ก เง น ธอส ม สว สด การมาสร างบ านเอง

ธนาคารยกเว้นค่าธรรมเนียมการขอเปลี่ยนแปลงอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ ร้อยละ 1.00 ของยอดเงินต้นคงเหลือให้กับลูกค้าที่เข้าร่วมโครงการสินเชื่อที่อยู่อาศัยเพื่อผู้ประกันตน

ลูกค้าสามารถเข้าร่วมโครงการสินเชื่อที่อยู่อาศัยเพื่อผู้ประกันตนเพื่อลดอัตราดอกเบี้ย แต่วันที่ยื่นก็ต้องไม่มีหนี้ค้างชำระ และไม่มีค่าธรรมเนียมค้างชำระ

กรณีไถ่ถอนจำนองที่ดินพร้อมอาคารหรือห้องชุดจากสถาบันการเงินอื่น (3)

สามารถใช้อัตราดอกเบี้ยโครงการสินเชื่อที่อยู่อาศัยเพื่อผู้ประกันตน ได้แค่บัญชี 1 เพื่อไถ่ถอนห้องชุด เท่านั้น สำหรับบัญชี 2 วัตถุประสงค์ไม่เป็นไปตามเงื่อนไขโครงการ ให้ใช้ดอกเบี้ยตามผลิตภัณฑ์อื่นของธนาคาร

สามารถไถ่ถอนได้ตามยอดหนี้คงเหลือ ไม่สามารถกู้เพิ่มได้

ณ วันที่ยื่นกู้กับธนาคาร จะต้องมียอดเงินต้นคงเหลือไม่เกิน 2 ล้านบาท

การขอรับรหัสเข้าร่วมโครงการ (5)

ผู้กู้ทุกคนที่จะใช้สิทธิผู้ประกันตนต้องขอเอกสารรับรองสถานะผู้ประกันตน

กดขอรับรหัสเข้าร่วมโครงการ เฉพาะผู้กู้ที่ต้องการใช้สิทธิผู้ประกันตน ม.33

ธนาคารจะพิจารณาสินเชื่อให้ลูกค้าตามลำดับที่กดรับรหัสเข้าร่วมโครงการ จนกว่าจะเต็มกรอบวงเงิน 30,000 ล้านบาท ส่วนการพิจารณาสินเชื่อเป็นไปตามระเบียบหลักเกณฑ์ของธนาคาร

– เมื่อลูกค้าได้รับรหัสแล้ว ธนาคารจะแจ้งกำหนดระยะเวลาให้ท่านมาติดต่อยื่นกู้ที่ธนาคารอีกครั้งเมื่อถึงลำดับการยื่นกู้ของลูกค้า หรือสามารถตรวจสอบลำดับการยื่นกู้ได้ที่ www.ghbank.co.th ซึ่งธนาคารจะ Update ข้อมูลลำดับการยื่นกู้ในเว็บไซต์ของธนาคารทุกวันที่ 10 วันที่ 20 และวันที่ 30 ของเดือน – เมื่อถึงลำดับการยื่นกู้ของลูกค้าแล้ว ธนาคารจะส่งข้อความแจ้งเตือนผ่านทาง Line GHB Buddy ให้ลูกค้าเข้ามาติดต่อยื่นกู้กับธนาคาร

กดขอรับรหัสเข้าร่วมโครงการผ่านทาง Application “GHB ALL GEN” และรับรหัสเข้าร่วมโครงการผ่านช่องทาง Line GHB Buddy กรณีลูกค้าธนาคารที่เคยลงทะเบียนใน Line GHB Buddy แล้ว สามารถกดปุ่ม “”บริการพิเศษ”” และ “”กดรับรหัส”” เพื่อรับรหัสเข้าร่วมโครงการ ซึ่งสามารถกดขอรับรหัสได้ตั้งแต่วันที่ 20 ธันวาคม 2565 เวลา 16.00 น.

