��� 14 Batch Processing ��� On-line Processing ��������繶֧����ᵡ��ҧ�ͧ ����ͧ Show Batch Processing ���� Sequential Processing ���¶֧��ô��Թ�����Ը�Ẻ�繡���� �繪ش ��ҧ���¡��� Serial ���� Sequential Processing ��ô��Թ�����Ը�Ẻ Batch ���ѡɳ��Ӥѭ�ѧ���
����Ǻ��������Ũӹǹ�ҡ� ���ǹ��Ҵ��Թ�����Ըշ������ѡ�ӡѹ����ٹ����������� �·�������� �ж���ҡ�����¢������Ѻ����ҳ������ �����źҧ���ҧ�ջ���ҳ�ҡ �� ��ҧ��þ�Թ��� ����ա������Ἱ���ҧ� ���� Ἱ�����ͼ�� Ἱ����� Ἱ��ػ�������� �֧��ͧ�ӡ���红����� ��Ǩ�ͺ����Ѻ ��¨���������ѹ ������Һ������Թ������������㹤�ѧ���Թ������ ���͡�������������������§�� �繵� �ʴ���ô��Թ�����Ը�Ẻ Batch Processing On line Processing ���� Real – time Processing �դ����������������ҧ ��� - ������ͧ�ͧ�ػ�ó����㹤������������� online ��ҧ� �������������äǺ����ͧ���������� �� Disk, Tape ��������� Printer ������������äǺ����ͧ�վ��� (˹��»����żš�ҧ) �µç �ػ�ó��Ѻ����觢����ŷ�����������ö�Դ��͡Ѻ�վ������µç�蹡ѹ������ͧ���ê��� - �������·�� 2 ��ͤ����������к� On line �����ǡѺ�ػ�ó�㹤��������á ������ҹ������ö�Դ��͡Ѻ�վ������µç������ͧ�������� ���� - �������·�� 3 ��͡�ô��Թ�����Ը� �� ����Ѻ�觢����������ҧ����ͧ����������Ѻ����� ���͡�÷����������¡������Ź���µç����ͧ������ê��� ������ҧ�� ����� On line 㹧ҹ�ͧ��Ҥ�� ���ͧ�ҡ��Ҥ�õ�ҧ� ���Ң�������ǻ���� ���ٹ������������˭��������ӹѡ�ҹ�˭�ͧ��Ҥ�� ��������ŵ�ҧ� ���������ٹ��������� 㹢�з���Ңҵ�ҧ� �ա���ԡ�����Թ㹺ѭ�բͧ�١��������ʹ���� ����Ң�����ҹ���ͧ�Ǻ�����¡���ԡ�����Թ�����ѹ ��������˹�ҷ��Ӣ������Ҵ��Թ��÷���ٹ������������˭�ء� �ѹ �繨ӹǹ�ҡ �ҡ���������١��ͧ ��ͧ�ӡ�Ѻ仵�Ǩ�ͺ��䢷���Ңҽ���� �繡���٭���¤������� ���������ҡ �ѧ��� �Ԩ��ø�Ҥ�è֧�ѹ�����к� On line ������Ը����Ƿ��з�����ô��Թ�ҹ������ҧ�ջ���Է���Ҿ ��÷ӧҹ��к� On line ��� �����������õԴ��駨��Ҿ����Ңҵ�ҧ� �����������͡Ѻ�ٹ�������������¢���������� ����Ҩ��������Ѿ������������Ū�Դ㴡��� ��õԴ����觢����ŵ�ҧ��繡�õԴ����µç�������������ŷ���ٹ����������� ���������������Ժѵԡ�� ���� Operating System �繼�����㹡�õԴ��� �������ǹ���ǹ˹�觵�ͧ����Դ��鹡�����ö���������Ǩ�ͺ�����š��������令�������������������䢵����� ���ҧ�á���˹��§ҹ����ͧ������к� On line ��äӹ֧�֧ͧ���Сͺ����� ���ҧ����к� On line �֧��ͧ�� ������ѡɳо���ɡ����к����� �� ��ͧ������������ЫͿ�����������ѡɳ��е�ͧ�իվ��٢�Ҵ�˭�ͷ��ШѴ��áѺ������Ǻ�����Ժѵԡ�� (Operating System) ��оͷ�������ԡ�������� � ʶҹջ��·ҧ��ҧ� �������ջ���Է���Ҿ ��л�С���ش���µ�ͧ���к�����ѡ�Ҥ�����ʹ��·���Ѵ������� ��� ������ö��ҧ�������� �ҧ���Ҩ��������ͻ���ª����ǹ��� ���ͷӡ�÷ب�Ե�Դ�Ԫͺ�� �ʴ���ô��Թ�����Ը�Ẻ Online ����ᵡ��ҧ�����ҧ Batch processing �Ѻ Online processing
