www.Dek-D.com/TCAS ©1999-2024; All rights reserved by Dek-D Interactive Co.,Ltd Show TCAS STARTER
แอป Dek-D TCAS หากน้องๆ คนไหนมีความสนใจและกำลังศึกษาหาข้อมูลเกี่ยวกับการเรียนสัตวแพทย์ในประเทศไทย คณะสัตวแพทยศาตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย จะต้องเป็นหนึ่งในคณะสัตวแพทยศาสตร์ที่ได้รับการแนะนำเป็นอันดับแรกอย่างแน่นอน เหตุผลหนึ่งก็เนื่องมาจาก จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ถือว่ามีการเรียนการสอนหลักสูตรสัตวแพทยศาตร์เป็นแห่งแรกของประเทศไทย ยาวนานกว่า 80 ปี และได้มีการพัฒนาหลักสูตรมาเรื่อยๆ จนถึงปัจจุบัน เรียกว่าเป็นต้นตระกูลของคณะสัตวแพทย์ศาสตร์เลยก็ว่าได้ เพราะหลักสูตรดังกล่าวนอกจากจะใช้ผลิตบัณฑิตสัตวแพทย์จุฬาฯ ที่มีคุณภาพมาอย่างต่อเนื่องแล้ว ยังเป็นจุดเริ่มของการขยายคณะสัตวแพทย์ศาสตร์ออกไปยังภูมิภาคต่างๆ เช่น มหาวิทยาลัยขอนแก่น มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และมหาวิทยาลัยมหิดล อีกด้วยเรามาทำความรู้จักกับหลักสูตรที่เปิดสอนในระดับปริญญาตรีกันนะคะ โดยสัตวแพทย์ที่จุฬาฯ จะมีหลักสูตร 6 ปี โดยในชั้นปีที่ 1 - 5 น้องๆ นิสิตหลักสูตรสัตวแพทยศาสตร์จะได้เรียนเนื้อหาวิชาเตรียมสัตวแพทย์ ปรีคลินิก และคลินิก เป็นวิชาทางทฤษฎีและปฏิบัติทั้งหมด และในชั้นปีสุดท้าย น้องๆ จะได้ฝึกปฏิบัติทางคลินิกในสายสัตว์เลี้ยงเป็นเพื่อน (สัตว์เล็ก) และสายสัตว์ใช้เป็นอาหาร (สัตว์ใหญ่) นอกจากหลักหลักสูตรที่ดีมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องแล้ว ที่จุฬาฯ ซึ่งถือว่าเป็นสถานศึกษาชั้นนำของประเทศ ทั้งบุคลากร อาจารย์ อาคารสถานที่ รวมถึงความร่วมมือกับหน่วยงานต่างๆ นั้นก็ย่อมไม่เป็นรองใครแน่นอนค่ะ เห็นอย่างนี้แล้วก็ปฏิเสธไม่ได้เลยนะคะว่า “ เลือกที่เรียนดี มีชัยไปกว่าครึ่ง ” จุดเด่นของที่นี่ คืออะไร- เป็นสถาบันการศึกษาชั้นนำของประเทศไทย - เป็นหนึ่งในคณะสัตวแพทยศาสตร์ที่เก่าแก่ที่สุดของประเทศไทย - มีศูนย์ฝึกนิสิตคณะสัตวแพทยศาสตร์ และ โรงพยาบาลปศุสัตว์ เป็นของมหาวิทยาลัยเอง - อันดับ 1 ในสาขา สัตวแพทยศาสตร์ จาก สำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย (สกว.) ปี 2557 - เป็นมหาวิทยาลัยไทยอันดับ 4 ของมหาวิทยาลัยชั้นนำแห่งเอเชีย (Times Higher Education Asia University Rankings 2016) เรียนเกี่ยวกับอะไรสัตวแพทย์ หรือ "หมอรักษาสัตว์" ในประเทศไทยเริ่มมีการเรียนการสอนในศาสตร์ สาขานี้โดยเฉพาะเมื่อปี พ.ศ. 2447 โดยกระทรวงเกษตราธิการ ได้จัดให้มีการอบรมวิชาสัตวแพทย์ให้พนักงานกรมช่างไหม แต่เปิดสอนได้เพียง 2 มีก็มีการยกเลิกไป ต่อมา พ.