ส่ง ของ ทาง ไหน ดี

ส่งของเจ้าไหนถูกสุด? คำถามยอดฮิตที่ทั้งผู้ประกอบการและผู้ซื้ออยากรู้! เพราะถ้าค่าส่งถูกลง ภาระของการจ่ายค่าขนส่งที่ผู้ประกอบการบางรายแบกรับอยู่ก็จะเบาบางลงไปด้วย ส่วนผู้ซื้อที่ต้องเสียค่าขนส่งเองก็จะเบาเรื่องการจ่ายค่าสินค้าลงไปด้วยเช่นกัน ดังนั้นการมองหาบริการบริษัทจัดส่งสินค้าหรือโลจิสติกส์ที่ให้บริการดี มีความครอบคลุม และค่าใช้จ่ายในการส่งสินค้าไม่สูงเกิน จึงกลายมาเป็นเรื่องสำคัญของทั้งธุรกิจที่ต้องส่งสินค้าและผู้ซื้อที่ต้องการประหยัดเงินลง วันนี้จึงขอแนะนำ 6 แบรนด์โลจิสติกส์ค่าส่งไม่แพงและส่งพัสดุรวดเร็ว เพื่อตอบคำถาม “ส่งของเจ้าไหนถูกสุด?” ได้อย่างตรงใจที่สุด

1. ไปรษณีย์ไทย

ถ้ามีคำถาม “ส่งของเจ้าไหนถูกสุด?” คำตอบที่เด่นที่สุดต้องยกให้ไปรษณีย์ไทย เพราะด้วยความที่เป็นรัฐวิสาหกิจ จึงทำให้การคิดราคาไม่สูงเท่ากับเอกชน ยิ่งในปัจจุบันไปรษณีย์ไทยผ่านการพัฒนาทั้งงานบริการที่ดีขึ้นและการขนส่งที่มีความรวดเร็วกว่าเดิม จึงกลายมาเป็นเจ้าใหญ่แห่งวงการขนส่งที่ผู้คนทั่วไปหันกลับมาใช้บริการมากยิ่งขึ้น

โดยจุดเด่นของบริการไปรษณีย์ไทยคือสามารถส่งสินค้าหนัก หรือสินค้าชิ้นใหญ่ได้อย่างหลากหลาย และมีจุดให้บริการ มากกว่า 5000 แห่ง ทั่วประเทศไทย พร้อมไปด้วยจุดส่งสินค้าที่เอกชนอาจยังไม่เข้าไม่ถึง ไปรษณีย์ไทยสามารถเข้าไปส่งได้ทุกพื้นที่ อย่างแม่นยำ พร้อมบริการจัดส่งสินค้าทุกชนิดแม้กระทั่งสินค้ามีชีวิตก็สามารถส่งได้อย่างปลอดภัย ส่วนค่าบริการเริ่มต้น จะ คิดราคาตามน้ำหนักโดยแบบธรรมดาหรือแบบลงทะเบียนจะเริ่มต้นเพียงแค่ 16 บาทเท่านั้นและแบบส่งด่วน EMS เริ่มต้นที่ 32 บาท

รู้จักฟีเจอร์ของเรา             สมัครสมาชิก

มีปัญหาเรื่องธุรกิจออนไลน์ อยากใช้ระบบจัดการร้านค้า โทรปรึกษา Fillgoods ฟรี!

วันจันทร์ – วันศุกร์
เวลา 09.00 – 18.00 น.