การประนอมหนี้ (1)

-กรณีทรัพย์หลักประกันอยู่ในเขต กทม.และปริมณฑล สามารถติดต่อได้ที่ งานบริหารหนี้ ฝ่ายบริหารหนี้ กทม.และปริมณฑล (ธอส.สำนักงานใหญ่) หมายเลขโทรศัพท์ 02-202-1770-5

-กรณีทรัพย์หลักประกันตั้งอยู่ในเขตต่างจังหวัด ติดต่อได้ที่งานบริหารหนี้สาขา สาขาในจังหวัดที่ทรัพย์ตั้งอยู่ หรือ ฝ่ายบริหารหนี้ภูมิภาค (ธอส.สำนักงานใหญ่) อาคาร 2 ชั้น 2 หมายเลขโทรศัพท์ 02-202-1742-3 ค่ะ

การย้ายบริการจาก GHB ALL ไป GHB ALL GEN (10)

การสแกนใบหน้าไม่ผ่าน เกิดได้จากหลายสาเหตุ เช่น ลูกค้าทำบัตรประชาชนมานานแล้ว เค้าโครงใบหน้าไม่เหมือนกับภาพในบัตร หรือรูปบนบัตรประชาชนไม่ชัด หรือระหว่างสแกนแสงน้อย/แสงมากไป หรือให้ปรับระยะมือถือกับใบหน้าให้อยู่ในกรอบ

ทำอย่างไรให้สแกนใบหน้าผ่าน วิธีการสแกนใบหน้า ให้ลองดำเนินการดังนี้

  1. ไม่ใส่หมวก แว่นตา และถอดแมสก์ ไม่ให้มีอะไรมาปิดบังใบหน้าลูกค้า
  2. ใบหน้าตรง และวางใบหน้าให้อยู่ในกรอบที่กำหนด
  3. อยู่ในบริเวณที่มีแสงสว่างเพียงพอ

ให้ลูกค้านำบัตรประชาชนไปยืนยันตัวตน ที่ ธอส. ทุกสาขาทั่วประเทศ ทั้งนี้หากมีข้อสงสัย โปรดติดต่อ หรือที่ G H Bank Call Center โทร 0-2645-9000

  • การโอนเงินตั้งแต่ 50,000 บาท ขึ้นไปต่อรายการ
  • การโอนเงินเมื่อมียอดรวมการโอนทุกๆ 200,000 บาท ต่อวัน
  • การปรับเพิ่มวงเงินการทำรายการต่อวัน

เพื่อป้องกันการถูกมิจฉาชีพหลอกลวงและทำธุรกรรมผ่าน Mobile Application Banking แทนลูกค้า (App ดูดเงิน) ธนาคารจึงต้องยกระดับความปลอดภัย ในการทำธุรกรรมที่สำคัญต่างๆของธนาคาร ทั้งนี้การใช้ตัวเลข 6 หลัก (PIN) ยังไม่เพียงพอ ธนาคารจึงใช้การยืนยันตัวตนผ่านการสแกนใบหน้าเพิ่มเติม

เบอร์โทรศัพท์ G H Bank Call Center 0-2645-9000 และ 0-2202-1000 ถึง 0-2202-2999 และหมายเลขโทรศัพท์ ธอส. ทุกสาขาทั่วประเทศ ในวันและเวลาทำการ

1.ลูกค้าสามารถสร้าง QR Code ผ่าน Website ของธนาคารอาคารสงเคราะห์ ระบบสร้าง QR Code สำหรับชำระบัญชีเงินกู้ ธอส. หรือ Scan QR Code

ก เง น ธอส ม สว สด การมาสร างบ านเอง

2. ลูกค้าสามารถสร้าง QR Code ผ่าน Line Application GHB Buddy โดยการ Scan QR Code

ก เง น ธอส ม สว สด การมาสร างบ านเอง

IOS ขั้นต่ำ Version 10 Android และ Huawei ขั้นต่ำ Version 5.0

เนื่องจากเป็นเรื่องความปลอดภัย กรุณาติดต่อสาขาเพื่อสมัคร GHB ALL GEN ได้ที่ ธอส. ทุกสาขาทั่วประเทศ หรือลูกค้าเปลี่ยนบัตรประชาชน และ รหัสหลังบัตรประจำตัวประชาชน (Laser Code) ทำให้ลูกค้าไม่สามารถสมัครใช้บริการ GHB ALL Gen ได้

ให้ลูกค้าตรวจสอบเบอร์โทรศัพท์ที่เคยให้ไว้กับธนาคาร ถ้าลูกค้าเปลี่ยนหมายเลขโทรศัพท์ เพื่อความปลอดภัยจะต้องติดต่อสาขาเพื่อสมัคร GHB ALL GEN ด้วยการยืนยันตัวตนได้ที่ ธอส. ทุกสาขาทั่วประเทศ

