ทำไมเราไม่ควรงดอาหารมื้อเช้า

เป็นที่พูดถึงกันมานานแล้วว่า “อาหารเช้า” เป็นมื้ออาหารที่สำคัญที่สุดของวัน แต่อาจไม่เสมอไปนัก ถ้าเป็นอาหารเช้าที่ไม่ดีต่อร่างกาย เมื่อ นพ.นันทพล พงศ์รัตนามาน อาจารย์ที่ปรึกษา แผนกศัลยศาสตร์หลอดเลือด ร.พ.พระมงกุฎเกล้า หรือ หมอท็อป ให้ข้อมูลเกี่ยวกับการงดอาหารเช้าแย่ๆ 14 วัน อาจส่งผลดีต่อร่างกายอย่างคาดไม่ถึง

ก่อนอื่นมีการท้าวความว่า ในต่างประเทศมีการรณรงค์ให้รับประทานอาหารเช้า โดยได้รับการสนับสนุนจากนายทุนใหญ่ที่เป็นผู้ผลิตอาหารเช้า (ฝั่งตะวันตก) อย่าง ซีเรียล คอนเฟล็ก และขนมเคลือบน้ำตาลต่างๆ จึงทำให้เกิดกระแสตื่นตัวว่าเราต้องกิน “อาหารเช้า” กันไปทั่วโลก แต่อาหารเช้าที่แนะนำช่วงนั้นกลับเป็นอาหารที่มีแต่คาร์โบไฮเดรตจำพวกแป้ง และน้ำตาล ที่มาจากอาหารเช้าสำเร็จรูป ซึ่งอาจไม่ใช่ทางเลือกที่ดีนัก

อย่างไรก็ตาม ไม่ได้หมายความว่า “ห้ามกินอาหารเช้า” แต่หมายถึงให้งดกินมื้อเช้าที่มีแต่แป้งและน้ำตาลจะดีกว่า

ข้อดีของการอดอาหารเช้าที่ไม่ดีต่อร่างกาย

มีความเชื่อผิดๆ ที่บอกว่า การอดอาหารเช้าจะทำให้อ้วน เพราะจะไปกินเยอะขึ้นในมื้อเย็นแทน แต่จริงๆ แล้ว เมื่อเรางดมื้อเช้า จะเป็นเหมือนการยืดเวลาในการทำ IF ให้ยาวมากขึ้น อย่างน้อย 12-16 ชั่วโมง ในช่วงนี้ร่างกายจะดึงพลังงานจากไขมันมาเผาผลาญ ระบบเผาผลาญจะทำงานเป็นระบบไฮบริด เผาผลาญน้ำตาลเสร็จ ก็จะเผาผลาญพลังงานจากไขมันต่อ ทำให้ผอมลงได้นั่นเอง ระดับอินซูลินจะต่ำลง ไม่เปลี่ยนแปลงขึ้นลงมากจนเกินไป ไม่ค่อยหิว ทำให้น้ำหนักลดลงได้

การบริโภคน้ำตาลบ่อยๆ จะทำให้รู้สึกเหมือนติดยาเสพติด มีความอยากกินของหวานๆ อยู่เรื่อยๆ เมื่องดมื้อเช้าที่เต็มไปด้วยแป้งและน้ำตาลราว 2 สัปดาห์ เราจะเริ่ม “ไม่อยากน้ำตาล” เพราะฮอร์โมนเกรลิน (ฮอร์โมนความหิว) จะหลั่งลดลงมากๆ

• สมองตื่นตัว ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ

อาจมีคนเชื่อว่า การงดอาหารเช้าทำให้ไม่มีแรงทำงาน สมองไม่สดชื่น หรือไม่มีแรงคิด ซึ่งจริงๆ แล้วการงดอาหารเช้า ทำให้สมองจะเฉียบคม ตื่นตัว เพราะร่างกายจะเผาผลาญไขมันที่ตับ จนเกิดเป็น “สารคีโตน” ซึ่งเป็นพลังงานบริสุทธิ์ไปเลี้ยงสมองตลอดเวลา โดยพลังงานนี้จะไม่มีสิ่งตกค้างใดๆ ในร่างกาย ไม่เหมือนกับการเผาผลาญน้ำตาล ที่เป็นเหมือนกับการเผาผลาญถ่านหิน โดยมีสิ่งตกค้างหลงเหลืออยู่ คือโรคภัยไข้เจ็บต่างๆ

ดังนั้นการอดอาหารที่เหมือนกับการทำ IF ในช่วงมื้อเช้า จะทำให้สมองมีพลังงานจากการเผาผลาญไขมันไปเลี้ยงตลอดเวลา ทำให้สมองตื่นตัวอยู่ตลอดนั่นเอง นอกจากนี้ยังช่วยลดภาวะอัลไซเมอร์ได้อีกด้วย

