เคสไอโฟน 14 ยี่ห้อไหนดี pantip

การเลือกเคสใสนั้นยากที่สุดละครับ เพราะหน้าตาเหมือนๆกันหมดยิ่งดูรูปยิ่งมึน สุดท้ายจบที่การเลือกจากแบรนด์ที่คุ้นเคยและราคาที่สูงหน่อยเพื่อความมั่นใจ ซึ่งเป็นวิธีที่ปลอดภัยและพวกเราเข้าใจได้ดี

แต่!! จะดีกว่าไหม ถ้าลูกค้าได้เคสคุณภาพเดียวกัน ในราคาที่ประหยัดไปอีกเป็นพัน ..!!!

วิธีการเลือกเคสใสที่ดีมาใช้ต้องดูจากอะไรบ้าง

1) วัสดุขอบเคส

เคสใสในไอโฟนใสที่ดีตอนนี้ประกอบด้วยวัสดุสองอย่างนี้ครับ

1.1 ขอบซิลิโคน (TPU)

- กันกระแทกระดับ 1.5 - 2 เมตร

- บาง เบา ไม่เทอะทะ โชว์สีขอบเครื่องชัดเจน

- คุณภาพของ TPU มีหลายเกรด หลายประเภท และมีคุณสมบัติไม่เหมือนกัน

1.2 ขอบเป็นซิลิโคน (TPU) เสริมขอบ (TPE)

- กันกระแทกระดับ 2 เมตรขึ้นไป

- หนาขึ้น หนักขึ้น ไม่เห็นสีขอบเครื่อง

- คุณภาพของ TPU/TPE มีหลายเกรด หลายประเภท และมีคุณสมบัติไม่เหมือนกัน

2) วัสดุฝาหลัง

ถึงแม้ในตลาดจะมีเคสใสหลายแบบแต่ตอนนี้แบบที่ดีและเป็นที่นิยมสุดคือการใช้วัสดุ PC ใส ซึ่งตัว PC ใส จะมีความหนาหลายแบบ และมีข้อความระวังดังนี้ครับ

- ไม่ควรหนาไปเนื่องจากจะเทอะทะและลดความสวยของตัวเครื่อง

- ไม่ควรบางไปเนื่องจากจะหักง่ายและไม่กันกระแทก

- เคสใสที่ดีควรเคลือบสารกันรอย ให้เกิดรอยยากขึ้น

3) เคสเหลือง

หลายๆคนกังวลเรื่องเคสเหลือง และแอดมินได้รับคำถามบ่อยมาก ว่ามีเคสที่ไม่เหลืองไหม คำตอบคือไม่มีครับ ถ้าเป็นวัสดุแบบที่เป็น TPU ยังไงก็ต้องเหลืองครับ เพราะเป็นธรรมชาติของวัสดุ TPU แต่เคสที่ดีสวนใหญ่จะใส่สารชะลอการเหลืองใน TPU ซึ่งจะทำให้ใช้งานได้ 8 - 12 เดือนก่อนจะเริ่มเหลือง ซึ่งสาเหตุหลักของการเหลืองมาจาก แสงแดดและความร้อนครับ ถ้าลูกค้าอยากให้เหลืองช้า ต้องหลีกเลี่ยงการเจอสองสิ่งนี้ซึ่งเป็นไปไม่ได้ครับ

4) ระดับการกันกระแทกเท่าไรถึงจะเพียงพอ

ระดับการกระแทกจริงๆแล้ว AppleSheep ขอแบ่งออกเป็นประมาณ 4 ช่วง

• 0 เมตร - ไม่กันกระแทกเลย ส่วนใหญ่จะเป็นขอบ PC ล้วนๆ คือพลาสติกราคาถูกๆ หรือเคส TPU ล้วนที่ไม่ได้เสริมอะไรเลย

• 1.3 ถึง 2 เมตร - กันกระแทกในระดับ Military Standard ส่วนใหญ่จะเป็นวัสดุ TPU + PC อย่างที่เราแนะนำไป

• 2 เมตร ถึง 3 เมตร กันกระแทกมากกว่าระดับ Military Standard ส่วนใหญ่จะมีการเสริมขอบ TPE เสริมการกันกระแทกให้ TPU

• 3 เมตรขึ้นไป จะเป็นเคสที่ออกแบบโครงสร้างมาสำหรับการกันโดยเฉพาะซึ่งหนาตาจะดูออกไปทางออกรบหน่อยครับ

จริงๆแล้วระดับการกันกระแทกแบบ Military Standard ที่ทดสอบในห้องทดลองเองอยู่ที่ประมาณ 1.3 เมตร ซึ่งเป็นระดับที่ทาง AppleSheep แนะนำว่าเพียงพอแล้วต่อการใช้งานในชีวิตประจำวัน แต่ถามว่ามีโอกาสที่จะตกแล้วเครื่องเสียหายไหม ต้องตอบว่ามีแน่นอนครับ

แล้วทำไม ไม่แนะนำให้ใช้เคสที่กันกระแทกสูงกว่านั้น???

