การจำแนกประเภทของวัสดุวัสดุที่นำมาใช้ในงานวิศวกรรม งานก่อสร้าง หรืองานอุตสาหกรรม มีมากมายหลายชนิดด้วยกัน จึงมีผู้พยายามที่จะคิดค้น เพื่อจำแนกวัสดุดังกล่าวออกเป็นหมวดหมู่ เพื่อให้ง่ายแก่การเรียกใช้และง่ายแก่การจดจำ โดยส่วนใหญ่แล้วจะจำแนกตามคุณลักษณะเฉพาะของวัสดุนั้นๆ เช่น จำแนกตามความหนาแน่นและน้าหนักของวัสดุ จำแนกตามแหล่งกาเนิดที่ค้นพบ จำแนกตามลักษณะกรรมวิธีการผลิตหรือจำแนกตามวิธีการนำไปใช้งาน ของวัสดุนั้นๆ จึงทำให้มีการจำแนกประเภทของวัสดุออกเป็นหลายแบบ ดังจะยกตัวอย่างต่อไปนี้ Show 1 วัสดุในงานวิศวกรรม (Engineering Material)เราจะจำแนกออกเป็น 2 กลุ่มใหญ่ ๆ คือ ประเภทโลหะ (Metallic) และประเภท อโลหะ (Non-Metallic) 1. ประเภทโลหะ (Metallic) คือวัสดุที่ได้จากการถลุงสินแร่ต่าง ๆ ซึ่งแบ่งย่อยเป็น 2 ชนิดคือ 2.
ประเภทอโลหะ (Non-Metallic) เป็นวัสดุที่ได้จากการสังเคราะห์หรือจากธรรมชาติ ซึ่งแบ่งออกเป็น 2 ชนิด คือ 2 วัสดุก่อสร้าง (Construction Material)วัสดุก่อสร้างที่ใช้ในโครงการก่อสร้างต่าง ๆ สามารถจำแนกตามลักษณะกรรมวิธีการผลิตออกได้เป็น 2 กลุ่มใหญ่ๆ คือ วัสดุที่ได้จากแหล่งกำเนิดตามธรรมชาติ
และวัสดุที่ผลิตจากโรงงาน 2. วัสดุที่ผลิตจากโรงงาน ยังสามารถแบ่งย่อยออกเป็น 2 ชนิดด้วยกันคือ 3 วัสดุในงานอุตสาหกรรม (Industrial Material) ถือว่ามีความสาคัญมากในลำดับต้น ๆ
ของภาคอุตสาหกรรมการผลิตส่วนใหญ่แล้วจะเกี่ยวข้องกับปริมาณและต้นทุนของวัสดุเป็นสำคัญ วัสดุในงานอุตสาหกรรมสามารถจำแนกออกตามลักษณะของผลผลิตได้เป็น 3 กลุ่มใหญ่ ๆ คือ ประเภทโลหะ (Metallic) พลาสติก (Plastic) และเซรามิค (Ceramics) 2. พลาสติก (Plastic)
เป็นวัสดุสังเคราะห์ที่มีความสาคัญต่อการพัฒนาเทคโนโลยีของอุตสาหกรรมต่าง ๆ มากเช่น อุตสาหกรรมเคมี อุตสาหกรรมสิ่งทอ หรืออุตสาหกรรมอาหาร เป็นต้น พลาสติกที่นิยมใช้และสามารถผลิตจำหน่ายในประเทศคือ โพลิเอทิลีนชนิดมีน้าหนักโมเลกุลสูง (Ultra High Molecular Weight Polyethylene) โพลิเอมีด (Polyamide) โพลิอะซีทัล (Polyacetals) และ เทฟลอน (Teflon) การจำแนกประเภทของเครื่องมือช่างเครื่องมือช่าง สามารถแยกได้ 3 ประเภท ได้แก่ เครื่องมือ Hand tools เครื่องมือวัด measuring tools เครื่องมือกล machine tools เป็นอุปกรณ์ช่วยให้การปฏิบัติงานช่างนั้น มีผลสำเร็จได้อย่างเต็มที่มีคุณภาพ และทำให้กระบวนการทำงานช่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ความสำคัญของเครื่องมือช่าง เครื่องมือและอุปกรณ์ประกอบเป็นสิ่งสำคัญในการปฏิบัติงานช่าง เครื่องมือและวัสดุประกอบในงานช่างมีหลายชนิดหลายประเภท แต่ละชนิด แต่ละประเภท มีลักษณะหน้าที่ในการใช้งานแตกต่างกันไปตามลักษณะของงาน เพราะฉะนั้นเราจะต้องรู้จักวิธีการใช้ การเก็บรักษาเครื่องมืออย่างถูกวิธี ประเภทของงาน การใช้เครื่องมือผิดประเภท จะนำผลเสียมาสู่เครื่องมือและอุปกรณ์เหล่านั้น ตลอดจนประสิทธิภาพของงาน ประโยชน์ของเครื่องมือและอุปกรณ์ประกอบ
ในงานทางช่างกลเราสามารถแบ่งเครื่องมือที่ใช้ทางช่างกลได้ 3 ประเภทใหญ่ ๆ ดังนี้
1. เครื่องมือ เครื่องมือประเภทที่เรียกว่า แฮนด์ทูล (Hand tool) เป็นเครื่องมือพื้นฐานที่ใช้สำหรับงานช่างทั่วไป มีทั้งขนาดเล็ก ขนาดกลาง ขนาดใหญ่ สามารถใช้ได้โดยไม่ต้องมีเครื่องจักรหรือกลไกทางกลอื่นมาบังคับ ช่างทุกคน ทุกประเภท หากขาดเครื่องมือนี้แล้ว ไม่อาจทำงานได้สำเร็จ จำแนกได้ 2 กลุ่มใหญ่ ๆ คือ 2. เครื่องมือวัด ออกแบบมาเพื่อใช้กับงานวัด ตรวจสอบขนาดชิ้นงาน ต้องระมัดระวังในการใช้งานมาก เช่นเวอร์เนียร์ (Vernier) ไมโครมิเตอร์ (Micrometer) 3. เครื่องมือกล การใช้งานประเภทนี้ ต้องมีต้นกำลังมาขับเคลื่อน มีทั้ง ชนิด ขนาด แตกต่างกัน รวมถึงใช้งานเบา หนัก ไม่เท่ากัน โดยส่วนมากจะเรียกชื่อตามลักษณะการใช้งาน แบ่งออกได้เป็น 2 ชนิด 3.1 เครื่องมือกล หรือ Machine Tools หมายถึง เครื่องมือที่ทำงานโดยอาศัยพลังงานจากไฟฟ้า เครื่องยนต์ หรือต้นกำลังอื่น ๆ ปกติจะมีขนาดใหญ่ มีน้ำหนักมาก ไม่สามารถเคลื่อนย้ายได้ด้วยมือ เช่น เครื่องกลึง เครื่องคว้านกระบอกสูบ เครื่องเจียระไนเพลาข้อเหวี่ยง สว่านแบบแท่น เลื่อยวงเดือน เป็นต้น 3.2 เครื่องมือกลชนิดเคลื่อนย้ายได้ หรือ Portable Power Tools หมายถึง เครื่องมือกลขนาดเล็กที่สามารถเคลื่อนย้ายได้ง่าย ไม่ได้ยึดติดแน่นอยู่กับที่ เช่น สว่านมือไฟฟ้า เลื่อยมือไฟฟ้า เครื่องเชื่อมไฟฟ้า เครื่องเชื่อมแก๊ส เป็นต้น |