�͡��û�Сͺ�����Ԫ� ��û����żŢ����ŷҧ��áԨ�¤��� ˹�� 81 – 82. ������ Computer Today/����Ҥ� 2535 ˹�� 72-74 บทที่ 3 เรื่อง "การจัดการข้อมูลด้วยคอมพิวเตอร์" ขั้นตอนการประมวลผลข้อมูลด้วยเครื่องอิเล็กทรอนิคส์ แบ่งได้กี่วิธี อะไรบ้าง การประมวลผลข้อมูลด้วยอิเล็กทรอนิคส์ แบ่งได้ 3วิธี ขั้นเตรียมข้อมูล(Input) เป็นการจัดเตรียมข้อมูลที่รวบรวมมาแล้วให้อยู่ในลักษณะที่สะดวกต่อการประมวลผลแบ่งเป็นขั้นตอนย่อย ๆ ดังนี้ 1.1 การลงรหัส (Coding)หมายถึงการใช้รหัสแทนข้อมูลเช่น รหัสเลขบัตรประชาชน 1.2 การตรวจสอบ (Verifying)เป็นขั้นตอนสำคัญในระบบการผลิตสารสนเทศ ทำขึ้นเพื่อให้มั่นใจว่าข้อมูลได้รับการรวบรวม และบันทึกเอาไว้อย่างถูกต้อง การตรวจสอบ ข้อมูลเป็นการค้นหารวบรวมข้อมูลที่ยังมีความผิดพลาดโดยทั่วไป จะกระทำได้ 3 ลักษณะคือ 1.3 การจำแนก Classifying)เป็นการกำหนดหลักการแบ่งประเภทข้อมูล เป็นหมวดหมู่หรือเป็นกลุ่ม ตามคุณสมบัติของข้อมูลในลักษณ์ ที่เหมาะสมมีความหมายและเป็นประโยชน์แก่ผู้ใช้ โดยการกำหนดสิ่งที่เหมือนกันไว้ด้วยกัน 1.4 การบันทึกข้อมูลลงสื่อ (Media)ที่เหมาะสม หมายถึง การจัดเตรียมข้อมูลให้อยู่ในสื่อหรืออุปกรณ์ที่อยู่ในรูปที่เครื่องคอมพิวเตอร์สามารถเข้าใจ และนำไปประมวลได้ เช่น บันทึกข้อมูลลงในจานแม่เหล็ก หรือเทปแม่เหล็กเพื่อนำไปประมวลผลด้วยเครื่องคอมพิวเตอร์ต่อไป ขั้นตอนการประมวลผล(Processing) เป็นวิธีการจัดการกับข้อมูล โดยนำข้อมูลที่เตรียมไว้แล้วเข้าเครื่องแต่ก่อนที่เครื่องจะทำงานต้องมีโปรแกรมสั่งงานซึ่งโปรแกรมเมอร์ (Processing) เป็นผู้เขียนเครื่องคอมพิวเตอร์จะทำการประมวลผลจนกระทั่งได้ผลลัพธ์ออกมาและยังคงเก็บไว้ในเครื่องขั้นตอนต่างๆ
อาจเป็นดังนี้ ขั้นตอนการแสดงผลลัพธ์ (Output) เป็นงานที่ได้หลังจากผ่านการประมวลผลแล้วเป็นขั้นตอนในการแปลผลลัพธ์ที่เก็บอยู่ในเครื่องให้ออกมาอยู่ในรูปที่สามารถเข้าใจง่ายได้แก่ การนำเสนอในรูปแบบรายงาน เช่นแสดงผลสรุปตารางรายงานการบัญชี รายงานทางสถิติ รายงานการวิเคราะห์ต่าง ๆหรืออาจแสดงด้วยกราฟ เช่น แผนภูมิ หรือรูปภาพสรุปขั้นตอนการประมวลผลด้วยเครื่องคอมพิวเตอร์ วิธีการประมวลผลด้วยเครื่องคอมพิวเตอร์ การใช้เครื่องคอมพิวเตอร์ในการประมวลผล (EDP) แบ่งออกได้เป็น 2 วิธีคือ <!--[if !supportLists]-->1. <!--[endif]-->การประมวลผลแบบแบทช์ (Batch Processing) <!--[if !supportLists]-->2. <!--[endif]-->การประมวลผลแบบอินเทอร์แอคทีฟ (interactive Processing) 1. การประมวลผลแบบแบทช์ (Batch Processing)
