สื่อในการเผยแพร่ในการประชาสัมพันธ์งานด้านการศึกษาและการแพทย์มีหลายประเภทที่สำคัญและใช้กันอย่างกว้างขวาง ได้แก่ - คำพูด การใช้สื่อคำพูดเพื่อการประสัมพันธ์
คำพูดจัดเป็นสื่อที่ใช้ในงานด้านการศึกษาและการแพทย์มากที่สุด เพราะมีข้อจำกัดเกี่ยวกับสถานการณ์น้อยกว่าวิธีอื่น การพูดสามารถระดมใช้เครื่องมือต่างๆ 1. มีความมั่นใจและชั้นเชิงดี การพูดที่ดีจะเกิดจากการพูดที่เป็นธรรมชาติ สบายใจ พอใจและมั่นใจในสิ่งที่พูด จะทำให้ผู้ฟังมีความมั่นใจและจริงจังไปด้วย 2. มีความกระฉับกระเฉงและแจ่มใส การพูดที่ดี ผู้พูดต้องพูดด้วยท่าทางผึ่งผาย กระฉับกระเฉง และมีชีวิตชีวา กิริยาท่าทาง และอาการต่างๆที่แสดงออกต้อง
3. มีความจริงในและมีความคิดเห็นเป็นของตนเอง ความจริงใจย่อมแสดงออกมาเองในท่าทาง สีหน้าและแววตาตลอดจนกระแสเสียง ทำให้ผู้ฟังรู้สึกจริงจัง 4. มีความปราดเปรื่อง มีเชาว์ปัญญาและความรอบรู้ เรื่องนี้เป็นที่ยอมรับกันมานานแล้วว่า
คนเราจะสนใจและเชื่อถือการพูดของผู้รู้ในเรื่องนั้นมากกว่าผู้ไม่รู้
5. มีความเป็นธรรม คนฟังมักมีความสงสารผู้ถูกกล่าวร้ายโดยไม่เป็นธรรม ผู้พูดไม่ควรแสดงความคิดเห็นไม่เป็นธรรมแก่ผู้ใดอย่างชัดแจ้ง คนฟังจะตั้งตัวเป็น 6. มีความหนักแน่นและสำรวม ผู้พูดที่ดีต้องควบคุมอารมณ์ได้ 7. มีความเห็นอกเห็นใจ เข้าใจผู้อื่น และแสดงออกมาให้เห็นด้วยความจริงใจควรพูดด้วยความรู้สึกเคารพหรือให้เกียรติคนฟังทุกประการตามสมควร 8. มีความเด็ดเดี่ยว 9. มีความแพรวพราว จี้ใจ และไม่เหมือนใคร คุณลักษณะทั้งเก้าประการนี้
เป็นคุณสมบัติเกี่ยวกับบุคลิกภาพของผู้พูดซึ่งนับว่ามีส่วนช่วยในการพูด อย่างไรก็ตาม พึงระลึกไว้เสมอว่า บุคลิกภาพผู้พูดเป็นเพียงส่วน ดังนั้น ลักษณะของคำพูดที่ใช้เพื่อการประชาสัมพันธ์ จึงควรใช้กับเรื่องสั้นๆง่ายๆมีลักษณะอย่างตรงไปตรงมา ไม่สลับซับซ้อน และควรมีการย้ำข้อความที่สำคัญบ่อยๆ ประเภทของการใช้สื่อคำพูดเพื่อการประชาสัมพันธ์
