ถาม – ตอบ เรื่อง แผ่นดินไหว … 6.3 ริกเตอร์ 2. อะไรเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดแผ่นดินไหว 3. แผ่นดินไหวนำ (Foreshock) แผ่นดินไหวหลัก (Mainshock) แผ่นดินไหวตาม (Aftershock) แตกต่างกันอย่างไร 4. ความร้ายแรงอันเนื่องมาจากแผ่นดินไหวสามารถบอกได้ในรูปของขนาด (Magnitude) และความรุนแรง (Intensity) มีความแตกต่างกันอย่างไร 5. ศูนย์กลางเกิดแผ่นดินไหว และจุดเหนือศูนย์กลางเกิดแผ่นดินไหว คืออะไร 6. รอยเลื่อนมีพลัง คืออะไร 7. เราสามารถทำนายตำแหน่ง ขนาด
และวันเวลาของการเกิดแผ่นดินไหวได้ก่อนล่วงหน้าหรือไม่ 8. ความเสียหายที่เกิดจากแผ่นดินไหว ขึ้นอยู่กับปัจจัยใดบ้าง 9. ผลกระทบ/ความเสียหายที่เกิดจากแผ่นดินไหวส่วนใหญ่เกิดขึ้นจากอะไร 10. ขณะเกิดแผ่นดินไหว มีทรายพุ/ลาวาโคลนพุ่งออกมาจากบ่อดิน เกิดขึ้นได้อย่างไร 11. ชุมชนที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัยแผ่นดินไหว ควรมีการเตรียมความพร้อมเพื่อรับมือแผ่นดินไหวอย่างไร 12. ข้อปฏิบัติในการเตรียมพร้อมรับมือก่อนเกิดแผ่นดินไหว
ควรทำอย่างไร
13. ขณะเกิดแผ่นดินไหว ควรปฏิบัติตัวอย่างไร 14. เมื่อการสั่นไหวสิ้นสุดลง ควรปฏิบัติตนอย่างไร 15. เมื่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้องประกาศสถานการณ์เข้าสู่สภาวะปกติ ภายหลังเหตุการณ์แผ่นดินไหว ท่านควรทำอย่างไร 16.
รอยเลื่อนมีพลังในประเทศไทย มีกี่รอยเลื่อน พาดผ่านกี่จังหวัด ประเด็นคำถามเกี่ยวกับการเกิดแผ่นดินไหว 6.3 ริกเตอร์ ที่ตำบลดงมะดะ อำเภอแม่ลาว จังหวัดเชียงราย 17. แผ่นดินไหว 6.3 ริกเตอร์ ที่ตำบลดงมะดะ อำเภอแม่ลาว จังหวัดเชียงราย เกิดจากอะไร 18. อดีตเคยเกิดแผ่นดินไหวในกลุ่มรอยเลื่อนพะเยาที่สร้างความเสียหายกับประชาชนในพื้นที่หรือไม่ 19. ทำไมจึงมีแผ่นดินไหวขนาดต่างๆ เกิดขึ้นตามมาจำนวนมากในพื้นที่ ภายหลังเกิดแผ่นดินไหว 6.3 ริกเตอร์ดังกล่าว 20. แผ่นดินไหว 6.3 ริกเตอร์ ที่ตำบลดงมะดะ อำเภอแม่ลาว จังหวัดเชียงราย จะส่งผลกระทบกับกลุ่มรอยเลื่อนมีพลังโดยรอบอย่างไร 21. ทำไมพื้นที่เสี่ยงภัยดินถล่ม จึงมีความอ่อนไหวและมีโอกาสเกิดดินถล่ม หลังจากเกิดแผ่นดินไหวครั้งนี้ 22.
