ทำไม ต้องหยุดกินยาคุม 7 วัน

ทำไม ต้องหยุดกินยาคุม 7 วัน

สาวๆ หลายคนยังมีความเข้าใจผิดเกี่ยวกับการใช้ยาคุมกำเนิด บ้างก็ไม่รู้ว่าต้องกินอย่างไร หรือควรเริ่มกินตอนไหนของการมีประจำเดือน สำหรับคนที่คิดว่ากินถูกวิธีแล้ว มาลองเช็คกัน จะเริ่มตอนไหน ถึงจะถูกต้อง... เพื่อคลายความสงสัยและทำความเข้าใจให้ถูกต้องเกี่ยวกับการใช้ยาคุมกำเนิด นี่คือ 10 ข้อควรรู้ก่อนเริ่มใช้

10 ข้อควรรู้เกี่ยวกับการใช้ยาคุมกำเนิด

  1. ยาคุมกำเนิดแบบเม็ด (Birth Control Pill) ประกอบไปด้วยฮอร์โมน 2 ชนิด คือ เอสโตรเจน (Estrogen) และโปรเจสเตอโรน (Progesterone) ที่มีความสำคัญต่อการป้องกันการตั้งครรภ์
  2. ยาคุมกำเนิดมีผลทำให้เยื่อบุโพรงมดลูกบางลง ทำให้ตัวอ่อนไม่สามารถฝังตัวได้ นอกจากนี้ยังทำให้เมือกบริเวณปากมดลูกมีความเหนียวข้นมากยิ่งขึ้น ซึ่งจะทำให้อสุจิไม่สามารถเข้ามาผสมกับไข่เพื่อปฏิสนธิได้นั่นเอง
  3. ยาคุมกำเนิดแบบเม็ด มีทั้งแบบ 21 เม็ด และแบบ 28 เม็ด โดยแบบ 21 เม็ด เมื่อกินจนหมดแผงแล้ว จะต้องเว้นไป 7 วันจึงจะสามารถเริ่มแผงใหม่ได้ ส่วนแบบ 28 เม็ด จะมีตัวยาจริงเพียง 21 เม็ด และมีเม็ดแป้งอีก 7 เม็ด (ซึ่งเสมือนเป็นยาหลอก) เหมาะสำหรับคนที่กลัวจะนับวันผิด จึงต้องกินต่อกันจนหมดแผง แต่ไม่ว่าจะกินแบบใด21 หรือ 28 เม็ด ก็ได้ผลในการคุมกำเนิดเท่ากัน
  4. สำหรับการใช้ยาคุมกำเนิดครั้งแรก หรือการเริ่มใช้อีกครั้งหลังหยุดคุมกำเนิดไประยะหนึ่ง ควรเริ่มกินภายในวันที่ 1-5 ของช่วงที่มีประจำเดือน เพื่อให้มั่นใจว่าไม่ได้ตั้งครรภ์อยู่ เพราะอาจเสี่ยงทำให้ตัวอ่อนทารกพิการได้หากกำลังตั้งครรภ์อยู่พอดี
  5. การกินยาคุมกำเนิดจะต้องกินเวลาเดิมทุกวัน หากลืมกินยาจะทำให้ประสิทธิภาพในการคุมกำเนิดลดลง และหากลืมกินยาคุมกำเนิดมากกว่า 3 ชั่วโมง ให้กินทันทีที่นึกขึ้นได้ และกินเม็ดต่อไปในเวลาเดิม
  6. การกินยาคุมกำเนิดอาจมีผลข้างเคียง เช่น คลื่นไส้ อาเจียน คัดเต้านม อารมณ์แปรปรวน หรือมีเลือดออกผิดปกติ อาการเหล่านี้บางคนอาจจะมีหรือไม่มีก็ได้
  7. วิธีกินยาคุมกำเนิดที่ถูกต้อง ควรดูวันที่ตามจริงและวันที่บนแผงอย่างละเอียด ซึ่งบนแผงยาจะระบุวันไว้ตั้งแต่วันจันทร์ถึงอาทิตย์ หากวันที่จะเริ่มกินยาเม็ดแรกเป็นวันพุธก็ให้แกะยาเม็ดแรกของวันพุธมากิน แล้วกินต่อไปเรื่อยๆ จนกว่าจะหมดแผง ที่ต้องให้กินแบบนี้เพื่อจะได้ไม่หลงลืมว่าในวันนั้นๆ กินยาไปแล้วหรือยัง
  8. ยาคุมกำเนิดฉุกเฉิน ควรใช้ในกรณีฉุกเฉินเท่านั้น เช่น ในกรณีถูกข่มขืน หรือมีเพศสัมพันธ์โดยที่ไม่ตั้งใจ
  9. ในแผงของยาคุมกำเนิดฉุกเฉินจะมี 2 เม็ด เม็ดแรกให้กินทันทีหลังจากมีเพศสัมพันธ์ ส่วนเม็ดที่ 2 ให้กินหลังจากนั้น 12 ชั่วโมง ซึ่งยาคุมกำเนิดฉุกเฉินนั้นอาจมีประสิทธิภาพต่ำกว่ายาคุมกำเนิดชนิดแผง
  10. ก่อนกินยาคุมกำเนิดแผงใหม่ทุกครั้ง ควรตรวจเช็คดูวันหมดอายุก่อนใช้ยา เพื่อให้ได้ประสิทธิภาพสูงสุด

