ทำงาน ให้มีความสุข สนุกกับงาน

1. แบ่งเวลาพักระหว่างการทำงาน แบ่งเป็นช่วงเวลา เช่น ในแต่ละชั่วโมงจะทำงาน 55 นาที พัก 5 นาที เพื่อเติมพลังให้ความคิดสร้างสรรค์และร่างกาย หรืออย่างน้อยก็เพื่อผ่อนคลายกล้ามเนื้อและพักสายตา

2. นอนพักผ่อนให้เพียงพอ เพื่อร่างกายที่แข็งแรง ไม่ป่วยง่าย เพราะเมื่อเราป่วยนอกจากประสิทธิภาพในการทำงานลดลงแล้ว ยังจะทำให้เรามีความรู้สึกที่ไม่สดใสในการทำงานอีกด้วย

3. มีเพื่อนและงานอดิเรกที่นอกเหนือจากการทำงาน เพื่อหาสิ่งใหม่ และเติมแรงบันดาลใจให้ตัวเองอยู่เสมอ

4. ค้นหาความหมายหรือคุณค่าในงานที่ทำ

5. ให้เวลากับคนในครอบครัว และสิ่งอื่นๆ ที่สำคัญในชีวิต

6. กระตุ้นตัวเองด้วยคำถามที่ว่า “ทำไมถึงต้องทำงาน” หรือ “ทำงานเพื่ออะไร”

วิธีเหล่านี้เป็นวิธีง่ายๆ ที่คนทำงานมักมองข้ามไป เนื่องจากภาระการทำงานที่ต่อเนื่อง หรือการประชุมงานที่ยืดยาว แต่อย่าลืมว่าความสุขในการทำงานของเรานั้นก็สำคัญ โปรดมีวินัยต่อตัวเอง เพื่อให้ตัวเองทำงานได้อย่างมีความสุข

คว้างานที่ใช่ ด้วยการค้นหางานที่ง่ายและรวดเร็ว พร้อมทั้งจัดการเรซูเม่อย่างมีประสิทธิภาพ ให้คุณอัปโหลด ดู และลบได้ทุกเมื่อที่ต้องการ เพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การใช้งานแสนง่าย ด้วยระบบ AI ใหม่ ช่วยค้นหางานที่ตรงใจมากขึ้นถึง 6 เท่า​

 

เรื่องอื่น ๆ ที่น่าสนใจ

เติมความเบิกบาน ให้ชีวิตการทำงานมีสีสัน

5 วิธีคิดให้ชีวิตไม่เครียด

การทำงาน  ความสุขในการทำงาน  ทำงาน  ทำงานอย่างมีความสุข  ทำงานให้มีความสุข  เคล็ดลับการทำงานอย่างมีความสุข  เคล็ดลับการทำงานให้มีความสุข

บทความยอดนิยม

9 เทรนด์การทำงานในอนาคตสำหรับปี 2023เคล็ดลับทำงานดีมีความสุข

ทำงาน ให้มีความสุข สนุกกับงาน

Test case คืออะไรทำไม Tester จำเป็นต้องทำ?

ในสายงานการพัฒนาแอปพลิเคชั่น ซอฟท์แวร์ หรือโปรแกรมต่าง ๆ นอกจากอาชีพชูโรงอย่าง Developer แล้ว ยังมีตำแหน่งยิบย่อยอื่น ๆ...

ทำงาน ให้มีความสุข สนุกกับงาน

ChatGPT คืออะไรทำไมเราถึงควรต้องทำความรู้จัก

  เราอาจคุ้นเคยกับเทคโนโลยี AI (Artificial Intelligence) หรือระบบปัญญาประดิษฐ์ ซึ่งก็คือความฉลาดของคอมพิวเตอร์กันมา...

ทำงาน ให้มีความสุข สนุกกับงาน

Work From Home vs. Hybrid Work องค์กรใหญ่ควรเลือกระบบไหนในปี 2023

ใครจะไปคิดว่าวันหนึ่งโลกของเราจะเกิดโรคระบาดอย่างโควิด-19 ขึ้นมา แล้วส่งผลกระทบแบบเป็นวงกว้างไปทั่วโลก สร้างปัญหาให้กับท...

การทำงานมีความสำคัญต่อชีวิตมนุษย์เป็นอย่างมาก อาจกล่าวได้ว่าการทำงานเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตที่ปฏิบัติมากกว่ากิจกรรมใดๆ ในการดำรงชีวิต (เอกสาร คุณภาพชีวิตการทำงาน; ผจญ เฉลิมสาร) นอกจากปัจจัย 4 (อาหาร เครื่องนุ่งห่ม ที่อยู่อาศัย และยารักษาโรค) แล้ว การทำงานเป็นการเปิดโอกาสให้แสดงออกถึงเชาว์ ปัญญา ความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ อันจะนำมาซึ่งเกียรติภูมิและความพึงพอใจในชีวิตและยังเป็นการสร้างความมั่นคงให้กับตนเองและครอบครัว รวมไปถึงการมีคุณภาพชีวิตและฐานะทางสังคมที่ดี จึงทำให้คนส่วนมากจมอยู่กับการใช้ชีวิตในการทำงาน ทำให้สภาพร่างกายและจิตใจอ่อนล้า โดยเฉพาะสภาพจิตใจ ซึ่งมักได้รับผลกระทบเกิดปัญหาในการทำงานต่างๆ นานา เช่น เรื่องงาน เพื่อนร่วมงาน และ เจ้านาย เป็นต้น หรืออาจจะมีมากกว่าที่กล่าวมานี้ แต่จะมีสักกี่คนที่มีความสุขควบคู่ไปกับการทำงาน