1. ลูกค้าที่ใช้บริการ GHB ALL ได้ตามปกติเช่น ไม่ลืม Pin และ ใช้หมายเลขโทรศัพท์หมายเลขเดิมที่เคยสมัครไว้ มีขั้นตอนสมัครใช้งาน ดังนี้

1.1 ดาวน์โหลด GHB ALL GEN ผ่าน App Store / Google Play หรือ App Gallery 1.2 กดปุ่ม เริ่มใช้งาน อ่านเงื่อนไขการใช้บริการ แล้วกดยอมรับ 1.3 กรอกหมายเลขโทรศัพท์ และกดตรวจสอบข้อมูล แล้วกดถัดไป 1.4 ระบบจะส่งรหัส OTP ผ่านเบอร์มือถือของท่านเพื่อให้ยืนยันตัวตน 1.5 หลังจากนั้นใส่รหัส Pin เดิม (ที่เคยใช้ใน GHB ALL) 1.6 ข้อความแสดง “เข้าสู่บริการสำเร็จ”

2. ลูกค้าใช้งาน GHBALL ไม่ได้ เช่นลืม Pin หรือเปลี่ยนแปลงเบอร์โทรศัพท์ จะแยกการสมัครเป็น 2 กรณี

2.1 กรณีลูกค้าไม่มีภาพใบหน้ากับ ธอส

2.1.1 กรุณาติดต่อสาขาเพื่อทำการจัดเก็บใบหน้าและสมัครใช้บริการ GHB ALL GEN ได้ที่ ธอส. ทุกสาขาทั่วประเทศ

2.2 กรณีลูกค้ามีภาพใบหน้าไว้กับ ธอส. ให้สมัครใช้งานด้วยตนเองดังนี้

2.2.1 ดาวน์โหลด GHB ALL GEN ผ่าน App Store / Google Play หรือ App Gallery 2.2.2 กดปุ่ม เริ่มใช้งาน อ่านเงื่อนไขการใช้บริการ แล้วกดยอมรับ 2.2.3 กรอกหมายเลขโทรศัพท์ และเลขบัตรประชาชน แล้วกดถัดไป 2.2.4 ระบบจะส่งรหัส OTP ผ่านเบอร์มือถือของท่านเพื่อยืนยันตัวตน 2.2.5 จากนั้นยืนยันตัวตนด้วยใบหน้าตนเอง แล้วกดปุ่ม “สแกน” ให้ใบหน้าอยู่ในกรอบ แล้วกดปุ่มถ่ายรูป 2.2.6 กรอกข้อมูลส่วนบุคคลให้ครบถ้วน และตรวจสอบความถูกต้องอีกครั้ง 2.2.7 สร้าง PIN ใหม่ แล้วกดยืนยันรหัสอีกครั้ง 2.2.8 ข้อความแสดง “เข้าสู่บริการสำเร็จ”

การยื่นกู้ (12)

กรณีที่มีปัญหาข้อมูลเครดิตและต้องการขอสินเชื่อกับธนาคารนั้น ปัจจุบันสถานะบัญชีต้องปกติ ไม่อยู่ระหว่างถูกฟ้องร้องดำเนินคดี หรืออยู่ระหว่างประนอมหนี้ แนะนำให้ผู้กู้ไปตรวจสอบเครดิตกับบริษัทข้อมูลเครดิตแห่งชาติ จำกัด ก่อน จากนั้นนำเอกสารดังกล่าวพร้อมเอกสารการปิดบัญชีเข้าไปปรึกษากับเจ้าหน้าที่สินเชื่อของธนาคารต่อไป

กรณีไม่มีหนังสือรับรองเงินเดือน หรือสลิบเงินเดือน ให้ลูกค้าเตรียมเอกสาร ดังนี้ -Statement เงินฝากย้อนหลัง 12 เดือน -เอกสารการรับเงินเดือน หนังสือหักภาษี ณ ที่จ่าย (50ทวิ) -เอกสารนำส่งเงินประกันสังคม ย้อนหลัง 12 เดือน

แนะนำให้ลูกค้าเตรียมเอกสาร

-สลิปเงินเดือนย้อนหลัง 3 เดือน -Statement เงินฝากย้อนหลัง 12 เดือน -หลักฐานอื่น อาทิค่าผ่อนรถ ค่าบัตรเครดิต เข้ามาติดต่อสาขาที่สะดวก เพื่อขอคำปรึกษาและให้เจ้าหน้าที่ทำการประเมินวงเงินกู้เบื้องต้น จากนั้นจึงมองหาบ้านในราคาที่สามารถเป็นเจ้าของได้ก่อนยื่นขอสินเชื่อกับธนาคารอีกครั้ง

