กินยาคุมแล้วจะมีเพศสัมพันได้ตอนไหน

วิธีกินยาคุม ควรกินอย่างไร จึงจะป้องกันการตั้งครรภ์ได้

วิธีกินยาคุมมีหลายแบบด้วยกัน มีทั้งกินยาคุมฉุกเฉิน, ยาคุมแบบ 21 เม็ด และยาคุมแบบ 28 เม็ด ซึ่งยาคุมกำเนิดชนิดเม็ดแต่ละแผง จะมีส่วนประกอบของฮอร์โมนเพศหญิง ที่มีคุณสมบัติในการยับยั้งการตกไข่ ช่วยป้องกันไม่ให้เกิดการตั้งครรภ์ หากหยุดกินก็สามารถกลับมามีโอกาสตั้งครรภ์ได้ตามปกติ การจะคุมกำเนิดด้วยวิธีนี้ให้ได้ผลมากที่สุด ควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรผู้เชี่ยวชาญ อย่าลืมเช็กวันหมดอายุที่ระบุไว้บนแผง เพราะหากยาหมดอายุแล้ว ก็จะทำให้ประสิทธิภาพในการคุมกำเนิดลดลง

ควรกินยาคุมตอนไหน หากลืมกินยาต้องทำอย่างไร?

วิธีกินยาคุม ควรกินอย่างสม่ำเสมอ และกินในเวลาเดิมของทุกวัน หากลืมกินยา ให้กินทันทีที่นึกได้ และกินเม็ดต่อไปในเวลาเดิมตามปกติ แต่หากลืมกินยา 2 เม็ดติดต่อกัน ให้กินยา 2 เม็ดทันทีที่นึกขึ้นได้ และกินยาอีก 2 เม็ดในวันถัดไป จากนั้นจึงค่อยกินเวลาเดิมตามปกติ 

สำหรับคนที่ลืมกินยาหลายเม็ด ควรคุมกำเนิดด้วยการใช้ถุงยางอนามัยร่วมด้วย หรือไม่ก็หยุดกินยาแผงนั้นไปเลย แล้วจึงค่อยเริ่มต้นกินใหม่เมื่อมีประจำเดือน

กินยาคุมแล้วจะมีเพศสัมพันได้ตอนไหน

วิธีกินยาคุมครั้งแรก ยาคุมแบบ 21 เม็ด และ 28 เม็ด แตกต่างกันไหม?

วิธีกินยาคุมครั้งแรก หรือสำหรับคนที่หยุดกินไปนานแล้ว เพิ่งจะมาเริ่มกินใหม่อีกครั้ง ควรเริ่มกินภายในวันที่ 1-5 ของช่วงที่มีประจำเดือน (ให้นับวันที่มีประจำเดือนวันแรก เป็นวันที่ 1) สำหรับยาคุมกำเนิดชนิดเม็ด ที่ได้รับความนิยม มี 2 แบบ ได้แก่ แบบแผง 21 วัน และแบบแผง 28 วัน โดยมีวิธีกิน ดังนี้

วิธีกินยาคุม 21 เม็ด
สำหรับยาคุมแบบ 21 เม็ด ให้กินเม็ดแรกภายใน 5 วันแรกของการมีประจำเดือน หลังจากนั้นจึงกินติดต่อกัน วันละ 1 เม็ด จนหมดแผง โดยกินตามลูกศรที่ปรากฏบนแผงยา เมื่อหมดแผงเก่า ให้หยุดกินยา 7 วัน แล้วจึงเริ่มแผงใหม่

วิธีกินยาคุม 28 เม็ด
วิธีกินยาคุม 28 เม็ดครั้งแรก ก็ให้เริ่มกินเม็ดแรกภายใน 5 วันแรกของการมีประจำเดือนเช่นเดียวกับแบบ 21 เม็ด โดยเมื่อกินจนหมดแผง สามารถเริ่มกินยาคุมแผงใหม่ได้ทันทีเลย

