เมื่ออุณหภูมิร่างกายต่ำกว่าปกติร่างกายจะมีการตอบสนองอย่างไร

วงนี้ในหลายภูมิภาคของประเทศไทยมีอากาศหนาว และบางพื้นที่อุณหภูมิต่ำกว่า 10 องศาเซลเซียส บ้านไหนมีผู้สูงอายุ หรือผู้ที่ช่วยเหลือตนเองได้น้อย ต้องหมั่นดูแล ด้วยเมื่ออุณหภูมิอากาศต่ำกว่า 15-18 องศาเซลเซียส มักประสบปัญหาภาวะตัวเย็น หรืออุณหภูมิร่างกายต่ำกว่าปกติ (Hypothermia) ทำให้การตอบสนองร่างกายลดลง อวัยวะทำงานผิดปกติ หากอาการรุนแรงอาจทำให้หัวใจล้มเหลว และเสียชีวิตได้

การปฐมพยาบาล ควรเริ่มจากการทำร่างกายให้อบอุ่น จับผู้ป่วยให้นอนหงาย หลีกเลี่ยงการเคลื่อนไหวร่างกาย ห้ามนวดหรือแตะต้องตัวผู้ป่วย ถ้ายังรู้สึกตัวให้ดื่มน้ำหรือเครื่องดื่มอุ่น ๆ หากหยุดหายใจให้ช่วยเหลือด้วยวิธีการเป่าปาก และรีบส่งแพทย์โดยเร็ว

การป้องกัน พยายามรักษาความอบอุ่นของร่างกายสม่ำเสมอ รับประทานอาหารครบถ้วน และหลีกเลี่ยงการอยู่ในที่อากาศหนาวจัด

เมื่ออุณหภูมิร่างกายต่ำกว่าปกติร่างกายจะมีการตอบสนองอย่างไร

ที่มา : doctor.or.th/article/detail/11225

คุณภาพชีวิต-สังคม

‘อุณหภูมิร่างกายปกติ’ ควรอยู่ที่เท่าไหร่ รู้ทัน ‘โควิด’

27 มี.ค. 2563 เวลา 10:40 น.774.8k

เช็คให้ชัวร์ “อุณหภูมิร่างกายปกติ” ของคนเราควรอยู่ระดับไหน ยิ่งในช่วงวิกฤติ “โควิด-19” อาการอะไรที่บ่งชี้ว่า เรากำลังผิดปกติ และได้เวลาไปหาหมอ

อุณหภูมิร่างกาย ถือเป็นอีกเรื่องที่ถูกพูดถึงบ่อยๆ โดยเฉพาะในสถานการณ์ฉุกเฉินที่เมืองไทยกำลังตกอยู่ในระยะระบาดของ “โควิด-19” อยู่ในขณะนี้ อาการตัวเย็นตัวร้อน หรือมีไข้นั้นก็กลายเป็นอีกปัจจัยที่ผู้คนให้ความสำคัญอย่างมาก เพราะถือเป็นอาการบ่งชี้ขั้นต้นของการเจ็บอ่วยของเรานั่นเอง

โดยทั่วไป เรามักคุ้นชินกับคำว่า อุณหภูมิร่างกายปกติ จะอยู่ที่ 37 องศาเซลเซียส หรืออาจจะแตกต่างจากนี้เล็กน้อยแล้วแต่สภาพร่างกายของแต่ละคน แต่ความเป็นจริงนั้น เรื่องของอุณหภูมิร่างกายมีรายละเอียดที่สลับซับซ้อนกว่าที่เราคิด อย่างการเปลี่ยนแปลงของความร้อนในร่างกายก็ไม่ได้หมายความว่าตัวเรานั้นจะป่วย หรือมีไข้เสมอไป

ข้อมูลทางการแพทย์ระบุว่า โดยทั่วไป อุณหภูมิร่างกายปกติ คนเรานั้นไม่ได้คงที่ตลอดเวลา แต่จะมีการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยในแต่ละช่วงของวัน

โดยเฉพาะในช่วง 15.00 – 17.00 น. อุณหภูมิมักจะสูงสุด และจะค่อยๆ ลดลงจนต่ำสุดในเวลา 23.00 – 01.00 น. และจะเพิ่มสูงขึ้นอีกเช่นนี้ทุกวัน ซึ่งการเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิร่างกายเช่นนี้ สังเกตเห็นได้ชัดในเด็กมากกว่าผู้ใหญ่