สามารถติดต่อได้ที่ธอส.ทุกสาขา หรือ www.ghbank.co.th

ผู้กู้ทำการเพิ่มชื่อเป็นผู้ถือกรรมสิทธิ์ร่วมในโฉนดก่อนทำการยื่นขอสินเชื่อหรือให้เจ้าของโฉนดมาเป็นผู้กู้ร่วมด้วย (ก่อนโอนกรรมสิทธิ์หรือเพิ่มชื่อฯ แนะนำให้ลูกค้าเตรียมเอกสารส่วนตัวและเอกสารแสดงรายได้มาติดต่อเจ้าหน้าที่เพื่อทำการประเมินวงเงินกู้เบื้องต้นก่อนเนื่องจากมีค่าใช้จ่ายในการดำเนินการหากกู้ไม่ได้ ลูกค้าจะได้ไม่เสียเงินฟรี)

หลักประกันที่จะซื้อหรือปลูกสร้างต้องมีลักษณะเป็น โฉนดที่ดิน(นส.4จ) หรือ นส.3ก หนังสือกรรมสิทธิ์ห้องชุด(อช.2) ธนาคารไม่รับพิจารณาหลักประกันเป็นที่ดิน สปก. และที่ดินเขตป่าสงวน

กรณีกู้ปลูกสร้างบ้านบนที่ดินของตนเองผู้กู้จะต้องมีกรรมสิทธิ์ในหลักประกันของบ้านที่จะทำ ทั้งนี้หลักประกันต้องมีศักยภาพในการใช้เป็นที่อยู่อาศัย คือมีทางสาธารณะตัดผ่าน สาธารณูปโภคครบเช่นไฟฟ้าและน้ำประปาเข้าถึง

เอกสารส่วนตัว

– บัตรประจำตัวประชาชน/บัตรข้าราชการ/พนักงานรัฐวิสาหกิจ – ทะเบียนบ้าน – สำเนาทะเบียนสมรส/ใบหย่า/ใบมรณะบัตร/ใบแจ้งความแยกกันอยู่ (หากมี) – สำเนาใบเปลี่ยนแปลงชื่อ – สกุล (หากมี) – สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนคู่สมรส(หากมี)

เอกสารแสดงรายได้

กรณีอาชีพประจำ

– หนังสือรับรองเงินเดือน/หนังสือรับรองสิทธิสวัสดิการ – สลิบเงินเดือน หรือหลักฐานการรับเงินเดือน ย้อนหลัง 3 เดือน – Statement เงินฝากย้อนหลัง 6 เดือน – หลักฐานแสดงฐานะการเงินอื่นๆ (พร้อมตัวจริง)

กรณีอาชีพอิสระ

-Statement เงินฝากย้อนหลัง 6 เดือน -สำเนาทะเบียนการค้า/ทะเบียนพาณิชย์/ทะเบียนบริษัท/ทะเบียนนิติบุคคล -หลักฐานการเสียภาษีเงินได้ -ภาพถ่ายกิจการ 3-4 ใบ -สำเนาใบประกอบวิชาชีพ -สำเนาใบเสร็จรับเงินค่าสั่งซื้อสินค้า -หลักฐานแสดงฐานะการเงินอื่นๆ (พร้อมตัวจริง)

เอกสารหลักประกัน

– สำเนาหนังสือสัญญาจะซื้อจะขาย/สัญญาวางมัดจำ/สัญญาเช่าซื้อการเคหะแห่งชาติ และหนังสือรับรองยอดคงเหลือ (กรณีกู้ซื้อ) – สำเนาหนังสือสัญญากู้เงิน และสำเนาสัญญาจำนองกับสถาบันการเงินเดิม (กรณีไถ่ถอนจำนองย้ายฯ) – ใบเสร็จการผ่อนชำระ หรือบัญชีหมุนเวียน ย้อนหลัง 1 หรือ 2 ปี (กรณีไถ่ถอนจำนองย้ายฯ) – หลักฐานการเป็นเจ้าของอาคาร – สำเนาหนังสือสัญญาขายที่ดินฉบับกรมที่ดิน – สำเนาโฉนดที่ดิน/นส.3ก./หนังสือกรรมสิทธิ์ห้องชุด (อช.2) ทุกหน้า (กรณีซื้อทรัพย์มือสองต้องรับรองสำเนาโดยเจ้าพนักงานที่ดิน) – ใบอนุญาตปลูกสร้าง/ต่อเติม – แบบแปลน/พิมพ์เขียว – ใบประมาณการปลูกสร้าง/สัญญาว่าจ้างก่อสร้าง