            จริงอยู่ที่ว่าการรณรงค์ให้ใช้ถุงยางอนามัยเมื่อมีเพศสัมพันธ์ถือเป็นด่านแรกในการช่วยลดปัญหาการตั้งครรภ์ แต่การใช้ถุงยางอนามัยก็ไม่ได้ผลเสมอไป จึงจำเป็นต้องเพิ่มตัวช่วยด้วยการใช้ยาคุมกำเนิดที่ใช้งานง่ายเพียงแค่รับประทาน แต่คนส่วนใหญ่ที่ใช้ยาคุมไม่ได้ผลเกิดจากการรับประทานยาที่ผิดวิธี ซึ่ง วิธีกินยาคุมกำเนิด 21 เม็ด สามารถทำได้ง่าย ๆ ดังนี้

  1. กินยาวันละ 1 เม็ด ในเวลาเดิมทุกวัน  หากลืมกินเกินกว่า 3 ชั่วโมง ให้รีบกินโดยทันที และให้กินเม็ดถัดไปในวันเวลาเดิม ที่สำคัญควรกินอย่างต่อเนื่องจนหมดแผง ห้ามหยุดกินเป็นอันขาด ไม่เช่นนั้นก็จะไม่เห็นผลอย่างแน่นอน
  2. กินหมดแผงแรกแล้วให้หยุด 7 วัน  การกินยาคุมแบบ 21 เม็ด ต้องกินติดต่อกันเป็นเวลา 21 วัน หลังจากนั้นให้หยุดกินหลังจากที่ยาหมดแผงเป็นเวลา 7 วัน เรียกว่าเป็นช่วงปลอดฮอร์โมน
  3. เริ่มกินแผงใหม่ในวันที่ 8 ทันที  โดยปกติแล้วในช่วงปลอดฮอร์โมน หรือช่วงที่หยุดกินยา 7 วันนั้น จะมีประจำเดือนมาหลังจากที่หยุดกินยา 2-4 วันแรก พอถึงวันที่ 8 หลังจากครบช่วงเว้น 7 วันแล้ว ให้เริ่มกินยาแผงใหม่ทันที ถึงแม้ว่าจะยังไม่หมดประจำเดือนก็ตาม
  4. แผงถัดไปต้องเป็นวันเดียวกับแผงก่อนหน้า  หลายคนอาจเกิดอาการหลงลืมในการกินยา ให้ลองสังเกตว่าหากวันแรกของการกินยาเป็นวันใดในสัปดาห์นั้น วันแรกของการกินยาแผงถัดไปก็จะต้องตรงกับวันแรกของแผงก่อนหน้า เช่น แผงก่อนหน้าเริ่มกินที่วันพุธ แผงต่อมาก็จะเริ่มกินที่วันพุธเช่นกัน หากไม่ตรง ก็แสดงว่าต้องมีวันใดที่กินยาไม่ตรงหรือลืมกินอย่างแน่นอน
  5. กินตามวันบนแผง หรือใช้แอปพลิเคชันช่วยเตือน  ข้อสำคัญของวิธีกินยาคุมกำเนิดให้ได้ประสิทธิภาพไม่ท้องก่อนแต่งแบบเห็นผลมากที่สุดคือ การกินยาให้ตรงกับวันที่ระบุบนแผง พยายามเตือนตัวเองในทุก ๆ วัน เพื่อป้องกันการขาดยา ทางที่ดีควรตั้งนาฬิกาปลุกเตือนตัวเองทุกวัน หรือจะใช้แอปพลิเคชันในการเตือนก็ได้เช่นกัน

