Windows task manager ม โปรเเกมเด ยวก น 2 ต ว

ตัวจัดการงานหรือTask Manager เป็นหนึ่งในแอปที่ผู้คนใช้กันมากที่สุดบน Windows และให้วิธีที่มีประสิทธิภาพในการจัดการทรัพยากรอย่างเป็นระบบ ซึ่งรวมถึงกระบวนการที่ทำงานอยู่ ไฟล์ระบบการทำงานอีกด้วย และโปรแกรมเริ่มต้น Windows 11 เวอร์ชั่น 22H2 หรือเวอร์ชั่นอัปเดต 2022 ได้ปรับปรุง Task Manager ด้วยรูปลักษณ์ใหม่ที่สร้างขึ้นจาก Fluent Design

Task Manager ใหม่นี้มีตัวเลือกในการปรับให้เข้ากับแอปอื่นๆ เช่น Microsoft Office, Paint, Outlook และอื่นๆ แม้ว่าตัวจัดการงานจะได้รับการออกแบบใหม่ วิธีการใช้งานของผู้ใช้งานก็ไม่เปลี่ยนแปลง ผู้ใช้งานยังสามารถคลิกที่แท็บ กระบวนการ เพื่อจัดการกระบวนการที่ทำงานอยู่และอื่น ๆได้เหมือนเดิม

ในขณะเดียวกัน การพัฒนาคุณลักษณะของตัวจัดการงานได้มีการล่าช้าอย่างมาก ตัวอย่างเช่น เครื่องมือนี้ไม่มีแม้แต่แถบค้นหาด้วยซ้ำแต่อย่างไรก็ตามในตัวอย่างล่าสุดได้ยืนยันว่า 'search bar' คือฟีเจอร์พื้นฐานที่ผู้คนคาดหวังในแอปอย่าง Task Manager และ search bar ที่ทุกคนเรียกหาก็จะพร้อมให้บริการในการอัปเดทครั้งถัดไป

ปัญหานี้ดูเป็นปัญหาระดับชาติเลยทีเดียวสำหรับผู้ใช้ Windows หลายคน แต่วิธีแก้จริง ๆ นั้นง่ายมาก ซึ่งหลายคนอาจจะยังไม่รู้ เดี๋ยวจะมาแนะนำให้ดูกันว่าปิดยังไง

วิธีตั้งค่าปิดโปรแกรมตอนเปิดเครื่อง Windows 10 / 11

วิธีแรก

  1. เปิด Task Manager ขึ้นมา โดยพิมพ์ที่ช่องค้นหา เลือก Task Manager (หรือชื่อภาษาไทยคือ ตัวจัดการงาน) ㅤ
    Windows task manager ม โปรเเกมเด ยวก น 2 ต ว
  2. ที่หน้า Task Manager คลิกที่แท็บเมนู Startup โดยของ Windows 11 จะอยู่ตรงแถบฝั่งซ้ายเป็นไอคอนรูปเข็มนาฬิกา มีชื่อเต็มว่า Startup apps ส่วนของ Windows 10 (และ 11 เวอร์ชันเก่า) จะเป็นแถบด้านบนเขียนว่า Startup เลย ㅤ
  3. โปรแกรมไหนที่ชอบโผล่มาตอนเปิดเครื่อง ที่หัวข้อ Status ของมันจะมีสถานะเป็น Enabled หรือโดนเปิดใช้งานอยู่ วิธีปิดก็คือต้องไปเปลี่ยนสถานะมันให้กลายเป็น Disabled โดยของ Windows 11 ให้คลิกเลือกชื่อโปรแกรมที่ต้องการ จากนั้นกดที่ปุ่ม Disable ด้านบนขวา ส่วนของ Windows 10 ก็เลือกเหมือนกันแล้วกดปุ่ม Disable ด้านล่างขวาสุด (หรือทั้งคู่ใช้วิธีคลิกขวาที่ชื่อโปรแกรมแล้วเลือก Disable เลยก็ได้) ㅤ
  4. เท่านี้ก็เป็นอันเสร็จเรียบร้อยครับ รับรองว่าเปิดคอมใหม่ครั้งหน้าไม่โดนขึ้นมากวนใจแล้วแน่นอน หรือถ้าอยากให้โปรแกรมไหนกลับมาเปิดอัตโนมัติแบบนี้อีกรอบ ก็ให้มาตั้งค่าสถานะเป็น Enabled ตามเดิมครับ

วิธีที่สอง

จริง ๆ แล้วมีอีกวิธีที่สามารถทำได้ง่ายกว่าด้านบน คือทำให้หน้า Settings ของ Windows เลย ให้เข้าไปที่หน้า Settings > Apps > Startup จะมีชื่อของโปรแกรมแบบเดียวกับหน้า Task Manager ด้านบนเรียงอยู่ในนี้ทั้งหมด และจะมีปุ่มเปิด-ปิดแบบเลื่อนอยู่ด้านท้าย โปรแกรมไหนที่ไม่อยากให้ขึ้นตอนเปิดคอมก็ให้เลื่อนสถานะเป็น Off เพื่อปิดได้เลย