คือการประมวลผลโดยการรวบข้อมูลไว้ช่วงเวลาหนึ่งก่อนที่จะนำข้อมูลเข้าเครื่องเพื่อประมวลผลในคราวเดียวกัน เช่นการทำบัญชีจ่ายเงินเดือนพนักงานทุกสิ้นเดือน ระบบการคิดดอกเบี้ยธนาคารซึ่งต้องใช้เวลาสะสม 3 เดือน 6 เดือน
1 ปี หรือระบบการเรียนการสอนการบันทึกเกรดของนักเรียน ในแต่ละเทอมจนเทอมสุดท้ายจึงพิมพ์ใบรับรองเกรด ฉะนั้นการประมวลผลข้อมูลโดยใช้ระยะเวลาในการสะสมข้อมูลอยู่ระยะหนึ่งก่อนแล้วจึงนำมาประมวลผลพร้อมกันและในการทำงานจะไม่มีการโต้ตอบระหว่างผู้ใช้กับเครื่องคอมพิวเตอร์
ระบบเครื่องคอมพิวเตอร์ที่ใช้ในการประมวลผลแบบนี้เรียกว่า ระบบ ออฟไลน์ (Off-Line System) 2. การประมวลผลแบบอินเทอแอคทีฟ (Interactive Processing)หรือเรียกอีกอย่างหนึ่งว่าการประมวลผลแบบออนไลน์ (On-Line Processing) เป็นวิธีการประมวลผลที่รับข้อมูลเข้าสู่เครื่องคอมพิวเตอร์โดยตรงทันทีโดยไม่ต้องรอรวมหรือสะสมข้อมูลข้อมูลแต่ละรายการจะถูกนำไปประมวลผลและได้ผลลัพธ์ทันทีโดยจะมีการติดต่อกับหน่วยประมวลผลกลาง (CPU) โดยตรง เช่นการฝากหรือถอนเงินธนาคารโดยใช้บัตร ATM ระบบคอมพิวเตอร์ที่ใช้ในการประมวลผลแบบนี้เรียกกว่าระบบออนไลน์(On-Line Processing) ระบบออนไลน์ (On-Line Processing) จะทำงานตรงข้ามกับระบบออฟไลน์เป็นการป้อนข้อมูลเข้าเครื่องโดยตรงจากที่ใดก็ได้ที่มีอุปกรณ์บันทึกและป้อนข้อมูลอยู่โดยติดต่อกับหน่วยประมวลผลกลาง (CPU) โดยตรงแล้วทำการประมวลผลทันที อุปกรณ์ที่นิยมใช้ ได้แก่ เครื่องเทอร์มินัล ลักษณะการประมวลผลโดยตรงหรือโดยทันทีมีชื่อเรียกอื่น ๆ อีก ได้แก่ Transaction Processing หรือ Real-Time Processing 2.จงเรียงลำดับโครงสร้างข้อมูลจากขนาดเล็กไปใหญ่ พร้อมอธิบายความหมายของโครงสร้างข้อมูลแต่ละแบบ โครงสร้างข้อมูล (Data Structure) ขนาดเล็กไปใหญ่ โครงสร้างข้อมูล (Data Structure) ขนาดเล็กไปใหญ่ จากรูปข้างต้น คือ โครงสร้างของข้อมูลที่เรียงลำดับจากเล็กที่สุดไปยังใหญ่ที่สุดในdatabase ประกอบด้วย 1.