หู ฟัง ไร้ สาย อะไร ดี

          หูฟังไร้สาย ปี 2022 มีรุ่นไหนน่าสนใจบ้าง วันนี้เราได้คัดหูฟัง True Wireless มาแนะนำกันถึง 8 รุ่น สำหรับผู้ที่กำลังมองหาหูฟัง Bluetooth ดี ๆ อยู่

          ในยุคปัจจุบันหูฟังไร้สายแบบ True Wireless กำลังได้รับความนิยมมากขึ้น เนื่องจากมีขนาดเล็กกะทัดรัด รวมทั้งมีฟีเจอร์สุดสมาร์ตที่ทำให้ชีวิตสะดวกสบายกว่าเดิม แถมยังมีรุ่นใหม่ ๆ ให้เลือกหลากหลาย ตั้งแต่ราคาถูกจับต้องได้ง่ายไปจนถึงราคาระดับพรีเมียม และวันนี้เราก็มีหูฟังไร้สาย True Wireless ปี 2022 มาแนะนำเพื่อน ๆ กันด้วย ส่วน จะมีรุ่นไหนแบรนด์ใดน่าสนใจบ้าง ไปดูกันเลย

หูฟัง Wireless กับ True Wireless ต่างกันยังไง ?

          หูฟัง Wireless จะมีสายเชื่อมระหว่างตัวหูฟังทั้งสองข้าง ส่วนมากมักพาดไว้ด้านหลังคอขณะสวมใส่ ซึ่งมีข้อดีคือช่วยป้องกันไม่ให้หูฟังหลุดร่วงลงพื้น ส่วนหูฟัง True Wireless นั้น หูฟังแต่ละข้างจะแยกออกจากกัน ไม่มีสายใด ๆ ทั้งสิ้น ทำให้ไม่เกะกะ แต่ก็มีความเสี่ยงที่จะหลุดหล่นหายได้ง่ายกว่านั่นเอง สามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ : หูฟัง Wireless กับ True Wireless ต่างกันยังไง ซื้อแบบไหนดีกว่า ?

วิธีเลือกซื้อหูฟังไร้สาย True Wireless

1. In-Ear หรือ Earbud

          หูฟังไร้สายแบบ True Wireless โดยทั่วไปจะมีสองแบบคือ แบบ In-Ear กับแบบ Earbud ซึ่งมีจุดเด่นแตกต่างกันขึ้นอยู่กับความชอบ สำหรับแบบ In-Ear จะเป็นแบบจุกอุดรูหู ทำให้หลุดยากกว่า ไม่ค่อยได้ยินเสียงจากภายนอก ได้ยินเสียงในหูฟังชัดเจน ส่วนแบบ Earbud จะเป็นแบบใส่นอกรูหู ให้ความรู้สึกสบายกว่า และเมื่อใส่แล้วจะยังคงได้ยินเสียงภายนอกได้ชัดเจนอยู่ แต่บางคนอาจใส่แล้วหลุดง่าย

2. ฟังก์ชันตัดเสียงรบกวน

          หูฟัง True Wireless หลาย ๆ รุ่นโดยเฉพาะรุ่นที่มีราคาสูง มักจะมีฟีเจอร์ตัดเสียงรบกวน (Noise Cancelling) มาด้วย โดยการใช้ไมโครโฟนบนตัวหูฟังตรวจจับเสียงรอบข้างที่รบกวนการฟังของเรา เพื่อตัดเสียงรบกวนให้ได้ยินเสียงเพลงในหูฟังชัดเจนมากขึ้น

3. ความจุแบตเตอรี่

ถึงแม้ว่าหูฟังไร้สาย True Wireless มักจะมีกล่องเคสที่เป็นเสมือนแบตเตอรี่สำรองไว้ชาร์จหูฟังได้ในตัว แต่ถ้าคิดอยากใช้คุยหรือฟังเพลงต่อเนื่องได้นาน ๆ โดยที่ไม่ต้องใส่กล่องชาร์จบ่อย ๆ ก็ควรมองหารุ่นที่แบตเตอรี่ใหญ่ ๆ ทั้งในตัวหูฟังและในเคส เพื่อให้ใช้งานได้ยาวนานมากขึ้น

