การส่งอีเมลล์สมัครงานควรส่งเวลาไหน

การส่งอีเมลล์สมัครงานควรส่งเวลาไหน

แน่นอนว่าอีเมล์ที่เข้ามายัง HR หรือแผนกบุคคลนั้น มีอีเมล์เข้ามาแต่ละวันเยอะมาก ซึ่งหากคุณส่งอีเมล์ที่ไม่มีความน่าสนใจเข้ามา หรือรายละเอียดไม่ครบถ้วน หรือจ่าหัวเรื่องไม่ชัดเจนแล้วละก็ อีเมล์ของคุณอาจไม่ถูกเปิดอ่านเลยก็ได้
ดังนั้น เพื่อให้การส่งอีเมล์ของคุณเป็นมืออาชีพมากขึ้น เราจึงมาบอกเคล็ดลับในการเขียนอีเมล์ เพื่อที่จะนำเสนอภาพลักษณ์ที่ดีของผู้เขียนในสายตาผู้รับ ดังนี้



1.หัวข้อเรื่องควรระบุให้ชัดเจน (Topic) 

ในส่วนของหัวข้อควรระบุวัตถุประสงค์ให้ชัดเจน แต่ละวันฝ่าย HR อาจจะมีอีเมล์เข้ามาเยอะและไม่สามารถเปิดดูอีเมล์ได้ทุกฉบับ จึงต้องระบุชื่ออีเมล์ที่ต้องการส่งให้ชัดเจน และน่าสนใจ  ยกตัวอย่างเช่น หากเป็นการสมัครงาน ให้ระบุว่า “ต้องการสมัครงานในตำแหน่ง……..” หรือถ้าเป็นนักศึกษาที่ต้องการส่งอีเมล์เพื่อขอรับพิจารณาฝึกงาน ให้ระบุว่า “ขอรับพิจารณาฝึกงานในตำแหน่ง……..”

2.ชื่ออีเมล์ใช้ชื่อจริง-นามสกุล
เพื่อให้อีเมล์ดูน่าเชื่อถือและเป็นมืออาชีพ เช่น
หากเป็นอีเมล์ แปลกๆ อาจถูกมองว่าไม่มีความเป็นมืออาชีพ
หรือมองไปถึงบุคลิกลักษณะส่วนบุคคลกันเลยทีเดียว อย่างเช่น

การส่งอีเมลล์สมัครงานควรส่งเวลาไหน

3.เกรินนำในหัวข้ออีเมล์ให้มีสาระครบถ้วนและชัดเจน
ไม่ยาวยืด เพราะบางที HR อาจไม่มีเวลามานั่งอ่านข้อความที่มีตัวอักษรเยอะ เพราะมีงานที่ต้องทำอีกหลายอย่าง
อย่างนั้นการเขียนข้อความในอีเมล์จึงสำคัญมาก เพราะคือจุดที่สองที่ HR จะเปิดอ่าน Resume ในไฟล์แนบของคุณ  อย่าลืมกล่าวปิดท้ายขอบคุณ หรือจึงเรียนมาเพื่อพิจารณาด้วยละ บางคนแนบแค่ไฟล์ Resume แต่ไม่เขียนข้อความแนบอะไรมาเลย คิดว่า HR มีโอกาสที่จะเปิดอ่าน  Resume ของคุณหรือไม่?

4.ชื่อไฟล์แนบ  ควรเขียนชื่อไฟล์ Resume
แนบเป็นชื่อที่ดีเช่น Resume_Suvimol ,Certificated_Suvimol
หากคุณตั้งชื่อไฟล์แนบเป็น File01,01 , Resume เพราะมีความเป็นทางการมากกว่า และแน่นอนว่า HR ไม่ได้ดาวโหลดไฟล์ของคุณแค่คนเดียวนะ ยังมีคนอีกหลายคน ถ้าเขาจะกลับมาเปิดดูอีเมล์ของคุณจะทราบได้อย่างไรว่าเป็น ไฟล์อันไหน
บางทีเขาอาจมองข้ามไฟล์ของคุณไปเลยก็ได้ และสิ่งที่ยังสำคัญอีกอย่างคือ Resumeที่ดี สิ่งที่ควรมีใน Resume มีอะไรบ้าง?