นอกจากนั้น โดยปกติของร่างกาย อุณหภูมิตอนเช้าจะต่ำกว่าอุณหภูมิตอนบ่าย หรือเย็น อีกทั้งยังขึ้นอยู่กับการเคลื่อนไหวกล้ามเนื้อ หรือการออกกำลังการ และระดับของฮอร์โมนในร่างกายอีกด้วย

ศูนย์ควบคุมอุณหภูมิร่างกาย อยู่ที่สมองส่วนฮัยโปธาลามัส มีหน้าที่ควบคุมอุณหภูมิรับสัญญาณจากบริเวณต่างๆ ของร่างกาย และคอยควบคุมให้ร่างกายเก็บความร้อน สร้างความร้อน เพิ่มหรือลดความร้อน โดยถ่ายเทความออกไปมากขึ้น

การเกิดไข้นั้น อาจมาจากภายนอกเข้าสู่ร่างกาย หรือเกิดขึ้นภายในร่างกายเอง โดยจะเกิดปฏิกิริยาภายในและเกิดสารที่ออก ฤทธิ์บริเวณสมองส่วนที่ควบคุมอุณหภูมิ และส่งสัญญาณมาทางระบบประสาทอัตโนมัติ ทำให้หลอดเลือดบริเวณผิวหนังหดตัว ส่ง ผลต่อเนื่องให้การระบายความร้อนในร่างกายออกทางผิวหนังลดลง

สำหรับปัจจัยที่มีผลต่อการเปลี่ยนแปลงของ อุณหภูมิร่างกาย มีอยู่หลายปัจจัย คือ 

  • เพศ

ร่างกายเพศหญิงจะตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิได้รวดเร็วกว่าเพศชาย จึงอาจทำให้เกิดอาการสั่น หรือเนื้อตัวเย็นได้ไวกว่าเพศชาย  นอกจากนี้ ในช่วงที่ผู้หญิงมีรอบเดือนจะมีการหลั่งฮอร์โมนออกมาหลายชนิด ซึ่งอาจส่งผลให้ อุณหภูมิร่างกาย เปลี่ยนแปลงไปจากปกติ

  • อายุ

เด็กและทารก อุณหภูมิร่างกายปกติจะอยู่ระหว่าง 36.6-37.2 องศาเซลเซียส

ผู้ใหญ่ มีอุณหภูมิปกติของร่างกายอยู่ระหว่าง 36.1-37.2 องศาเซลเซียส

ผู้สูงอายุ ที่อายุมากกว่า 65 ปีขึ้นไป จะมีอุณหภูมิร่างกายต่ำกว่า 36.2 องศาเซลเซียส ซึ่งเป็นระดับที่ต่ำกว่าคนวัยอื่นๆ

  • บุหรี่

การสูบบุหรี่นั้นสามารถเพิ่ม อุณหภูมิร่างกาย ได้ ซึ่งอาจมีผลมาจากควันบุหรี่และการเผาไหม้ของของบุหรี่ที่ส่งผลต่ออุณหภูมิของร่างกายชั่วคราว แม้ว่าอุณหภูมิจากบุหรี่จะไม่ได้ส่งผลเสียต่อร่างกาย แต่การได้รับสารในบุหรี่ก็ส่งผลเสียต่อสุขภาพได้

  • อาหาร

อาหารที่มีรสชาติเผ็ดร้อน อย่างพริก พริกไทย ขิง ข่า เครื่องเทศ หรือวัตถุดิบอื่น ๆ ที่มีฤทธิ์ร้อนก็อาจส่งผลให้อุณหภูมิร่างกายนั้นสูงขึ้น หลังจากการรับประทาน 

นอกจากนี้ อาจมีปัจจัยอื่น ๆ ที่สามารถส่งผลกระทบต่ออุณหภูมิปกติของร่างกายได้ อย่างการทำกิจกรรม การออกกำลังกาย เสื้อผ้า รวมถึงอุณหภูมิภายห้องด้วย