4. คุณสมบัติกันน้ำ

          ถ้าหากคุณชอบใส่หูฟังไร้สายออกไปข้างนอกเป็นประจำ โดยเฉพาะการใส่ออกกำลังกายหรือเล่นน้ำ ก็ควรเลือกหูฟังที่มีคุณสมบัติสามารถกันน้ำได้ดี โดยถ้าเป็นรุ่นที่รองรับ IPX4 ขึ้นไปก็จะสามารถกันฝนหรือกันน้ำกระเด็นใส่ได้ แต่ถ้าหากเป็น IPX7 ก็จะสามารถใส่อาบน้ำหรือว่ายน้ำได้เลย

หูฟังไร้สาย True Wireless ปี 2022

1. Samsung Galaxy Buds2

          หูฟังไร้สายซัมซุงรุ่นใหม่ที่มาพร้อมเทคโนโลยี Active Noise Canceling ตัดเสียงรบกวนได้ถึง 98% ช่วยให้โต้ตอบกับคนรอบข้างได้สะดวกขึ้น มีลำโพงไดนามิก 2 ทิศทาง กับไมโครโฟน 3 ตัวและหน่วยตรวจจับเสียงพูดในตัว ให้คุณภาพเสียงพูดที่คมชัด โดยใช้ Machine learning ช่วยกรองเสียงที่ไม่ต้องการออกไป มีให้เลือก 3 สี ได้แก่ สีเทา Olive, สีดำ Graphite และสีม่วง Lavender

          - ราคา 3,990 บาท

2. JBL Wave 200TWS

          หูฟังไร้สาย True Wireless ของ JBL รุ่นนี้ ให้เสียงเบาที่นุ่มลึก แบตเตอรี่ใช้งานได้นานถึง 5 ชั่วโมง และชาร์จจากเคสได้อีก 15 ชั่วโมง รวมเป็น 20 ชั่วโมง แถมด้วยจุดเด่นคือสามารถใช้งานเลือกทีละข้างเดียวได้ ไม่ว่าจะเป็นการใช้คุยโทรศัพท์หรือฟังเพลง

          - ราคา 4,390 บาท

3. Xiaomi Redmi Buds 3 Pro

          หูฟังไร้สายพร้อมระบบตัดเสียงรบกวนอัจฉริยะ มี AI ช่วยปรับระดับการตัดสินรบกวนได้เอง สามารถการตัดเสียงรบกวนต่อเนื่อง 35dB เชื่อมต่อได้พร้อมกัน 2 อุปกรณ์ พร้อมโหมด Transparency แบบคู่ ช่วยให้ได้ยินเสียงภายนอกขณะสวมหูฟัง แบตเตอรี่ใช้งานได้นาน 6 ชั่วโมง และเพิ่มเป็น 28 ชั่วโมงเมื่อชาร์จจากเคส มีระบบชาร์จเร็วให้ใช้งานได้นานถึง 3 ชั่วโมง จากการชาร์จ 10 นาที ตัวเคสรองรับการชาร์จไร้สาย

          - ราคา 1,799 บาท

4. OPPO Enco Air

          หูฟังไร้สายรุ่นใหม่จากออปโป้ที่มีดีไซน์แบบกึ่งโปรงแสง มาพร้อมไดรเวอร์ขนาด 12mm Crystal Clear เสียงคมชัดหนักแน่น แบตเตอรี่ชาร์จเพียง 10 นาที ใช้งานได้นานถึง 8 ชั่วโมง และใช้งานได้นาน 24 ชั่วโมง เมื่อชาร์จจนเต็ม  มีระบบ Low Latency Game Mode สำหรับเล่นเกมด้วยค่าความหน่วงต่ำ นอกจากนี้ก็ยังมีระบบอัจฉริยะ AI ช่วยตัดเสียงรบกวนระกว่างการสนทนาอีกด้วย

