ส เปร ย์ กันแดด banana boat ตัว ไหน ดี

กับรีวิวครีมกันแดด Banana Boat สูตรใหม่สำหรับผิวแพ้ง่าย ไม่ว่าจะเป็นสิว ผิวอ่อนแอสุด ๆ กันแดดผิวแพ้ง่ายหลอดนี้ไม่ทำให้ผิวระคายเคืองแน่นอน เพราะเค้าผ่านการทดสอบแล้วว่าไม่เป็นอันตรายต่อผิว สามารถใช้ได้ทุกวัน เพราะเนื้อเค้าบางเบาสบายผิวสุด ๆ พร้อมให้เพื่อน ๆ โชว์ผิวสวยสู้แดด แม้ผิวแพ้ง่ายก็ไร้กังวล!

1. มีสัญลักษณ์ Dermatologist Tested หรือ Hypoallergenic Tested เป็นกันแดดผิวแพ้ง่ายที่ผ่านการทดสอบแล้วว่าอ่อนโยน และไม่เป็นอันตรายต่อผิวหนัง จากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนังโดยเฉพาะ
2. ไม่มีสารที่อาจทำให้ผิวระคายเคือง เช่น น้ำหอม น้ำมัน แอลกอฮอล์ หรือสารกันเสีย และควรหลีกเลี่ยงกันแดดแบบสเปรย์ เพราะมักจะผสมแอลกอฮอล์ที่อาจทำให้ผิวระคายเคืองได้
3. เลือกกันแดดเนื้อน้ำ หรือเนื้อโลชั่น จะไม่อุดตันรูขุมขนและทำให้เกิดสิว เพราะเนื้อจะบางเบา ซึมง่าย แถมยังเติมระหว่างวันได้อีกด้วย
4. SPF 50 PA เท่านั้น! ถือว่าเป็นกันแดดที่ Very High Protection คือมีประสิทธิภาพสูง ในการปกป้องผิวจากรังสี UVA และ UVB จึงเหมาะกับการสู้เแสงแดดเมืองไทยของเราที่สุด

และทั้ง 4 ข้อนี้มีอยู่ในครีมกันทาแดดหน้า

ผ่านการทดสอบจาก Dermatologist Tested ภายใต้การดูแลของแพทย์ หรือผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านผิวหนัง ว่าไม่เป็นอันตรายต่อผิว ยังไม่พอค่ะเพราะผ่านการทดสอบจาก Hypoallergenic Test อีกด้วย!! ว่าเป็นกันแดดผิวแพ้ง่าย ทำให้มีโอกาสที่จะแพ้น้อยกว่าครีมกันแดดทั่วไป ที่สำคัญไม่มีส่วนผสมของสี น้ำหอม น้ำมัน แอลกอฮอล์ หรือสารกันเสียเลยนะ

นอกจากนั้นเค้ายังมี Hyaluronic Acid ที่ช่วยปรับสภาพผิว ทำให้ผิวชุ่มชื้นตลอดทั้งวัน พร้อมล็อกเมคอัพให้ติดทนอีกด้วย โอ้ยย สมกับที่ติดอันดับต้น ๆ ของครีมกันแดดทาหน้าที่คนรีวิวกันทั่วประเทศ ว่าปังม้ากก

ส่วนของกลิ่นครีมกันแดดตัวนี้เรียกได้ว่าแทบไม่มีกลิ่นเลยค่ะ สาว ๆ ผิวแพ้ง่ายก็ใช้ได้อย่างสบายใจเลยแหละ เพราะเค้าไม่ได้แต่งกลิ่นเลย ยิ่งเป็นสูตรใหม่ที่คงคอนเซ็ปต์ความอ่อนโยน ไม่ระคายเคืองผิวแพ้ง่ายด้วย เรื่องน้ำหอมหรือเคมีคือหายห่วง

แน่นอนว่าการทาครีมกันแดดให้ถูกต้องก็ต้องใช้อย่างน้อย 2 ข้อนิ้ว เราเลยทดลองทา 2 ข้อนิ้วให้ดูกัน จะเห็นเลยว่าผิวหลังทาดูฉ่ำวาวขึ้น แต่ไม่มันจนเกินไป ไม่วอก ไม่ลอย แล้วก็ไม่เป็นคราบเลยค่ะ หลังทาแล้วก็เบาสบายผิวเลยจ้า ไม่รู้สึกเหนอะหนะแต่อย่างใด