บิท (Bit)คือ ข้อมูลที่มีขนาดเล็กที่สุดเป็นข้อมูลที่เครื่องคอมพิวเตอร์เข้าใจ และใช้งานได้ ได้แก่ 0 หรือ 1 2. ตัวอักขระ (Character)หมายถึงสัญลักษณ์ต่างๆ ที่ใช่ในภาษามนุษย์ แบ่งออกเป็น 3 ประเภท คือ 3. ฟิลด์ (Field) คือ อักขระที่มารวมกันแล้วก่อให้เกิดความหมายอย่างใดอย่างหนึ่ง เช่น ชื่อ-สกุล อายุเงินเดือน ที่อยู่ เป็นต้น 4. เรคคอร์ด (Record)คือ ฟิลด์ที่เกี่ยวข้องหรือสัมพันธ์กันมารวมกัน เช่น เรคคอร์ด นักศึกษาจะประกอบด้วยรายละเอียดของข้อมูลนักศึกษา ได้แก่ รหัสประจำตัวนักศึกษา ชื่อนักศึกษา เพศ อายุวิชาเอก เป็นต้น ฉนั้น ข้อมูลนักศึกษาหนึ่งคน จะเป็น 1 เรคคอร์ด 5. ไฟล์ (File)คือ เรคคอร์ดหลายๆเรคคอร์ดที่เกี่ยวข้องกันมารวมกัน เช่น แฟ้มข้อมูลนักศึกษาจะประกอบด้วยเรคคอร์ดของนักศึกษาแต่ละคนแต่ละห้อง 6.ฐานข้อมูล (Database)คือ หลายไฟล์ข้อมูลมารวมกัน เช่น
ไฟล์ข้อมูลนักเรียนมารวมกันในงานทะเบยนแล้วรวมกับไฟล์การเงิน ไบต์ (Byte) ได้แก่ ตัวอักษร เป็นการนำเอาบิตมารวมกัน โดย 8 Bit = 1 Byte
การใช้คอมพิวเตอร์จัดการระบบฐานข้อมูลนั้น ข้อมูลของเอนทิตีต่าง ๆ จะได้รับการนำไปเก็บไว้ในหน่วยความจำของคอมพิวเตอร์ ข้อมูลที่เก็บไว้อาจได้รับการเปลี่ยนแปลงเพิ่มเติมหรือตัดออกได้ การเก็บข้อมูลจะทำการเก็บข้อมูลไว้หลาย ๆ เอนทิตี และเมื่อมีการเรียกใช้อาจนำเอาข้อมูลจากหลาย ๆ เอนทิตีนั้นมาสัมพันธ์กันเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ต้องการ การจัดเก็บข้อมูลด้วยระบบคอมพิวเตอร์ที่ถือว่ามีประสิทธิภาพ คือ การใช้เนื้อที่ในการจัดเก็บข้อมูลน้อยที่สุด และจะต้องเรียกค้นหาข้อมูลได้ง่าย ดังนั้นจึงมีการแบ่งเอนทิตีออกเป็นส่วนย่อย ๆ เพื่อใช้เรียกข้อมูลย่อย ส่วนย่อยของเอนทิตีนี้เรียกว่า เขตข้อมูล (Field) ดังตัวอย่างโครงสร้างแฟ้มข้อมูลพนักงาน ฐานข้อมูล (Data base) หากนำเอาระบบฐานข้อมูลมาใช้ในหน่วยงานที่นักศึกษาทำงานอยู่ สามารถมีแฟ้มข้อมูลใดบ้าง และระบบฐานข้อมูลนั้นมีประโยชน์ต่อองค์กรอย่างไร
<!--[if !vml]--><!--[endif]-->แสดง : ตัวอย่างข้อมูลตามรูปแบบจำลองข้อมูลเชิงสัมพันธ์ ข้อมูล บริษัท ภัทรารวีย์ เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด เลือก แบบจำลองฐานข้อมูลเชิงสัมพันธ์ (Relational Database Model) มีประโยชน์สำคัญ เพื่อความสะดวกในการใช้ข้อมูล และช่วยให้การรักษาความปลอดภัยของฐานข้อมูลทำได้ง่ายขึ้น Relation ที่ถูกสมมติขึ้นมานี้จะไม่มีการเก็บข้อมูลจริง ๆ ในระบบฐานข้อมูล ข้อดี - สามารถสื่อสารและทำความเข้าใจได้ง่าย - สามารถทำการเลือกแสดงข้อมูลได้ตามเงื่อนไขได้หลาย key field - ความซ้ำซ้อนของข้อมูลมีน้อยมาก - มีระบบรักษาความปลอดภัยที่ดีซึ่งผู้ใช้นั้นไม่จำเป็นต้องทราบถึงโครงสร้างการเก็บข้อมูลภายในฐานข้อมูล - โครงสร้างของฐานข้อมูลมีความเป็นอิสระจากโปรแกรม ไม่เหมาะสำหรับข้อมูลภาพและเสียง ในระบบฐานข้อมูลมัลติมีเดีย วิธีการประมวลแบบแบทซ์ (Batch Processing)เป็นการประมวลผลโดยเก็บรวบรวมข้อมูลหรือคำสั่งไว้ปริมาณ
