Fintech เกี่ยวข้อง กับ ใคร บ้าง มี ประโยชน์ อย่างไร

Fintech เกี่ยวข้อง กับ ใคร บ้าง มี ประโยชน์ อย่างไร

Fintech เกี่ยวข้อง กับ ใคร บ้าง มี ประโยชน์ อย่างไร

ฟินเทค กำลังสร้างความเปลี่ยนแปลงกับระบบเศรษฐกิจและอุตสาหกรรมการเงินโลก บทความชุด “ฟินเทคเปลี่ยนโลก” ชุดนี้จะพาท่านผู้อ่านไปรู้จัก Mega Trend ในเรื่องนี้กันครับ ซึ่งเริ่มต้นในตอนแรกเราไปรู้จักกันก่อนเลยครับว่าเจ้าฟินเทคนี่มันคืออะไรกันแน่

Fintech คือการผสมระหว่างคำว่า Finance กับคำว่า Technology หรือการใช้เทคโนโลยี โดยเฉพาะระบบการสื่อสารออนไลน์มาประยุกต์ใช้ในธุรกิจด้านการเงิน การธนาคาร และการลงทุน โดยมากกว่าการประยุกต์แล้วในหลายครั้งยังเป็นการ Disrupt ซึ่งหมายถึงการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของผู้บริโภคจากแบบเดิมไปสู่สิ่งใหม่อีกด้วย คล้ายๆ กับวันที่ Apple ผลิต iPhone ออกมาและนำมาซึ่งการเปลี่ยนแปลงของผู้บริโภคจากการใช้มือถือแบบมีปุ่มกดเป็นมือถือระบบสัมผัสอย่างนั้นน่ะครับ ส่วน Startup นั้นหมายถึงการเกิดขึ้นของธุรกิจซึ่งส่วนมากเป็นเรื่องของเทคโนโลยี ในการสร้างผลิตภัณฑ์ที่เป็นนวัตกรรมสำหรับผู้บริโภคที่สามารถทำการขยายได้ในวงกว้าง

สำหรับ Fintech ในเมืองไทย ตื่นตัวกันมาซักพัก มาปีนี้เรียกว่าคึกคักกันเป็นอย่างมากครับ ตัวอย่างที่ใกล้ตัวมาก ๆ เช่น การใช้โปรแกรม Streaming ในการซื้อขายหุ้นที่เริ่มมีความนิยมในการใช้เทรดหุ้น แทนการซื้อขายในห้องค้ามากขึ้น บริษัทอย่าง StockRadar ที่ทำโปรแกรมทางมือถือสำหรับเป็นเครื่องมือช่วยในการซื้อขายหุ้น ระบบ Payment API อย่าง Omise รวมไปถึงระบบ Crowd Funding ซึ่งเป็นวิธีการระดมทุนผ่านระบบ Online ซึ่งล่าสุดทางสำนักงาน กลต.ก็ได้ออกกฎหมายมารองรับแล้ว

ผมเคยได้อ่านบทสัมภาษณ์ของ Jamie Dimon ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ JPMorgan ซึ่งเป็นธนาคารยักษ์ใหญ่อันดับต้นๆ ของโลก ท่านพูดเลยว่าคู่แข่งสำคัญของ JPMorgan ที่สำคัญจากนี้ไปไม่ใช่ธนาคารใหญ่ๆ ในอเมริกาอีกต่อไปแล้วแต่เป็นเหล่าบริษัท Fintech Startup ที่กำลังบ่มเพาะกันอยู่จำนวนมากโดยเฉพาะในแถบ Silicon Valley ในสหรัฐ

ผมมองว่าจะมีความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่เกิดขึ้นแน่ครับ อยู่ที่ว่าจะเร็วหรือช้าเท่านั้น ตัวอย่างเช่น ระบบการชำระเงินด้วยเครดิต จากเดิมที่ยักษ์ใหญ่ในโลกคือ VISA แต่เดี๋ยวนี้ มีระบบการชำระเงินใหม่ๆ เกิดขึ้นมากมาย โดยเฉพาะการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีอย่าง Blockchain ซึ่งมีค่าธรรมเนียมถูกกว่ามาก ในธุรกิจซื้อขายหุ้นก็เช่นกัน เริ่มมีบริษัท Fintech หลายเจ้า อย่างเช่น Robinhood ซึ่งให้บริการซื้อขายหุ้นแบบ Zero Commission ซึ่งก็เติบโตเป็นยูนิคอร์น หรือบริษัทที่มีมูลค่ากิจการเกิน 1 พันล้านเหรียญเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งถ้าเข้ามาในเมืองไทยนี่เราต้องปรับตัวกันมากเลยทีเดียว แน่นอนว่าผู้บริโภคย่อมได้ประโยชน์ แต่ผู้ให้บริการต้องปรับตัวกันครั้งใหญ่ครับงานนี้