  • แล้วอุณหภูมิแบบไหนถึงจะเรียกว่าผิดปกติ

โดยทั่วไป ตำแหน่งที่ทำการวัดอุณหภูมิร่างกายจะมี 4 ตำแหน่งหลัก ๆ ซึ่งก็คือ หู ทวารหนัก ใต้ลิ้น และรักแร้ ซึ่งในแต่ละตำแหน่งนั้นมีอุณหภูมิที่แตกต่างกัน และถ้าหากไม่ทราบว่าตำแหน่งไหนควรอยู่ในระดับเท่าไหร่ ก็อาจเกิดการเข้าใจผิดได้ ซึ่งถ้าหากวัดไข้แล้วได้ผลลัพธ์ดังต่อไปนี้อาจต้องรักษาตัวเนื่องจากเป็นไข้

ปาก อุณหภูมิเมื่อเป็นไข้จะอยู่ที่ 37.8 องศาเซลเซียสหรือมากกว่า

รักแร้ อุณหภูมิเมื่อเป็นไข้จะอยู่ที่ 37.2 องศาเซลเซียสหรือมากกว่า

หูและทวารหนัก อุณหภูมิเมื่อเป็นไข้จะอยู่ที่ 38 องศาเซลเซียสหรือมากกว่า

มาถึงตรงนี้ จะเห็นได้ว่า อาการผิดปกติของอุณหภูมิในร่างกาย นั้นมีสาเหตุมาจากหลายปัจจัยให้พิจารณา อุณหภูมิเปรียบเสมอเช็คลิสต์ตั้งต้นเพื่อให้เราตื่นตัวเฝ้าระวังอาการที่อาจจะเกิดความผิดปกติกับร่างกายได้นั่นเอง

เมื่ออุณหภูมิร่างกายต่ำกว่าปกติ ร่างกายมีการตอบสนองอย่างไร

อาการแสดงของ Hypothermia. 1.อุณหภูมิร่างกายลดลงต่ำกว่าระดับปกติ 2.ที่ CBT 35 c ( 95 F ) มีอัตราการหายใจเพิ่มขึ้น, การตัดสินใจลดลง, อาการหนาวสั่น 3.ที่ CBT 35-34 c (95- 93.2 F ) อัตราการเต้นของชีพจรช้าหรืออาจเร็ว, กล้ามเนื้อหดเกร็ง, หนาวสั่น, สับสน

เมื่ออุณหภูมิร่างกายต่ำกว่าปกติจะเกิดเหตุการณ์ใดขึ้น

เมื่ออุณหภูมิแกนกลางของร่างกายต่ำกว่า 32.2-30 องศาเซลเซียส ร่างกายจะเริ่มเข้าสู่ภาวะวิกฤติและไม่สามารถสร้างความร้อนคืนมาได้ด้วยตัวเองอีก กล้ามเนื้อหัวใจจะทำงานผิดจังหวะ หากไม่ได้รับการช่วยเหลือจนอุณหภูมิร่างกายต่ำเหลือประมาณ 25 องศาเซลเซีย ระบบต่างๆของร่างกายจะล้มเหลวและคนเจ็บจะเสียชีวิตในที่สุด

เมื่ออุณหภูมิต่ำลง ร่างกายจะปรับตัวอย่างไร

เมื่อสภาพแวดล้อมภายนอกมีอุณหภูมิต่ำกว่าอุณหภูมิร่างกาย ร่างกายมนุษย์จะมีกลไกการรักษาดุลยภาพดังนี้.
ต่อมเหงื่อไม่หลั่งเหงื่อ.
ลดการระเหยของเหงื่อ.
หลอดเลือดที่ผิวหนังหดตัว.
ลดการแผ่รังสีความร้อน.
เพิ่มอัตราเมแทบอลิซึมของร่างกาย.
ขนลุกชัน กล้ามเนื้อโครงร่างหดตัวเร็วขึ้น ทำให้ร่างกายหนาวสั่น.

ทำไมร่างกายสั่นเมื่ออุณหภูมิต่ำ

เพราะว่า ร่างกายคนเราปรกติจะมีอุณหภูมิคงที่ประมาณ 37 องศาเซลเซียส (98 องศาฟาเรนไฮต์) ระดับอุณหภูมินี้จะรักษาร่างกายไม่ให้ร้อนหรือหนาวเกินไป โดยอัตโนมัติ เมื่อรู้สึกร้อนเกินไปเหงื่อจะไหลออกมา ทำให้ร่างกายของเราเย็นลง และเมื่อเรารู้สึกหนาวเกินไป อาการสั่นเทาจะช่วยให้ร่างกายอบอุ่นขึ้น