ค่าธรรมเนียมที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินการยื่นกู้ มีรายละเอียดดังนี้

ค่าใช้จ่ายในการประเมินราคาหลักประกัน – วงเงินขอกู้ไม่เกิน 500,000.- ค่าธรรมเนียม 1,900.- / แห่ง – วงเงินขอกู้ 500,001-3,000,000.- ค่าธรรมเนียม 2,800.- / แห่ง – วงเงินขอกู้เกิน 3,000,000.- ค่าธรรมเนียม 3,100.- / แห่ง

ค่าธรรมเนียมที่สำนักงานที่ดิน ค่าจำนอง ร้อยละ 1 ของวงเงินกู้

ค่าโอนกรรมสิทธิ์ ร้อยละ 2 ของราคาประเมิน หรือราคาซื้อขาย โดยใช้ราคาที่สูงกว่าเป็นเกณฑ์ และค่าอากรแสตมป์ ร้อยละ 0.5 ตามราคาซื้อขาย แต่ไม่ต่ำกว่าราคาประเมิน

ธนาคารจะพิจารณาจากเกณฑ์รายได้ หลักประกัน LTV ภาระหนี้สินที่มี รวมถึงประวัติข้อมูลเครดิตต้องปกติ

40 ปี แต่ระยะเวลาการกู้เมื่อรวมกับอายุผู้กู้ต้องไม่เกิน 70 ปี

  • อายุ 20 ปี ขึ้นไป
  • อายุงาน 1 ปี ขึ้นไป
  • มีรายได้แน่นอนเพียงพอต่อการผ่อนชำระเงินกู้
  • เงินงวดผ่อนชำระไม่เกิน 1 ใน 3 ของรายได้สุทธิ
  • มีหลักฐานแสดงรายได้ที่น่าเชื่อถือ
  • ผู้กู้ร่วมได้แก่ บิดา-มารดา คู่สมรส บุตร พี่-น้อง และ/หรือบุคคลอื่นได้ไม่เกิน 1 คน
  • ต้องมีรายได้เพียงพอในการผ่อนชำระ และร่วมพักอาศัยจริง
  • ประวัติข้อมูลเครดิต ต้องเป็นสถานะปกติ

ไม่สามารถขอสินเชื่อเพื่อซื้อที่ดินเปล่าได้ แต่สามารถขอสินเชื่อเพื่อซื้อที่ดินพร้อมปลูกสร้างอาคารในคราวเดียวกันได้

การให้บริการ GHB ALL GEN (10)

การสแกนใบหน้าไม่ผ่าน เกิดได้จากหลายสาเหตุ เช่น ลูกค้าทำบัตรประชาชนมานานแล้ว เค้าโครงใบหน้าไม่เหมือนกับภาพในบัตร หรือรูปบนบัตรประชาชนไม่ชัด หรือระหว่างสแกนแสงน้อย/แสงมากไป หรือให้ปรับระยะมือถือกับใบหน้าให้อยู่ในกรอบ

ทำอย่างไรให้สแกนใบหน้าผ่าน วิธีการสแกนใบหน้า ให้ลองดำเนินการดังนี้

  1. ไม่ใส่หมวก แว่นตา และถอดแมสก์ ไม่ให้มีอะไรมาปิดบังใบหน้าลูกค้า
  2. ใบหน้าตรง และวางใบหน้าให้อยู่ในกรอบที่กำหนด
  3. อยู่ในบริเวณที่มีแสงสว่างเพียงพอ

ให้ลูกค้านำบัตรประชาชนไปยืนยันตัวตน ที่ ธอส. ทุกสาขาทั่วประเทศ ทั้งนี้หากมีข้อสงสัย โปรดติดต่อ หรือที่ G H Bank Call Center โทร 0-2645-9000

  • การโอนเงินตั้งแต่ 50,000 บาท ขึ้นไปต่อรายการ
  • การโอนเงินเมื่อมียอดรวมการโอนทุกๆ 200,000 บาท ต่อวัน
  • การปรับเพิ่มวงเงินการทำรายการต่อวัน

