ดิน ตาม พ.ร.บ. ภาษีการรับมรดก ปี 2558 ดังนี้ ค่าธรรมเนียมโอนที่ดิน :
ค่าภาษีมรดก :
ค่าธรรมเนียมโอนที่ดินซื้อขายกรณีสุดท้าย คือ ค่าธรรมเนียมโอนที่ดินแบบซื้อขาย มีค่าใช้จ่ายดังนี้
ขั้นตอนการโอนที่ดิน สำหรับผู้ที่จะโอนที่ดินไม่ว่าจะกรณีใดก็ตาม แนะนำให้เตรียมเอกสาร ข้อมูลที่จำเป็น และเงินให้พร้อมสำหรับค่าธรรมเนียมโอนที่ดิน ซึ่งแนะนำให้ไปที่สำนักงานที่ดินแต่เช้าเพื่อจองคิว เพื่อลดเวลาที่ต้องรอคอย เพราะถ้าหากไปช่วงสายอาจจะใช้เวลาค่อนข้างนาน โดยขั้นตอนการโอนที่ดินมีดังนี้
ทั้งนี้สำหรับผู้ที่ไม่สะดวกไปที่สำนักที่ดินด้วยตนเอง สามารถมอบอำนาจให้บุคคลอื่นทำแทนได้ เอกสารที่ต้องใช้ในการชำระค่าธรรมเนียมโอนที่ดินเอกสารที่ต้องใช้ในการชำระค่าธรรมเนียมโอนที่ดินปี 2566 กรมที่ดิน สามารถแบ่งออกเป็น 2 กรณี ดังนี้
อัตราค่าธรรมเนียมการโอนที่ดินนับเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่สำคัญสำหรับผู้ที่มีแพลนจะซื้อขายที่ดิน อย่าลืมที่จะตกลงกับผู้ซื้อหรือผู้ขายให้ดีว่าใครจะเป็นคนรับผิดชอบค่าใช้จ่ายในส่วนของค่าธรรมเนียมโอนที่ดิน หรือ ถ้าในกรณีรับผิดชอบค่าใช้จ่ายร่วมกันทั้งสองฝ่ายต้องจ่ายกันคนละเท่าไหร่ แบ่งเปอร์เซ็นต์กันอย่างไร จำเป็นต้องตกลงกันให้ดีเพื่อป้องกันปัญหาที่อาจจะตามมาในภายหลัง สำหรับใครที่มีความสนใจสาระน่ารู้เกี่ยวกับการซื้อบ้านต่างๆ และไม่จากพลาดสาระดีๆ สามารถอ่านได้ที่ สาระน่ารู้รวมเรื่องบ้าน ของ The Best Property ที่นี่ |