ตอนเกลี่ยเนื้อครีมอาจจะต้องใช้เวลาให้เค้าซึมนิดนึง แต่พอเซตตัวแล้วคือดีงามเลยนะ ไม่เหนอะหนะแต่อย่างใด สามารถลงเมคอัพต่อได้สบาย ๆ สาวผิวแห้งน่าจะปลื้มเลยแหละ

ส่วนสาว ๆ ผิวมัน ทา 2 ข้อนิ้วกำลังพอดี ให้ความฉ่ำผิวในแบบที่รับไหว แต่ถ้ามากกว่านี้อาจจะมันเยิ้มไปนิด แต่เรื่องความอ่อนโยนก็ยังโดนใจอยู่ค่ะ หลังใช้ก็ไม่ได้มีอาการแพ้ หรือระคายเคืองแต่อย่างใด ใครที่ผิวแพ้ง่ายอยากให้ได้ลองเลยน้าา

เพื่อน ๆ คนไหนที่อยากปลดล็อกผิวแพ้ง่าย สนุกได้ไร้กังวลกับครีมกันแดดทาหน้า Banana Boat่ ก็สามารถเลือกสูตรที่เหมาะกับผิว และไลฟ์สไตล์ตัวเองได้เลยน้า สูตรใหม่ สูตรผิวแพ้ง่าย ราคา 429 บาท / 50 ml. สูตรใช้ทุกวันและสูตรกันน้ำ ราคา 390 บาท / 50 ml. เท่านั้นค่ะ

หาซื้อได้แล้วที่ Watson, Boots, Eveandboy, Beautrium, Tsuruha, Multy Beauty หรือห้างสรรพสินค้าชั้นนำทั่วประเทศ //แอบกระซิบว่าเค้าจัดโปรอยู่เรื่อย ๆ เลย คุ้มม้ากก

ขอเสียงคนที่รอการรีวิวความแตกต่างของครีมกันแดด Banana Boat หน่อยจ้าาา ก็คือ Jelly แล้วหนึ่งคนค่ะ ที่ก่อนหน้านี้ก็เคยไปยืนงงหน้าชั้นวางขายครีมกันแดดว่าสูตรไหนใช้ยังไง เพราะเค้ามีหลายสีเหลือเกิน แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น Banana Boat เค้าก็มีผลิตภัณฑ์หลายแบบมาเพื่อที่จะตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของสาว ๆ ให้ได้ครอบคลุมทุกแบบ แต่ตัวเด่น ๆ ยอดนิยมสุด ๆ ก็เห็นจะเป็น ครีมกันแดด Banana Boat สีฟ้า (Banana Boat Dry Balance Sunscreens Lotion SPF50+ PA++++) และ ครีมกันแดด Banana Boat สีส้ม (Banana Boat Sport Sunscreen Lotion SPF 50+ PA++++) นั่นเองค่ะ Jelly จึงขออาสามารีวิวให้ดูกันจะ ๆ เลยละกัน ว่าสูตร 2 สูตรฮอตฮิตของเค้าเนี่ย มันมีความเหมือนและแตกต่างกันยังไง 

มาเริ่มกันเลยค่ะ ทั้งครีมกันแดด Banana Boat สีฟ้าสูตร Dry  และ ครีมกันแดด Banana Boat สีส้ม สูตร Sport มี 2 เนื้อสัมผัสด้วยกันคือแบบ Lotion และแบบ Spray สามารถเลือกใช้ในแบบที่ชอบได้เลยค่ะ ถ้าเป็น Lotion ก็จะพกพาง่าย เวลาใช้เนื้อสัมผัสจะหนักกว่า ถ้าคนที่ชอบฉ่ำ ๆ อยากได้เนื้อกันแดดที่รู้สึกปกป้องมากเวอร์ แนะนำแบบ Lotion เลย แต่แบบ Spray จะให้ผิวสัมผัสแบบบางเบา ใช้งานง่าย แค่กดสเปรย์ผิวและทาได้เลย แต่แอบบอกทริคนิดนึงว่าถ้าจะพกไปสเปรย์ริมหาดก็จะใช้ยากนิดนึง เพราะลมมันแร๊งงง เนื้อครีมกันแดดจะลอยไปกับลมหมด แต่อย่างไรทั้ง 2 สูตรควรจะทาก่อนออกแดดประมาณ 20 นาทีค่ะ 