หมายเหตุ : จริงๆ แล้ว ยาคุมแบบ 21 เม็ด และ 28 เม็ด ไม่ได้แตกต่างกัน เพียงแต่แบบ 28 เม็ดนั้น จริงๆ แล้ว มียาจริง 21 เม็ด และยาหลอกอีก 7 เม็ด เพื่อป้องกันการนับวันผิดนั่นเอง ดังนั้นจึงเป็นสาเหตุว่า ทำไมจึงควรกินยาคุมตามลูกศรนั่นเอง

กินยาคุมแล้วจะมีเพศสัมพันได้ตอนไหน

วิธีกินยาคุมฉุกเฉินที่ถูกต้อง

ยาคุมฉุกเฉิน ต้องกินภายใน 72 ชั่วโมง หลังมีเพศสัมพันธ์ มักใช้ในกรณีมีเพศสัมพันธ์ โดยไม่ได้คุมกำเนิด หรือใช้ในกรณีผู้ที่ถูกบังคับมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ได้สมัครใจ บนแผงยาคุมฉุกเฉินจะมี 2 เม็ด สำหรับวิธีกินยาคุมฉุกเฉิน 2 เม็ด ควรกินเม็ดแรกทันทีหลังมีเพศสัมพันธ์ ส่วนเม็ดที่ 2 ให้กินอีก 12 ชั่วโมงต่อมา 

อย่างไรก็ตาม เพื่อให้การกินยาคุมมีประสิทธิภาพในการคุมกำเนิดมากที่สุด ควรปรึกษาเรื่องวิธีการกินยาคุมจากแพทย์และเภสัชกรผู้เชี่ยวชาญ โดยหากกินแล้วมีอาการผิดปกติ หรือสงสัยว่าอาจกำลังตั้งครรภ์ ควรหยุดกิน และปรึกษาแพทย์ทันที เพราะในบางรายอาจมีผลข้างเคียง เช่น อาเจียน คลื่นไส้ ปวดหัว เป็นต้น

ยาคุมฉุกเฉิน หรือ ยาคุมกำเนิดฉุกเฉิน  ( emergency contraceptive pills, morning-after pills ) เป็นยาเม็ดฮอร์โมนที่มีขนาดสูง ใช้สำหรับรับประทานหลังจากมีเพศสัมพันธ์ เพื่อลดโอกาสตั้งครรภ์ การคุมกำเนิดวิธีนี้จะให้ประสิทธิภาพภายใน 2 – 3 วัน โดยจะไปรบกวนการตกไข่ หรือรบกวนการปฏิสนธิของไข่กับอสุจิแต่หากได้รับการปฏิสนธิเป็นตัวอ่อนแล้ว จะไม่สามารถป้องกันได้    

ยาคุมฉุกเฉิน หรือ ยาคุมกำเนิดฉุกเฉิน  ( emergency contraceptive pills, morning-after pills ) เป็นยาเม็ดฮอร์โมนที่มีขนาดสูง ใช้สำหรับรับประทานหลังจากมีเพศสัมพันธ์ เพื่อลดโอกาสตั้งครรภ์ การคุมกำเนิดวิธีนี้จะให้ประสิทธิภาพภายใน 2 – 3 วัน โดยจะไปรบกวนการตกไข่ หรือรบกวนการปฏิสนธิของไข่กับอสุจิแต่หากได้รับการปฏิสนธิเป็นตัวอ่อนแล้ว จะไม่สามารถป้องกันได้

