พระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร หรือพระแก้วมรกต พระแก้วมรกตมีพระพุทธ ภายในพระอุโบสถจะเห็นบุษบกทองคำเหนือฐานชุกชี ประดิษฐานพระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร หรือ ต่อมาในสมัยพระเจ้าติโลกราช โปรดเกล้าฯ ให้อัญเชิญพระแก้วมรกตมาประดิษฐานที่วัดเจดีย์หลวง เมืองเชียงใหม่ รวมเป็นเวลา 84 ปี วันแรม 1 ค่ำ เดือน 4 เพื่อทรงเครื่องสำหรับฤดูร้อน วันแรม 1 ค่ำ เดือน 8 เพื่อทรงเครื่องสำหรับฤดูฝน วันแรม 1 ค่ำ เดือน 12 เพื่อทรงเครื่องสำหรับฤดูหนาว บริเวณฐานชุกชียังประดิษฐานพระพุทธรูปทรงเครื่อง ปางห้ามสมุทร อีก 10 องค์ ซึ่งพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว โปรดเกล้าฯ ให้สร้างเพื่ออุทิศถวายเป็นพระราชกุศลแด่เจ้านายฝ่ายหน้าและฝ่ายใน ด้านหน้าฐานชุกชีมีพระพุทธรูปสำคัญอีกองค์หนึ่ง คือ พระสัมพุทธพรรณี ห่มจีวรเฉียงมีริ้ว ประทับนั่งปางสมาธิ สร้างขึ้นโดยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เมื่อครั้งยังทรงผนวชและจำพรรษาอยู่ที่วัดราชาธิวาส พระพุทธรูปองค์นี้มีพุทธลักษณะที่แตกต่างจากพระพุทธรูปองค์อื่นๆ คือ ไม่มีพระเกตุมาลา พระรัศมีเป็นเปลวไฟ มี 3 องค์ คือ สีทองสำหรับฤดูร้อน สีน้ำเงินสำหรับฤดูฝน และสีหยาดน้ำค้าง (แก้วใส) สำหรับฤดูหนาว โดยจะเปลี่ยนคราวเดียวกับพระราชพิธีเปลี่ยนเครื่องทรงพระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร วัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหาร เป็นพระอารามหลวงชั้นเอก สร้างสมัยกรุงศรีอยุธยา เดิมชื่อวัดมะกอก เมื่อ พ.ศ. 2310 สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช (พระเจ้ากรุงธนบุรี) เสด็จทางชลมารคจากกรุงศรีอยุธยามารุ่งเช้าที่หน้าวัดมะกอก จึงโปรดเกล้าฯให้ปฏิสังขรณ์ แล้วเปลี่ยนชื่อใหม่เป็น “วัดแจ้ง” ต่อมาในสมัยรัชกาลที่ 2 ได้ทรงปฏิสังขรณ์และพระราชทานนามใหม่ว่า “วัดอรุณราชวราราม” ในสมัยกรุงธนบุรีวัดอรุณราชวรารามเคยเป็นที่ประดิษฐานของพระแก้วมรกต ก่อนที่จะอัญเชิญไปประดิษฐานที่วัดพระแก้ว นอกจากนั้นยังมียักษ์ปูนปั้นขนาดใหญ่ 2 ตน ตั้งอยู่หน้าประตูซุ้มยอดพระมงกุฏ ซึ่งเป็นที่รู้จักกันทั่วไปในนาม “ยักษ์วัดแจ้ง” ภายในวัดอรุณราชวรารามนี้มีสิ่งที่น่าสนใจมากมาย อาทิ มีพระปรางค์ที่ใหญ่ที่สุดในโลกสูง 33 วาเศษ ประดับด้วยชิ้นกระเบื้องเคลือบสีต่างๆ ยอดพระปรางค์เป็นนภศูล ในสมัยรัชกาลที่ 3 มีปรางค์ทิศทั้ง 4 ประดิษฐานพระพุทธรูปปางประสูติ เทศน์พระธัมมจักร ตรัสรู้ นิพพาน การเดินเวียนทักษิณาวัดรอบพระปรางค์ 3 รอบ โดยเดินเวียนขวา (ตามเข็มนาฬิกา) เพื่อความเป็นสิริมงคล มีพระอุโบสถเป็นที่ประดิษฐาน “พระพุทธธรรมมิศรราชโลกธาตุดิลก” ซึ่งรัชกาลที่ 2 ทรงปั้นหุ่นและพระพักตร์ด้วยฝีพระหัตถ์พระองค์เอง และยังมีพระวิหารที่มีพระบรมสารีริกธาติที่เกศพระพุทธชมภูนุชฯ มีพระอรุณหรือพระแจ้ง ที่รัชกาลที่ 4 ทรงอัญเชิญมาจากเวียงจันทน์ การเดินทางไปยังวัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหาร (วัดแจ้ง) สถานที่ตั้ง ข้างกองทัพเรือ ถนนอรุณอัมรินทร์ #ท่องเที่ยวทั่วไทย #ประเทศไทย #คิดถึงธรรมชาติ #thailand #จุดชมพระอาทิตย์ขึ้น #จุดชมพระอาทิตย์ตก #ที่เที่ยวถ่ายรูปสวย #วัดอรุณราชวรารามวรมหาวิหาร #พระปรางค์สามยอด #พระปรางค์วัดอรุณ #ไหว้พระขอพร #ไหว้พระ9วัด #เที่ยวกทม #เที่ยวกรุงเทพ #กรุงเทพน่าเที่ยว #กรุงธนบุรี #ฝั่งธน #วัดสวยทั่วไทย #ศาสนาพุทธ #ประวัติศาสตร์วัฒนธรรม #แหล่งท่องเที่ยว #เช็คอินกินเที่ยว #สายบุญห้ามพลาด #สายถ่ายรูปห้ามพลาด #เปิดที่เที่ยวน่าไป #ไปไหนดี #กรุงเทพไปไหนดี #วัดสวยในกรุงเทพ #ธรรมชาติบำบัด #เมืองเก่าน่าเที่ยว |