Jelly Tips: ครีมกันแดดแบบสเปรย์ไม่ควรวางทิ้งไว้ในรถท่ามกลางอากาศร้อนนะคะสาว ๆ เพราะมีสิทธิ์กระป๋องระเบิดได้เด้อ 

แต่วันนี้ Jelly จะขอรีวิวเฉพาะเนื้อสัมผัสแบบ Lotion ก่อนละกันค่ะ โดยจะแบ่งให้เห็นชัดเจนเลยว่า ครีมกันแดด Banana Boat สีฟ้าสูตร Dry และ ครีมกันแดด Banana Boat สีส้ม สูตร Sport มีคุณสมบัติอย่างไร และแต่ละสูตรควรใช้เมื่อไหร่ ตามมาดูกันเล้ยย 

💙 ครีมกันแดด Banana Boat สีฟ้า (Banana Boat Dry Balance Sunscreens Lotion SPF50+ PA+++) 

ตัวนี้ Jelly แนะนำว่าเหมาะกับการทาทุกวันก่อนออกจากบ้านค่ะ เพราะบ้านเราเป็นเมืองร้อน แสงแดดอยู่กับเราทุกที่ ไม่ต้องรอทำกิจกรรมกลางแจ้งถึงจะทาครีมกันแดดน้าา เพราะผิวของเราควรได้รับการปกป้องจากแสงแดดตลอดเวลาค่ะ 

• ชื่อก็บอกแล้วว่าสูตร Dry นั่นก็หมายถึงเนื้อครีมบางเบา ตัวครีมโดนผิวแล้วซึมง่าย ทำให้สบายผิวต่างกับครีมกันแดดทั่ว ๆ ไป

• ไม่เหนียวเหนอะหนะ ทาได้ทุกวัน

• ไม่อุดตันรูขุมขน กลิ่นหอมอ่อน ๆ สดชื่น กลิ่นจะออกคลีน ๆ ค่ะ 

• ถึงจะบางเบาแต่กันน้ำได้อย่างดี 

🧡 ครีมกันแดด Banana Boat สีส้ม (Banana Boat Sport Sunscreen Lotion SPF 50+ PA+++)

ส่วนเจ้าสีส้มเหมาะสำหรับกิจกรรมกลางแจ้งอย่างมากเลย ควรอยู่ในไอเทมติดกระเป๋าเวลาไปดำน้ำ ปลูกปะการัง ปั่นจักรยาน หรือทริปถ่ายรูปกลางแจ้ง เพราะคุณสมบัติเลิศ แดดแรงแค่ไหนก็เอาอยู่ 

• ปัจจุบัน Banana Boat มีการปรับปรุงสูตรให้เหนียวน้อยลง 

• ลดปริมาณสารเคมีลง 25% ไม่ทำลายธรรมชาติ (อย่างที่เคยมีข่าวว่าครีมกันแดดทำให้ปะการังตายแต่ตัวนี้ปลอดภัยแน่นอนค่ะซิส)

• ไม่มีน้ำหอม

• ไม่มีส่วนผสมของ Oxybenzone (ไม่ทำร้ายประการัง) Paraben (สารกันเสียที่มักจะสร้างความระคายเคืองแก่ผิว)

• กันน้ำ กันเหงื่อได้อย่างดีเยี่ยม ที่สำคัญสูตรปรับปรุงใหม่เค้าไม่ทิ้งคราบขาวด้วยนะ! 

และแล้วก็ถึงเวลา มาดูรีวิวพร้อมกันชัด ๆ ! 

Jelly จะทาให้เห็นเลยนะคะว่า ทั้ง 2 สูตรมีเนื้อผลิตภัณฑ์ ความมัน กลิ่น และกันน้ำได้แตกต่างกันอย่างไร ก็คือรีวิวให้เห็นตามจริงทุกอย่างไปเล้ยยย 

มาเริ่มกันที่ ‘เนื้อครีม’ นะคะ 

💙 ครีมกันแดด Banana Boat สีฟ้า สูตร Dry: เนื้อเป็นครีมละมุน สัมผัสบางเบามาก ๆ เลยค่ะ ทาแล้วรู้สึกไม่หนักผิว ไม่เหนอะหนะผิวเลยด้วย มาพร้อมกลิ่นหอมนวล ๆ เหมือนเชียร์บัตเตอร์ (ทีมงานบอกว่าหอมเหมือนกลิ่นขนมเลย ฮ่า ๆ ) ทาแล้วรู้สึกเย็นสบายผิวด้วยนะเออ 