ข้อบ่งชี้ การใช้ยาเม็ดคุมกำเนิดฉุกเฉิน

  1. หลังมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ได้ป้องกัน
  2. ถูกข่มขืน (Sexual assault)
  3. ใช้การคุมกำเนิดที่ไม่ถูกต้อง ซึ่งมีโอกาสล้มเหลว เช่น ถุงยางแตก หลุด หรือ ใส่ไม่ถูกต้อง
  4. ลืมกินยาคุมกำเนิด
    • ชนิดฮอร์โมนรวมตั้งแต่ 3 เม็ด
    • ชนิดฮอร์โมนโปรเจสตินชนิดเดี่ยวลืมทานเกินเวลา 3 ชั่วโมง จากเวลาเดิมที่ทานประจำ หรือเกิน 27 ชั่วโมง จากเม็ดก่อนหน้า
    • ชนิด desogestrel-containing pill (0.75 mg) มากกว่า 12 ชั่วโมง จากเวลาทานปกติ หรือเกิน 36 ช่วงโมง จากเม็ดที่ทานก่อนหน้า
  5. เลยกำหนดฉีดยาคุมกำเนิด
    • มากกว่า 2 อาทิตย์ ชนิด norethisterone enanthate (NET-EN)
    • มากกว่า 4 อาทิตย์ ชนิด depot-medroxyprogesterone acetate (DMPA)
    • มากกว่า 7 วัน ชนิด combined injectable contraceptive (CIC)
  6. diaphragm or cervical cap หลุด ขาด หรือแตก ก่อนเอาออก
  7. ล้มเหลวในวิธีการหลั่งข้างนอก เช่น หลั่งในช่องคลอด หรือ อวัยวะเพศด้านนอก
  8. คำนวณวันเว้นมีเพศสัมพันธ์พลาด
  9. ห่วงคุมกำเนิดหลุด หรือยาฝังหลุด

ข้อควรรู้เกี่ยวกับยาคุมฉุกเฉิน

  • ยาคุมฉุกเฉินไม่สามารถป้องกันโรคติดต่อได้ ไม่สามารถป้องกันโรคจากเพศสัมพันธ์ได้ หากต้องการป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ ควรสวมถุงยางอนามัย
  • ยาคุมฉุกเฉินไม่ใช่ยาทำแท้ง ยาคุมฉุกเฉินเป็นเพียงการป้องกันการตั้งครรภ์  และต้องได้ยาเข้าไปในร่างกายก่อนที่จะมีการฝังตัวของไข่ที่เยื่อบุโพรงมดลูก เแต่หากไข่ที่ผสมกับอสุจิได้ฝังตัวที่ผนังมดลูกไปแล้ว ยานี้จะไม่มีผลอะไรกับการตั้งครรภ์
  • ยาคุมกำเนิดฉุกเฉินมีผลข้างเคียงสูงมาก ยาคุมกำเนิดฉุกเฉินจะออกฤทธิ์ต่อสภาพแวดล้อมของเยื่อบุโพรงมดลูก จึงมีผลต่อฮอร์โมนและทำให้เกิดความผิดปกติต่อตัวผู้ใช้ เช่น มีประจำเดือนผิดปกติ คลื่นไส้อาเจียน และหากกินบ่อยๆ อาจมีผลกับร่างกาย เช่น เสี่ยงต่อการท้องนอกมดลูกได้
  • มีความเข้าใจที่ไม่ถูกต้องว่ายาคุมฉุกเฉินอาจทำให้ทารกพิการได้หากรับประทานไปโดยไม่ทราบว่าตั้งครรภ์ ทั้งนี้ ไม่มีรายงานว่าพบทารกพิการจากมารดาที่รับประทานยาโดยที่ไม่ทราบว่าตนเองกำลังตั้งครรภ์
  • การรับประทานยาเม็ดแรกภายใน 72 ชั่วโมง หลังการมีเพศสัมพันธ์ดังกล่าวตามด้วยยาเม็ดที่สอง จะให้ประสิทธิภาพในการป้องกันการตั้งครรภ์ได้ 75% แต่หากเริ่มยาภายใน 24 ชั่วโมง หลังการมีเพศสัมพันธ์ จะให้ประสิทธิภาพในการป้องกันการตั้งครรภ์เพิ่มขึ้นเป็น 85% ดังนั้น จึงควรรับประทานยาเม็ดแรกหลังการมีเพศสัมพันธ์ให้เร็วที่สุด
  • มีความเข้าใจที่ไม่ถูกต้องว่าใช้ยาคุมฉุกเฉินเพื่อคุมกำเนิดระยะยาวได้ ดังนั้นหากสามีภรรยาที่ยังไม่พร้อมมีบุตรแต่ต้องการคุมกำเนิดในระยะยาว มีวิธีคุมกำเนิดที่เหมาะสมและมีประสิทธิภาพมากกว่าเช่น การรับประทานยาคุมกำเนิดแบบปกติชนิดเม็ด โดยรับประทานทุกวันวันละ 1 เม็ด  นอกจากนี้การรับประทานยาคุมฉุกเฉินเป็นประจำจะพบอาการข้างเคียงสูง เช่น ปวดศีรษะ คลื่นไส้ อาเจียน เลือดออกกะปริดกะปรอย รวมทั้งพบความเสี่ยงในการเกิดการตั้งครรภ์นอกมดลูกเพิ่มขึ้น
  • ยาคุมฉุกเฉินไม่เป็นอันตรายต่อการตั้งครรภ์ครั้งใหม่ และไม่มีผลทำให้การตั้งครรภ์ครั้งถัดไปช้าลง
  • ถ้ามีอาเจียนภายใน 2 ชั่วโมง ควรทานยาซ้ำ ยาคุมฉุกเฉินชนิดฮอร์โมนเดี่ยวชนิดโปรเจสตินนิยมมากกว่าชนิดฮอร์โมนรวม เนื่องจากมีคลื่นไส้อาเจียนน้อยกว่า ยังไม่แนะนำให้ทานยาแก้อาเจียนทุกครั้งที่ทานยาคุมฉุกเฉิน