การใช้คำพูดการเพื่อการประชาสัมพันธ์อาจมีลักษณะต่างๆกัน ซึ่งแต่ละอย่างก็มีลักษณะที่เหมาะสมกับเวลาและและโอกาสแตกต่างกันไป เช่น การพบปะพูดคุยกับ สื่อประเภทคำพูดนี้ เป็นเครื่องมือที่มีโอกาสใช้กันอย่างกว้างขวางและตลอดเวลาแทบจะเรียกได้ว่าเป็นเรื่องประจำวันที่คลุกคลีอยู่กับสถาบันและทุกคนในสถาบัน ประเภทของการพูดเพื่อเป็นสื่อในการประชาสัมพันธ์ที่สำคัญ แบ่งออกได้ดังนี้ 1.การพบปะพูดจาธรรมดา 2.การจัดตั้งหน่วยติดต่อ-สอบถาม 3.การพูดติดต่อทางโทรศัพท์ 4.การแสดงปาฐกถา 5.การประชุมอภิปราย 1. การพบปะพูดจาธรรมดา (Face-to-Face Communication) การสื่อสารด้วยคำพูดนี้ โดยทั่วไปใช้วิธีการพบปะพูดจาธรรมดา เช่น
เมื่อประชาชนมาติดต่อสอบถามเจ้าหน้าที่ใน การพบปะพูดจาเพื่อสร้างความพอใจ ความนิยม หรือสร้างความเข้าใจ ควรคำนึงถึกหลักสำคัญ ดังนี้ คือ 1.1 ควรพูดด้วยวาจาที่ไพเราะและด้วยบุคลิกภาพที่ดีและเหมาะสม เช่น ท่าทางและเครื่องแต่งกายที่เรียบร้อย 1.2 ควรพูดด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้ม หรือแสดงความสนใจต่อผู้มาติดต่อ หรือผู้ที่เราสนมนาอยู่ตลอดเวลา 1.3 การพูดควรเป็นแบกันเองและมีคารวะอันควร 1.4 ควรพูดให้เป็นที่พอใจแก่คู่สนทนาหรือผู้มาไต่ถาม 1.5 พยายามพูดให้ชัดถ้อยชัดคำ เป็นภาษาพูด คือง่ายๆสั้นๆ 1.6 ควรพูดให้เป็นที่เข้าใจอย่างแจ่มแจ้งแก่คู่สนมนา ดังนั้น ในกรณีที่โตเตอบคำซักถามของผู้มาติดต่อราชการ ก็ควรรู้เรื่องราวทั่วๆไปไว้พอที่จะตอบให้ผู้มาติดต่อเข้าใจดี 2. การจัดตั้งหน่วยติดต่อ-สอบถาม (Inquiry Bereau) ปัจจุบันนี้ นิยมจัดตั้งหน่วยติดต่อ-สอบถาม
ขึ้นในสถาบันหรือสำนักงานกันมาก เพื่อทำหน้าที่ในการตอบข้อซักถามของผู้มา การจัดตั้งหน่วยติดต่อ-สอบถาม มีข้อสำคัญที่ควรพิจารณา ดังต่อไปนี้ด้วย 2.1 หน่วยติดต่อ-สอบถาม ควรตั้งอยู่ทางเข้าอันเป็นด่านแรกที่ ผู้มาติดต่อจะเข้าไปในสถาบัน มีป้ายแสดงให้เห็นชัดเจนแต่ไกล 2.2 ควรมีเจ้าหน้าที่ประจำอยู่ตลอดเวลา และบุคคลที่มาทำหน้าที่นี้ควรมีคุณสมบัติ ดังนี้ 2.2.1 มีความสุภาพอ่อนน้อมทั้งใจและกาย 2.2.2 มีใบหน้ายิ้มแย้มแจ่มใสอยู่เสมอ 2.2.3 พูดจาไพเราะ ถูกต้องตามกาละเทศะ 2.2.4 เป็นบุคคลที่มีไหวพริบในการค้นหาคำตอบอย่างจริงใจ 2.2.5 มีนิสัยชอบบริการ 2.2.6 เป็นผู้มีน้ำใจกว้าง เห็นอกเห็นใจผู้มาติดต่ออย่างจริงใจ 2.3 หน่วยติดต่อ-สอบถาม ควรมีอุปกรณ์หรือเครื่องมือ ดังนี้ 2.3.1 มีเครื่องมือในการค้นหาคำตอบ ถ้าเป็นหน่วยงานใหญ่ เช่น ระดับกระทรวง ทบวง กรม มหาวิทยาลัย ฯลฯ