เพื่อป้องกันการถูกมิจฉาชีพหลอกลวงและทำธุรกรรมผ่าน Mobile Application Banking แทนลูกค้า (App ดูดเงิน) ธนาคารจึงต้องยกระดับความปลอดภัย ในการทำธุรกรรมที่สำคัญต่างๆของธนาคาร ทั้งนี้การใช้ตัวเลข 6 หลัก (PIN) ยังไม่เพียงพอ ธนาคารจึงใช้การยืนยันตัวตนผ่านการสแกนใบหน้าเพิ่มเติม

เบอร์โทรศัพท์ G H Bank Call Center 0-2645-9000 และ 0-2202-1000 ถึง 0-2202-2999 และหมายเลขโทรศัพท์ ธอส. ทุกสาขาทั่วประเทศ ในวันและเวลาทำการ

1.ลูกค้าสามารถสร้าง QR Code ผ่าน Website ของธนาคารอาคารสงเคราะห์ ระบบสร้าง QR Code สำหรับชำระบัญชีเงินกู้ ธอส. หรือ Scan QR Code

ก เง น ธอส ม สว สด การมาสร างบ านเอง

2. ลูกค้าสามารถสร้าง QR Code ผ่าน Line Application GHB Buddy โดยการ Scan QR Code

ก เง น ธอส ม สว สด การมาสร างบ านเอง

IOS ขั้นต่ำ Version 10 Android และ Huawei ขั้นต่ำ Version 5.0

เนื่องจากเป็นเรื่องความปลอดภัย กรุณาติดต่อสาขาเพื่อสมัคร GHB ALL GEN ได้ที่ ธอส. ทุกสาขาทั่วประเทศ หรือลูกค้าเปลี่ยนบัตรประชาชน และ รหัสหลังบัตรประจำตัวประชาชน (Laser Code) ทำให้ลูกค้าไม่สามารถสมัครใช้บริการ GHB ALL Gen ได้

ให้ลูกค้าตรวจสอบเบอร์โทรศัพท์ที่เคยให้ไว้กับธนาคาร ถ้าลูกค้าเปลี่ยนหมายเลขโทรศัพท์ เพื่อความปลอดภัยจะต้องติดต่อสาขาเพื่อสมัคร GHB ALL GEN ด้วยการยืนยันตัวตนได้ที่ ธอส. ทุกสาขาทั่วประเทศ

1. ลูกค้าที่ใช้บริการ GHB ALL ได้ตามปกติเช่น ไม่ลืม Pin และ ใช้หมายเลขโทรศัพท์หมายเลขเดิมที่เคยสมัครไว้ มีขั้นตอนสมัครใช้งาน ดังนี้

1.1 ดาวน์โหลด GHB ALL GEN ผ่าน App Store / Google Play หรือ App Gallery 1.2 กดปุ่ม เริ่มใช้งาน อ่านเงื่อนไขการใช้บริการ แล้วกดยอมรับ 1.3 กรอกหมายเลขโทรศัพท์ และกดตรวจสอบข้อมูล แล้วกดถัดไป 1.4 ระบบจะส่งรหัส OTP ผ่านเบอร์มือถือของท่านเพื่อให้ยืนยันตัวตน 1.5 หลังจากนั้นใส่รหัส Pin เดิม (ที่เคยใช้ใน GHB ALL) 1.6 ข้อความแสดง “เข้าสู่บริการสำเร็จ”

2. ลูกค้าใช้งาน GHBALL ไม่ได้ เช่นลืม Pin หรือเปลี่ยนแปลงเบอร์โทรศัพท์ จะแยกการสมัครเป็น 2 กรณี

2.1 กรณีลูกค้าไม่มีภาพใบหน้ากับ ธอส

2.1.1 กรุณาติดต่อสาขาเพื่อทำการจัดเก็บใบหน้าและสมัครใช้บริการ GHB ALL GEN ได้ที่ ธอส. ทุกสาขาทั่วประเทศ