การส่งอีเมลล์สมัครงานควรส่งเวลาไหน

5.ตรวจสอบก่อนส่งอีเมล์

ความผิดเกิดขึ้นได้เสมอ เพราะฉะนั้นเราควรอ่านทบทวนข้อความและดูไฟล์แนบ ก่อนส่ง หากส่งไปแล้วเกิดความผิดพลาดจะเห็นถึงความไม่เป็นมืออาชีพของเรา

อีเมล์ที่ควรใช้ในการสมัครงาน

ในปัจจุบันอีเมล์ที่เป็นทางการและนิยมใช้ในการสมัครงานมากที่สุดคือด้านล่างดังต่อไปนี้

  • www.gmail.com
  • www.hotmail.com
  • www.yahoo.com

การส่งอีเมลล์สมัครงานควรส่งเวลาไหน

สำหรับใครหลายคนโดยเฉพาะเด็กจบใหม่ที่กำลังมองหางานประจำ ส่งอีเมลสมัครงานไปกี่ครั้งเค้าก็เรียกสัมภาษณ์ทุกครั้ง ถ้าคุณเกิดเบื่อความสำเร็จในลักษณะนี้ ลองมาดู 10 วิธีการส่งอีเมลสมัครงานอย่างไรให้ “ไม่ได้งาน” กันบ้าง

ในครั้งนี้ทีมงานได้ไปลงพื้นที่พูดคุยกับหัวหน้าฝ่ายทรัพยากรบุคคลที่มีประสบการณ์ทำงานมากว่า 100 ปี รวมไปถึงผ่านการอ่านอีเมลสมัครงานมาแล้วนานกว่า 200 ปี เดี๋ยวเราจะพาทุกท่านไปดูกันว่าการส่งอีเมลสมัครงานแบบไหนที่ไม่ดี

1. ส่งอีเมลผิดบริษัท/ผิดคน

การส่งอีเมลล์สมัครงานควรส่งเวลาไหน

การส่งอีเมลสมัครงานผิดบริษัท โดยเขียนเนื้อหาอีเมลถึงบริษัทหนึ่ง แต่ไปใส่ชื่ออีเมลของอีกบริษัท แสดงถึงความสะเพร่าขั้นรุนแรงจนทำให้ฝ่ายทรัพยากรบุคคลแทบจะไม่รับพิจารณาคุณเข้ามาเลย

ข้อนี้จะยิ่งได้ผลมาก ถ้าหากคุณส่งอีเมลไปหาบริษัทคู่แข่ง นั่นจะทำให้เขาเข้าใจว่าคุณตั้งใจจะส่งใบสมัครไปหาทั้งสองบริษัท บริษัทไหนให้ข้อเสนอดีก็เอาอันนั้น รับรองว่านอกจากเขาจะไม่รับเราแล้ว เราจะถูกเข้าไปใน Black List อีกด้วย

2. Attach File ให้ผู้รับไม่อยากโหลด

การส่งอีเมลล์สมัครงานควรส่งเวลาไหน

การแนบไฟล์ก็เป็นเรื่องสำคัญนะครับ โดยปกติแล้วเราควรตั้งชื่อไฟล์ให้ชัดเจน เปิดผ่านโทรศัพท์ได้สะดวก รวมไปถึงไม่ควร Compress หรือบีบอัดไฟล์ให้เป็น .zip หรือ .rar และขนาดไฟล์ต้องกระทัดรัด ถ้าจำเป็นต้องแนบไฟล์ใหญ่จริงๆ ให้ใช้บริการที่เป็นมาตรฐานอย่าง wetransfer, Google Drive เป็นต้น

ดังนั้นสิ่งที่คุณควรทำเพื่อไม่ให้เค้ารับเข้าทำงานคือต้องตั้งชื่อไฟล์ประหลาดๆ หรือชื่อไฟล์ที่ไม่สื่อถึงเนื้อหาของไฟล์ อย่าลืม Compress ไฟล์ด้วยนามสกุลที่เปิดยากๆ หน่อย และลองทำให้ไฟล์ใหญ่มากๆ ถ้าจะให้ดีก็แนบหนังเผื่อไปสักเรื่อง