ซึ่งมีงานซับซ้อน ควรจัดทำเป็นบัตรค้น มีคอมพิวเตอร์เพื่อ
2.3.2 หน่วยงานใหญ่ๆ ควรมีเครื่องมือติดต่อสื่อสารภายใน เช่น โทรศัพท์ภายใน เพื่อติดต่อสอบถามรายละเอียดของคำตอบภายในได้ทันที และนอกจากนี้ ควรมีโทรศัพท์
2.3.3 ควรมีชุดรับแขก หรือเก้าอี้ ม้านั่ง ไว้ให้ผู้มาติดต่อสอบถามที่ต้องรอคอยได้นั่งพัก และเก้าอี้ ม้านั่งนี้ควรรักษาให้สะอาดเรียบร้อยอยู่เสมอ อาจมีเครื่องประดับอื่นๆ เช่น 2.3.4 นอกจากนี้ อาจจะมีเครื่องมืออื่นๆ ประกอบ เช่น แผนผัง บริเวณที่ตั้งหน่วยงานต่างๆ แผนผังแสดงสายงาน นาฬิกา ปฎิทิน และป้ายประกาศเรื่องต่างๆ ของสถาบัน เป็นต้น 3. การพูดติดต่อโทรศัพท์ (Telephone Conversation) การพูดติดต่อทางโทรศัพท์มีประโยชน์ในด้านความรวดเร็ว ถึงตัวได้ง่าย และใช้เตือนหรือเรียกเมื่อจวนจะถึงกำหนดนัด
ทั้งนี้จะได้ การติดต่อโทรศัพท์ นับว่าสะดวกและประหยัดเวลา แต่อย่างไรก็ตาม เพื่อความสำเร็จในการติดต่อทางโทรศัพท์ มารยาทในการพูดโทรศัพท์จะมีผลต่อความสำเร็จอยู่มาก ดังนั้น จึงควร 3.1 จงรีบรับหูโทรศัพท์ทันที ด้วยน้ำเสียงที่นุ่มนวล แจ่มใส และใช้ถ้อยคำถูกต้องตามกาลเทศะ 3.2 จงตอบว่า “สวัสดี (ค่ะ) ที่นี่...ครับ (ค่ะ)” ไม่ใช่รับสายด้วยคำพูดที่ห้วนหรือแสดงความไม่พอใจ 3.3 จงพูดอย่างชัดเจน ไม่ช้าหรือเร็วเกินไป
3.4 จงอย่าทำตนเป็นล่องหนหายเงียบไป โดยการที่ผู้รับโทรศัพท์ปล่อยให้ผู้เรียกถือโทรศัพท์คอยค้างอยู่เป็นเวลานานเกินสมควร ถ้าหากจะเป็นการรอคอยนานเกินไปควรแจ้ง 3.5 ถ้าหากการติดต่อทางโทรศัพท์ ต้องการฝากข่าว หรือเรื่องราวไว้ให้กับใคร ควรใช้วิธีบันทึกไว้ ไม่ควรใช้วิธีจำเพราะอาจจะทำให้ลืมได้ 3.6 การจบการพูดโทรศัพท์ ในกรณีที่เราเป็นฝ่ายติดต่อควรจบคำพูด “ขอบคุณมากนะครับ (ค่ะ) สวัสดีครับ (ค่ะ)” แล้วถ้าเราเป็นฝ่ายรับโทรศัพท์ก็ควรจบคำพูดว่า “ขอบคุณที่กรุณา 3.7 การตัดบทเพื่อยุติการพูดทางโทรศัพท์ ในกรณีที่ผู้ติดต่อพูดเยิ่นเย้อหรือเรามีงานด่วน ที่จะต้องไปปฏิบัติ ควรขอโทษและแจ้งเหตุผลความจำเป็นที่ต้องยุติ 3.8 อย่างสร้างความไม่พอใจให้แก่ผู้ติดต่อมาทางโทรศัพท์ ด้วยวิธีการให้โอนไปหมายเลขอื่นโดยการขาดการชี้แจงเหตุผล 3.9 อย่างวางหูโทรศัพท์อย่างกระแทกกระทั้น การติดต่อทางโทรศัพท์จะสร้างความประทับใจให้แก่ผู้ติดต่อเป็นอย่างดี