2.2 กรณีลูกค้ามีภาพใบหน้าไว้กับ ธอส. ให้สมัครใช้งานด้วยตนเองดังนี้

2.2.1 ดาวน์โหลด GHB ALL GEN ผ่าน App Store / Google Play หรือ App Gallery 2.2.2 กดปุ่ม เริ่มใช้งาน อ่านเงื่อนไขการใช้บริการ แล้วกดยอมรับ 2.2.3 กรอกหมายเลขโทรศัพท์ และเลขบัตรประชาชน แล้วกดถัดไป 2.2.4 ระบบจะส่งรหัส OTP ผ่านเบอร์มือถือของท่านเพื่อยืนยันตัวตน 2.2.5 จากนั้นยืนยันตัวตนด้วยใบหน้าตนเอง แล้วกดปุ่ม “สแกน” ให้ใบหน้าอยู่ในกรอบ แล้วกดปุ่มถ่ายรูป 2.2.6 กรอกข้อมูลส่วนบุคคลให้ครบถ้วน และตรวจสอบความถูกต้องอีกครั้ง 2.2.7 สร้าง PIN ใหม่ แล้วกดยืนยันรหัสอีกครั้ง 2.2.8 ข้อความแสดง “เข้าสู่บริการสำเร็จ”

มาตรการช่วยเหลือลูกหนี้สถานะ NPLหรือลูกหนี้ที่ยังมีสถานะเป็น NPL ที่อยู่ระหว่างการใช้มาตรการ/ปรับโครงสร้างหนี้กับธนาคาร (M23/1 และ M23/2) (8)

สามารถชำระเงินงวดมากกว่าที่กำหนดไว้ได้ โดยธนาคารจะนำเงินที่ชำระเกินไว้ไปตัดดอกเบี้ยค้างชำระของลูกค้า (ถ้ามี)

ลูกค้าสามารถลงทะเบียนร่วมมาตรการได้ทุกบัญชีตามข้อกำหนดและเงื่อนไขของมาตรการนั้นๆ

มาตรการนี้ธนาคารให้สิทธิเฉพาะลูกค้าที่มีสถานะเป็น NPL และลงทะเบียนผ่านช่องทางที่กำหนดเท่านั้น

ลูกค้าสามารถลงทะเบียนผ่าน Application GHB ALL BFRIEND ได้ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2566 – วันที่ 30 ธันวาคม 2566

เอกสารยืนยันรายได้ เช่น สลิปเงินเดือน หนังสือรับรองเงินเดือน ภาพถ่ายกิจการ หรือ Statement เป็นต้น

ลูกค้าสามารถลงทะเบียนผ่าน Application GHB ALL BFRIEND เท่านั้น

ลูกหนี้ที่มีสถานะเป็น NPL (วันค้างชำระมากกว่า 90 วันขึ้นไป) และลูกหนี้ต้องกู้เงินจากธนาคาร มาแล้วไม่ต่ำกว่า 1 ปี (นับตั้งแต่วันที่ทำสัญญาครั้งแรก จนถึงวันที่ยื่นคำร้องเข้าร่วมมาตรการ)

มาตรการช่วยเหลือลูกหนี้สถานะ PL ที่ได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัว (M 25) (5)

ลูกค้าสามารถชำระเงินงวดมากกว่าที่กำหนดไว้ได้ โดยธนาคารจะนำเงินที่ชำระเกินไว้ไปตัดดอกเบี้ยค้างชำระของลูกค้า (ถ้ามี)

ลูกค้าสามารถลงทะเบียนผ่าน Application GHB ALL BFRIEND ได้ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2566 – วันที่ 30 ธันวาคม 2566

เอกสารยืนยันรายได้ เช่น สลิปเงินเดือน หนังสือรับรองเงินเดือน ภาพถ่ายกิจการ หรือ Statement เป็นต้น

มาตรการ M25 สามารถลงทะเบียนผ่าน Application GHB ALL BFRIEND ได้ช่องทางเดียว

มาตรการช่วยเหลือลูกหนี้สถานะNPLหรือลูกหนี้ที่ยังมีสถานะเป็น NPL ที่อยู่ระหว่างการใช้มาตรการ/ปรับโครงสร้างหนี้กับธนาคาร (M17) (7)

ลูกค้าสามารถลงทะเบียนผ่าน Application GHB ALL BFRIEND ได้ตั้งแต่วันที่ 4 กรกฎาคม 2566 – วันที่ 30 ธันวาคม 2566

สามารถชำระเงินงวดมากกว่าที่กำหนดไว้ได้ โดยธนาคารจะนำเงินที่ชำระเกินไว้ไปตัดดอกเบี้ยค้างชำระของลูกค้า (ถ้ามี)