• ลดเสี่ยงโรคเบาหวาน ความดันสูง ไขมันสูง

การงดการรับประทานอาหารเช้าที่มีแต่แป้งและน้ำตาล จะช่วยลดโรคภัยไข้เจ็บต่างๆ ที่รวมถึงลดความเสี่ยงโรคอ้วน เบาหวาน ความดันสูง และไขมันสูงได้ เพราะทำให้ระดับของอินซูลินในร่างกายอยู่ในระดับที่เหมาะสมอยู่ตลอดนั่นเอง

สรุป การกินอาหารเช้ายังสามารถทำได้อยู่หากเป็นการเลือกกินอาหารที่มีประโยชน์ เน้นครบ 5 หมู่ ไม่ควรเลือกกินอาหารเช้าสำเร็จรูปที่มีแต่แป้งและน้ำตาลในปริมาณสูง นอกจากนี้อย่าลืมหมั่นออกกำลังกายเป็นประจำ และนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอด้วย

อาหารเช้ายิ่งงดยิ่งอ้วน ผลวิจัยล่าสุดเปิดเผยว่า การไม่รับประทานอาหารเช้า อาจทำให้น้ำหนักตัวเพิ่มมากขึ้น อันเป็นผลมาจากการสั่งการของสมอง ซึ่งจะสั่งการให้มีการรับประทานอาหารที่มากขึ้นในมื้อถัดไป เมื่อมีความรู้สึกหิวจัด โดยงานวิจัยระบุว่า คนที่ไม่รับประทานอาหารเช้า จะมีความเสี่ยงที่น้ำหนักตัวจะเพิ่มสูงขึ้น เพราะพวกเขามักเลือกที่จะรับประทานอาหารที่มีแคลอรีสูงแทน ในมื้อต่อๆ มา

โดยผลการวิจัยดังกล่าว จัดทำขึ้นโดยการเก็บข้อมูลของผลการสแกนสมองของอาสาสมัครจำนวน 21 คน ที่มีทั้งกลุ่มที่รับประทานอาหารเช้า และกลุ่มที่ไม่รับประทานอาหารเช้า

ซึ่งข้อมูลที่ได้ระบุว่า อาสาสมัครคนใดที่ไม่ได้รับประทานอาหารเช้า สมองจะสั่งการให้รับประทานอาหารมากขึ้นในมื้อกลางวัน และอาหารประเภทที่มีแคลอรีสูง จะเป็นอาหารที่กลุ่มคนที่ไม่ได้รับประทานอาหารเช้า มีความต้องการมากเป็นพิเศษ ซึ่งสิ่งที่เกิดขึ้นนี้ นักวิจัยไม่สามารถให้เหตุผลได้ว่าเหตุใดสมองจึงสั่งการเช่นนั้น และสมองมีส่วนเกี่ยวข้องในการเลือกรับประทานอาหารมากน้อยเพียงใด

สำหรับกลุ่มคนที่กำลังลดความอ้วนนั้น นักวิจัยจึงแนะนำว่า ไม่ควรหลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารเช้า เพราะจะส่งผลให้มีการรับประทานอาหารที่มีแคลอรีสูงในมื้อถัดไป และจะยิ่งทำให้การลดน้ำหนักเป็นเรื่องที่ยากลำบากมากขึ้น และยิ่งคนๆ นั้นมีความหิวมากขึ้นเท่าไหร่ ก็จะยิ่งรับประทานอาหารมื้อถัดไปมากขึ้นเท่านั้น

ใครชอบข้ามมื้อเช้าไปกินมื้อกลางวันเลยบ้างคะ ยกมือขึ้น เราเองก็เคยนะ งดมื้อเช้า ไปรวบอีกทีตอนบ่ายๆ เที่ยงๆ กันเลย ปรากฏว่าสุขภาพไม่ค่อยดีนะตอนนั้น เป็นโรคกระเพาะ เวียนหัว เรียนหนังสือไม่รู้เรื่อง ตอนหลังก็เลยมากินมื้อเช้าแล้ว เราเลยได้เรียนรู้ว่ามื้อเช้าสำคัญมากขนาดไหน วันนี้ก็เลยขอเอาความสำคัญของมื้อเช้าหรือเหตุผลที่เราไม่ควรงดกินมื้อเช้ามาฝากกันค่ะ จะมีอะไรบ้างมาดูกันเนอะ