และในขณะเดียวกันความไม่พึงพอใจของผู้มาติดต่อ อันได้แก่ ประชาชนภายนอกย่อมมีอำนาจในการทำลาย 4. การปาฐกถา (Public Speaking) การปาถกถาหรือการแสดงปาฐกถา คือ การพูดบรรยายในชุมชน
เป็นวิธีหนึ่งที่ใช้คำพูดเป็นสื่อเพื่อถ่ายทอดความคิด ความรู้เกี่ยวกับนโยบาย วัตถุประสงค์
4.1 การพูดในการแสดงปาฐกถานี้แบ่งออกเป็น 4 แบบใหญ่ๆด้วยกัน คือ 4.2 การแสดงปาฐกถามีหลักการสำคัญที่ควรปฏิบัติดังนี้ 4.3 เพื่อสร้างความสนใจให้แก่การแสดงปาฐกถาควรปฏิบัติดังนี้ 5. การประชุมอภิปราย (Discussion) วิธีการใช้สื่อคำพูด เพื่อการประชาสัมพันธ์อีกประเภทหนึ่ง คือ การประชุมอภิปราย
วิธีนี้นอกจากจะทำให้คนรู้จักคิดร่วมกันแล้วยังเปิดโอกาสที่จะหา 5.1 การบรรยายกลุ่ม (Symposium)
เป็นการบรรยายที่ผู้บรรยายในคณะมีหลายคนแต่ละคนมีความชำนาญเฉพาะอย่าง และบรรยายทีละคนๆ ละประมาณ 2-10 นาที เหมาะสำหรับ สื่อสิ่งพิมพ์ (Print Media) สื่อประเภทสิ่งพิมพ์ (The Printed Words) การเตรียมสิ่งพิมพ์เพื่อการประชาสัมพันธ์ (Preparation for
Publication) ก่อนจะทำสิ่งพิมพ์ควรมีการวางแผนให้เรียบร้อย การวางแผนที่ดีต้องคำนึงถึงสิ่ง 3 ประการด้วยกัน คือ 1. วัตถุประสงค์ (Purpose) ก่อนที่จะทำหนังสือควรจะวางวัตถุประสงค์อย่างรอบคอบ เขียนวัตถุประสงค์และให้ผู้อ่านมีอำนาจอนุมัติและทำงานให้ตรงตามวัตถุประสงค์ที่วางไว้ 2. ผู้อ่าน (Reader) งานสำคัญอันดับแรกคือ
ทำงานให้ได้ตามวัตถุประสงค์ที่วางไว้และงานนั้นจะเป็นจริงได้ต้องคำนึงถึงผู้อ่านเป็นหลัก ผู้อ่านจะเป็นผู้ตัดสินผลงาน ถ้าเขารู้สึกซาบซึ้งกับ 3. รูปแบบ (Format) มีสิ่งพิมพ์ที่ไม่คำนึงถึงผู้อ่าน แล้วก็ไม่อยากที่จะวางรูปแบบ ควรกำหนดขนาดของหน้า จำนวนหน้า รูปภาพ มีการ์ตูนหรือไม่ และอื่น ๆ อีกวิธีหนึ่งที่จะช่วยในการ สื่อสิ่งพิมพ์มีลักษณะต่าง ๆ