เมื่อเราทำงานย่อมได้ค่าแรงและเงินเดือนเป็นสิ่งตอบแทนความเหน็ดเหนื่อยที่เราเสียไป แต่สิ่งเหล่านี้อาจไม่ใช่ความต้องการที่แท้จริงจากการทำงาน แต่ที่ต้องการมากกว่าการตอบแทนเหล่านั้น คือ “ความสุขในการทำงาน” ดังคำที่กล่าวไว้ว่า “…งานคือชีวิต ชีวิตคืองานบันดาลสุข ทำงานให้สนุก เป็นสุขเมื่อทำงาน...” เราต้องมีความสุขเมื่อเราทำงานด้วย จึงจะเกิดผลที่ดีตามมาแก่ตนเองและองค์กร อาทิเช่น ทำให้การบริหารองค์กรเป็นไปได้ด้วยความราบรื่น ความสุขจะเป็นการเพิ่มทั้งปริมาณและคุณภาพของผลผลิต ก่อให้เกิดความคิดสร้างสรรค์และนวัตกรรม ลดความเครียดและความขัดแย้งในองค์กร ซึ่งช่วยให้องค์กรเจริญก้าวหน้าและพัฒนาได้อย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผล การสร้างความสุขในที่ทำงานเราสามารถสร้างขึ้นได้ด้วยตัวของเราเอง เช่น ต้องกล่าวคำขอบคุณอย่างจริงใจ ต้องมีความไว้วางใจ มีเพื่อนร่วมงานที่ดี มีเจ้านายที่ดี และองค์กรมีวัฒนธรรมการทำงานที่ดี เป็นต้น การปรับเปลี่ยนทัศนคติก็เป็นอีกวิธีหนึ่งที่ดี

ความสุขในการทำงาน ปี พ.ศ. 2555

จากการสำรวจ โพล: “ความสุข-ความทุกข์” ของคนไทย ณ วันนี้ ของสวนดุสิตโพล พบว่า ความสุขที่ได้รับจากการทำงานอันดับหนึ่ง ได้แก่ ความมีน้ำใจ/การร่วมแรงร่วมใจกันทำงาน การช่วยหลือซึ่งกันและกันเป็น ร้อยละ 71.43 รองลงมา คือ มีเพื่อนร่วมงานที่ดี ร้อยละ 16.71 และได้รับการยอมรับ คำชื่นชมจากผู้ใหญ่หรือเพื่อนร่วมงาน ร้อยละ 11.86 ตามลำดับ

ที่มา : โพล “ความสุข-ความทุกข์” ของคนไทย ณ วันนี้ สวนดุสิตโพล อ้างใน http://dusitpoll.dusit.ac.th/

ในขณะที่ความทุกข์ที่ได้จากการทำงานส่วนใหญ่ ร้อยละ 61.25 เป็นเรื่องของความไม่สามัคคี ทะเลาะเบาะแว้ง/อิจฉาริษยา ชิงดีชิงเด่นและการถูกนินทาว่าร้าย รองลงมาก็คือ งานหนัก ไม่มีเวลาให้กับตนเองและครอบครัว ร้อยละ 21.78 และไม่ได้รับความยุติธรรม ถูกเอารัดเอาเปรียบ โดนกลั่นแกล้ง ร้อยละ 16.97 ตามลำดับ

ที่มา : โพล “ความสุข-ความทุกข์” ของคนไทย ณ วันนี้ สวนดุสิตโพล อ้างใน http://dusitpoll.dusit.ac.th/

     ดังนั้น ความสุขในการทำงานจึงจำเป็นต่อชีวิตการทำงานที่เป็นเสมือนบ้านหลังที่สองของผู้ที่ทำงาน เพื่อให้การทำงานเป็นไปอย่างราบรื่น มีความสุขไปกับงาน เพื่อนร่วมงานและองค์กร การสร้างความสุขในการทำงาน ไม่ใช่หน้าที่ของคนใดคนหนึ่ง หรือเป็นหน้าที่ขององค์กรเพียงเท่านั้น แต่เป็นหน้าที่ของคนทำงานทุกคนในองค์กร วิธีการสร้างความสุขในการทำงานสามารถทำได้ โดยใช้แบบความสุข 8 ประการ (จากหนังสือ คู่มือความสุข 8 ประการในที่ทำงาน)