ในส่วนของประเทศไทย เกิดการตื่นตัวกันอย่างชัดเจนสำหรับเรื่องของ Fintech ในบ้านเรา โดยล่าสุดธนาคารพาณิชย์ชั้นนำได้เริ่มเคลื่อนไหวกันเต็มสูบแล้ว ตั้งแต่การตั้ง Lab ในการค้นคิดผลิตภัณฑ์ด้าน Fintech การจัด Training กันอย่างต่อเนื่องโดยเชิญผู้เชี่ยวชาญจากฟากฝั่ง Tech มาให้ความรู้ การตั้งทีมภายในของธนาคารแต่ละสายงานเพื่อดูช่องโหว่หรือรอยรั่วของผลิตภัณฑ์ทางการเงินของตัวเอง ไปจนถึงการตั้งบริษัทที่เป็น Venture Capital เตรียมพร้อมที่จะเข้าลงทุนใน Fintech เกิดใหม่ในประเทศไทย

ปัจจุบันฟินเทคไทยมีจำนวนเพิ่มขึ้นเป็นเกือบ 100 บริษัท เมื่อเทียบในช่วงปีที่ผ่านมา (2559) มีอยู่ประมาณ 40 บริษัท ซึ่งถือว่าเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัว และคาดว่าในอนาคตจะเพิ่มขึ้นอีกเรื่อยๆ แต่ต้องยอมรับว่า ฟินเทคไทยมีความแตกต่างจากหลายๆ ประเทศ คือโดยมากจะเป็นบริษัทที่ขนาดไม่ใหญ่มากนัก และไม่ได้มีฐานลูกค้ามากมายเป็นของตัวเอง ผมจึงเชื่อว่าสถาบันการเงินไทยโดยเฉพาะธนาคารจะเป็นผู้นำการผลักดันการใช้ FinTech ในประเทศไทย โดยจะเป็นภาพของการจับมือกันระหว่างพี่ ๆ สถาบันการเงิน และน้อง ๆ ผู้ประกอบการ FinTech Startup ในการเติบโตไปด้วยกันครับ

ที่มาบทความ : http://www.bangkokbiznews.com/blog/detail/640829

ผู้เขียน

Fintech เกี่ยวข้อง กับ ใคร บ้าง มี ประโยชน์ อย่างไร

FundTalk

คุณเจษฎา สุขทิศ, CFA เจ้าของนามปากกา FundTalk ปฏิบัติหน้าที่เป็น CEO ของ FINNOMENA โดยคุณเจษฎา มีประสบการณ์ยาวนานในสายงานผู้จัดการกองทุน มีความเชี่ยวชาญในการจัดพอร์ตลงทุนในสินทรัพย์ทั่วโลก และการเจาะลึกเพื่อเลือกหุ้นรายตัว

อย่างที่ทราบกันดีว่า Fintech หรือ Financial Technology คือการนำเอาเทคโนโลยีมาสร้างนวัตกรรมทางการเงินในรูปแบบใหม่เพื่อให้การจัดการ และการเข้าถึงทางการเงินเป็นไปได้ง่ายขึ้นด้วยการใช้เทคโนโลยีซึ่งจะเป็นในรูปแบบของสินค้าหรือบริการ หรือการแก้ปัญหาทางการเงินรวมทั้งรูปแบบในการประกอบธุรกิจใหม่ ๆ ด้วย

ดังนั้น Fintech หรือเทคโนโลยีทางด้านการเงินนี้จึงเป็นเรื่องที่ส่งผลโดยตรงต่อทุกคนในทุกระดับชั้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้รวมถึงภาคธุรกิจด้วย ทีจะทำให้เกิดการขับเคลื่อนทางด้านการเงินและเศรษฐกิจท่ามกลางกระแสแห่งความเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญในที่นี้จะขอแบ่งออกเป็น 5 กลุ่ม คือ

👉บุคคลทั่วไป : เทคโนโลยีทางด้านการเงิน ทำให้เราสามารถเข้าถึงการทำธุรกรรมทางด้านการเงินได้อย่างง่ายดายโดยไม่ต้องเดินทางไปธนาคารหรือสถาบันการเงินอีกต่อไป เพราะเราสามารถทำธุรกรรมผ่าน Application ของธนาคารหรือสถาบันการเงินได้เลย ทั้งโอนเงิน จ่ายเงิน เปิดบัญชี ขอสินเชื่อหรือการลงทุนต่าง ๆ

👉สถาบันการเงิน : สามารถใช้เทคโนโลยีทางด้านการเงินเข้าถึงกลุ่มลูกค้าของธนาคารหรือสถาบันการเงินต่างๆ ได้ง่ายและสะดวกขึ้น โดยผ่านทาง Mobile Banking หรือ Application รวมทั้งการจัดเก็บข้อมูลของลูกค้าก็สามารถทำได้ง่ายขึ้นด้วย

👉ผู้ให้บริการ E-Commerce: สามารถใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีทางด้านการเงินโดยการใช้แพลตฟอร์มการจ่ายเงินหรือ Payment ทางออนไลน์ จากการเชื่อมต่อ API Data และ Banking Technology ทำให้เกิดการซื้อขายออนไลน์ได้สะดวกขึ้น