            จะเห็นได้ว่า เริ่มกินยาคุมกำเนิดครั้งแรกไม่ใช่วิธีการที่ยากแต่อย่างใด สิ่งที่ยากกว่าวิธีการกินคือความรับผิดชอบ หากคิดและพิจารณาแล้วว่า การรับผิดชอบอีกหนึ่งชีวิตยากกว่าการกินยาคุม ก็อย่าปล่อยปละละเลยจนลืมวันลืมเวลา มิเช่นนั้นแล้วอาจต้องนั่งเลี้ยงลูกแทนการกินยาก็เป็นได้


บทความนี้เกิดจากการเขียนและส่งขึ้นมาสู่ระบบแบบอัตโนมัติ สมาคมฯไม่รับผิดชอบต่อบทความหรือข้อความใดๆ ทั้งสิ้น เพราะไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นความจริงหรือไม่ ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรอง และหากท่านพบเห็นข้อความใดที่ขัดต่อกฎหมายและศีลธรรม หรือทำให้เกิดความเสียหาย หรือละเมิดสิทธิใดๆ กรุณาแจ้งมาที่ ht.ro.apt@ecivres-bew เพื่อทีมงานจะได้ดำเนินการลบออกจากระบบในทันที

หยุดยาคุม กี่วันไข่ตก ควรทำอย่างไรถึงจะท้องได้ทันทีหลังหยุดทานยาคุมกำเนิด วันนี้หมอจะมาไขข้อสงสัยพร้อมกับเคล็ดลับช่วยให้มีลูกง่ายสมใจ ไม่ต้องรอนาน

ทำไม ต้องหยุดกินยาคุม 7 วัน

การมีลูก ถือว่าเป็นสิ่งที่คู่สามีภรรยาหลายๆ คู่ต้องการมีเพื่อเป็นโซ่ทองคล้องใจและเพื่อตอกย้ำคำว่า “ครอบครัว” ให้แข็งแรงยิ่งขึ้น และเนื่องจากในยุคปัจจัยนั้นในแรกเริ่มของการสร้างครอบครัวนั้น ความพร้อมทางการเงินถือเป็นปัจจัยต้นๆ ที่สามีภรรยาใช้วัดความพร้อมในการมีลูก ดังนั้นก่อนที่จะพร้อมและกำลังเก็บเงินกันอยู่ทำให้สามีภรรยาหลายๆ คู่เลือกที่จะคุมกำเนิดก่อนเพื่อจะได้ใช้เวลาในการก่อร่างสร้างตัวให้มั่นคง และเมื่อถึงเวลาหลังจากจะหยุดทานยาคุมแล้วก็เกิดความกังวลว่า การทานยาคุมเป็นเวลานานนั้นจะส่งผลต่อการมีลูกยากหรือไม่? และต้องหยุดยาคุมนานแค่ไหน ถึงจะสามารถตั้งครรภ์ได้ตามปกติ วันนี้หมอจึงจะมาพูดถึงเรื่องนี้ให้ฟังค่ะ

(สามารถอ่านต่อได้ที่ กินยาคุมบ่อยมีลูกยาก ใช้ยาคุมกำเนิดติดต่อกันนานๆ จะท้องได้หรือไม่)

อยากตั้งครรภ์ ควรหยุดคุมกำเนิดเมื่อไหร่?

โดยปกติแล้วยาคุมกำเนิดนั้นจะมีฤทธิ์ควบคุมเรื่องของการคุมกำเนิดได้ตามระยะเวลาของยาชนิดนั้นๆ เช่น