คือ ข้อดีของหนังสือพิมพ์ ข้อจำกัดของหนังสือพิมพ์ นักประชาสัมพันธ์ ควรรู้จักผูกพันกับหนังสือพิมพ์ และถือว่า การหนังสือพิมพ์สัมพันธ์ เป็นส่วนหนึ่งของงานประชาสัมพันธ์ ซึ่งมีข้อแนะนำในการปฏิบัติดังนี้ 1.2 วารสาร (Journal) ข้อดีของวารสาร ข้อจำกัดของวารสาร 1.3 นิตยสาร (Magazines) ข้อดีของนิตยสาร ข้อจำกัดของนิตยสาร 1.4 หนังสือรายงานประจำปี มักจัดทำเป็นรูปเล่ม และมีขนาดต่าง ๆ ตามความเหมาะสม มีเรื่องราวสำคัญและ น่าสนใจขององค์กร เรียกว่า Annual Report สื่อบุคคล (Personal Media) สื่อบุคคลเป็นวิธีการสื่อสารที่เก่าแก่ที่สุด ใช้กันตั้งแต่เริ่มมีมนุษย์ขึ้นในโลก เป็นสื่อที่ใช้กันมากใน กลุ่มประชาชนทั่วไป
เครื่องมือของสื่อบุคคลมีทั้งที่เป็นคำพูด กริยาท่าทาง การแสดงออกทางอากัปกิริยา ประเภทของคำพูดที่ใช้เพื่อการประชาสัมพันธ์ ลักษณะของสื่อบุคคล ข้อดีของสื่อบุคคล ข้อจำกัดของสื่อบุคคล สื่อโสตทัศน์ (Audio Visual Media) เป็นสื่อประชาสัมพันธ์ที่มีการใช้ทั้งภาพและเสียง มีลักษณะ คือ ข้อดีของภาพยนตร์ ข้อจำกัดของภาพยนตร์ 3.2 วิทยุ (Radio) ข้อดีของวิทยุ ข้อจำกัดของวิทยุ 3.3 โทรทัศน์ (Television) ข้อดีของโทรทัศน์ ข้อจำกัดของโทรทัศน์ 3.4 เครื่องฉายแผ่นใส 3.5 เครื่องฉายสไลด์ 3.6 เครื่องรับ – ส่งแฟกซ์ สื่อกิจกรรมต่างๆ สื่อกิจกรรมต่างๆที่จัดในลักษณะกิจกรรมตามวาระหรือโอกาสต่าง ๆ โดยมากจัดในรูปของนิทรรศการ การออกร้าน งานฉลอง การประกวด การแข่งขัน ประงานสถาปนาองค์กร
หรือการเปิดให้เข้าชมกิจการในวันสำคัญ มีลักษณะเด่น 3 ประการ คือ วัตถุประสงค์ของการจัดกิจกรรมเพื่อการประชาสัมพันธ์ หลักในการจัดกิจกรรมหรือนิทรรศการ สื่อมวลชน ลักษณะของสื่อมวลชน สามารถแบ่งได้เป็น 2 ชนิด คือ บทบาทหน้าที่ของสื่อมวลชนที่มีต่อประชาชน แนววิธีการใช้สื่อเพื่อการประชาสัมพันธ์ 1. การย้ำหรือซ้ำบ่อย ๆ (Repeating) จะช่วยให้เกิดความน่าสนใจเพิ่มขึ้น คงทนถาวรมาก
หลักการพิจารณาเลือกใช้เพื่อการประชาสัมพันธ์ เนื่องจากสิ่งที่ใช้ในการประชาสัมพันธ์มีอยู่มากมายหลายชนิดด้วยกัน ฉะนั้นผู้ที่จะตัดสินใจเลือกสื่ออะไรมาใช้จะต้องพิจารณาให้รอบคอบเสียก่อน
ว่าจะเหมาะสมและช่วยให้บรรลุเป้าหมายหรือไม่ การพิจารณาเลือกสื่อมาใช้นั้นควรจะคำนึงถึงลักษณะของสื่อที่แตกต่างกัน ดังนี้ |