ต้องบอกว่าไม่ว่าจะกันกระแทกระดับกี่เมตรก็ตามครับ ถ้าตกยังไงก็มีโอกาสเสียหาย หลายๆครั้งเราจะเห็นการทำ Drop Test แล้วเครื่องภายนอกไม่เป็นไรก็จริง แต่ด้านในคือช้ำไปหมดแล้วครับ TouchScreen บางจุดมีปัญหาไปแล้ว กล้องเกิด Dead Pixel ชาร์จไม่เข้าขั้วหลุด หรืออื่นๆมีมากมาย เพราะโครงสร้างด้านในมันกระทบ กระเทือน หนักครับ

การใช้เคสกันกระแทกระดับ 2-3 เมตรหรือมากกว่านั้น ต้องถามตัวเองว่าจำเป็นไหม ที่จะต้องกันกระแทกระดับ 3 เมตร ซึ่งเอาจริงๆระดับ 3 เมตรนั้น สูงกว่ามนุษย์ทั่วไปอีกครับ และหลังคารถก็สูงไม่ถึง 2 เมตร เรียกได้ว่า มันแทบจะเป็นไปไม่ได้เลยในการใช้งานทั่่วไป ที่ไอโฟนจะตกระดับ 3 เมตรขึ้นไป

การจะใช้เคสระดับกันกระแทก 3 เมตรขึ้นไป ต้องทำใจก่อนครับว่ายิ่งเคสกันกระแทกมากเท่าไร เคสไอโฟน ที่เราพกทุกวัน ใช้ทุกวัน จะมีความหนาและหนัก ซึ่งไม่สะดวกต่อการพกพาและใช้งานเหมือนกับเคสที่บางและเบา ตัวไอโฟนเองไม่เหมือนกับไอแพด เนื่องจากไอแพดเราวางใช้บนโต๊ะไม่ได้พกพาทั้งวัน แต่โอโฟนเราถือมันเพื่อใช้งานและพกพาทุกครั้งที่ออกจากบ้าน

5) ขอบกล้อง

สมัยเคสไอโฟน 12 ออกมา ผู้ใช้ไอโฟนหลายๆคนมีปัญหากับเรื่องขอบกล้องที่สูงไม่พอทำให้กังวลว่าตัวกล้องจะเป็นรอยและถ่ายภาพไม่ชัดหรือไม่สวย ต้องขออธิบายแบบนี้สำหรับ iPhone 14 ครับ

• โรงงานส่วนใหญ่รู้ดีอยู่แล้ว เคสทั้งหมดในตลาดเลยมีการยกขอบกล้องให้สูงขึ้นทั้งหมด

• ถ้าลูกค้าติดกระจกกันเลนส์มาแล้ว ไม่ว่าขอบเคสจะเป็นอย่างไร ก็ไม่มีผลต่อการเกิดรอยแล้วครับ

• จริงๆและวัสดุของกระจกกล้องไอโฟนเกิดรอยยากมากครับ เนื่องจากเป็นกระจกที่เคลือบวัสดุกันรอยมาเยอะอยู่แล้วครับ

ซึ่งเคสใสที่เราขายอยู่ปัจจุบันครบเครื่องสุดๆแล้วครับ อยากได้ใสแบบไหนเลือกได้ตามใจ มีให้เลือกหลายแบบเลยครับ

#รับประกันว่าโคดคุ้ม

1. กันกระแทกระดับ 1.5 - 3 เมตร ตามความหนา 2. กระจกใสหนาสะใจ ใสกิ๊ก เคลือบกันรอย 3. มีขอบให้เลือกหลายแบบตามที่ชอบ 4. ทุกตัวผสมวัสดุชะลอการเหลือง 5. มุมเสริม Bumper / การตัดขอบเนี๊ยบทุกตัว 6. ขอบกล้องสูงกว่าเลนส์ทุกตัว