  • ยาเม็ดคุมกำเนิด :หลังจากการหยุดยา หากยาที่ท่านทานเป็นยาเม็ดคุมกำเนิดชนิดฮอร์โมนผสมจะสามารถตั้งครรภ์ได้ภายใน (อย่างน้อย) 1-3 เดือน หรือนานสุดคือ 1 ปี เนื่องจากร่างกายจำเป็นที่จะต้องใช้เวลาปรับตัว แต่ถ้าหากยาคุมที่ท่านทานเป็นยาคุมชนิดฮอร์โมนเดี่ยว หลังหยุดยาจะสามารถตั้งครรภ์ได้ภายใน 1 สัปดาห์
  • แผ่นแปะคุมกำเนิด :  สามารถตั้งครรภ์ได้ภายใน 3 เดือน
  • วงแหวนคุมกำเนิด : หลังจากนำแหวนออก สามารถเพิ่มโอกาสการตั้งครรภ์ภายใน 3 เดือน
  • ห่วงคุมกำเนิด (IUD) – สามารถตั้งครรภ์ได้ภายในเวลา 1 ปี
  • ยาฝังคุมกำเนิด – เช่นเดียวกับห่วงคุมกำเนิด คุณจะกลับมาตั้งครรภ์ได้ภายในเวลา 1 ปี หลังจากนำยาคุมกำเนิดออก
  • ยาฉีดคุมกำเนิด – สามารถกลับมาตั้งครรภ์ได้ภายใน (อย่างน้อย) 10 เดือน นานสุดคือ 18 เดือน สำหรับผู้ที่ใช้วิธีคุมกำเนิดด้วยวิธีนี้นั้น หากต้องการวางแผนการมีบุตรควรเข้ารับการปรึกษากับแพทย์

อ่านต่อ ตรวจตั้งครรภ์ ต้องรอกี่วัน ตรวจผลการตั้งครรภ์หลังฉีดเชื้อ

หยุดยาคุม กี่วันไข่ตก-ประจำเดือนจะกลับมาปกติหรือไม่

สำหรับผู้ที่ใช้ยาคุมกำเนิดมาเป็นเวลานานมักจะมีปัญหาประจำเดือนที่อาจจะมาไม่ปกติ อาจจะต้องใช้เวลาในการปรับตัวประมาณ 2-3 เดือน (แล้วแต่ชนิดของยา) แต่เมื่อร่างกายปรับสภาพได้แล้วก็จะตกไข่ตามธรรมชาติก็จะสามารถตั้งครรภ์ได้ทันที สามารถอ่านต่อได้เกี่ยวกับ การนับวันตกไข่และการตรวจวันไข่ตกได้ที่นี่ วิธี นับวันไข่ตก วิธีง่ายๆ แก้ปัญหามีลูกยากด้วยวิธีธรรมชาติ

หยุดคุมกำเนิดนานแล้ว แต่ตั้งครรภ์ไม่สำเร็จสักทีต้องทำยังไง

ในกรณีที่หยุดทานยาคุมเป็นเวลามากกว่า 1 ปีแล้วยังไม่มีการตั้งครรภ์ คุณอาจจะมีภาวะมีบุตรยาก เนื่องจากภาวะมีบุตรยากนั้นสามารถเกิดขึ้นได้หลากหลายสาเหตุ ไม่ว่าจะเป็น ปัจจัยด้านอายุที่มาก (เกิน 35 ปี) คุณภาพของไข่ จำนวนของอสุจิที่มีคุณภาพ ฯลฯ ซึ่งจำเป็นที่จะต้องเข้ามาตรวจและรับคำแนะนำจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ

  • วิธีเตรียมตัวตั้งครรภ์ อยากมีลูกเร็วๆ ต้องเตรียมตัวอย่างไร
  • สังเกตมูกไข่ตก มูกช่องคลอด ตกขาว สัญญาณพร้อมท้องดูยังไง?
  • วิธีทำ ICSI ติดในครั้งเดียว เคล็ดลับเพิ่มโอกาสการมีลูกด้วยการทำอิ๊กซี่

………………………………………………

ทำไม ต้องหยุดกินยาคุม 7 วัน

เพื่อไม่ให้พลาดความรู้ดี ๆ กด Like Page และอย่าลืม Subscribe
Worldwide IVF Channel ไว้เลยครับ
👉🏻 พอดแคสต์ของคนอยากมีลูก : https://bit.ly/3kdJI3K

………………………………………………

 

บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ

  • มีลูกยาก ทำเด็กหลอดแก้วดีมั้ย IUI/IVF/ ICSI วิธีไหนได้ผลสำเร็จกว่ากัน
  • สังเกต อาการเสี่ยงเป็นหมัน อาการของคนเป็นหมัน จะรู้ได้อย่างไรว่าเป็นหมัน
  • 5 วิธีมี SEX ท่าไหนท้องง่าย เพิ่มโอกาสมีบุตรได้ดั่งใจ