หนึ่งแล้วจึงนำงานชุดหรือแบทซ์ นั้นส่งเข้าประมวลผลต่อไปวิธีการประมวลผลแบบนี้มีใช้มาตั้งแต่คอมพิวเตอร์ยุคแรกการประมวลผลแบบแบทซ์พิจารณาได้ 2 ด้าน คือ
ในด้านของผู้ใช้เครื่องและในด้านของผู้มีหน้าที่ควบคุมเครื่อง - งานที่มีข้อมูลส่งเข้าประมวลผลจำนวนมากจำเป็นต้องมีการรอเพื่อบันทึกข้อมูลลงสื่อข้อมูลคอมพิวเตอร์ - งานที่มีการปรับปรุงข้อมูลในแฟ้มข้อมูลเป็นจำนวนมากต่อการประมวลผลแต่ละครั้งเช่น การปรับปรุงคะแนนสะสมของ นักศึกษาเมื่อสิ้นภาคการศึกษาข้อมูลของนักศึกษาทุกคนจะถูกปรับปรุงใหม่ วิธีการประมวลระบบเรียล-ไทม์ (Real-time)เป็นระบบออนไลน์ ที่มีลักษณะคล้ายกับไทม์-แชริง แต่แตกต่างกันที่งานที่ประมวลผล เป็นงานเดียวมีผู้ร่วมใช้หลายคนเทอร์มินัลทุกจุดถูกควบคุมด้วยโปรแรกมเดียวกันเพื่อให้เครื่องสามารถติดต่อกับผู้ใช้ทุกคน จึงมีการแบ่งโปรแกรมเป็นชุดย่อย ๆ ในโปรแกรมชุดย่อยเหล่านี้ทำงานไปพ้อม ๆ กันได้ ระบบการประมวลแบบออน-ไลน์ เหมาะสมกับงานซึ่งมีลักษณะดังต่อไปนี้ - งานที่มีข้อมูลส่งเข้าประมวลผลจำนวนน้อย - งานที่ไม่มีการปรับปรุงแฟ้มข้อมูลทั้งหมดในการประมวลผลแต่ละครั้งแต่เป็นการปรับปรุงบางรายการเท่านั้น - งานที่มีการแสดงผลจำนวนน้อย ไม่มีการพิมพ์รายงานขนาดใหญ่ - งานที่ต้องการความรวดเร็ว การประมวลผลข้อมูลในระบบคอมพิวเตอร์นั้นสามารถจำแนกได้ 2 แบบใหญ่ ๆ คือการประมวลผลแบบกลุ่ม (Batch Processing) และการประมวลผลแบบเชื่อมตรง (On-Line Processing) การประมวลผลแบบกลุ่ม การประมวลผลแบบกลุ่มเป็นการเก็บข้อมูลที่เกิดขึ้นในแต่ละครั้งรวมเข้าไว้ด้วยกันเป็นชุดๆ หรือเป็นจำนวนมากก่อนแล้วจึงทำการบันทึกข้อมูลดังกล่าวเก็บไว้ในระบบคอมพิวเตอร์ในเวลาถัดมา เมื่อข้อมูลที่เก็บรวบรวมไว้ในระบบคอมพิวเตอร์มีปริมาณมากพอควรแล้วหรือเมื่อถึงกำหนดเวลาที่ได้มีการระบุไว้แน่นอน (Fixed Intervals) จึงค่อยทำการประมวลผลหรือส่งเข้าไปทำการปรับปรุง/เปลี่ยนแปลงแฟ้มข้อมูลที่เก็บไว้ในหน่วยความจำสำรอง การประมวลผลแบบกลุ่มเป็นวิธีการประมวลผลที่ประหยัดค่าใช้จ่าย และเหมาะสำหรับงานที่ไม่จำเป็นต้องประมวลผลในทันทีทันใดที่เกิดรายการข้อมูลขึ้นตัวอย่างเช่น ระบบการรับ-จ่ายเงินเดือน ระบบการจัดทำใบเรียกเก็บเงิน