มาตรการนี้ธนาคารให้สิทธิเฉพาะลูกค้าที่มีสถานะเป็น NPL เท่านั้น

เอกสารยืนยันรายได้ เช่น สลิปเงินเดือน หนังสือรับรองเงินเดือน ภาพถ่ายกิจการ หรือ Statement เป็นต้น

ลูกค้าสามารถลงทะเบียนผ่าน Application GHB ALL BFRIEND ได้ช่องทางเดียวเท่านั้น

ลูกหนี้ที่มีสถานะเป็น NPL (วันค้างชำระ มากกว่า 90 วันขึ้นไป) หรือเป็นลูกหนี้ที่ยังมีสถานะเป็น NPL ที่อยู่ระหว่างการใช้มาตรการ / หรือปรับโครงสร้างหนี้กับธนาคาร

สินเชื่อ (4)

ธนาคารใช้วิธีการคำนวณจากยอดเงินต้นคงเหลือ คูณด้วยอัตราดอกเบี้ยเงินกู้(%) คูณจำนวนวันในเดือน (30 หรือ 31 วัน) หารด้วยจำนวนวันในหนึ่งปี (365 หรือ 366 วัน)

ลูกค้ารายย่อยสามารถขอลดอัตราดอกเบี้ยในการผ่อนชำระได้ หลังจากผ่อนชำระครบกำหนดระยะเวลา 3 ปี โดยต้องมีประวัติการผ่อนชำระสม่ำเสมออย่างน้อย 24 เดือน และไม่อยู่ระหว่างประนอมหนี้

ลูกค้าสวัสดิการ สามารถขอเปลี่ยนแปลงอัตราดอกเบี้ยได้หลังจากครบกำหนดการใช้ดอกเบี้ยปีที่ 2

แต่ต้องตรวจสอบจากบันทึกต่อท้ายสัญญากู้เงินอีกครั้ง เนื่องจากบางโครงการจะกำหนดข้อห้ามเช่น ห้ามปิดบัญชี หรือเปลี่ยนแปลงอัตราดอกเบี้ยภายในระยะเวลากี่ปี

ไม่แตกต่าง อัตราดอกเบี้ยขึ้นอยู่กับโครงการที่ลูกค้าเลือกใช้

กรณีขอเลขที่บ้านใหม่

-ใบคำขอเลขที่บ้าน -ใบอนุญาตปลูกสร้าง -เอกสารการขอใช้น้ำ-ไฟฟ้า

กรณีปลูกสร้างอาคารทดแทนหลังเดิมแต่ไม่ต้องการเปลี่ยนเลขที่บ้าน(กรรมสิทธิ์ในบ้านและที่ดินเป็นของบุคคลอื่นและไม่ได้กู้ร่วม)

-ใบรับรองอนุญาตปลูกสร้าง ทด.13 หรือ ทด.14 (ต้องได้รับการรับรองจากสำนักงานเขตหรืออบต.ในพื้นที่ ไม่สามารถใช้เฉพาะเอกสารขออนุญาตรื้อถอนได้)

หลักเกณฑ์และเงื่อนไข (6)

1.รหัสเข้าร่วมโครงการที่ได้รับทาง Line GHB Buddy 2.หนังสือรับรองสถานะความเป็นผู้ประกันตนมาตรา 33 ที่ออกผ่านเว็บไซต์ของสำนักงานประกันสังคม www.sso.go.th 3.เอกสารประกอบการยื่นกู้เป็นไปตามเกณฑ์ธนาคารกำหนด

ลูกค้าสามารถใช้สิทธิยื่นกู้ตามโครงการนี้ได้เพียง 1 หลักประกันเท่านั้น ยกเว้นกรณีผู้ประกันตนใช้สิทธิกู้ร่วมกัน และมีการถอนชื่อออกจากการกู้ร่วมและกรรมสิทธิ์ร่วม สามารถใช้สิทธิยื่นคำขอกู้เงินตามโครงการนี้ในหลักประกันถัดไปได้ (โดยต้องยื่นกู้ และทำนิติกรรมได้ตามกำหนดระยะเวลาโครงการ)

สามารถยื่นกู้ได้ตั้งแต่วันที่ 21 ธันวาคม 2565 ถึงวันที่ 19 ธันวาคม 2566 หรือจนกว่าจะเต็มกรอบวงเงิน และสามารถนิติกรรมได้ถึงวันที่ 31 มกราคม 2567