วิธีคุมกำเนิดฉุกเฉิน

  1. Ulipristal acetate (UPA) ทาน 1 เม็ดครั้งเดียว (30 mg) มีประสิทธิภาพในการคุมกำเนิดฉุกเฉินสูงกว่า Levonorgestrel ถึงแม้จะรับประทานยาล่าช้าออกไปจนถึง 120 ชั่วโมง หลังการมีเพศสัมพันธ์ นอกจากนี้ UPA ยังสามารถต้านการฝังตัวของไข่ที่ผสมแล้วได้โดยออกฤทธิ์รบกวนการเตรียมความพร้อมของเยื่อบุมดลูก ในขณะที่ levonorgestrel ไม่มีผลดังกล่าว ยังไม่มีจำหน่ายในประเทศไทย
  2. ยาเม็ดฮอร์โมนเดียวโพรเจสโตเจน (75 mg) 2 เม็ด ทานห่างกัน 12 ชั่วโมง เม็ดแรกทันทีหรือไม่เกิน 72 ชั่วโมง ยี่ห้อที่มีขายในประเทศไทย เช่น Madonna, Postinor, Mary Pink หรือรับประทาน levonorgestrel 1.5 mg ครั้งเดียวมีประสิทธิภาพในการป้องกันการตั้งครรภ์และอาการข้างเคียงไม่แตกต่างกัน
  3. ยาเม็ดคุมกำเนิดชนิดฮอร์โมนรวม (100 μg of ethinyl estradiol + 0.50 mg of LNG) 2 เม็ด ทานห่างกัน 12 ชั่วโมง (Yuzpe method) เช่น ใช้ยาคุมกำเนิดยี่ห้อYasmin ที่มีฮอร์โมนเอสโตรเจน 30 ไมโครกรัม ต่อ 1 เม็ด เพราะฉะนั้นให้กินครั้งละ 4 เม็ด อีก 12 ชั่วโมง
  4. การใส่ห่วงคุมกำเนิดทองแดงไม่เกิน 5 วัน หลังมีเพศสัมพันธ์ วันหลังการร่วมเพศซึ่งช่วยการตั้งครรภ์ได้ร้อยละ 99 มีการศึกษาเปรียบเทียบประสิทธิภาพของการป้องกันการตั้งครรภ์ของการทานฮอร์โมนlevonorgestrel 0.75 mg (LNG) กับวิธี Yuzpe โดยให้รับประทาน 2 ครั้ง ห่างกัน 12 ชั่วโมง เช่นกัน พบว่ายาคุมกำเนิดฉุกเฉินที่มีตัวยา LNG เดี่ยวๆ มีประสิทธิภาพในการป้องกันการตั้งครรภ์ร้อยละ 85 (74 – 93) ในขณะที่ยาคุมกำเนิดที่มีตัวยาผสมระหว่าง estrogen กับ progestin (Yuzpe method) ป้องกันได้เพียงร้อยละ 57 (39 – 71) ดังนั้นการใช้ฮอร์โมน LNG จึงเป็นที่นิยมมากกว่าในปัจจุบัน แต่มีการศึกษาพบว่าน้ำหนักและค่า body mass index (BMI) มีผลต่อประสิทธิภาพยาคุมกำเนิดฉุกเฉินชนิด LNG เดี่ยวๆ โดยในหญิงที่มีน้ำหนักมากกว่า 75 กิโลกรัมมีความเสี่ยงที่จะคุมกำเนิดฉุกเฉินล้มเหลวสูงกว่าคนที่น้ำหนักน้อยกว่าประมาณ 5 เท่า และในหญิงที่มีค่า BMI มากกว่า 25 กิโลกรัมต่อตารางเมตร มีความเสี่ยงที่จะตั้งครรภ์เพิ่มขึ้นประมาณ 2 เท่า ดังนั้นสตรีที่มีน้ำหนักเกินจะส่งผลต่อประสิทธิภาพการคุมกำเนิดได้ จึงควรรีบรับประทานให้เร็วที่สุดหลังมีเพศสัมพันธ์

ผลข้างเคียงของยาคุมฉุกเฉิน

  • ประจำเดือนมาไม่ปกติ
  • คลื่นไส้ อาเจียน และรู้สึกพะอืดพะอม
  • ปวดศีรษะ
  • ปวดท้อง มีอาการปวดท้องคล้ายกับตอนมีประจำเดือนได้
  • เสี่ยงตั้งครรภ์นอกมดลูก

ผู้ที่ห้ามใช้ยาคุมกำเนิด

  • มะเร็งของอวัยวะภายในของผู้หญิง และมะเร็งเต้านม
  • โรคตับเฉียบพลันหรือตับแข็ง มะเร็งตับ
  • เคยหรือเป็นโรคหัวใจและหลอดเลือด
  • ความดันโลหิตสูง
  • โรคลิ่มเลือดอุดตัน
  • โรคลมชัก ที่รับประทานยากันชัก
  • โรคเบาหวาน ที่มีภาวะไตทำงานผิดปกติ หรือมีภาวะหลอดเลือดผิดปกติ
  • อายุมากกว่า 35 ปีสูบบุหรี่จัด
  • อ้วน มีไขมันในเลือดสูง
  • เป็นไมเกรนชนิดที่มีอาการเตือน (Migraine with aura)

แม้ว่ายาคุมฉุกเฉินจะมีประสิทธิภาพดีในการป้องกันการตั้งครรภ์ โดยเฉพาะถ้าทานเม็ดแรกทันทีหลังมีเพศสัมพันธ์ทันที แต่ไม่แนะนำให้ใช้ยาคุมกำเนิดฉุกเฉินแทนการคุมกำเนิดปกติ แม้ยาจะปลอดภัยก็ตาม เพราะขนาดของฮอร์โมนที่สูง ผลข้างเคียงของยา ตลอดจนความผิดปกติของรอบเดือนที่เกิดขึ้น อาการปวดเกร็งช่องท้องน้อย รวมทั้งไม่สามารถป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ได้ ดังนั้น ควรเลือกใช้ในกรณีที่จำเป็นเท่านั้น และหลังการใช้หากประจำเดือนมาไม่ปกติ ขาดประจำเดือน เลือดออกไม่หยุด หรือปวดท้องไม่ดีขึ้น ควรรีบมาพบแพทย์