          - ราคา 1,999 บาท

5. HUAWEI FreeBuds 4

          หูฟังไร้สาย True Wireless คุณภาพเสียงทรงพลัง น้ำหนักเบา สวมใส่สบาย พร้อมระบบตัดเสียงรบกวน ANC 2.0 เชื่อมต่อ 2 อุปกรณ์ได้พร้อมกัน สามารถควบคุมแบบสัมผัสได้ด้วยปลายนิ้ว มีโหมดบันทึกเสียงคู่ 48kHz ที่มาพร้อมโหมดเสียงรอบข้างสำหรับบันทึกเสียงที่อยู่รอบตัว และโหมดเสียงพูดที่ช่วยให้เสียงคมชัดยิ่งขึ้นและตัดเสียงรบกวนภายนอก แบตเตอรี่ฟังเพลงได้นาน 4 ชั่วโมง และใช้ได้นาน 22 ชั่วโมงเมื่อชาร์จจากเคส มีระบบชาร์จเร็วที่ชาร์จเพียง 15 นาที ฟังเพลงได้นาน 2.5 ชั่วโมง

          - ราคา 3,999 บาท

6. vivo TWS 2 ANC

          หูฟังไร้สายพร้อมเทคโนโลยีตัดเสียงรบกวนอัจฉริยะ สามารถตัดเสียงรบกวนได้ถึง 40dB และคุณภาพเสียงคมชัดระดับ DEEP - HD Audio เพื่อเสียงอันสมจริง ใช้ไดร์เวอร์ไดนามิกขนาด 12.2mm น้ำหนักเบา สวมใส่สบาย ใช้งานได้ตลอดวัน มีโหมดรับเสียงจากภายนอกโดยไม่ต้องถอดหูฟัง แบตเตอรี่ใช้งานได้ยาวนานถึง 29 ชั่วโมง

          - ราคา 2,999 บาท

7. Apple AirPods 3

          หูฟังไร้สาย AirPods รุ่นที่ 3 พร้อมระบบเสียงตามตำแหน่งที่จะทำให้เสียงอยู่ล้อมรอบตัวคุณ และ EQ แบบปรับได้เองที่จะปรับเสียงเพลงให้เข้ากับหู แบตเตอรี่ใช้งานได้นานขึ้น รวมทั้งรองรับชาร์จเร็วและชาร์จไร้สายแบบ MagSafe มีเสียงเบสที่ทรงพลัง ไมโครโฟนมีผ้าตาข่ายอะคูสติกชนิดพิเศษคลุมไว้เพื่อช่วยลดเสียงรบกวนจากลมขณะคุยโทรศัพท์ มีความสามารถในการทนเหงื่อและน้ำที่ระดับ IPX4 แบตเตอรี่ใช้ได้นานสุด 30 ชั่วโมง เมื่อใช้ร่วมกับเคสชาร์จ และชาร์จเพียงแค่ 5 นาที ก็ใช้ได้นานถึง 1 ชั่วโมง

          - ราคา 6,790 บาท

8. Sony WF-1000XM4

          หูฟัง True Wireless ตัวท็อปรุ่นใหม่ล่าสุดของโซนี่ที่มาพร้อมฟังก์ชัน Digital Noise Cancellng อีกทั้งยังมีชิป Integrated Processor V1 ตัวใหม่ที่โซนี่ได้พัฒนาขึ้นเป็นพิเศษ สามารถขจัดเสียงรบกวนได้ดีขึ้นและประหยัดพลังงานมากกว่ารุ่นก่อน ๆ และรองรับเสียงความละเอียดสูงไร้สายด้วยไดรเวอร์ขนาด 6 มม. บวกกับสามารถประมวลผล LDAC codec และ DSEE Extreme ได้

          - ราคา 8,990 บาท

          และนี่คือหูฟังไร้สาย True Wireless จากแบรนด์ดังที่น่าสนใจในปี 2022 อย่างไรก็ตาม ราคาที่ระบุไว้เป็นเพียงราคาเบื้องต้นเท่านั้น ซึ่งอาจมีการปรับลดราคาในภายหลัง รวมทั้งขึ้นอยู่กับโปรโมชั่นในแต่ละช่วงเวลา

ขอบคุณข้อมูลและภาพจาก : samsung.com, jbl.com, mi.com, oppo.com, huawei.com, vivo.com, apple.com, sony.co.th

หูฟังไร้สาย ยี่ห้อไหนดี 2023 ราคาไม่แพง

หูฟังแบบไหนดีที่สุด

ราคาหูฟังไร้สาย ยี่ห้อไหนดี

หูฟัง bez ดีไหม