3. ใช้ชื่ออีเมลประหลาดๆ ไปเลย

การส่งอีเมลล์สมัครงานควรส่งเวลาไหน

การสร้างอีเมลด้วยชื่อและนามสกุลของเจ้าของดูจะเป็นเรื่องธรรมดาและออกจะดูเป็นทางการเกินไป การตั้งชื่ออีเมลสำหรับสมัครงานไม่ได้งานนั้นควรจะเป็นอีเมลเกรียนๆ ดูแล้วเหมือนเด็กๆ เอาไว้สมัครเกมออนไลน์ เช่น หรือ อะไรอย่างนี้เป็นต้น ชื่อเหล่านี้จะแสดงถึงความไม่ใส่ใจและไม่เป็นมืออาชีพ คุณจะถูกปรับตกอย่างแน่นอน

4. อย่าลืมสะกดคำให้ผิดบ้าง

การส่งอีเมลล์สมัครงานควรส่งเวลาไหน

การเขียนเนื้อหาสมัครงานโดยทั่วไปต้องมีความรอบคอบละเอียด ต้องตรวจคำผิดหลายครั้งก่อนกดส่ง แต่การสมัครงานของเราควรยกระดับไปอีกขั้น คือ การใส่คำสะกดผิดลงไปด้วย ยิ่ง คะ/ค่ะ ห้ามพิมพ์ถูกเด็ดขาด และถ้าจะให้ดีก็ใช้ภาษาสก๊อยไปเลย รับรองว่านอกจากจะไม่ได้งานแล้ว ฝ่ายบุคคลจะอารมณ์เสียไปทั้งวัน

5. เนื้อหาอีเมลใช้คำเหมือนคุยกับเพื่อน

การส่งอีเมลล์สมัครงานควรส่งเวลาไหน

การสมัครงานโดยทั่วไปไม่ว่าจะตำแหน่งอะไร หรือเขียนถึงใคร เนื้อหาในอีเมลจะต้องสุภาพและเป็นทางการ ประหนึ่งว่าเรากำลังคุยกับบุคคลที่อายุมากกว่าเราสิบปี การใช้เนื้อหาในอีเมลด้วยความเป็นกันเองมากเกินไปเหมือนคุยกับเพื่อน เพราะคิดว่าตัวเองน่ารักคิกขุ จึงต้องใช้ความเป็นวัยรุ่นแสดงความแตกต่าง อาจจะถูกปรับตกได้อย่างง่าย

6. ส่งอีเมลทีเดียวให้ครบทุกบริษัท

การส่งอีเมลล์สมัครงานควรส่งเวลาไหน

การสมัครงานแบบตรงไปตรงมาคือการค่อยๆ ส่งอีเมลถึงแต่ละบริษัทแบบ one by one ซึ่งการทำแบบนี้ทำให้ลดความผิดพลาดในการส่งไปได้แทบ 100% แต่อะไรช้าๆ แบบนั้นเราไม่ชอบ ส่งเมลรวดไปเลยให้ครบทุกบริษัทที่เราต้องการสมัครงาน ถึงแม้บางบริษัทจะเป็นคู่แข่งกันก็ตาม

ซึ่งถ้าเราทำไม่ดีบางทีก็จะทำให้เขียนชื่อบริษัทผิดบ้าง ลืมลบนู่นนี่บ้าง ความโป๊ะทั้งหลายเหล่านี้ฝ่ายบุคคลบอกว่าเจอบ่อยมาก และค่อนข้างทำให้อารมณ์บูดได้อย่างดี

7. ใช้ภาพถ่ายชิคๆ คูลๆ เห็นหน้าไม่ต้องชัด

การส่งอีเมลล์สมัครงานควรส่งเวลาไหน

การส่งภาพตรงชัดเจนเพื่อใช้ในการสมัครงานเป็นเรื่องปกติที่ทำให้ผู้ที่อ่านแฮปปี้ แต่ถ้าจะเอาให้สนุกต้องส่งภาพที่เห็นไม่ครบทั้งหน้า อาจจะหันซ้าย หันขวา ครอปให้ตกเฟรม หรือถ่ายรูปถอดเสื้อโชว์กล้ามก็แล้วแต่ชอบ

ถ้าอยากให้เค้าเห็นว่ามีเพื่อนเยอะก็อาจจะถ่าย Selfie กับเพื่อนสัก 20 คนก็ได้ ทำให้ฝ่ายบุคคลต้องมานั่งเดาว่าไอ้คนที่ส่งมามันอยู่ตรงไหน