พื้นที่ลักษณะใดมีโอกาสเกิดทรายพรุ (liquefaction) ขึ้นบ้าง จากเหตุการณ์แผ่นดินไหว 6.3 ริกเตอร์ 23. ผลกระทบจากแผ่นดินไหวที่เกิดขึ้น
มีโอกาสที่จะเกิดเขื่อนแตกหรือไม่ 24. ควรทำอย่างไร เพื่อให้ประชาชนตระหนักและเตรียมพร้อมในการรับมือกับภัยแผ่นดินไหวที่อาจเกิดขึ้น 25. กรมทรัพยากรธรณีดำเนินการอะไร สำหรับการเกิดแผ่นดินไหวในครั้งนี้ สถานการณ์แผ่นดินไหว รอยเลื่อนพะเยา เมื่อเวลา 18.08 น. วันที่ 5 พฤษภาคม 2557 เกิดเหตุแผ่นดินไหวขนาด 6.3 ริกเตอร์ โดยมีศูนย์กลางแผ่นดินไหวที่ละติจูด 19.68 องศาเหนือ ลองติจูด 99.69 องศาตะวันออก ที่ระดับความลึก 7 กิโลเมตร บริเวณตำบลทรายขาว อำเภอพาน จังหวัดเชียงราย (ข้อมูลจากกรมอุตุนิยมวิทยา) ประชาชนสามารถรับรู้ได้ถึงแรงสั่นสะเทือนทั่วทั้งภาคเหนือ รวมทั้งผู้ที่อาศัยในอาคารสูงในกรุงเทพฯ และมีความเสียหายรุนแรงในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะในรัศมีประมาณ 30 กิโลเมตร จากศูนย์กลางแผ่นดินไหว
สาเหตุแผ่นดินไหวครั้งนี้ เป็นผลมาจากการเลื่อนตัวในแนวราบแบบเหลื่อมซ้ายของกลุ่มรอยเลื่อนพะเยาส่วนเหนือ (รอยเลื่อนแม่ลาว) วางตัวในแนวตะวันออกเฉียงเหนือ-ตะวันตกเฉียงใต้ – กลุ่มรอยเลื่อนพะเยา มีความยาวทั้งสิ้นประมาณ
90 กิโลเมตร แบ่งเป็น 2 ส่วน ส่วนเหนือวางตัวในแนวตะวันออกเฉียงเหนือ-ตะวันตกเฉียงใต้ มีเลื่อนตัวในแนวราบแบบเหลื่อมซ้าย ส่วนใต้วางตัวในแนวเหนือ-ใต้ มีการเลื่อนตัวในแนวราบแบบเหลื่อมขวา ซึ่งกลุ่มรอยเลื่อนพะเยานี้ แบ่งเป็น 17 รอยเลื่อนย่อย เช่น รอยเลื่อนแม่ลาว รอยเลื่อนพะเยา รอยเลื่อนเมืองปาน ฯลฯ – After Shock ที่เกิดขึ้นมีแนวโน้มลดลง ทั้งนี้เมื่อวันที่ 14 พ.ค. 57 เวลา 04.56 น. ตามเวลาในประเทศไทย ยังคงมี After Shock ขนาด 3.8 ริกเตอร์ บริเวณ อ.พาน จ.เชียงราย สำหรับผลกระทบที่มีต่อโครงสร้างอาคาร สิ่งปลูกสร้าง ที่ได้รับผลกระทบจากแผ่นดินไหวตั้งแต่ 5 พ.ค. 57 ควรได้รับตรวจสอบโครงสร้างก่อนการใช้สอยอาคาร สิ่งก่อสร้างดังกล่าว การดำเนินการของกรมทรัพยากรธรณี 1) ตรวจสอบ รวบรวม วิเคราะห์ และประมวลผลข้อมูลแผ่นดินไหว เพื่อแจ้งผ่านข้อความสั้น (SMS) ให้สื่อมวลชน และเครือข่ายเฝ้าระวังแจ้งเตือนธรณีพิบัติภัยทราบข้อมูลเบื้องต้น ขั้นตอนการดำเนินการตรวจสอบธรณีพิบัติภัยแผ่นดินไหว และได้จัดแถลงข่าวเรื่อง “เฝ้าระวังรอยเลื่อนมีพลังในประเทศไทย” โดย อธิบดีกรมทรัพยากรธรณี เมื่อวันที่ 6 พฤษภาคม 2557 เวลา 13.00 น.