ศ. 2454 ได้มีการก่อตั้งโรงเรียนอัศวแพทย์ทหารบก ซึ่งได้พัฒนาต่อมาเป็นโรงเรียนนายสิบสัตวแพทย์ และ โรงเรียนนายดาบสัตวแพทย์ทหารบก ตามลำดับ หน้าที่หลักของสัตวแพทย์ คือ ตรวจโรค ให้การรักษา และป้องกันโรคในสัตว์โดยใช้ยาหรือผ่าตัดสัตว์ทุกชนิดที่เจ็บป่วย หรือบาดเจ็บ ให้คำแนะนำเจ้าของสัตว์ในด้านสุขภาพสัตว์เลี้ยง การให้อาหาร การผสมพันธุ์ และการเลี้ยงดูทั่วๆ ไป บางครั้งอาจรวมถึงการตัดสินใจทำให้สัตว์ตายเพื่อให้มันพ้นทุก หรือยับยั้งโรคติดต่อ การทำงานตรวจสุขภาพสัตว์ในฟาร์มเลี้ยงสัตว์ และในโรงฆ่าสัตว์ จบมาทำงานอะไรสัตวแพทย์ ประจำคลินิกหรือดรงพยาบาลสัตว์ , สัตวแพทย์ผู้ควบคุมฟาร์ม , ผู้แทนขายผลิตภัณฑ์ เช่น ยา อาหารสัตว์ ผลิตภัณฑ์เวชภัณฑ์ ครุภัณฑ์ต่างๆ , รับราชการ กรมปศุสัตว์ , เปิดโรงพยาบาลหรือคลินิก อันนี้เป็นกิจการของตัวเอง ฯลฯ คณะสัตวแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เป็นคณะสัตวแพทยศาสตร์แห่งแรกของประเทศไทย ถือกำเนิดขึ้นในปี พ.ศ. 2478 โดยมีพันธกิจหลักในด้านการเรียนการสอน การวิจัยและบริการวิชาการทางด้านสัตวแพทย์ ปัจจุบันคณะสัตวแพทยศาสตร์ เปิดสอน
ประวัติ[แก้]แผนกอิสระสัตวแพทยศาสตร์ของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยได้ถูกโอนย้ายไปสังกัดมหาวิทยาลัยแพทยศาสตร์(ปัจจุบันคือมหาวิทยาลัยมหิดล) ในปี พ.ศ. 2486 ก่อนจะถูกโอนย้ายสังกัดอีกครั้งในปี พ.ศ. 2497 เข้าสู่มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ซึ่งได้ปรับปรุงหลักสูตรสัตวแพทยศาสตร์ จาก 5 ปีเป็น 6 ปี โดยศึกษาเตรียมสัตวแพทย์ที่มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ จากนั้นศึกษาระดับปรีคลินิกและคลินิกที่คณะสัตวแพทย์ศาสตร์ ในพื้นที่เดิมของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ต่อมาในปี พ.ศ. 2507 จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้ทำเรื่องถึงมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ เพื่อขอโอนคณะสัตวแพทยศาสตร์ซึ่งยังคงตั้งอยู่ในบริเวณพื้นที่ของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยกลับคืนเช่นเดิม แต่ทางสภามหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ไม่เห็นด้วย จึงเตรียมสร้างอาคารสัตวแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ เพื่อย้ายออกจากพื้นที่ของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย อย่างไรก็ตาม คณะสัตวแพทยศาสตร์ได้ทำเรื่องไม่ขอย้ายออกจากที่ตั้งเดิม และขอโอนกลับไปสังกัดจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยในปี พ.ศ. 2510 ส่วนมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ได้เปิดหลักสูตรสัตวแพทย์ศาสตร์ขึ้นมาในพื้นที่ที่ได้จัดเตรียมไว้แล้ว และแยกการบริหารกับส่วนที่โอนคืนให้จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย อาคารคณะสัตวแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