เป็นต้นหากทว่าข้อจำกัดที่สำคัญของระบบการประมวลผลแบบกลุ่ม คือข้อมูลหรือข่าวสารที่มีเก็บรวบรวมไว้อาจไม่เป็นปัจจุบัน การประมวลผลแบบเชื่อมตรง ในการประมวลผลแบบเชื่อมตรง ข้อมูลจะถูกส่งจากแหล่งกำเนิดในพื้นที่ต่าง ๆ ผ่านทางแผงแป้นอักขระของเครื่องปลายทางไปยังหน่วยประมวลผลกลางในทันทีที่มีรายการข้อมูลเกิดขึ้นเพื่อนำข้อมูลดังกล่าวไปประมวลผลในหน่วยประมวลผลกลางหรือไปทำการปรับปรุง/เปลี่ยนปลงแฟ้มข้อมูลในหน่วยความจำสำรองโดยตรง ข้อดีของการประมวลผลแบบเชื่อมตรง คือ เนื่องจากข้อมูลที่เก็บบันทึกไว้ในระบบคอมพิวเตอร์จะเป็นปัจจุบันอยู่เสมอ ดังนั้น
ผู้บริหารสามารถใช้ประโยชน์จากข้อมูลในการวางแผนและการตัดสินใจได้ทันเวลาและมีประสิทธิภาพรวมทั้งการประมวลผลแบบเชื่อมตรงจะเป็นการช่วยลดความผิดพลาดและความเสียหายในการเคลื่อนย้ายข้อมูลจากแหล่งกำเนิดข้อมูลไปยังหน่วยประมวลผลกลางได้หากข้อจำกัดของการประมวลผลแบบเชื่อมตรง คือ
ต้นทุนหรือค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจากการจัดทำระบบการประมวลผลแบบเชื่อมตรงค่อนข้างสูง ข้อใดเป็นการประมวลผลแบบแบตซ์การประมวลผลแบบแบทซ์ (Batch Processing) คือการประมวลผลโดยการรวบรวมข้อมูลไว้ช่วงเวลาหนึ่ง ก่อนที่จะนำข้อมูลเข้าเครื่อง เพื่อประมวลผลในคราวเดี่ยวกัน เช่น การทำบัญชีจ่ายเงินเดือนพนักงานทุกสิ้นเดือน ระบบการคิดดอกเบี้ยธนาคาร ซึ่งต้องใช้ระยะเวลารวมสะสม 3 เดือน 6 เดือน หรือ 1 ปี หรือระบบการเรียนการสอน การบันทึกเกรดของนักศึกษา ...
ข้อใดจัดเป็นการประมวลผลแบบกลุ่ม2. การประมวลผลแบบกลุ่ม การประมวลผลแบบกลุ่ม (batch processing) เป็นการเก็บรวบรวมข้อมูลในแต่ละช่วงเวลาหนึ่ง และนำข้อมูลที่ได้รับในช่วงเวลาดังกล่าวมาประมวลผลพร้อมกัน เช่น การเก็บข้อมูลเวลาเข้าออกของนักเรียน และเมื่อถึงสิ้นเดือนโรงเรียนจะนำข้อมูลมาประมวลผลเป็นรายงานการเข้าชั้นเรียนของนักเรียนประจำเดือน เป็นต้น
ข้อใดเป็นการประมวลผลข้อมูล (Process)การประมวลผล (Processing) คือ การกระทำต่อข้อมูลดิบ (Raw data) ในลักษณะใดก็ได้ เพื่อให้ได้ข้อมูลสนเทศ (Information) การประมวลผลข้อมูลให้เป็นสารสนเทศ หมายถึง การนำข้อมูลที่เก็บไว้อย่างมีระบบ มาทำการวิเคราะห์ สรุปด้วยวิธีการต่างๆ ให้อยู่ในรูปแบบที่มีความสัมพันธ์กัน มีความหมายและมีวัตถุประสงค์ในการใช้งานอย่างใดอย่างหนึ่ง
Batch Processing หมายถึงข้อใดbatch processing
(n) การประมวลผลอย่างต่อเนื่องของโปรแกรมคอมพิวเตอร์, Syn. data processing.
|