เพื่อสร้างความเข้าใจแก่สื่อมวลชนและประชาชนได้ทราบถึงสาเหตุการเกิด ผลกระทบ และการพยากรณ์สถานการณ์แผ่นดินไหวในประเทศไทยที่จะเกิดขึ้นในอนาคต อันเป็นผลมาจากการเลื่อนตัวของกลุ่มรอยเลื่อนพะเยา 3) เฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์แผ่นดินไหว เนื่องจากแผ่นดินไหวในครั้งนี้ จะส่งผลกระทบต่อรอยเลื่อนที่อยู่โดยรอบ 5 กลุ่มรอยเลื่อน ซึ่งมีโอกาสเกิดแผ่นดินไหวขนาด 6 ริกเตอร์ ขึ้นได้ในอนาคต ได้แก่ กลุ่มรอยเลื่อนแม่จันทางด้านทิศเหนือ กลุ่มรอยเลื่อนแม่อิง และกลุ่มรอยเลื่อนปัวทางด้าน – ความก้าวหน้าในการตรวจสอบสภาพพื้นที่ วิเคราะห์ และประมวลผลข้อมูลแผ่นดินไหวเป็นรายสัปดาห์ ประสานข้อมูลจาก สธส. ทั้งนี้ ข้อมูลดังกล่าวต้องผ่านความเห็นชอบจากผู้บริหารก่อนเผยแพร่ 4) แผ่นดินไหวที่มีศูนย์กลางอยู่ในประเทศไทยมีความสัมพันธ์กับรอยเลื่อนมีพลังจำนวน 14 แนว ขนาดเกิน 5.0 ริกเตอร์ เกิดขึ้นจำนวน 9 ครั้ง โดยมีขนาดสูงสุด 5.9 ริกเตอร์ เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 22 เมษายน 2526 ที่อำเภอศรีสวัสดิ์ จังหวัดกาญจนบุรี มีความสัมพันธ์กับรอยเลื่อนศรีสวัสดิ์ เหตุการณ์แผ่นดินไหวครั้งนี้รับรู้ได้ในวงกว้าง 5) จัดทำแผนที่บริเวณเสี่ยงภัยแผ่นดินไหวของประเทศไทย (ปี พ.ศ. 2553) ซึ่งประเทศไทยมีรอยเลื่อนมีพลัง จำนวน 14 รอยเลื่อน พาดผ่าน 22 จังหวัด 106 อำเภอ 308 ตำบล 1,406 หมู่บ้าน เพื่อใช้เป็นข้อมูลในการปรับปรุงกฎกระทรวงกำหนดการรับน้ำหนัก ความต้านทาน ความคงทนของอาคารและพื้นดินที่รองรับอาคารในการต้านทานแรงสั่นสะเทือนของแผ่นดินไหว พ.ศ. 2550 6) จัดทำแผนที่บริเวณเสี่ยงภัยแผ่นดินไหวรายภาคแล้วเสร็จ
และอยู่ระหว่างดำเนินการจัดทำแผนที่บริเวณเสี่ยงภัยแผ่นดินไหวรายจังหวัด ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2557 ดำเนินการพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ เชียงราย และลำพูน 8) ติดตั้งเครื่องมือตรวจวัดคลื่นไหวสะเทือนขนาดเล็ก และเครื่องตรวจวัดอัตราเร่งของพื้นดิน ครอบคลุมพื้นที่รอยเลื่อนพะเยา เพื่อดำเนินการเฝ้าระวังติดตามพฤติกรรมการเลื่อนตัวของรอยเลื่อนมีพลังบริเวณดังกล่าว 9) เร่งเสริมสร้างความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับภัยแผ่นดินไหวทั้งที่เกิดขึ้นแล้วและอาจจะเกิดขึ้น