🧡 ครีมกันแดด Banana Boat สีส้ม สูตร Sport: เนื้อสัมผัสของตัวนี้จะหนืดและเข้มข้นกว่าตัวแรกนะคะ ให้ความรู้สึกหนักผิว แต่ก็ไม่ถึงขนาดทิ้งคราบขาวหรือเหนอะหนะ กลิ่นแรงนิดหนึ่งด้วยความเป็นสูตรสปอร์ตที่เหมาะที่จะเอาไว้ใช้ป้องกันแดดแรง ๆ เวลาทำกิจกรรมกลางแจ้ง 

ลองทาแล้วเป็นยังไง? 

💙 ครีมกันแดด Banana Boat สีฟ้า สูตร Dry:  พอทาแล้วเนื้อครีมไม่ทิ้งคราบขาวเลยนะคะ ซึมลงผิวง่ายมาก ผิวกลายเป็นนุ่มลื่นและแมตต์มาก ไม่มีความมันวาวที่ผิวเลย เหมาะมาก ๆ กับสาวผิวมันที่มีความกังวลกับครีมกันแดดทั่ว ๆ ไปว่าจะทำให้ผิวมันเหนอะหนะ หรือทิ้งคราบขาวให้เสียเซลฟ์ ไม่ใช่กับครีมกันแดด Banana Boat สีฟ้า สูตร Dry หลอดนี้แน่นอน! ที่สำคัญระยะเวลาที่ครีมกันแดดซึมลงผิวนั้นเร็วมาก ๆ ถูวน ๆ ประมาณ 1 - 2 นาทีเท่านั้น เนื้อครีมก็เคลือบลงบนผิวเลย ใช้เวลาดูแลผิวนิดเดียว แต่ปกป้องผิวจากแสงแดดได้ยาวนานเชียวค่ะ

🧡 ครีมกันแดด Banana Boat สีส้ม สูตร Sport: ด้วยความที่เป็นสูตรครีมกันแดดเข้มข้นกว่า ก็เลยอาจจะเห็นคราบขาวจาง ๆ อยู่บ้างนะคะ สาว ๆ จะสังเกตว่า Banana Boat Sport Sunscreen Lotion SPF 50+ PA+++ หลอดนี้เนื้อครีมจะไม่เหมือนครีมกันแดด Banana Boat ที่เคยใช้กัน นั่นก็เพราะว่านี่เป็นสูตรใหม่ที่ลดเคมีลง (ไม่มี Oxybenzone สารที่ทำให้ระคายเคืองผิวและ Parabens สารกันเสีย) ดีต่อสุขภาพผิวและดีต่อธรรมชาติด้วยเด้อ เพราะเมื่อไม่มีสารเคมีเหล่านี้น้อง ๆ ปะการังก็จะไม่ถูกทำลายค่ะ เนื้อครีมเบาขึ้นจากสูตรเดิม ทาแล้วไม่หนักผิวเลยค่ะ ควรทาก่อนออกแดดสัก 20 นาทีนะคะสาว ๆ เพื่อให้ครีมกันแดดเซตตัวและปกป้องผิวของเราได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ

ทดสอบความมันกันบ้างค่ะ 

วิธีทดสอบ Jelly จะใช้กระดาษซับหน้ามันตัดเป็นแผ่นเล็ก ๆ แล้วโปรยลงบนผิวบริเวณที่ทาครีมกันแดดลงไปนะคะ โดยเราทาทิ้งไว้สัก 5 นาทีแล้วถึงมาทดสอบกันค่ะ 

💙 ครีมกันแดด Banana Boat สีฟ้า สูตร Dry:  ผลลัพธ์เป็นอย่างที่เห็นเลยค่ะ กระดาษไม่ซึมซับความมันบนผิวเลย เพราะอย่างที่บอกว่า หลังทาผิวจะแมตต์และสบายผิวมาก ทาได้ทุกวันไม่ต้องกังวลว่าจะไม่สบายตัวระหว่างเดินทางท่ามกลางอากาศร้อน ๆ และไม่มีคราบครีมกันแดดติดเสื้อผ้าชุดโปรดด้วยนะ 