หลักสูตร[แก้]ระดับปริญญาตรี[แก้]คณะสัตวแพทยศาสตร์ เปิดสอนหลักสูตรในระดับปริญญาบัณฑิต 1 หลักสูตร ได้แก่
ระดับบัณฑิตศึกษา[แก้]คณะสัตวแพทยศาสตร์ เปิดสอนหลักสูตรในระดับบัณฑิตศึกษา ในสาขาวิชา ดังนี้
ภาควิชา[แก้]
โรงพยาบาลสัตว์[แก้]โรงพยาบาลสัตว์เล็กคณะสัตวแพทยศาสตร์ จัดให้มีบริการรักษาสัตว์โดยมี
บริการรักษา สุนัข แมว สัตว์ต่างถิ่น สัตว์ป่า สัตว์ชนิดพิเศษ โดยจัดให้มีคลินิกพิเศษ ได้แก่ คลินิกโรคตา คลินิกโรคผิวหนัง คลินิกโรคไต คลินิกโรคหัวใจ คลินิกโรคระบบฮอร์โมนและเมตาบอลิสม คลินิกโรคมะเร็ง คลินิกม้า คลินิกสัตว์น้ำ คลินิกอัลตราซาวนด์ คลินิกศัลยกรรมเนื้อเยื่อ คลินิกศัลยกรรมกระดูกและข้อ คลินิกทันตกรรมและสุขภาพช่องปาก คลินิกสูติกรรม คลินิกฉุกเฉิน และมีหน่วยชันสูตรโรคสัตว์ ให้บริการตรวจวินิจฉัยทางห้องปฏิบัติการ
ข้างกรมการสัตว์ทหารบก ถนนทหารบก ตำบลบ่อพลับ อำเภอเมืองนครปฐม บริการรักษาโค กระบือ แพะ แกะ สุกร สัตว์ปีก สัตว์น้ำ สัตว์ป่า ทั้งนี้โรงพยาบาลได้จัดตั้ง คลินิกสัตว์เล็ก เพื่อบริการรักษาสุนัข แมวและสัตว์เลี้ยงเป็นเพื่อนทุกชนิด ซึ่งทั้งสองแห่งใช้เป็นสถานที่ฝึกงานเพื่อเสริมสร้างทักษะในการตรวจรักษาสัตว์ให้กับนิสิตสัตวแพทย์และให้บริการตรวจวินิจฉัย บำบัดรักษาโรคสัตว์ แก่สัตว์เลี้ยงของประชาชนโดยทั่วไป พิพิธภัณฑ์[แก้]พิพิธภัณฑสถานปรสิตวิทยาในสัตว์ ตึกเก่ารูปตัวยู คณะสัตวแพทยศาสตร์ เก็บรวบรวมตัวอย่างปรสิตภายในและภายนอกของสัตว์ชนิดต่าง ๆ มาเป็นเป็นเวลายาวนานทำให้เก็บตัวอย่างได้หลากหลายและหลายประเภท เช่น หนอนพยาธิ แมลง ไร เห็บ และโปรโตซัว อันมีประโยชน์ต่อการศึกษาด้านสัตวแพทย์ ห้องสมุดและศูนย์เอกสารการสัตว์[แก้]คณะสัตวแพทยศาสตร์ได้เริ่มก่อตั้งในจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้ก่อตั้งขึ้นเป็นแห่งแรกในประเทศไทยเมื่อปี พ.ศ. 2478 พัฒนาการของห้องสมุดและศูนย์เอกสารการสัตว์จึงค่อยๆ เริ่มขึ้นตามความจำเป็นเพื่อใช้ประกอบการเรียนการสอน พร้อมการจัดตั้งคณะ ห้องสมุดและศูนย์เอกสารการสัตว์ ได้รับการสนับสนุนจากผู้บริหารคณะทุกสมัย จึงพัฒนาและขยายพื้นที่กว้างขวางขึ้นตามลำดับเพื่อให้เหมาะสมกับทรัพยากรต่างๆ ของห้องสมุดที่เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งจำนวนผู้ใช้บริการเพิ่มขึ้นทุกปี ห้องสมุดและศูนย์เอกสารการสัตว์ เป็นห้องสมุดอ้างอิงเฉพาะทางการสัตว์ ที่ได้เก็บรวบรวมหนังสือวารสารและเอกสารสิ่งพิมพ์ตลอดจนฐานข้อมูล ทั้งของไทย และต่างประเทศด้านการสัตว์ไว้มากที่สุดในประเทศไทย โดยเฉพาะ Collection พิเศษที่ห้องสมุดพยายามเก็บรวบรวม เช่นเอกสารรายงานการประชุมวิชาการด้านการสัตว์ทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ งานวิจัยด้านปศุสัตว์ในประเทศไทย เป็นต้น พัฒนาการของห้องสมุดและศูนย์เอกสารการสัตว์[แก้]
อ้างอิง[แก้]
|