ยาคุมฉุกเฉินมีประสิทธิภาพดีในการป้องกันการตั้งครรภ์ แต่ไม่แนะนำให้ใช้ยาคุมกำเนิดฉุกเฉินแทนการคุมกำเนิดปกติ ควรใช้ในกรณีที่จำเป็นเท่านั้น

กินยาคุมแล้วมีเพศสัมพันได้ไหม

ถ้าคุณกินยาคุมอย่างถูกวิธี ตามคำแนะนำของฉลาก หรือ คุณหมอ แล้วล่ะก็ คุณสามารถมีเซ็กส์เมื่อไหร่ก็ได้ แม้จะเป็นในช่วงที่ประจำเดือนมาก็ตาม ยาคุมจะทำหน้าที่ ไม่ให้มีการผลิตรงไข่ออกมา หากไม่มีไข่ ก็จะไม่เกิดการ ปฏิสนธิ ทำให้ไม่ท้องนั่นเอง

ยาคุม21เม็ดกินหลังมีเพศสัมพันได้ไหม

สวัสดีค่ะ คุณ Thanatip Ledsumpunsug, การจะป้องกันการตั้งครรภ์หลังจากที่ได้มีเพศสัมพันธ์ไปแล้ว ต้องทานยาคุมฉุกเฉินค่ะ การทานยาคุมกำเนิดชนิด 21 หรือ 28 เม็ด จะไม่สามารถช่วยป้องกันการตั้งครรภ์ได้ เพราะโดยปกติต้องทานต่อเนื่องไปอย่างน้อย 7 วันก่อน ยาคุมจึงจะออกฤทธิ์ในการป้องกันการตั้งครรภ์ได้ค่ะ

กินยาคุมแบบ 21 กี่ วัน ถึง มี เพศ สั ม พัน ได้

ยาคุมกำเนิดแบบแผงจำนวน 21 เม็ดนั้นเป็นการคุมกำเนิดที่มีประสิทธิภาพสูงมาก หากได้กินติดต่อกันทุกวันจนหมดแผงยา โดยการเริ่มยาควรเริ่มภายใน 5 วันแรกของการมีประจำเดือนเพื่อให้สามารถมีเพศสัมพันธ์ได้ทันที หากเริ่มช่วงเวลาอื่น อาจจะต้องกินติดต่อกันให้ครบ 7 วันก่อนค่อยมีเพศสัมพันธ์ไม่ป้องกันได้ หรือถ้ากินต่อแผงทันที (คือเว้น 7 ...

กินยาคุมฉุกเฉินแบบ 1 เม็ด แล้ว มี เพศ สั ม พัน ได้ ไหม

คำตอบ ความจริงคือ ยาเม็ดคุมกำเนิดฉุกเฉิน 1 ชุด เมื่อกินแล้วจะไม่สามารถป้องกันการตั้งครรภ์ครอบคลุมการร่วมเพศเกิน 1 ครั้ง พูดง่ายๆ คือจะป้องกันจากการมีเพศสัมพันธ์ได้แค่ครั้งเดียวเท่านั้น ดังนั้น ต้องกินยาคุมฉุกเฉินอีกครั้ง แต่หมอขอแนะนำว่าครั้งต่อไปถ้าวางแผนจะมีเพศสัมพันธ์กัน ควรใช้ถุงยางอนามัย หรืองดเพศสัมพันธ์รอจนกว่า ...