บางบัวทอง เป็นอำเภอหนึ่งของจังหวัดนนทบุรี ในอดีตมีพื้นที่กว้างใหญ่มากโดยคลุมพื้นที่อำเภอไทรน้อย อำเภอบางใหญ่ และบางส่วนของอำเภอปากเกร็ด (ปัจจุบันแยกออกไปแล้ว) เดิมพื้นที่ส่วนใหญ่เป็นพื้นที่เกษตรกรรม แต่ปัจจุบันเมื่อความเจริญจากกรุงเทพมหานครแผ่ขยายออกมาจนถึงบางบัวทอง ทำให้มีหมู่บ้านจัดสรร บริษัทห้างร้าน สำนักงานจำนวนมาก รวมถึงหน่วยงานราชการต่าง ๆ ทยอยย้ายเข้ามาอยู่ในท้องที่นี้ แต่ก็ยังคงเห็นท้องนาบางส่วนอยู่ นอกจากนี้ อำเภอบางบัวทองยังเป็นอำเภอที่มีจำนวนประชากรมากที่สุดเป็นอันดับที่ 2 ของจังหวัดนนทบุรีด้วย (และมีความหนาแน่นมากเป็นอันดับ 3) Show ที่ตั้งและอาณาเขต[แก้]อำเภอบางบัวทองตั้งอยู่บนพื้นที่ฝั่งขวาแม่น้ำเจ้าพระยาของจังหวัดนนทบุรี ห่างจากตัวจังหวัดไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือ 15.96 กิโลเมตร มีอาณาเขตติดต่อกับเขตการปกครองข้างเคียงดังนี้
ที่มาของชื่ออำเภอ[แก้]อำเภอบางบัวทองตั้งชื่อตามคลองบางบัวทองซึ่งเป็นคลองที่แยกจากแม่น้ำเจ้าพระยาฝั่งตะวันตกตรงข้ามเกาะเกร็ด มีความยาวประมาณ 10 กิโลเมตร มีคำอธิบายที่มาของชื่อคลองอยู่สองแบบ ได้แก่
ประวัติศาสตร์[แก้]ท้องที่อำเภอบางบัวทองในครั้งแรกเป็นส่วนหนึ่งของอำเภอ (หรือแขวง) ที่มีชื่อว่า "อำเภอบ้านแหลมใหญ่และเกาะศาลากุน" ต่อมาอำเภอนี้ถูกยุบเลิกแล้วแบ่งพื้นที่ด้านตะวันตกออกมาจัดตั้งเป็น อำเภอบางบัวทอง โดยตั้งที่ว่าการอำเภออยู่บริเวณริมคลองบางบัวทอง ตรงข้ามปากคลองพระราชาภิมณฑ์ (ปัจจุบันเรียกว่าคลองพระพิมล) นายอำเภอคนแรกคือ หลวงพิธีผดุงชน ต่อมาใน พ.ศ. 2460 ได้ย้ายที่ว่าการอำเภอไปตั้งที่ถนนบางกรวย-ไทรน้อย ตำบลโสนลอย และในปีเดียวกัน ทางราชการได้แยกตำบลบางแม่นาง ตำบลเสาธงหิน และตำบลบ้านใหม่ออกไปรวมกับพื้นที่บางส่วนของอำเภอบางใหญ่ (ปัจจุบันคืออำเภอบางกรวย) ตั้งเป็น "กิ่งอำเภอบางแม่นาง" และในเวลาต่อมาได้ตั้งเป็นอำเภอบางแม่นาง (ปัจจุบันคืออำเภอบางใหญ่) และใน พ.ศ. 2463 กระทรวงนครบาลได้เปลี่ยนชื่อตำบลบางบัวทองเป็นตำบลอ้อมเกร็ด เปลี่ยนชื่อตำบลพระพิมลเป็นตำบลบางบัวทอง และให้โอนตำบลอ้อมเกร็ดและบางพลับไปขึ้นอยู่กับอำเภอปากเกร็ด และใน พ.ศ. 2483 ทางราชการได้แบ่งพื้นที่การปกครองหมู่ที่ 1–6, 11–13, 18 ของตำบลไทรใหญ่ รวมกับหมู่ที่ 6–8 ตำบลละหาร จัดตั้งเป็นตำบลราษฎร์นิยม จนกระทั่ง พ.ศ. 2486 ขณะนั้นประเทศไทยเกิดปัญหาสภาวะเศรษฐกิจตกต่ำ ทางราชการจึงยุบจังหวัดนนทบุรีลงโดยโอนอำเภอบางบัวทองไปขึ้นกับจังหวัดธนบุรี แต่ภายหลังก็โอนกลับมาอยู่ในการปกครองของจังหวัดนนทบุรีที่ได้รับการยกฐานะขึ้นมาอีกครั้งใน พ.ศ. 2489 ใน พ.ศ. 2490 มีประกาศกระทรวงมหาดไทยเปลี่ยนแปลงเขตตำบลเดิมและตั้งตำบลใหม่ โดยแบ่งพื้นที่บางส่วนจากตำบลลำโพตั้งเป็นตำบลละหาร และแบ่งพื้นที่บางส่วนจากตำบลหนองเพรางายตั้งเป็นตำบลบางคูรัด ภายในปีเดียวกันนั้นทางราชการก็ได้รวมตำบลไทรน้อย ตำบลไทรใหญ่ ตำบลหนองเพรางาย และตำบลราษฎร์นิยมจัดตั้งเป็น "กิ่งอำเภอไทรน้อย" (ภายหลังยกฐานะเป็นอำเภอไทรน้อย) ต่อมาใน พ.ศ. 2523 กระทรวงมหาดไทยได้แบ่งพื้นที่บางส่วนของตำบลบางบัวทองจัดตั้งเป็นตำบลพิมลราช และใน พ.ศ. 2529 แบ่งพื้นที่ด้านทิศตะวันตกของตำบลบางรักใหญ่จัดตั้งเป็นตำบลบางรักพัฒนา ท้องที่อำเภอบางบัวทองจึงประกอบด้วย 8 ตำบลจนถึงปัจจุบัน การแบ่งเขตการปกครอง[แก้]การปกครองส่วนภูมิภาค[แก้]อำเภอบางบัวทองแบ่งเขตการปกครองย่อยเป็น 8 ตำบล แต่ละตำบลแบ่งออกเป็นหมู่บ้าน รวมทั้งหมด 81 หมู่บ้าน (หรือ 73 หมู่บ้าน หากไม่นับรวมในเขตเทศบาลเมืองบางบัวทองซึ่งไม่มีตำแหน่งกำนันและผู้ใหญ่บ้านแล้ว) ได้แก่ ลำดับ อักษรไทย อักษรโรมัน จำนวนหมู่บ้าน จำนวนประชากร (ธันวาคม 2565) สี แผนที่ 1. โสนลอย Sano Loi 6 9,045 2. บางบัวทอง Bang Bua Thong14 63,154 3. บางรักใหญ่ Bang Rak Yai 11 9,667 4. บางคูรัด Bang Khu Rat 10 40,504 5. ละหาร Lahan 9 25,695 6. ลำโพ Lam Pho 8 14,106 7. พิมลราช Phimon Rat 8 54,906 8. บางรักพัฒนา Bang Rak Phatthana 15 73,867 การปกครองส่วนท้องถิ่น[แก้]ท้องที่อำเภอบางบัวทองประกอบด้วยองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น 8 แห่ง ได้แก่
การคมนาคม[แก้]ถนนสายสำคัญของอำเภอ ได้แก่
ขนส่งทางราง[แก้]
อ้างอิง[แก้]
|