แบบความสุข 8 ประการ ( Happy 8) คือ

- Happy body มีสุขภาพดี สุขภาพที่แข็งแรงทั้งกายและใจมาจากการที่รู้จักใช้ชีวิต รู้จักกิน รู้จักนอน ชีวิตมีความสุข

- Happy heart มีน้ำใจงาม สิ่งที่จำเป็นที่สุดในการที่มนุษย์จะอยู่กับคนอื่นได้ต้องมีน้ำใจคิดถึงคนอื่น เอื้ออาทรต่อกัน เพราะคนเราอยู่ตัวคนเดียวในโลกนี้ไม่ได้ ต้องรู้จักแบ่งปันอย่างเหมาะสม

- Happy relax การผ่อนคลาย ต้องรู้จักผ่อนคลายสิ่งต่างๆ ในการดำเนินชีวิต เพื่อไม่ให้ตนเองรู้สึกกดดันมากเกินไป หากทำงานเครียดก็ต้องมีวิธีผ่อนคลายในการทำงาน หรือแม้แต่ชีวิตส่วนตัวก็ด้วย ต้องรู้จักผ่อนคลายให้เหมาะสม

- Happy brain การหาความรู้ มนุษย์เราอยู่ได้ด้วยการศึกษาหาความรู้พัฒนาตนเองตลอดเวลาจากแหล่งต่างๆ เพื่อนำไปสู่การเป็นมืออาชีพและเกิดความมั่นคงก้าวหน้าในการทำงาน หรือพูดง่ายๆ คือ เรียนเพื่อรู้ และสอนคนอื่นได้ในงานที่ตนรู้

- Happy soul การมีคุณธรรมอันเป็นสิ่งจำเป็นพื้นฐานของการอยู่ร่วมกันของมนุษย์ในสังคม คือการมี หิริโอตตัปปะ ในการทำงานเป็นทีม หิริโอตตัปปะ คือ ความละอายและเกรงกลัวต่อการกระทำของตนเองโดยเฉพาะการกระทำที่ไม่ดี คนดีมีคุณธรรมนำมาซึ่งความสุขขององค์กร เพราะคนมีความศรัทธาในศาสนาและมี ศีลธรรมในการดำเนินชีวิต

- Happy money รู้จักใช้เงินให้เป็น สามารถจัดการรายรับรายจ่ายของตัวเองได้ มีเงินรู้จักเก็บรู้จักใช้ เป็นหนี้ให้พอดี มีชีวิตที่เหมาะสมกับตัวเอง เพราะวันนี้คนปฏิเสธการเป็นหนี้ไม่ได้ แต่สามารถจัดการค่าใช้จ่ายให้เหมาะสมกับตนเองได้

- Happy family ครอบครัวที่ดี การให้ความสำคัญกับครอบครัวทำให้ครอบครัวมีความอบอุ่นมั่นคง เกิดกำลังใจที่ดีในการทำงาน เหมือนเป็นภูมิคุ้มกันที่ช่วยให้เผชิญกับอนาคตหรืออุปสรรคในชีวิตได้

- Happy society สังคมดี สังคมมีสองมิติ คือ สังคมในที่ทำงานกับสังคมนอกที่ทำงาน มนุษย์ทุกคนต้องมีความรักสามัคคีเอื้อเฟื้อต่อสังคมที่ตนเองอยู่อาศัย เพื่อให้เกิดสังคมและสภาพแวดล้อมที่ดีตามมา

การคิดดี ทำดี ต่อองค์กร ต่อหัวหน้างาน ต่อเพื่อนร่วมงาน ต่อคนรอบข้างและต่องาน เพียงเท่านี้คุณย่อมมีความสุข และสนุกกับชีวิตการทำงานแล้ว ท้ายนี้ขอน้อมนำพระบรมราโชวาทของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ในพิธีพระราชทานปริญญาบัตรของ มหาวิทยาลัยศรีนครินทร์วิโรฒสงขลา เกี่ยวกับการทำงาน ไว้ดังนี้

“อันการทำงานนั้น กล่าวโดยสรุป ขึ้นอยู่กับความสามารถสองอย่างเป็นสำคัญ คือความสามารถในการใช้วิชาการอย่างหนึ่ง กับความ สามารถในการสัมพันธ์ติดต่อและประสานกับผู้อื่น ไม่ว่าจะในวงงานเดียวกันหรือต่างวงงานกัน อีกอย่างหนึ่ง ทั้งสองประการนี้ ย่อมดำเนินควบคู่ไปด้วยกันและจำเป็นที่จะต้องกระทำด้วยจิตใจที่ใสสะอาดปราศจากอคติ ต้องกระทำด้วยความคิดความเห็นที่อิสระ เป็นกลาง ถูกต้องตามหลักเหตุผล จึงจะมีความกระจ่างแจ่มแจ้งเกิดขึ้น” (พระบรมราโชวาทในพิธีพระราชทานปริญญาบัตรของ มหาวิทยาลัยศรีนครินทร์วิโรฒสงขลา : ๑๙ สิงหาคม ๒๕๑๗)