การติดเชื้อในกระแสเลือด เป็นภาวะที่เป็นอันตรายถึงชีวิต โดยเกิดขึ้นจากระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายตอบสนองต่อการติดเชื้อมากกว่าปกติจนอวัยวะสําคัญ ๆ เริ่มทํางานผิดปกติ Show ภาวะติดเชื้อในกระแสเลือดอาจรุนแรงมากขึ้นจนเกิดภาวะช็อก ความดันโลหิตต่ำลงอย่างรวดเร็ว และนําไปสู่ภาวะอวัยวะล้มเหลวหลายระบบ และเสียชีวิตในที่สุด การรักษาประกอบไปด้วยการค้นหาตำแหน่งอวัยวะที่มีการติดเชื้อ การให้ยาปฏิชีวนะแบบกว้าง ครอบคลุมการติดเชื้อเบื้องต้น การผ่าตัดในกรณีที่มีหนองหรือมีข้อบ่งชี้ การให้สารน้ำและ/หรือการให้ยาอื่น ๆ เพื่อประคับประคองความดัน รวมถึงการสังเกตอาการอย่างใกล้ชิดในโรงพยาบาล การให้ยาปฏิชีวนะ สารน้ำ และยาประคับประคองความดัน ทางหลอดเลือดเป็นวิธีรักษาที่ช่วยเพิ่มอัตราการรอดชีวิตของผู้ป่วยได้ อาการสัญญาณและอาการของการติดเชื้อในกระแสเลือด
สัญญาณและอาการของภาวะช็อกจากการติดเชื้อในกระแสเลือด ภาวะช็อกอาจเกิดขึ้นในกรณที่ความดันโลหิตต่ำลงมาก ทำให้เลือดไหลเวียนไปที่ระบบต่าง ๆ ลดลง เกิดภาวะอวัยวะล้มเหลวหลายระบบ หากอาการรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ อาจจะนำไปสู่การเสียชีวิตได้ ควรไปพบแพทย์เมื่อใดการติดเชื้อในกระแสเลือดมักจะเกิดขึ้นในกรณีที่มีการติดเชื้อลุกลามมากขึ้นเรื่อย ๆ ไม่ได้รับการรักษาอย่างเหมาะสมทันท่วงที หรือเกิดขึ้นในผู้ป่วยสูงอายุ ภูมิต้านทานต่ำ โรคประจำตัวเช่นเบาหวานที่ควบคุมไม่ได้ เป็นต้น ถ้าผู้ป่วยมีอาการซึมลง สับสน รับประทานอาหารได้น้อย ความดันต่ำลง ปัสสาวะออกลดลง ควรไปพบแพทย์ทันที ในกรณีผู้สูงอายุ บางครั้งอาจจะไม่มีไข้ได้ โดยการที่มีอุณหภูมิต่ำกว่า 36 องศาเซลเซียส ถือว่ามีอาการรุนแรง สาเหตุการติดเชื้อในกระแสเลือดส่วนใหญ่เกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรีย ส่วนน้อยเกิดจากการติดเชื้อราได้ โดยเป็นผลแทรกซ้อนตามมาจากการที่ร่างกายมีการติดเชื้อในระบบต่าง ๆ เช่น
ผู้ป่วยกลุ่มเสี่ยงต่อภาวะการติดเชื้อในกระเสเลือด
ภาวะแทรกซ้อนการติดเชื้อในกระแสเลือดรุนแรงนั้นส่งผลกระทบให้ความดันต่ำลง เลือดไปเลี้ยงอวัยวะต่าง ๆ ได้ลดลง รวมถึงอาจมีภาวะลิ่มเลือดขนาดเล็กอุดตันในเส้นเลือดฝอย ทำให้เกิดอวัยวะล้มเหลวได้หลายระบบ เช่น ไตวายเฉียบพลัน การหายใจล้มเหลว ภาวะเลือดเป็นกรดที่รุนแรงจากกรดแลกติกในเลือดคั่ง คนไข้ส่วนใหญ่ที่ไม่มีภาวะช็อกจากการติดเชื้อนั้นส่วนใหญ่จะสามารถฟื้นตัวได้ ขึ้นอยู่กับความรุนแรงของอาการติดเชื้อ ในกรณีที่อาการรุนแรง รับการรักษาในไอซียู นั่นจะใช้เวลาในการฟื้นตัวนานกว่าที่จะฟื้นฟูอวัยวะที่ล้มเหลวให้กลับมาทำงานได้ปกติ การวินิจฉัยการติดเชื้อในกระแสเลือดแพทย์ผู้ดูแลรักษาประเมินจากประวัติและการตรวจร่างกาย เพื่อวินิจฉัยตำแหน่งการติดเชื้อ และจำเป็นต้องมีการตรวจทางห้องปฏิบัติการเพิ่มเติม เช่น
การรักษาการได้รับการวินิจฉัยและรักษาการติดเชื้อในกระแสเลือดอย่างทันท่วงที การดูแลและการรักษาของหน่วยไอซียูอย่างใกล้ชิด นั้น จะทำให้ผลของการรักษาของผู้ป่วยดี ฟื้นตัวได้สูง การรักษาด้วยยาประกอบไปด้วย
การรักษาด้วยการผ่าตัดในบางกรณีที่ผู้ป่วยมีการติดเชื้อบางตำแหน่ง เช่น ฝีหนองในช่องท้อง ลำไส้แตกรั่ว การติดเชื้อผิวหนังรุนแรง เนื้อเยื่อตายนั้น จำเป็นต้องได้รับการผ่าตัดเพื่อกำจัดตำแหน่งที่ติดเชื้อ ระบายฝีหนองโดยการใส่สายระบาย การถอดสายสวนหลอดเลือดดำที่มีการติดเชื้อออกเป็นต้น เนื่องจากการติดเชื้อชนิดดังกล่าวนั้นลุกลามเกินกว่าจะรักษา ด้วยการให้ยาปฏิชีวนะแบบกว้างเพียงอย่างเดียวได้ |