8. Portfolio หรือ Resume โง่ๆ ก็พอแล้ว

การส่งอีเมลล์สมัครงานควรส่งเวลาไหน

การทำ Portfolio หรือ Resume ให้สวยงาม รายละเอียดครบถ้วน จัดเลย์เอาท์ดี อ่านง่าย เป็นเรื่องสำหรับคนที่ตั้งใจสมัครงานแล้วถูกเรียกสัมภาษณ์ ดังนั้นเราไม่ต้องแนบอะไรที่มันดูดีไปหรอก เอาแค่ภาพถ่ายง่ายๆ เขียนอธิบายสองบรรทัดก็พอแล้ว

9. ตั้ง Subject ประหลาดๆ แค่เห็นก็ไม่อยากคลิก

การส่งอีเมลล์สมัครงานควรส่งเวลาไหน

Subject หรือหัวเรื่องที่ดีคือองค์ประกอบของประโยคที่อ่านแล้วเข้าใจทันทีว่าต้องการสมัครงานที่บริษัทอะไร ในตำแหน่งไหน ซึ่งการทำอะไรแปลกๆ เพื่อเป็นการท้าทายฝ่ายบุคคลบ้างก็สนุกดี อย่างเช่นใส่ Subject ประมาณว่า “คลิกเข้าไปสิจ๊ะ จะได้รู้”, “สวัสดี รับเราสิ” อะไรประมาณนี้ การครีเอทีฟข้อความประหลาดใน Subject ทำให้เราสอบตกง่ายขึ้นแน่นอน

ส่งเมลตอนดึกได้ไหม

การแจ้งเตือนเมล์อาจจะเป็นการไปปลุกผู้อ่านได้ อย่างเช่นที่กล่าวไว้ใน ข้อ 1 คือเมื่อคุณส่งเมล์ในยามดึก อาจจะไปเป็นการปลุกผู้รับต้องเปิดอีเมล์อ่านในเวลากลางคืน ซึ่งส่วนใหญ่นี้มักจะเปิดผ่านมือถือ หรือแม้ว่าผู้รับนั้นไม่เปิดอ่านแต่เสียงเตือนบนมือถือก็อาจจะไปรบกวนการนอนของเขาได้

ส่งอีเมลสมัครงานยังไง

ระบุชื่ออีเมล์ให้ชัดเจน ให้รู้ว่าส่งมาเพื่อสมัครงาน ... .
ใส่ชื่อผู้รับ ตำแหน่ง และบริษัทให้ถูกต้อง ... .
เปิดประโยคให้สุภาพ (Dear Mr. / Mrs. / Ms. (ชื่อผู้รับ) ... .
เขียนแนะนำตัวคร่าว ๆ ให้ดูน่าสนใจ ... .
ก่อนจบอีเมล อย่าลืมบอกช่องทางการติดต่อกลับ ... .
ลงชื่อจบให้เหมาะสม เช่น Best regards, หรือ Yours sincerely,.

สมัครงานช่วงไหนดีสุด

ถ้าคุณกำลังมองหางานใหม่ในช่วงปีใหม่ก็ควรเตรียมตัวตั้งแต่วันนี้ เพราะเดือนมกราคมถึงเดือนกุมภาพันธ์ เป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการหางาน เนื่องจากบริษัทมักจะโพสต์หาพนักงานใหม่ในปีงบประมาณใหม่ ช่วงเดือนธันวาคมจึงเป็นโอกาสที่ดีในการเตรียมตัว

ส่งเรซูเม่อย่างไรให้ได้งาน

วิธีเขียนเรซูเม่สมัครงานให้น่าสนใจพร้อมตัวอย่าง.
ประวัติส่วนตัว (Personal Information) ... .
ประวัติการศึกษา (Education) (เรียงลำดับจากสูงสุด) ... .
จุดมุ่งหมายในการทำงาน (Career Objective) กล่าวถึงความน่าสนใจของงานตำแหน่งงาน หรือเป้าหมายในการทำงานของผู้สมัคร ส่วนนี้อาจมีผลต่อการพิจารณาเงินเดือนและตำแหน่งงาน.