Windows task manager ม โปรเเกมเด ยวก น 2 ต ว

วิธีตั้งค่าให้โปรแกรมเปิดเองอัตโนมัติหลังเปิดเครื่อง (ทำได้ทุกโปรแกรม)

ถัดไปมาดูวิธีตรงข้ามกันบ้าง นั่นคือการตั้งค่าให้โปรแกรมเปิดขึ้นมาให้อัตโนมัติทุกครั้งหลังเปิดเครื่อง ทำได้กับทุกแอปหรือโปรแกรม จำนวนกี่ตัวก็ได้ เหมาะสำหรับคนทำงานที่ชอบเปิดโปรแกรมเหล่านี้ใช้ประจำอยู่แล้ว

ตัวอย่างเช่น ทีมงานผู้เขียนชอบใช้ Photoshop, Gmail และ Play Store หลังเปิดเครื่องทันทีตลอดอยู่แล้ว เลยอยากให้มันเปิดให้หมดเลย ไม่ต้องเสียเวลาไล่คลิกเองทีละอัน แต่แอบมีความยากนิดนึงตรงที่ทุกอันที่ว่ามาไม่ได้โดนบรรจุไว้ในหน้า startup บน Task Manager ให้ตั้งแต่แรก เลยไปเลือก Enable ใช้ทันทีไม่ได้ จึงต้องหาวิธีเพิ่มเข้ามาก่อน เดี๋ยวจะมาแนะนำให้ดูกันว่าทำยังไง

  • เปิด Run ขึ้นมา โดยพิมพ์ที่ช่องค้นหา จากนั้นในช่อง Open: ของ Run ให้พิมพ์คำสั่ง shell:common startup และกด Enter ㅤ
    Windows task manager ม โปรเเกมเด ยวก น 2 ต ว
  • จากนั้นจะมี directory ของโฟลเดอร์ C:\ProgramData\Microsoft\Windows\Start Menu\Programs\Startup โผล่ขึ้นมา วิธีจะทำให้โปรแกรมไหนเปิดอัตโนมัติ คือให้นำ shortcut หรือ exe ของโปรแกรมนั้นมาวางไว้ในนี้เลย ㅤ
    Windows task manager ม โปรเเกมเด ยวก น 2 ต ว
    ㅤ ปกติโปรแกรมส่วนใหญ่ที่เราใช้ก็มักจะอยู่ในหน้าเดสก์ท็อปอยู่แล้ว สามารถก๊อปปี้ shortcut (ไอคอนทางลัดเปิดโปรแกรม) ไปวางในโฟลเดอร์ Startup ด้านบนได้เลย แต่สำหรับโปรแกรมที่ไม่มี หากใครไม่ทราบวิธีหา ให้พิมพ์ค้นชื่อโปรแกรมนั้นจากช่องค้นหา จากนั้นคลิกขวาที่โปรแกรมนั้น เลือก Open file location จะพาไปยังหน้าที่ shortcut ของโปรแกรมนั้นอยู่ ก็สามารถก๊อปปี้แล้วเอาไปวางได้เลย ㅤ
    Windows task manager ม โปรเเกมเด ยวก น 2 ต ว
    ㅤ หลังวางเสร็จ พอไปเปิดดูในหน้า Startup ของ Task Manager หรือหน้า Settings > Apps > Startup ก็จะพบว่ามีชื่อของโปรแกรมที่เราเพิ่งวางไปโผล่มาแล้ว ในตัวอย่างก็คือ Photoshop.exe, chrome_proxy.exe (ของ Gmail) และ WsaClient.exe (ของ Play Store) โดยมีสถานะเป็น Enabled คือเปิดให้ใช้งานเรียบร้อย (หากยังไม่เป็นก็ตั้งให้เป็น Enabled เองเลย) ㅤ

**สาเหตุที่ Gmail และ Play Store ในตัวอย่างไม่เป็นชื่อของมันเองตรง ๆ เหมือน Photoshop เนื่องจากมันเป็นแอปย่อยที่รันอยู่ในแอปใหญ่อีกที อย่าง Play Store ก็เป็นของ Windows Subsystem for Android (WSA) ส่วน Gmail ก็เป็นเว็บแอปที่ทำขึ้นมาจาก Google Chrome อีกที เลยถูกแสดงเป็นชื่อแอปหลักแทน (ทั้งเบราว์เซอร์ Edge และ Chrome มีฟีเจอร์ที่สามารถตั้งหน้าเว็บเอามาทำเสมือนเป็นแอปได้ ใครสนใจลองดูได้จากบทความนี้ในข้อที่ 3 ครับ)