1. เสี่ยงโรคเบาหวาน

อย่าไปคิดว่าเรายังสาวอยู่ โรคเบาหวานมาทำอะไรเราไม่ได้หรอก จริงๆ แล้วจุดนั้นเป็นความคิดที่ผิดมากเลยนะคะ เพราะว่าการไม่กินมื้อเช้าจะทำให้เราเสี่ยงต่อการเป็นโรคเบาหวานประเภทสองค่ะ เพราะว่าการงดข้าวเช้าทำให้เกิดความต้านทานอินซูลินเรื้อรังได้ จากการวิจัยจำนวนมากพบว่าคนที่ทานอาหารเช้าจะมีระดับน้ำตาลในเลือดเพิ่มขึ้นในช่วงมื้อกลางวัน ทำให้ลดความเสี่ยงเป็นเบาหวานได้

2. น้ำหนักขึ้น

ทำไมจึงน้ำหนักขึ้นได้ล่ะ ก็ในเมื่อเราเองก็ไม่ได้กินอะไรเลยไปตั้งแต่เช้านะ หลายๆ คนอาจจะคิดแบบนี้กันใช่ไหมคะ ขอตอบว่าการที่เรางดกินมื้อเช้าไป จะทำให้เราโหยและยิ่งกินมื้อกลางวันมื้อเย็นมากกว่าเดิม ซึ่งก็ส่งผลเสียมากกว่าผลดี เพราะว่าทำให้น้ำหนักของเราขึ้นได้นั่นเองค่ะ จะดีกว่าไหมคะ หากว่าเรานั้นเปลี่ยนตัวเองด้วยการกินมื้อเช้าที่ดีและมีประโยชน์ต่อร่างกาย

3. เสี่ยงโรคหัวใจ

หลายคนก็แอบงง กินข้าวเช้าหรือไม่กินไปเกี่ยวอะไรกับโรคหัวใจกันล่ะเนี่ย ขอตอบว่าคนที่กินอาหารเช้าที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพจะมีความเสี่ยงในการเป็นโรคหัวใจน้อยกว่าผู้ที่ไม่กินอาหารเช้า การข้ามมื้อเช้านั้นส่งผลทำให้เกิดความดันโลหิตสูง โรคอ้วน ซึ่งหากว่าเราเป็นโรคความดันโลหิตสูงและคอเลสเตอรอลสูงเรื้อรัง ในที่สุดเวลาอายุมากแล้วจะพัฒนาเป็นโรคหัวใจได้นะคะ

4. เสี่ยงไมเกรน

แท้จริงแล้ว การที่เราไม่กินอาหารเช้านั้นจะทำให้เราเป็นโรคไมเกรนได้นะคะ ดังนั้นแล้วหากว่าสาวๆ กำลังจะออกจากบ้าน เราก็ควรหาอะไรกินรองทองไปก่อนจะดีกว่าการปล่อยให้ตัวเองนั้นท้องหิวไปจนกระทั่งเที่ยงหรือบ่าย เรียกได้ว่าใครที่ไม่กินอาหารเช้า แถมยังเป็นไมเกรนอยู่ด้วย ระวังไมเกรนกำเริบนะคะ

5. มีผลต่ออารมณ์และการเรียนรู้

ข้อนี้สาวๆ วัยเรียนต้องรู้เลยนะคะ เพราะว่าการหลีกเลี่ยงอาหารเช้าจะทำให้เรานั้นอารมณ์เสียได้ ใครที่ไม่อยากเสียลุคของสาวอารมณ์ดีและร่าเริง ต้องกินอาหารเช้ากันด่วนๆ แล้วค่ะ นอกจากนี้มีผลการวิจัยบอกมาอีกด้วยนะคะว่าคนที่ข้ามมื้อเช้าจะมีทักษะในการจดจำน้อยลงและเหนื่อยล้าได้ง่ายดายกว่าคนที่กินข้าวเช้า

นี่ก็คือ 5 เหตุผลที่เราเห็นทีจะต้องเปลี่ยนพฤติกรรมให้ขยันกินมื้อเช้ากันแล้วค่ะ ใครที่นอนตื่นสายๆ เบื่อจะกินมื้อเช้า คิดว่ารวบไปกินกลางวันเลยน่ะแหละดีกว่า ลองเปลี่ยนวิธีคิดกันดูใหม่นะคะ มากินอาหารเช้ากันดีกว่าค่ะ รับรองได้เลยว่าสาวๆ จะไม่อ้วนขึ้น แถมยังสมองแจ่มใส อารมณ์ดีกว่าเดิม วันนี้ลาไปก่อนค่ะ ว่าจะไปเตรียมซื้ออาหารเช้ามาตุนหน่อยล่ะ