โทรเลย 0635357404

2. LALAMOVE

ถ้าพูดถึง ส่งของเจ้าไหนถูกสุด?  ต้องยกให้บริการขนส่งน้องใหม่ที่กำลังมาแรงอย่าง LALAMOVE ที่มีจุดเด่นในเรื่องการเรียกใช้บริการเพื่อรับส่งพัสดุถึงที่ผ่านทางแอพพลิเคชั่นที่สามารถเรียกได้ตลอด 24 ชั่วโมง นอกจากนี้ถ้าคุณจำเป็นจะต้องส่งของที่ไปรษณีย์ไทย ก็สามารถฝากทาง LALAMOVE ส่งให้ได้อีกด้วย ทั้งยังมีบริการด้านเก็บเงินปลายทาง, มีบริการส่งพัสดุด้วยรถมอเตอร์ไซค์, ส่งพัสดุด้วยรถแบบ Hatchback 5 ประตู และส่งพัสดุด้วยรถกระบะที่พร้อมส่งสินค้าของคุณถึงมือผู้ซื้ออย่างปลอดภัย สมบูรณ์แบบ และรวดเร็วที่สุด โดยราคาเริ่มต้นของค่าบริการจะอยู่ที่ 48 บาท สำหรับรถมอเตอร์ไซค์ ถ้าเป็นรถยนต์ 5 ประตูราคาเริ่มต้นที่ 190 บาท รถกระบะราคาเริ่มต้นที่ 400 บาท และจะบวกเพิ่มตามระยะทางที่เกินออกมาของรถให้แต่ละรูปแบบ ซึ่งรายละเอียดของราคาทาง LALAMOVE จะมีให้คุณได้เลือกอย่างชัดเจนภายในแอพพลิเคชั่นและหน้าเว็บไซต์

3. Kerry Express

Kerry Express ถือว่าเป็นบริษัทด้านขนส่งที่เติบโตอย่างรวดเร็ว เพราะสโลแกนแบบส่งเร็ว ส่งไวทั่วประเทศไทย จึงทำให้ Kerry ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากและยังเป็นผู้ให้บริการที่เข้าถึงลูกค้า เพราะจะเข้าไปรับพัสดุโดยตรงที่บ้าน จึงเพิ่มความสะดวกให้แก่ผู้ประกอบการมากขึ้น ทั้งยังมีบริการเก็บเงินปลายทางแบบ Cash on delivery ที่มีให้เลือกทั้งการจ่ายเป็นเงินสด, บัตรเครดิต และบัตรเดบิต รวมไปถึงการชำระค่าบริการผ่านทาง QR Code ได้ถึงหน้าบ้านของผู้ที่สั่งของอีกด้วย ความโดดเด่นของ Kerry คือ บริการรับส่งพัสดุตลอด 24 ชั่วโมงตลอดทั้งสัปดาห์ผ่านทางตู้ล็อคเกอร์และยังมีบริการส่งเร็วเพียง 1 วัน ภายในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล โดยค่าขนส่งจะคิดตามขนาดและน้ำหนักของตัวพัสดุเท่านั้น ราคาเริ่มต้นจะอยู่ที่ประมาณ 30 บาท

4. Ninja Van

อีกหนึ่งขนส่งที่สามารถตอบคำถาม ส่งของเจ้าไหนถูกสุด?  ได้ดี คือ Ninja Van ถือว่าเป็นอีกหนึ่งน้องใหม่ที่เติบโตเร็ว เพราะทางค่าย Ninja Van ทำการพัฒนาแอพพลิเคชั่นเพื่อให้สามารถส่งสินค้าได้รวดเร็วมากยิ่งขึ้น โดยมีระบบ Ninja Easy ที่จะทำให้การส่งสินค้าของบุคคลทั่วไปที่มีพัสดุไม่เกินกว่า 10 ชิ้นต่อ 1 ครั้ง สามารถจัดส่งผ่านทางสมาร์ทโฟนด้วยวิธีง่ายๆ เพียงแค่ 4 ช่องทาง และมี Ninja Premium ที่จะเหมาะสำหรับผู้ประกอบการที่มีการส่งสินค้าบ่อยครั้งในจำนวนตั้งแต่ 20 ชิ้นขึ้นไป นอกจากนี้ยังมีบริการเข้ารับพัสดุถึงบ้านภายในพื้นที่ที่ถูกระบุไว้และมีสถานะของพัสดุที่บอกผลตลอดเวลาทั้งบนเว็บไซต์และแอพพลิเคชั่น โดยค่าพัสดุจะคำนวณจากขนาดและน้ำหนักของพัสดุ ราคาเริ่มต้นเพียง 35 บาท