ด้วยข้อมูลที่ถูกต้องตามหลักวิชาการแก่ประชาชนในพื้นที่ที่เสี่ยงภัยแผ่นดินไหว เพื่อนำไปสู่การลดผลกระทบทั้งทางด้านชีวิต ทรัพย์สิน และจิตใจ สร้างความมั่นใจให้กับประชาชนที่ต้องเผชิญกับธรณีพิบัติภัยแผ่นดินไหว โดยเน้นกลุ่มเยาวชน และสถานศึกษาเป็นสำคัญ *** ทั้งนี้ หากประชาชนต้องการข้อมูลเพิ่มเติมด้านธรณีวิทยา หรือพบเหตุการณ์ด้านธรณีวิทยาจากเหตุแผ่นดินไหว เช่น หลุมยุบ รอยแยกบนพื้นดิน ที่เกี่ยวข้องกับความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของท่าน สามารถแจ้งเหตุ ติดต่อ ขอรับคำแนะนำได้ที่ โทร : 0 2621 9702-03 ในเวลาราชการ ตั้งแต่ 08.30 น. ถึง 20.00 น. *** ข้อมูลจากกรมทรัพยากรธรณี อัจฉราวดี บัวคลี่เคยเขียนข่าว สารคดี เป็นบรรณาธิการหนังสือพิมพ์พลเมืองเหนือ เคยรายงานข่าววิทยุ สำนักข่าวไทย อสมท. ตอนนี้เป็นทำงานอยู่สำนักเครือข่ายสื่อพลเมือง ไทยพีบีเอส ทำข่าว ข้อมูล ประสานเครือข่าย ฝีกอบรม สร้างพื้นที่สื่อสารสาธารณะ เรื่องอื่นที่เกี่ยวข้อง related postsเหตุใดจึงต้องมีการกําหนดขนาดของแผ่นดินไหว *1. เพื่อป้องกันการเกิดแผ่นดินไหว 2. เพื่อทราบผลกระทบหรือความเสียหายที่จะเกิดขึ้น 3. เพื่อทราบถึงศูนย์กลางของการเกิดแผ่นดินไหว 4. เพื่อตรวจสอบการเกิดแผ่นดินไหวล่วงหน้า
ข้อใดเป็น การกำหนดขนาดของแผ่นดินไหวมาตราวัดขนาดแผ่นดินไหวของริกเตอร์ (The Richter Magnitude Scale) ได้รับการพัฒนาขึ้นมาเมื่อปี ค.ศ. 1935 (พ.ศ. 2478) โดย Charles F.Richter แห่งสถาบันเทคโนโลยีแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา เราจึงนิยมใช้หน่วยของขนาดแผ่นดินไหวว่า ริกเตอร์ (Richter) เป็นตัวเลขที่ทำให้สามารถเปรียบเทียบขนาดของแผ่นดินไหวต่าง ๆ กันได้ เป็นมาตราที่วัด ...
มาตราวัดความรุนแรงของแผ่นดินไหวที่สำรวจจากผลกระทบต่อมนุษย์และสิ่งปลูกสร้างคือมาตราใด *มาตราเมอร์แคลลี วัดจากความรู้สึกของคนร่วมกับการประเมินผล และความเสียหายของสิ่งปลูกสร้างที่เกิดขึ้นจากการเกิดแผ่นดินไหว วิธีนี้ถูกกำหนดขึ้นเป็นมาตราที่เรียกว่า มาตราเมอร์แคลลี (mercalli scale)
ข้อใดคือระดับความรุนแรงสูงสุดของแผ่นดินไหวตามมาตราเมอร์คัลลี *ระดับความรุนแรงตามมาตราเมร์กัลลี มาตราเมร์กัลลีบ่งบอกว่าบริเวณที่เกิดแผ่นดินไหวได้รับผลกระทบและเกิดความเสียหายมากน้อยเพียงใด โดยจัดระดับความรุนแรงเป็น 12 ระดับ ด้วยเลขโรมันตั้งแต่ I ถึง XII ดังนี้
|