🧡 ครีมกันแดด Banana Boat สีส้ม สูตร Sport: ส่วนสูตรนี้จะยังมีความมันเล็กน้อยทิ้งตัวอยู่บนผิวค่ะ เป็นเพราะความเข้มเข้นของเนื้อโลชั่นกันแดดที่ปกป้องผิวได้ 50 เท่า เลยต้องมีส่วนผสมที่มากกว่าสูตรอื่น แต่ถามว่าหนักผิวไหม ตอบได้เลยค่ะว่าไม่ขนาดนั้น แค่ผิวมีความมันวาวมากกกว่าเดิมนิดเดียวเท่านั้นเอง ถ้าเทียบกับที่ผิวต้องโดนทำลายจากแสงแดด ทาครีมกันแดดสูตรนี้ไว้ดีกว่าเยอะะะ 

กันน้ำได้ดีแค่ไหนกัน!

💙 ครีมกันแดด Banana Boat สีฟ้า สูตร Dry:  น้ำไม่เกาะบนผิวเท่าไหร่ แต่ตัวครีมกันแดดก็ไม่ละลายน้ำ นับเป็นครีมกันแดด Everyday Skin Care ที่ดีพอสมควรค่ะ  

🧡 ครีมกันแดด Banana Boat สีส้ม สูตร Sport: น้ำเกาะบนผิว ไม่ซึมลงผิว และตัวครีมกันแดดไม่ละลายน้ำเช่นกัน เรียกได้ว่าสมศักดิ์ศรีสูตรสปอร์ตจริง ๆ ค่ะ! แบบนี้ทาก่อนที่จะทำกิจกรรม Outdoor ได้ ไม่ต้องกังวลเลยว่าทาแล้วครีมกันแดดจะไปกับน้ำ เพราะตัวครีมเกาะผิวแน่นเวอร์ ปกป้องยาวนานเต็มที่กับไลฟ์สไตล์ได้เลย  

แถมสูตร Spray ให้ชมกันสักนิด 

💙 ครีมกันแดด Banana Boat สีฟ้า สูตร Dry: แห้งเร็วมากแม่! สเปรย์ปุ๊ปซึมลงผิวอย่างรวดเร็ว กลิ่นหอมไม่ต่างกับสูตร Lotion เลยค่ะ ใช้งานสะดวกมาก ๆ แค่สเปรย์ลงบนผิว แล้วทานิดหน่อย เนื้อผลิตภัณฑ์ก็จะทำหน้าที่ปกป้องผิวได้ทันที

🧡 ครีมกันแดด Banana Boat สีส้ม สูตร Sport: แม้จะเป็นสูตรสเปรย์ แต่สูตร Sport ก็ยังคงทิ้งความมันไว้มากกว่าสูตร Dry ค่ะ แต่ซึมลงผิวได้ไวกว่าเนื้อที่เป็น Lotion เช่นกัน

สูตร Spray เหมาะกับใคร?

1. คนที่มีชีวิตประจำวันเร่งรีบเพราะแค่สเปรย์ลงบนตัวแล้วออกไปใช้ชีวิตประจำวันได้ทันทีเลยค่ะ 

2. ชอบครีมกันแดดเนื้อบางเบา ทั้งสองสูตรบางเบามาก ๆ แทบจะไม่มีความรู้สึกเหนอะหนะตัวเลยก็ว่าได้ 

เป็นอย่างไรบ้างคะความแตกต่างระหว่าง ครีมกันแดด Banana Boat สีฟ้า สูตร Dry และสูตร Sport สาว ๆ น่าจะเห็นความแตกต่างกันอย่างชัดเจน แต่ไม่ว่าใครจะชอบแบบไหนมากกว่ากัน Jelly ก็แนะนำว่าผิวกายของเราต้องการการปกป้องไม่แพ้กับผิวหน้าเลยน้าา การทาครีมกันแดดทุกวันเป็นเรื่องที่จำเป็นมาก ๆ เพราะไม่ว่าที่ไหนในประเทศไทย ถ้าเป็นตอนกลางวัน UVA และ UVB มีอยู่ทุกที่ พร้อมที่จะทำลายผิวของเราตลอดเวลา ถ้ามีครีมกันแดด Banana Boat เป็นเกราะป้องกันผิวก็คลายกันวลกันได้มากขึ้นเนอะ

Banana Boat Sport Sunscreen Lotion SPF50+ PA+++ ทาหน้าได้ไหม

กันแดดBanana Boat สีฟ้ากับเขียวต่างกันยังไง

Banana Boat แบบไหนดี

Banana Boat แต่ละสีต่างกันยังไง