5. Alpha Fast

Alpha เป็นอีกหนึ่งผู้ให้บริการด้านขนส่งที่โดดเด่นในเรื่องการขนส่งแบบร้านค้าออนไลน์ สามารถตอบคำถาม ส่งของเจ้าไหนถูกสุด?  ได้ดี มีบริการตรงเข้ารับสินค้าที่หน้าบ้านของผู้ประกอบการผ่านทางแอพพลิเคชั่น ที่จะสามารถเลือกช่วงเวลาได้ตามที่ต้องการและตั้งเวลาเพื่อให้ทาง Alpha เข้ารับสินค้าแบบประจำทุกวันอย่างสะดวก ให้บริการตลอดทั้งวันจนถึงเที่ยงคืนและยังมีบริการเก็บเงินปลายทาง ที่สามารถรับได้ทั้งเงินสด บัตรเครดิต และเดบิต นอกจากนี้ยังทำธุรกรรมผ่านระบบ Internet Payment ที่จะช่วยทำให้การส่งสินค้าและการรับสินค้ามีความสะดวกสบายสูงสุด โดยค่าจัดส่งจะเริ่มต้นที่ประมาณ 35 บาท

6. SCG Express

ค่าย SCG หันมาทำระบบ Express ที่มีความโดดเด่นในเรื่องของรูปแบบบริการที่หลากหลาย สามารถขนส่งพัสดุแบบเร่งด่วนถึงที่บ้าน ขนส่งพัสดุที่ควบคุมอุณหภูมิได้ เช่น อาหารต่างๆ, ของสด, อาหารทะเล หรือผลไม้ แต่จะส่งเฉพาะในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑลเท่านั้น นอกจากนี้ยังบริการขนส่งอาหารแช่แข็ง บริการรับส่ง-เอกสารและบริการเก็บเงินปลายทางอย่างครบครัน แม้แต่พื้นที่ห่างไกลก็รับประกันการขนส่งภายใน 2-4 วันเท่านั้น ทั้งยังมีการคุ้มครองเรื่องกรณีพัสดุเสียหายระหว่างทาง รวมไปถึงพัสดุสูญหายที่มอบให้สูงสุด 3,000 บาท สำหรับขนส่งสินค้าด้านเกษตรกรรมและอาหารทะเลนั้นทาง SCG Express มีบริการไปรับส่งถึงที่ โดยราคาค่าบริการสำหรับการส่งเร่งด่วนจะวัดตามขนาดและน้ำหนักที่ไม่เกิน 25 กิโลกรัมต่อ 1 กล่อง จะเริ่มต้นที่ 40 บาทเท่านั้น ส่วนค่าบริการสำหรับการขนส่งของแช่แข็ง จะวัดจากน้ำหนักที่จะต้องไม่เกิน 20 กิโลกรัมต่อ 1 กล่อง ราคาจะเริ่มต้นเพียง 140 บาท

ถ้าใช้ Fillgoods ในการส่งสินค้า ดี 2 ต่อ!

นอกเหนือจากการส่งสินค้าที่ถูกแล้ว ยังมีเรื่องสำคัญที่คุณต้องรู้นั่นคือการจัดการระบบหลังบ้านที่จะช่วยเสริมประสิทธิภาพการขายให้ดียิ่งขึ้น หากคุณเลือกใช้ Fillgoods นอกจากจะได้ใช้ขนส่งที่คุ้มค่าของพาร์ทเนอร์เราแล้ว ยังได้ระบบจัดการไปใช้แบบไม่มีค่าใช้จ่าย คุณสามารถเลือกได้ถึง 6 ขนส่งด้วยกัน SCG Express, Ninja van, Flash Express, J&T Express และ Bee Express, ไปรษณีย์ไทย

ถ้าคุณสงสัยว่าส่งของเจ้าไหนถูกสุด?  เมื่อคุณได้อ่านบทความนี้เชื่อว่าคุณจะเข้าใจ พร้อมเก็บข้อมูลของขนส่งแต่ละแห่งไว้พิจารณาและสามารถเลือกใช้บริการขนส่งที่เหมาะสมต่อความต้องการ เหมาะสมต่องบประมาณของคุณได้มากที่สุดอย่างแน่นอน

ส่งของแบบไหนเร็วที่สุด

ค่าส่งของบริษัทไหนถูกสุด

ส่งของแบบไหนปลอดภัยที่สุด

ขนส่งเอกชน บริษัทไหนดีสุด