👉นักลงทุน : สามารถใช้เทคโนโลยีทางด้านการเงินเอื้อประโยชน์ในการลงทุนในตลาดการเงินรูปแบบใหม่ ๆ อย่างเช่น Cryptocurrency, Insurtech หรือ Crowdfunding Platforms ให้กับนักลงทุน

👉ผู้ประกอบการ: สามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนได้ง่ายขึ้นผ่าน Crowdfunding Platforms ซึ่งเป็นเทคโนโลยีทางด้านการเงินรูปแบบใหม่ รวมถึงซอฟต์แวร์ที่จะช่วยผู้ประกอบการให้สามารถจัดการกับระบบต่างๆ ในองค์กรให้ดีขึ้นได้ด้วย

Fintech หรือเทคโนโลยีทางด้านการเงินจึงไม่ใช่เรื่องไกลตัวอีกต่อไป เพราะอันที่จริงแล้วเป็นเรื่องที่อยู่กับเรามาสักพักใหญ่แล้วหากเราจะสังเกตถึงวิถีชีวิตที่เปลี่ยนแปลงไปของตัวเอง ตั้งแต่ตื่นนอนยันเข้านอนเราคลุกคลีอยู่กับเทคโนโลยีและใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีตลอดเวลา ฉะนั้นจึงเป็นเรื่องที่เราจะต้องปรับตัวและพัฒนาตัวเราเองไม่ว่าจะอยู่ในภาคส่วนไหนก็ตาม เพราะ Fintech จะกลายเป็นกุญแจสำคัญที่จะทำให้เราสามารถก้าวกระโดดไปได้ไกลกว่าเดิมหากรู้จักใช้ให้เกิดประโยชน์

PADA Academy คือ หลักสูตรผู้บริหารระดับสูงทั้งภาครัฐและเอกชน ผู้ประกอบการ วิชาชีพอิสระ และผู้สนใจทั่วไปเพื่อการเตรียมความพร้อมในการปรับตัวสู่การเปลี่ยนแปลงแบบ disruption ในยุคดิจิทัล

สร้าง Connection, ผู้บริหารยุคใหม่ , หลักสูตร Mini MBA ระยะสั้น

แหล่งอ้างอิง: https://www.peerpower.co.th/blog/investor/fintech-technology/ 

เทคโนโลยี FinTech มีประโยชน์กับใครบ้าง

คนที่ใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีทางการเงิน มีทั้งบุคคลทั่วไป ธนาคาร ผู้ให้บริการด้าน E-Commerce ผู้ประกอบการ และนักลงทุน เราสามารถลงทุนกับ Fintech ได้ด้วยการลงทุนใน Cryptocurrency แพลตฟอร์มคราวด์ฟันดิง และเทคโนโลยีประกันภัย ในประเทศไทยมีสถิติการใช้ระบบ Payment มากเป็นอันดับ 1 ในเอเชีย จากการซื้อของออนไลน์

FinTech มีประโยชน์ในด้านใดมากที่สุด

ทำให้ลูกค้าเข้าถึงบริการได้ง่ายขึ้น หากธุรกิจไหนสามารถทำได้เร็วกว่า เข้าใจลูกค้าได้มากกว่า แน่นอนว่าผลตอบแทนไม่ได้มีเพียงแค่กำไรที่เป็นตัวเลขเท่านั้น แต่ยังเพิ่มความน่าเชื่อถือให้กับบริษัทได้ อีกทั้งยังทำให้ลูกค้าไว้วางใจกับธุรกิจได้ดียิ่งขึ้น

FinTech เข้ามาช่วยในเรื่องใด

Financial Technology หรือ FinTech คือการนำเทคโนโลยีมาใช้ในธุรกิจการเงิน ธนาคาร และการลงทุน เพื่อพัฒนาสินค้า หรือบริการให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น เช่น การโอนเงินและชำระเงินผ่านโทรศัพท์มือถือ การระดมทุนสำหรับธุรกิจ Startup และการบริหารเงินลงทุน นอกจากนี้ FinTech ยังรวมไปถึงการสร้างนวัตกรรมทางการเงินใหม่ๆ ด้วยเช่น ...

FinTech มีประโยชน์ต่อสถาบันการเงินอย่างไร

ฟินเทคยังสามารถช่วยลดการทุจริตในภาคการเงินให้น้อยลง ปัญญาประดิษฐ์ หรือ AI (Artificial Intelligence) จะช่วยให้เราตรวจพบธุรกรรมที่ผิดปกติ หรือ outlier ได้ทันท่วงที และหยุดยั้งความเสียหายที่อาจจะเกิดขึ้น เทคโนโลยี Biometrics จะเพิ่มประสิทธิภาพการพิสูจน์ตัวตนลูกค้าผ่านช่องทางอิเล็กทรอนิกส์หรือ E-KYC (Electronic Know Your ...